ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็มีเสียงฝีเท้าไม่เป็นจังหวะดังใกล้เข้ามา
มายมิ้นท์หันหลังกลับไปมองผ่านกระจกใส พบว่าภายนอกมีชายสวมชุดสูทสีดำสองคน คนหนึ่งกำลังกุมตัวชายอีกคนเดินตรงเข้ามา ชายในชุดสูทสองคนนั้น คนหนึ่งคือผู้ช่วยเหมันตร์ ส่วนอีกคนหนึ่งดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ด ที่มีความสามารถและหาได้ยาก
ส่วนผู้ชายคนที่พวกเขากุมตัวมานั้น……
มายมิ้นท์ลุกขึ้นยืน ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห
เป็นเขา!
เมื่อสามเดือนก่อน หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา เขาคือผู้ชายที่นอนหลับอยู่ข้างกายเธอ
เปปเปอร์รู้ได้ทันทีว่าทำไมปฏิกิริยาของเธอจึงตอบสนองออกมารุนแรงเช่นนั้น เขาจึงมองไปที่ชายซึ่งถูกคุมตัวมา แสงเย็นว่าในดวงตาของเขาส่องประกาย
“ประธานเปปเปอร์ครับผมพาตัวเขามาแล้ว” ผู้ช่วยเหมันตร์ปล่อยตัวชายคนนั้นออกแล้วพูดรายงานไปทางเปปเปอร์
เปปเปอร์ตอบรับว่าอืมเบาๆ ในลำคอแล้วมองไปทางมายมิ้นท์ “คุณจัดการเถอะครับมายมิ้นท์”
รอให้เธอระบายอารมณ์ออกมาอย่างสาสมก่อน แล้วเขาค่อยๆ จัดการเก็บเจ้าหมอนี่เสีย
ด้านของมายมิ้นท์ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เธอมองไปยังชายหนุ่มคนนั้นด้วยท่าทางเยือกเย็น
ผู้ชายคนนั้นถูกบอดี้การ์ดเตะเข้าอย่างแรงที่ด้านหลังข้อพับจนคุกเข่าทรุดลงสู่พื้น เสียงร้องอันโหยหวนดังออกมา ด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเขาดูบูดเบี้ยว
มายมิ้นท์ก้าวเข้าไปด้านหน้าหยุดอยู่ตรงหน้าชายผู้นั้น “คุณจำฉันได้ไหม?”
ชายคนนี้เข้าไปในห้องของเธอหลังจากที่เปปเปอร์ออกไป เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่มองหน้าเธอ
จู่ๆ เขาก็ถูกพามาที่นี่ เดิมทีก็หวาดกลัวก็มากอยู่แล้ว เมื่อตอนนี้ถูกเตะเข้าให้จึงกลัวยิ่งขึ้นไปอีก
อย่าว่าแต่ตอบคำถามเลย แม้แต่เงยหน้ามองดูมายมิ้นท์เขาก็ไม่กล้า
เปปเปอร์เห็นดังนั้น ก็หันไปส่งสายตาให้ผู้ช่วยเหมันตร์
ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็ทำตามบอดี้การ์ดด้วยการเตะชายผู้นั้น “ตอบคำถามของคุณมายมิ้นท์”
ชายหนุ่มตกใจเสียจนทำอะไรไม่ถูก เขารีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ครับๆ ผมจะตอบ ผมจะตอบเดี๋ยวนี้ อย่าทำร้ายผมเลย ฮือๆ……”
เมื่อพูดจบเขาก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ
เมื่อคืนนี้เขากำลังจีบสาวอยู่ดีๆ ก็ถูกพาตัวขึ้นมาบนรถ และเดินทางมาที่เมืองเดอะซี
ตลอดทางมานี้เขาพยายามถามคนที่จับตัวมาว่าจับเขามาทำไม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
บอกเพียงว่าเขาตายแน่ ตอนนั้นเขาตกใจกลัวคิดว่าเป็นผู้หญิงคนไหนของเขาเกิดโหดเหี้ยมขึ้นมาแล้วจะจับตัวเขาไปฆ่าทิ้งที่เมืองอื่น
ดังนั้นตลอดทางมาเขาได้แต่กระวนกระวายไม่เป็นสุข แต่คนที่จับตัวเขามาไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เกิดอาการตกใจจนสุดขีด ทว่าตอนนี้บรรดาคนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเขาเริ่มลงไม้ลงมือกับเขาแล้ว ดีไม่ดีอีกประเดี๋ยวอาจจะฆ่าเขาทิ้งก็ได้ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความเกรงกลัว
ชายหนุ่มร้องไห้แล้วเงยหน้าขึ้นมองดูมายมิ้นท์ตัวสั่น เขาอยากจะรู้ว่ามายมิ้นท์เป็นผู้หญิงคนไหนกันแน่ ดีไม่ดี อาจจะยังสามารถขอความเมตตาและทำให้เธอรู้สึกประทับใจขึ้นมาได้
แต่ผลสรุปก็คือเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองได้แต่ตกตะลึง ไม่มีแม้แต่เสียงร่ำไห้เช่นเมื่อครู่
เพราะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงคนที่เขาเคยบริการมาก่อน หรือพูดได้ว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร
เมื่อมองไปยังแววตาอันสับสนงุนงงของชายหนุ่ม มายมิ้นท์ก็ยิ้มขึ้นด้วยความเยือกเย็น “ดูเหมือนคุณจะจำฉันไม่ได้แล้วสินะ ก็จริงอยู่ มันผ่านมาตั้งสามเดือนแล้วนี่ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ฉันจะเตือนสติให้คุณเอง เมื่อสามเดือนก่อนที่คลับเฮ้าส์……”
เมื่อเขาได้ยินสองคำนี้ ชายผู้นั้นก็เงยหน้าขึ้นมองดูแล้วเบิกตากว้าง “เป็นคุณนี่เอง!”
