ตอนที่ 332 ทำไมเธอถึงมาด้วย? / ตอนที่ 333 ยินดีด้วย!

เสน่ห์รักร้ายคุณบอสเพลย์บอย

ตอนที่ 332 ทำไมเธอถึงมาด้วย?

 

 

           ขณะเดียวกัน จิ้นหยวนซึ่งเป็นพี่น้องกับเจ้าบ่าวถือเป็นญาติฝ่ายเจ้าบ่าว เขากับเฉียวซือมู่จึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน และทั้งสองต้องแยกกันตั้งแต่เช้าโดยปริยาย

 

 

           เธอได้เห็นชายหนุ่มของตนเองสวมชุดสูทเต็มยศอย่างหล่อเหลาเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เธอฝากรอยจุมพิตไว้ข้างแก้มเขาด้วยความเร่งรีบ จากนั้นเดินทางไปยังบ้านเจ้าสาวทันทีด้วยความเร่งรีบ

 

 

           ความจริงจ้านซีเฉินไม่มีครอบครัวอีกแล้ว เธอถูกครอบครัวละเลยเพราะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่เด็ก และไร้คนดูแลราวเด็กกำพร้าคนหนึ่งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หากเธอไม่ได้พบหลินจื้อเฉิงโดยบังเอิญ ไม่รู้เหมือนกันว่าป่านนี้เธอจะอยู่ที่ไหน บางทีเธออาจจะถูกจับแต่งงานกับชายแก่ไปแล้วก็ได้

 

 

           ดังนั้น บ้านเจ้าสาวในตอนนี้ก็คือบ้านที่หลินจื้อเฉิงซื้อเอาไว้นั่นเอง พวกเขาจึงใช้บ้านหลังนี้เป็นบ้านเจ้าสาวชั่วคราว

 

 

           เพราะฐานะของหลินจื้อเฉิงดีมากพอสมควร ในบ้านจึงเต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงมากมาย พร้อมสิ่งของที่เป็นสัญลักษณ์มงคลต่างๆ เห็นแล้วให้ความรู้สึกมีความสุขมากจริงๆ

 

 

           จ้านซีเฉินเพิ่งตื่นนอน เธอยังงัวเงียและยังคงอยู่ในชุดนอนตัวเมื่อคืน เพื่อนเจ้าสาวที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาด้วยความร้อนใจเห็นเข้าเต็มสองตา “นี่เธอยังเป็นเจ้าสาวอยู่หรือเปล่าเนี่ย ทำไมตื่นสายแบบนี้?”

 

 

           จ้านซีเฉินดูเวลาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความงุนงง “ยังเช้าอยู่เลยนี่นา”

 

 

           “ไม่เช้าแล้ว เธอยังต้องแต่งหน้า ทำผม เปลี่ยนชุด จากนั้นต้องออกไปรับแขก ยังมีเรื่องอีกตั้งเยอะที่ต้องทำนะ” เฉียวซือมู่ไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะมีวันอย่างนี้กับเขาด้วย วันที่เธอต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชเหมือนยายแก่ๆ แบบนี้

 

 

           จ้านซีเฉินผู้ไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนจึงต้องยอมให้เธอบงการไปโดยปริยาย

 

 

           จ้านซีเฉินรีบทานอาหารเช้าด้วยความเร่งรีบ จากนั้นเปลี่ยนชุดเจ้าสาว ให้ช่างเสริมสวยแต่งหน้าและทำผม เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

 

           ยามบ่าย เสียงประทัดดังขึ้นข้างนอก เจ้าบ่าวมาถึงแล้ว ทันใดนั้น ในบ้านชุลมุนวุ่นวายขึ้นอีกระลอก

 

 

           ในฐานะที่เฉียวซือมู่เป็นเพื่อนเจ้าสาว เธอเองก็เหนื่อยมากเหมือนกัน เธอต้องคอยสังเกตตลอดเวลาว่ามีเรื่องอะไรที่เจ้าสาวบกพร่องบ้าง เช่น สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยดีหรือยัง เครื่องสำอางหลุดหรือยัง แหวนและช่อดอกไม้อยู่ในมือเจ้าสาวหรือยัง และเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อีกเยอะแยะมากมาย ทำเอาเธอเหนื่อยจนสายตาแทบขาด

 

 

           ในที่สุดเธอก็ส่งเจ้าสาวไปถึงโบสถ์อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง พิธีแต่งงานเริ่มต้นขึ้น คู่บ่าวสาวแลกเปลี่ยนแหวนซึ่งกันและกัน เธอรู้สึกเหนื่อยจนหมดแรงทันทีที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น

 

 

           จิ้นหยวนประคองหลังเธอเอาไว้เบาๆ เขาเอ่ยยิ้มๆ “เหนื่อยมากเลยเหรอ?”

