บทที่ 985 เก่งนักก็ซ้อมเขาให้ตายเลยสิ / บทที่ 986 ต้องมีคนตายแน่

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 985 เก่งนักก็ซ้อมเขาให้ตายเลยสิ

ชายตัวใหญ่ที่สักลายดอกไม้หัวเราะเยาะเสียงดัง “นี่ ยัยหนู เธอแต่งตัวยังงี้ ไม่ใช่ว่าเป็นสาวใช้ที่บ้านเยี่ยไป๋หรอกนะ?”

เจียวเจียวพยักหน้าอย่างภูมิใจ “ใช่แล้วล่ะ!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆ…ให้ตายเถอะ! ใช่จริงด้วยว่ะ!” พวกของจางเวยหัวเราะดังกว่าเดิม

อย่าว่าแต่พวกจางเวยเลย แม้แต่พวกเยี่ยมู่ฝานก็ตะลึงไม่แพ้กัน

เด็ก…เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นสาวใช้บ้านเยี่ยไป๋?

“พี่เยี่ยส่งเธอมาช่วยได้ยังไง!” กงซวี่แทบอยากจะกระชากคอเสื้อเธอเสียเดี๋ยวนี้

สาวใช้โลลิยิ่งมีสีหน้าภูมิใจ “แน่นอนว่าเป็นเพราะฉันเก่งน่ะสิ เจ้านายก็เลยเลือกฉัน!”

กงซวี่พูดไม่ออก

เยี่ยมู่ฝานนวดหัวคิ้วอย่างปวดหัว เมื่อกี้เขาโทรหาเยี่ยหวันหวั่น แต่ปรากฏว่าโทรไม่ติด ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หรือว่าผู้ช่วยที่หวันหวั่นหามาเกิดอบัติเหตุอะไรระหว่างทาง? ถ้างั้นเด็กผู้หญิงคนนั้นมันยังไงกัน?

เยี่ยมู่ฝานไม่มีเวลาให้คิดมาก ทำได้เพียงพยายามลดความตึงเครียดของสถานการณ์ “พี่จาง คนมีการศึกษาย่อมพูดจาตรงไปตรงมา ตกลงว่าพี่ต้องการอะไรถึงจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไป”

จางเวยหัวเราะหยัน “หึๆ เมื่อกี้ยังอวดดีกันอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ยังบอกว่าจะหาคนมาซ้อมฉันอยู่เลยนี่ ตอนนี้หัวหดกันแล้ว? จะเจรจากับฉันแล้ว? ถ้าอยากเจรจากับฉันก็ได้ ให้กงซวี่มาคุกเข่าต่อหน้าฉัน โขกหัวสามที แล้วก็เรียกฉันว่านายท่าน!”

กงซวี่กัดฟัน “ชิบ! ให้เรียกแกว่านายท่านเนี่ยนะ ฉันสินายท่านแก! มาเซ่! มีปัญญาก็มาซ้อมฉันเลย!”

เจียวเจียวพยักหน้า “ใช่ มีปัญญาก็มาซ้อมเขาเลยสิ!”

กงซวี่พูดไม่ออก

ปัดโธ่ เขาแค่แหกปากไปอย่างนั้นเอง ช่วยอย่าจริงจังอย่างนี้ได้ไหม เขาก็ไม่ได้อยากถูกซ้อมเถอะ…

จางเวยหมดความอดทนในที่สุด แววเย็นชาพาดผ่านดวงตา “เหอะ ไอ้เด็กเวร พวกแกจงใจปั่นหัวฉันใช่ไหม! วันนี้พ่อจะทำให้พวกแกสมหวังเอง! ซ้อมพวกมัน! เอาให้หนักเลย! อย่าปล่อยให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”

“ครับ ลูกพี่!”

พอได้รับคำสั่ง กลุ่มชายฉกรรจ์สิบกว่าคนก็ล้อมเข้ามาอย่างแน่นหนา

ตอนนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกซ้อมจนหมดสภาพหมดแล้ว เหลือเพียงตงไจ๋กับพนักงานไม่กี่คนที่ยืนขวางอยู่ข้างหน้าด้วยร่างกายสั่นเทา

ผู้กำกับนั่งกอดเครื่องมืออุปกรณ์ที่ถูกพังเมื่อกี้ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความปวดใจ

สภาพกองถ่ายเละเทะไปหมด ทุกคนต่างก็แตกตื่นลนลาน

ตอนแรกนึกว่าเยี่ยไป๋จะส่งคนมาช่วย นึกไม่ถึงว่าจะเป็นการปล่อยไก่อย่างนี้ไปซะได้

จางเวยบิดคอไปมา แล้วยิ้มเย็น พร้อมกับเดินมาหากงซวี่ทีละก้าวๆ “หึ ไอ้เด็กเวร ไหนว่ากล้าทำกล้ารับไง? เก่งนักแกก็อย่าหนีสิ!”

