ตอนที่ 556 เรื่องในใจของเธอ / ตอนที่ 557 หวาดกลัว

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 556 เรื่องในใจของเธอ

 

 

           พูดจบ คุณย่ากงก็วางสายทันที ไม่ปล่อยให้กงจวิ้นฉือได้มีโอกาสพูดใดๆ

 

 

           ได้ยินเสียงสัญญาณถูกตัดไป กงจวิ้นฉือถอนหายใจเบาๆ ทำไมคุณย่าถึงมีทัศนคติเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

 

 

           หรือว่าเธอรู้อะไรบ้างอย่าง แต่ว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร

 

 

           มองดูรูปถ่ายที่ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือกอดกัน ความเจ็บปวดวูบผ่านดวงตาของกงจวิ้นฉือ

 

 

           ที่ต่างประเทศ ตอนนี้คือเวลาเที่ยง แสงอาทิตย์กำลังส่องแสงร้อนแรง สภาพอากาศในต่างประเทศไม่ร้อนเท่ากับในเมือง A ทางนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้วและหนาวมากเหลือเกิน

 

 

           ใบไม้ร่วงโรยจากต้นไม้นานแล้ว จนกลายเป็นลำต้นเปลือยเปล่า และอากาศก็แห้งมาก

 

 

           เจียเสวียน ในใจของคุณยังมีเผยหนานเจวี๋ยอยู่จริงเหรอ ทำไมคุณไม่เคยบอกผมเรื่องระหว่างคุณกับเผยหนานเจวี๋ยเลย

 

 

           เขาต้องการเอ่ยถามเธอมาโดยตลอด แต่ว่าทุกครั้งที่คำพูดมาถึงปลายลิ้นเขาก็กลืนกลับเข้าไป เขาถามไม่ออก เขากลัวว่าหลังจากที่ถามแล้ว ความสัมพันธ์ที่ได้มาอย่างยากลำบากของพวกเขาจะแตกหัก

 

 

           เขากุมมือโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของกงจวิ้นฉือระเบิดความเย็นชา

 

 

           เขาไม่มีวันปล่อยให้ฉู่เจียเสวียนอยู่ด้วยกันกับเผยหนานเจวี๋ยโดยเด็ดขาด ฉู่เจียเสวียนเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

 

           ในค่ำคืนอันเปี่ยมเสน่ห์ของเมือง A

 

 

           ฉู่เจียเสวียนร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของซูซานจนหนำใจแล้ว ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนเตียง ส่วนซูซานนั้นอยู่ข้างกายเธอ มองเธอที่หลับตาสนิท ซูซานยื่นมือเช็ดคราบน้ำตาของใบหน้าของเธอเบาๆ

 

 

           คืนนี้ฉู่เจียเสวียนทำให้เธอตกใจจริงๆ

 

 

           เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเธอที่แข็งแกร่งและกล้าหาญมาโดยตลอด ก็ร้องไห้เหมือนเด็กๆ เป็น

 

 

           ห่มผ้าให้เธอ ซูซานมองเธออย่าลึกซึ้งอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังจากไป

 

 

           เสียงปิดประตูดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนค่อยๆ ลืมตา ดวงตาแดงก่ำ

 

 

           “เฮ้อ…” สุดท้ายความทุกข์ทรมานทั้งหมดภายในใจกลายเป็นเพียงลมหายใจแผ่วเบา แล้วก็ลอยหายไป

 

 

           เปิดผ้าห่มลงมาจากเตียง เดินไปยังข้างหน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างออก ลมเย็นปะทะใบหน้า เธอตัวสั่นโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว ลมตอนกลางคืนนั้นหนาวเย็นกว่าลมในตอนกลางวันมาก แสงจันทร์ก็มืดมนกว่าทุกครั้ง

 

 

           ยืนอยู่หน้าหน้าต่าง ฉู่เจียเสวียนกอดไหล่ด้วยมือทั้งสองข้าง ปล่อยให้ลมหนาวพัดผ่านใบหน้า ผมและชุดเดรสต่างพริ้วระบำไปกับสายลม

 

 

           เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าอย่างไม่รู้ตัว ฤดูใบไม้ร่วงห่างออกไปช้าๆ ฤดูหนาวย่างกรายเข้ามาอย่างละมุนละม่อม

 

 

           ผู้คนเปลี่ยนจากสวมใส่เสื้อผ้าตัวเดี่ยวมาใส่เสื้อโค้ท ทุกคนห่อตัวเองอย่างแน่นหนา แน่นอนว่ามีวัยรุ่นบางคนที่ไม่กลัวหนาวและยังคงเผยเรียวขาที่งดงามออกมาให้เห็น