ในครั้งนั้นเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ไปย่ำยีผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่หลังจากที่เขาเดินทางไปถึงแล้วกลับพบว่าผู้หญิงคนนี้ถูกชายคนอื่นข่มขืนไปเรียบร้อย เนื่องจากความรักสะอาดเขาจึงไม่ได้ลงมือจัดการกับเธอ ดังนั้นจึงได้แต่นอนอยู่ข้างเธอ
เวลาผ่านไปสามเดือน เขาคิดว่าเรื่องในวันนั้นจะผ่านไปแล้วเสียอีก จู่ๆ ในวันนี้กลับถูกผู้หญิงคนนั้นพาตัวมายังที่นี่ อีกทั้งยังมองเขาด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัดว่าต้องการจะจัดการกับเขา
“นึกออกหรือยังคะ?” มายมิ้นท์หรี่ตาอันงดงามของเธอลง “ในเมื่อนึกออกแล้วควรจะรู้สินะว่าทำไมถึงถูกพาตัวมาที่นี่?”
“ผะ……ผม……” ชายหนุ่มไม่กล้ามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกผิด
มายมิ้นท์ยื่นมือออกไปแล้วใช้แรงบีบใบหน้าของเขา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเยือกเย็นว่า “ส้มเปรี้ยวให้เงินคุณเท่าไรเพื่อมาจัดการฉัน?”
เปปเปอร์มองดูท่าทางของมายมิ้นท์แล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มายมิ้นท์ปล่อยเขาไป จะทำให้มือคุณสกปรกเปล่าๆ เหมันตร์ คุณไปจัดการ”
ผู้ช่วยเหมันตร์ได้แต่กลอกตามอง
ถุย!
ทำให้มือของคุณมายมิ้นท์สกปรกเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากให้คุณมายมิ้นท์แตะต้องผู้ชายคนอื่น ใครมองไม่ออกบ้าง?
แม้ว่าในใจจะคิดอย่างนี้ แต่ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยมันออกมา เขาทำได้เพียงยิ้มแล้วเดินตรงเข้าไปหามายมิ้นท์ “คุณมายมิ้นท์ครับ ให้ผมจัดการเถอะ คุณคอยถามอย่างเดียวก็พอแล้ว”
มายมิ้นท์เผยอริมฝีปากแล้วมองไปยังแววตาร้องขอของผู้ช่วยเหมันตร์อีกครั้ง เธอจึงทำได้เพียงปล่อยมือ
ผู้ช่วยเหมันตร์เลียนแบบท่าทางของเธอเมื่อสักครู่ แล้วใช้มือบีบลงไปที่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นจนใบหน้าของเขาเปลี่ยนรูปทรง เห็นได้ชัดว่าใช้แรงมากทีเดียว
“คุณมายมิ้นท์ครับ แบบนี้ได้ไหม?” ผู้ช่วยเหมันตร์ถาม
มายมิ้นท์เอามือแตะหน้าผากของเธออย่างเบื่อหน่าย “ได้ค่ะ”
เมื่อสักครู่ที่เธอเอื้อมมือไปบีบใบหน้าของชายคนนี้เป็นเพราะเธอโมโหมากจริงๆ จึงได้ทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่ได้ต้องการจะลงโทษผู้ชายคนนี้
แต่ตอนนี้ฉากตรงหน้าที่เปปเปอร์และผู้ช่วยเหมันตร์ร่วมมือกัน จึงทำให้เธอรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นมา
มายมิ้นท์ขมวดคิ้วขึ้น เธอไม่ได้อยากจะสนใจเรื่องนี้มากนัก ใบหน้าของเธอเปลี่ยนกลับมาเป็นเฉยเมยอีกครั้ง “ตอบฉันมาว่าส้มเปรี้ยวให้ค่าจ้างเท่าไหร่”
“ส้มเปรี้ยวเป็นใคร?” ชายหนุ่มคนที่ถูกผู้ช่วยเหมันตร์บีบหน้าเอาไว้ถามกลับด้วยน้ำเสียงฟังไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่
มายมิ้นท์ชะงักลงเล็กน้อย “คุณไม่รู้จักส้มเปรี้ยวเหรอ?”