 

 

           เธอพยักหน้าหงึกๆ จับมือเขาไปวางลงบริเวณบั้นเอวแล้วปั้นหน้าน่าสงสาร “หลังฉันจะหักอยู่แล้วค่ะ”

 

 

           เขานวดคลึงบั้นเอวให้เธออย่างเบามือด้วยความเอาใจใส่ “ไม่ต้องทุ่มเทมากขนาดนั้นก็ได้ ค่อยๆ ทำ ไม่ต้องรีบ”

 

 

           “นั่นพี่น้องคุณนี่คะ คนที่คุณให้ความสำคัญมากที่สุด แล้วจะไม่ให้ฉันทุ่มเทได้ยังไง?” เธอตวัดสายตามองเขาแวบหนึ่งแล้วเอนกายพิงอกเขา ดื่มด่ำบริการพิเศษจากเขาต่ออย่างสบายอารมณ์

 

 

           จิ้นหยวนรู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อย นวดคลึงให้เธออย่างจริงจังจนสีหน้าเธอแดงระเรื่อ เธอครางเสียงเบาด้วยความรู้สึกสบาย “อืม… ใช้ได้ สบายจัง แรงอีกนิดสิคะ….”

 

 

           จิ้นหยวนได้ยินเสียงร้องครางเบาๆ ของเธอแล้วหายใจแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ถ้าคุณยังร้องครางอย่างนี้อยู่อีกล่ะก็ ผมจะจูบคุณแล้วนะ”

 

 

           “คุณ…ทำไมถึงหื่นอย่างนี้นะ?” เธอกลัวเหลือเกินว่าเขาจะทำอะไรที่มันเกินเลยตรงนี้ตามที่พูดจริงๆ จึงรีบกระเด้งตัวออกจากอกเขาโดยฉับพลัน ขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากด่าเขานั้น จู่ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นคนที่อยู่ข้างหลังเขาโดยบังเอิญ

 

 

           “ทำไมเธอถึงมาด้วย?” เธอเอ่ยเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจ

 

 

           จิ้นหยวนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาเหลือบมองคนที่อยู่ข้างหลังแวบหนึ่งแล้วหันกลับมาอธิบายกับเธอ “ผมไม่ได้เป็นคนพามา”

 

 

 

 

ตอนที่ 333 ยินดีด้วย!

 

 

           “เหรอคะ?” เฉียวซือมู่ตวัดสายตามองจิ้นหยวนแวบหนึ่ง “ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะ”

 

 

           เจียงจื่อเสียนยืนอยู่ตรงนั้น แม้ใบหน้าเธอจะเปื้อนยิ้มหวาน แต่สายตาเธอกลับคอยลอบชำเลืองมองมาทางพวกเธอตลอดเวลา เจียงจื่อเสียนจะแอบมองใครได้ล่ะ? คงไม่ได้มองตนหรอกมั้ง

 

 

           เธอชายตามองเขาแวบหนึ่งด้วยความหึงหวง จากนั้นครางเสียงฮึแล้วไม่พูดไม่จาอีก

 

 

อยากมองก็มองไปเลย ดูได้แต่ตาแต่ปากกินไม่ได้ ดูไปก็ไม่มีประโยชน์!

 

 

เสียงโห่ร้องคึกคักดังลอยมากจากทางเบื้องหน้า ช่วงที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว เจ้าสาวกำลังจะโยนช่อดอกไม้

 

 

นี่เป็นประเพณีการแต่งงานแบบชาวตะวันตก หลังจบพิธีแต่งงานแล้ว เจ้าสาวจะหันหลังแล้วโยนช่อดอกไม้ คนที่รับช่อดอกไม้นั้นได้ จะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป

 

 

และแน่นอนว่ากิจกรรมนี้จำกัดเฉพาะสาวๆ เท่านั้น

 

 

เฉียวซือมู่คิดๆ แล้วส่งยิ้มหวานให้เขา จู่ๆ เธอก็ยกชายกระโปรงขึ้นแล้ววิ่งออกไป

 

 

สาวๆ ต่างพากันยืนเป็นกลุ่ม ต่างส่งยิ้มให้กันและกัน และเฝ้ารอด้วยความหวัง

 

 

จ้านซีเฉินไม่มีเพื่อนที่ไหน สาวๆ ที่มายืนออรอรับช่อดอกไม้เหล่านี้เป็นสาวๆ จากบ้านของพี่น้องของจิ้นหยวนทั้งนั้น ต่างพากันยิ้มแย้มหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์

 

 

ช่อดอกไม้ถูกโยนขึ้นสูง เฉียวซือมู่ยกแขนชูขึ้นเพื่อรับมัน แต่กลับถูกหญิงสาวอีกคนกระโดดตัวลอยรับมันเอาไว้ได้ ส่วนสาวๆ ที่เหลือต่างพากันผิดหวังไปตามๆ กัน