 

 

           ในร้านชุดแต่งงาน ฉู่เจียเสวียนกำลังหารือกับลูกค้าถึงรายละเอียดของชุดแต่งงาน

 

 

           ตั้งแต่วันที่คุณย่ากงพบเธอ ตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ เธอก็ยังคงโทรหาคุณย่ากงเป็นครั้งคราว ในตอนแรกคุณย่ากงยังคงรับสายบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่รับสายเลย

 

 

           ถึงอย่างไรเธอก็เป็นคุณย่าของกงจวิ้นฉือ ฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเธอ ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะรอให้กงจวิ้นฉือกลับมาแล้วไปพบคุณย่าพร้อมกัน

 

 

           อีกทั้งเดือนนี้ เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่ได้โผล่มาในชีวิตของเธอ เขาราวกับว่าหายไปในอากาศอย่างไรอย่างนั้น

 

 

           “คุณฉู่คะ ถ้าเปลี่ยนตรงนี้เป็นดีไซน์รูปตัววี คุณคิดว่าทำได้ไหมคะ” หญิงสาวและชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา มองฉู่เจียเสวียนพลางพูด ยื่นมือเอาปลายแขนเสื้อให้ฉู่เจียเสวียนดู

 

 

           ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนยกยิ้ม ในหัวกำลังคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นปลายแขนเสื้อชุดแต่งงานรูปตัววีแล้วจะสวยหรือเปล่า

 

 

           “เอ่อ ฉันคิดว่าถ้าทำผ้าโปร่งเป็นรูปตัววีที่เอว ตรงคอเสื้อก็ทำเป็นรูปแบบคลื่น แขนเสื้อเปลี่ยนเป็นแบบรัดรูปครึ่งแขนจะสวยกว่าเยอะเลยค่ะ คุณหลิ่วคิดว่ายังไงบ้าง”

 

 

 

 

       ตอนที่ 557 หวาดกลัว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนแก้แบบชุดแต่งงานบนกระดาษร่างแบบอย่างรวดเร็ว หลังจากวาดเสร็จแล้ว ก็ยื่นให้คุณหลิ่ว

 

 

           คุณหลิ่วยื่นมือออกไปรับ หลังจากดูแล้วดวงตาก็เป็นประกาย เธอเอื้อมมือดึงแขนเสื้อของผู้ชายที่อยู่ข้างๆ “อาปัง คุณดูสิ แบบนี้สวยหรือเปล่า”

 

 

           “ขอแค่คุณใส่ อะไรก็สวยทั้งนั้น” เขามองเธอพร้อมเอ่ยปากอย่างเอ็นดู เธอได้ยินแล้วก็ยิ้มอย่างเขินอาย

 

 

           เห็นสองคนที่รักกันหวานชื่น ฉู่เจียเสวียนยิ้ม ความอิจฉาผ่านวูบในแววตา เธอออกแบบชุดแต่งงานให้กับคนหลายคน ทุกครั้งที่เธอเห็นพวกเขาสวมชุดแต่งงานที่เธอออกแบบ เธอก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจ

 

 

           “ได้ ดีไซเนอร์ฉู่คะ ทำตามแบบที่คุณบอกเลยค่ะ ฉันชอบมาก ขอบคุณนะคะ”

 

 

           “ได้ค่ะ งั้นฉันออกแบบตามนี้นะคะ ยินดีกับพวกคุณด้วยค่ะ คุณหลิ่ว คุณจาง” ยื่นมือหาพวกเขาสองคน จับมือพวกเขาเบาๆ

 

 

           หลังจากที่ทั้งสองจ่ายเงินมัดจำแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็ไปส่งพวกเขาที่ประตู เฝ้าดูแผ่นหลังของสองคนที่ห่างออกไป ในใจของฉู่เจียเสวียนอวยพรให้กับพวกเขาด้วยความจริงใจที่สุด

 

 

           เธอยืนอยู่ที่ทางเข้าประตู ไม่ขยับเขยื้อนเป็นเวลานาน พระอาทิตย์ส่องประกายบนตัวเธอ ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย    

 

 

           เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว แสงอาทิตย์ไม่ร้อนแรงเหมือนฤดูร้อนแล้ว ดวงอาทิตย์ในฤดูหนาวนั้นอบอุ่น พระอาทิตย์ส่องประกายบนตัวฉู่เจียเสวียน ทำให้เงาที่สูงโปร่งของเธอยาวเหยียดออกไป

 

 

           ฉู่เจียเสวียนสวมเสื้อคลุมสีเขียวอ่อน กางเกงรัดรูปสีดำ ด้านในมีเสื้อสเวตเตอร์สีขาว มีรองเท้าส้นสูงอยู่ที่เท้า ผมยาวที่หยิกเล็กน้อยปล่อยสยายอยู่ด้านหลังเธอ ลมหายใจที่สง่างามไหลเวียนอยู่ในตัว