เปปเปอร์เองก็หรี่ตาลงมองเขาเช่นกัน
ชายหนุ่มพยายามระงับความเจ็บปวดเอาไว้ แล้วตอบอย่างยากลำบากว่า “ผมไม่รู้จัก”
“เป็นไปได้ยังไง?” มายมิ้นท์มองออกว่าชายคนนี้ไม่ได้โกหก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกประหลาดใจมาก
เธอหันไปมองทางเปปเปอร์ “คุณบอกว่าส้มเปรี้ยวเป็นคนจัดการเรื่องนี้ไม่ใช่หรือไง แต่เขาบอกว่าไม่รู้จักส้มเปรี้ยว?”
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากของตน “อย่าเพิ่งรีบร้อนไป ให้ผมถามดูก่อน”
เมื่อพูดจบเขาก็หันไปมองชายคนนั้นด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “ในเมื่อแกไม่รู้จักส้มเปรี้ยว แล้วใครที่จ้างให้แกเข้าไปในห้องเธอ”
เขาชี้ไปที่มายมิ้นท์
ชายคนนั้นมองไปที่มายมิ้นท์แล้วอ้าปากค้าง ดูเหมือนเขาลังเลที่จะตอบออกมา
ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นดังนั้นจึงได้ถีบเขาเข้าอีกครั้งหนึ่ง “ตอบความจริงมาไม่งั้นแกซวยแน่”
ชายคนนั้นได้ยินประโยคนี้เข้าก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นไปอีก ร่างกายของเขาสั่นสะท้านแล้วรีบพยักหน้า “ครับ ครับ ผมจะพูด เป็นผู้ชายคนหนึ่ง”
“ผู้ชายเหรอ?” มายมิ้นท์ขมวดคิ้วเข้าหากัน
จะเป็นผู้ชายได้ยังไง!
เธอมีศัตรูที่เป็นผู้ชายด้วยอย่างงั้นเหรอ?
หรือว่าจะเป็นเยี่ยมบุญ
ดูเหมือนจะมองออกถึงความคิดของมายมิ้นท์ เปปเปอร์จึงได้รีบปฏิเสธขึ้นว่า “เป็นบริกรในคลับเฮาส์”
“ใช่ครับ บริกรคนนั้นเคยบอกว่าส้มเปรี้ยวให้เขาไปหาผู้ชายมาคนหนึ่ง” ทันใดนั้นเองผู้ช่วยเหมันตร์ก็พยักหน้าแล้วพูดออกมา
เนื่องจากเรื่องนี้เขาเป็นคนไปตรวจสอบเอง ดังนั้นเขาจึงมีอำนาจในการพูด
เมื่อพบว่า ตัวเธอเองไม่ได้มีศัตรูเพิ่มขึ้น มายมิ้นท์ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถึงอย่างไรจะว่าไปแล้วคนที่เป็นตัวการใหญ่สุดก็คือส้มเปรี้ยว แต่เขาไม่ได้รับคำสั่งจากส้มเปรี้ยวโดยตรง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักส้มเปรี้ยว
เธอมองไปที่ผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นแม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าทุกคนพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ แต่เขาก็ได้พยักหน้า
“แล้วบริกรคนนั้นไปติดต่อคุณมาจากที่ไหนได้ยังไง ให้เงินคุณเท่าไหร่?” มายมิ้นท์ถามต่อไปด้วยใบหน้าอันไร้ความรู้สึก
ชายคนนั้นก้มหน้าลงแล้วตอบคำถามว่า “ผม ผมทำงานบาร์โฮส ร้านของเรามีความร่วมมือกับบรรดาสโมสรและโรงแรมต่างๆ ดังนั้นการที่จะหาผมได้ไม่ยาก ส่วนเงินเขาให้ค่าจ้างสองแสนหยวน”
ตามปกติที่เขารับงานอย่างมากคืนหนึ่งก็เพียงแค่หนึ่งแสนหยวน จู่ๆ มีหน้าที่เข้ามาด้วยค่าจ้างสองแสนหยวน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ตอบตกลง
“สองแสนเหรอ?” มายมิ้นท์อุทานออกมา
เธอควรจะเอ่ยชื่นชมส้มเปรี้ยวที่ค่อนข้างใจกว้างหรือเปล่านะ
เดิมทีเธอคิดว่าอย่างมากสุดก็คงแค่ไม่กี่หมื่น
“ตอนที่บริกรคนนั้นไปหาคุณ เขาพูดว่าอย่างไรบ้าง?” เปปเปอร์เองก็เริ่มไต่ถาม