 

 

เธอส่ายศีรษะเบาๆ ขณะที่กำลังจะเดินกลับที่นั้น ปรากฎว่าหญิงสาวที่รับช่อดอกไม้เอาไว้ได้ลงพื้นแรงไปหน่อย ทำให้หญิงสาวคนนั้นยืนโงนเงน และเนื่องจากคนยืนเบียดเสียดกันแน่น ทำให้หญิงสาวคนนั้นถูกชนจนช่อดอกไม้สีขาวหลุดจากมือและลอยคว้างกลางอากาศอีกครั้ง

 

 

สาวๆ ทั้งหลายต่างพากันกรีดร้องด้วยความดีใจและต่างพากันวิ่งพุ่งเข้าไปรับช่อดอกไม้ช่อนั้นอีกครั้ง แต่การแข่งขันสูงมากเกินไป แต่ละคนพอรับช่อดอกไม้ได้แล้วก็ถูกคนอื่นชนจนช่อดอกไม้หลุดออกจากมืออีก หลังจากช่อดอกไม้ลอยคว้างไปมาอยู่กลางอากาศหลายระลอก ทันใดนั้น จู่ๆ มันก็ดิ่งลงตรงหน้าเธอ

 

 

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าดูชุลมุนวุ่นวายไปหมด เธอยื่นแขนออกไปโดยอัตโนมัติ และคว้าจับช่อดอกไม้ช่อนั้นเอาไว้แน่น

 

 

           เธอยังไม่ทันได้ตั้งสติ ได้แต่ยืนตะลึงนิ่งอึ้งอยู่อย่างนั้นสักพักกว่าจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

           ว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปคือเธออย่างนั้นหรือ?

 

 

           มันเป็นเรื่องที่เธอคาดไม่ถึงเลยจริงๆ

 

 

           เมื่อครู่เธอยังคิดอยู่เลยว่าการแข่งขันสูงมากเกินไปจนคิดจะยอมแพ้อยู่หยกๆ

 

 

           แต่ตอนนี้…

 

 

           จ้านซีเฉินเอ่ยเสียงตื่นเต้นอยู่ข้างๆ “พี่มู่มู่ พี่รับช่อดอกไม้ได้ ยินดีด้วยนะคะ!”

 

 

           เธอชายตามองพลางส่งยิ้มงุนงงให้จ้านซีเฉิน “ขอบคุณ…”

 

 

           เธอหันหน้ากลับไปเห็นจิ้นหยวนที่อยู่ท่ามกลางแขกเหรื่อกำลังส่งยิ้มมาให้เธอ รอยยิ้มเขาเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง หัวใจเธอกระตุกวาบ สีหน้าค่อยๆ แดงซ่าน

 

 

           พิธีแต่งงานแสนคึกคักจบลงแล้ว จากนั้นเป็นงานเลี้ยงช่วงกลางคืน

 

 

           ตระกูลหลินถือว่าเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงไม่น้อย อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์อันดีกับจิ้นหยวนอีก จึงถือเป็นช่วงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของครอบครัวตระกูลหลิน ทำให้มีแขกเหรื่อมาร่วมงานมงคลสมรสครั้งนี้กันอย่างมากมาย จนคฤหาสน์อันใหญ่โตของตระกูลหลินเนืองแน่นไปด้วยแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน บรรยากาศคึกคักทั้งคืน

 

 

           ยามแรกเฉียวซือมู่ยังเดินเคียงคู่ไปกับจิ้นหยวน แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะมีแขกที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยเข้าไปทักทายจิ้นหยวนไม่ขาดสาย พวกเขามองเธอแล้วยิ้มๆ อย่างมีเลศนัย แม้คนพวกนั้นจะไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของคนพวกนั้นทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมาก เธอจึงปล่อยให้จิ้นหยวนพูดคุยกับแขกเหรื่อพวกนั้นคนเดียว ส่วนเธอหลบไปดื่มเครื่องดื่มและกินขนมคนเดียวอย่างสบายอารมณ์

 

 

           เธอมองดูจิ้นหยวนที่ถูกผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แววเจ้าเล่ห์แวบขึ้นในสายตา

 

 

           แผนของเธอใช้ได้ไม่เลว ตอนนี้ถือว่าเธอพอจะเป็นที่รู้จักบ้างแล้ว

 

 

           ไม่เพียงคนอื่นจะรู้ว่าเธอเป็นคนรักใหม่ของจิ้นหยวน ยังได้ยินอีกว่าเธอน่าจะได้แต่งเข้าตระกูลจิ้น และกลายเป็นคุณนายจิ้นรุ่นที่หกอีกด้วย