 

 

           “เธอกำลังมองอะไรอยู่น่ะ” เดินออกมาจากห้องโถง เห็นฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ด้านนอกไม่ขยับเขยื้อน อดไม่ได้ที่จะเดินตามออกมา เอื้อมมือโบกไปมาตรงหน้าเธอ

 

 

           ฉู่เจียเสวียนดึงสติกลับมาแล้วหันไปมองเธอ ริมฝีปากยกยิ้ม “ไม่มีอะไร” กลับหลังหันแล้วเข้าไปในห้อง

 

 

           ถังถังงุนงงเล็กน้อย ยกมือขึ้นเกาศีรษะ กวาดสายตามองหาอย่างรวดเร็วรอบหนึ่ง เมื่อพบว่าไม่มีอะไรจึงหันหลังเดินตามฉู่เจียเสวียน เอื้อมมือคว้าแขนของเธอ

 

 

           “คุณหนูใหญ่ของฉัน ช่วงนี้เธอเป็นอะไรไปน่ะ ใจลอยอยู่เรื่อยเลย”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้ว มองดูถังถังแล้วยิ้ม “ฉันใจลอยเมื่อไรกัน”

 

 

           “ยังจะบอกว่าไม่มีอีก เธอดูเธอสิเมื่อกี้เธอออกไปข้างนอกตั้งนานก็ไม่เข้ามา ถ้าไม่ใจลอยแล้วมันคืออะไร” กล่าวอย่างไม่พอใจ ทั้งสองเข้าออฟฟิศด้วยกัน ถังถังเดินตามฉู่เจียเสวียน แล้วยืนอยู่ข้างเธอ

 

 

           “เธอน่ะ วันๆ เอาแต่ยุ่งเรื่องของฉัน เมื่อไรเธอจะให้ฉันยุ่งเรื่องของเธอบ้าง” เหลือบตาขึ้น ดวงตาที่สดใสมองเธอพร้อมโก่งยิ้ม

 

 

           “ฉันมีเรื่องอะไรให้เธอน่ายุ่งกัน?” ถังถังมุ่ยปาก หลบสายตา

 

 

           “จุ๊ๆๆ เธอดูเธอตอนนี้สิ ยังจะบอกว่าไม่มีอีก?” เมื่อเห็นว่าถังถังหลบสายตา ฉู่เจียเสวียนยิ้ม

 

 

           “ฉันมีเรื่องซีเรียสอยากจะถามเธอนะ” ทันใดนั้นถังถังก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมา ดวงตาของเธอมองไปที่ฉู่เจียเสวียนโดยตรง แววตาเปี่ยมด้วยการพินิจพิจารณา

 

 

           ในสมองกำลังครุ่นคิดว่าจะเอ่ยปากถามเธออย่างไรดี

 

 

           เธอรู้ว่าตอนนี้คุณย่าของกงจวิ้นฉือไม่เห็นด้วยที่จะให้ฉู่เจียเสวียนคบกับเขา ถ้าหากพวกเขาไม่คิดที่จะแต่งงานกันแล้วล่ะก็พวกเขาก็ต้องเลิกกัน

 

 

           เรื่องนี้กงจวิ้นฉือเป็นคนบอกเธอ ฉู่เจียเสวียนไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย

 

 

           เธอกำลังคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับเธออย่างไร

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรออยู่ครู่ใหญ่ก็ไม่เห็นถังถังเอ่ยถาม อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองเธอ “มีอะไรเหรอ ทำไมไม่พูดซะล่ะ”

 

 

           ถังถังเหลือบตาขึ้น ลากเก้าอี้แล้วนั่งลงข้างฉู่เจียเสวียน มองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเลิกคิ้ว มองถังถังที่มีท่าทีขึงขัง ทันใดนั้นเธอก็เกิดลางสังหรณ์ขึ้นในใจ เป็นไปตามคาด ทันทีที่ถังถังเอ่ยปาก ก็เป็นการยืนยันความคิดของเธอ

 

 

           “เจียเสวียน เธอไม่คิดจะแต่งงานกับจวิ้นฉือเหรอ”

 

 

           เธอรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ถังถังต้องการจะถามนั้น แปดสิบเปอร์เซ็นต์ก็หนีไม่พ้นเรื่องนี้

 

 

           เธอไม่เข้าใจ ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอแต่งงานกับกงจวิ้นฉือ ตอนนี้เธอยังสาวอยู่ไม่ใช่หรือ

 

 

           เธอแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว