เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 509
“ท่านแม่ทัพ ตอนนี้พวกเรากำลังจะ……”

เมื่อเห็นว่าหยางเฟิงไม่ขึ้นรถ และยังเดินไปทางอื่น เสือขาวจึงถาม

หยางเฟิงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ไปกันเถอะ!ไปหาเพื่อนเก่าของฉันด้วยกันเถอะ!”

เมื่อพูดจบ

ดวงตาของหยางเฟิง เหมือนจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง

“เพื่อนเก่า?”

เสือขาวเกาหัวแกรกๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

ณ ตอนนี้

ท่านแม่ทัพยังมีเพื่อนเก่าอีกรึ?

ในขณะเดียวกัน

บ้านพักคนชรา

ชั้นที่สองของตึกเล็กสีขาวเดียวกัน

เย่เทียนนอนอยู่บนเก้าอี้นอน หลับตาลงทั้งสองข้าง ราวกับว่ากำลังพักผ่อนกายา

“พูดมาเถอะ ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้น?”

อยู่ๆ

เขาก็เริ่มปริปาก

ด้านหน้าของเย่เทียน มีผู้ชายที่มีใบหน้าดั่งผี สวมใส่ชุดสีดำ

คนนี้คือหลานของเย่เทียน—— เย่ชิว

เย่ชิวพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “หลันเฟิงถูกโจวห้าวฆ่าจนตาย หลันจื่อพาคนไปบ้านตระกลูโจว ฆ่าพ่อลูกโจวยี่ หลังจากนั้นหลันจื่อก็ถูกหยางเฟิงบังคับให้ฆ่าตัวตาย ตอนนี้ตระกูลหลันและตระกูลโจวล่มสลายแล้ว”

“อะไรนะ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น

เย่เทียนรีบลุกขึ้นทันที พร้อมกับทำสีหน้าตื่นตระหนก

เป็นเพียงประโยคสั้นๆ

แต่กลับมีผลกระทบมหาศาล

แค่เวลาสั้นๆเพียงคืนเดียว

สองตระกูลชั้นหนึ่งของตงไห่ ตระกูลหลันกับตระกลูโจวก็ล่มสลายลงพร้อมกัน

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จะทำให้ผู้คนแตกตื่น!

เย่เทียนกัดฝันพูด “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของหยางเฟิงรึ?”

เย่ชิวพยักหน้าพลางพูดว่า“ใช่ครับ!เมื่อหยางเฟิงกลับจากเมืองกาสิโน สิ่งเหล่านี้ล้วนอยู่ในการคาดคะเนของเขาแล้ว!”

น้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย ไร้ซึ่งความรู้สึก

ราวกับทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ทุกเรื่องราวในโลกนี้ ไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของเย่ชิวได้

ต่อให้——

หยางเฟิงจะเป็นศัตรูที่ฆ่าพ่อของเขาก็ตาม!

สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด

คิดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะมีความเฉลียวฉลาดและอุบายอันลึกซึ้ง

ภายในระยะเวลาสั้นๆ

ตระกูลหลันกับตระกลูโจว สองตระกูลใหญ่ที่หยั่งรากลึกในตงไห่มานานหลายทศวรรษ กลับล่มสลายลงภายในคืนเดียว

โดยเฉพาะตระกูลหลัน

นี้เป็นบ้านฝ่ายมารดาของตระกูลเย่

คิดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะลงมืออย่างโหดเหี้ยม!

“เจ้าหยางเฟิง ช่างเป็นผู้ชายที่เหี้ยมโหดจริงๆ……”

ทันใดนั้น

เย่เทียนพึมพำกับตัวเอง สายตาเหม่อลอย

ลูกชายสองคนของเขาเอง ก็ตายอย่างทารุณในกำมือของหยางเฟิง

เจ้าหยางเฟิงคนนี้

โหดร้ายทารุณดั่งปีศาจ

ไม่สนใจสายสัมพันธ์ในครอบครัว

เมื่อคิดถึงจุดนี้

ดวงตาของเย่เทียนก็แสดงถึงความขุ่นเคือง

ทันใดนั้นเย่เทียนก็นึกอะไรบางอย่างออก

เขาจึงถามด้วยความรีบร้อน “หลันเจิ้นล่ะ?ลูกชายกับหลานสาวของเขาล้วนถูกหยางเฟิงฆ่าตาย เขาคงจะไม่ละเว้นหรอกใช่ไหม?”

สำหรับหลันเจิ้น

เย่เทียนค่อนข้างเข้าใจ

คนคนนี้เป็นเฒ่าเจ้าเล่ห์ เก็บซ่อนความรู้สึกได้ดี

เขาไม่เชื่อว่า

การที่ต้องเผชิญหน้ากับการฆ่าล้างโคตรของหยางเฟิง

หลันเจิ้นต้องไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้เป็นแน่!

เย่ชิวพูดว่า “หลันเจิ้นร่วมมือกับจงโจวตระกูลเฉิน ตระกูลเฉินส่งผู้แข็งแกร่งแดนปรมาจารย์ใหญ่ เฉินเป่ยเหอ และสิบปรมาจารย์ใหญ่ปิดล้อมและกดขี่ข่มเหงหยางเฟิง แต่พวกเขาทั้งกลุ่มกลับถูกหยางเฟิงฆ่าภายในดาบเดียว!”

เมื่อพูดถึงประโยคนี้

เย่ชิวที่มีอารมณ์มั่นคงดั่งหินผา น้ำเสียงของเขาก็เริ่มมีความสั่นเทา!

ดวงตาทั้งสองแสดงถึงความหวาดกลัวที่ฝังลึกอยู่ในแววตา

หนึ่งปรมาจารย์ใหญ่

รวมกับ สิบปรมาจารย์ใหญ่

ล้วนถูกหยางเฟิงฆ่าตายภายในดาบเดียว!

นี้มันพลังอะไร?

ต่อให้เย่ชิวเข้าร่วมกุ่ยเหมินที่มีพลังยิ่งใหญ่มหาศาล

เขาก็รู้ตัวเองดีว่า

ตนเองสามารถแข่งขันกับผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ใหญ่แต่ไม่สามารถฆ่าพวกเขาด้วยดาบเดียว!

พลังของหยางเฟิง

ความกลัวที่น่าสะพรึง!

“อ่า!”

ทันใดนั้น

เย่เทียนอุทานขึ้น

ตระกูลเฉิน

เขารู้

เป็นถึงจงโจวตระกูลอันดับรอง!

ตระกูลเย่แห่งตงไห่ ในสายตาของตระกูลเฉิน ก็แค่คนไร้ค่า!

และเฉินเป่ยเหอเป็นผู้แข็งแกร่งแห่งแดนปรมาจารย์ใหญ่

ในตงไห่

ผู้แข็งแกร่งหนึ่งใหญ่ปรมาจารย์ก็ไร้ซึ่งผู้ต่อกรแล้ว