เขาฝึกซ่านโฉ่วมานานหลายปี กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบนร่างกายปูดโปน ร่างสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบกว่าเซนติเมตร พอยืนอยู่ตรงนั้น ก็เหมือนกับภูเขาขนาดย่อมไม่มีผิด

ไม่รอให้กงซวี่เปิดปาก เจียวเจียวแค่นเสียง “เจ้าตัวโต เก่งนักก็มาซ้อมเขาให้ตายไปเลยสิ!”

เจ้านายสั่งไว้แล้ว ว่าห้ามฆ่าคนตาย ต้องทำแต่พอดี สำคัญคือต้องปกป้องคนหัวเหลืองคนนี้ ฉะนั้นเธอต้องเชื่อฟังเจ้านาย ต้องอดทน ถ้าหากอีกฝ่ายทำอะไรกงซวี่ เธอถึงจะใช้กำลังได้

เจียวเจียวพูดจบก็หันไปพูดกับกงซวี่ว่า “คุณวางใจ ฉันจะปกป้องคุณเอง!”

ตอนนี้กงซวี่แทบจะร้องไห้แล้ว นี่จะมาปกป้องเขา หรือทำร้ายเขากันแน่?

“มาสิ มาซ้อมเขาเลยสิ!”

“พี่สาว ฉันเรียกเธอว่าพี่สาวแล้วก็ได้ อย่าพูดอีกเลย…”

“ยายเด็กบ้า! ไม่อยากตายก็ไสหัวไป เธอคิดว่าฉันมาเล่นขายของกับเธอรึไง!” จางเวยพูดจบ ก็เหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้ากงซวี่ทันที

————————————————————————————-

บทที่ 986 ต้องมีคนตายแน่

“ชิบหาย…”

นัยน์ตาของกงซวี่หดตัวทันที จบเห่ล่ะ หน้าหล่อๆ ของเขา ไร้ยางอายเกินไปแล้ว เริ่มก็เล็งหน้าเขาเลย!

ชั่วขณะหนึ่ง ความคิดมากมายวิ่งผ่านสมองของกงซวี่ ตกลงกันไว้แล้วว่าเขาจะรักษาหน้าหล่อๆ ของตัวเองไว้ ถ้าเขาเสียโฉม พี่เยี่ยต้องไม่เอาเขาแล้วแน่ๆ…

เสี้ยววินาทีที่จางเวยเหวี่ยงหมัดออกมา แววตื่นเต้นผุดขึ้นมาในดวงตาใสระริกของเจียวเจียว เสียงหัวเราะเบาๆ ดังออกมาจากลำคอ…

“กงซวี่!!!” เยี่ยมู่ฝานตะโกนเสียงดัง

ลั่วเฉินเองก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทุกคนต่างก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก

ถ้าโดนหมัดนี้ต่อยหน้า ภาพยนตร์ของพวกเขาถ่ายทำต่อไม่ได้แน่…

แต่ในขณะที่หมัดของจางเวยห่างกับใบหน้าของกงซวี่แค่คืบเดียว วินาทีต่อมา เสียงเนื้อกายกระแทกกันก็ดังขึ้นทันที

ภายใต้สายตาตื่นกลัว เห็นเพียงฝ่ามือเล็กๆ ของสาวใช้ สกัดหมัดที่เหมือนกระสอบทรายของจางเวยไว้กลางอากาศ…

ปะ…เป็นไปได้ไง…

รอยยิ้มชั่วร้ายของจางเวยยังค้างเติ่งอยู่บนหน้าที่แข็งทื่อไปทันที เขาก้มมองหมัดของตัวเองที่ถูกสกัดไว้

“เธอ…”

ยัยเด็กนี่ทำไมถึงได้แรงเยอะอย่างนี้?

จางเวยยังไม่ทันตั้งตัว ไม่นานเสียง “โครม” ก็ดังตามมา ไม่น่าเชื่อว่าจางเวยจะถูกกำมือไว้แน่น จากนั้นก็ถูกเหวี่ยงร่างออกไปเหมือนว่าวที่เชือกขาด ร่างของเขากระแทกเข้ากับเสาสไตล์โรมันที่อยู่ในกองถ่าย จากนั้นก็ไถลลงมาตามเสาเหมือนผ้าขี้ริ้ว…

“อั๊ก!!” จางเวยก้มหัวกระอักเลือดคำโต

ทุกคนยืนมองสาวใช้โลลิที่ใส่ชุดเมดสีชมพูโยนร่างชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ออกไปต่อหน้าต่อตา เหมือนภาพที่เห็นได้แค่ในหนังเท่านั้น

ปากของกงซวี่อ้ากว้างจนแทบจะกลายเป็นรูปตัวโอ เยี่ยมู่ฝานขยี้ตัวตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“แค่กๆๆๆ…”

กระทั่งจางเวยไออย่างอ่อนแรง ลูกน้องของเขาถึงเพิ่งตั้งสติได้ แล้วรีบวิ่งเข้าไปหาเขา

“ลูกพี่!”

“ลูกพี่ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ!”

……

ชิบ! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย! สาวใช้นั่นกลับซัดลูกพี่ปลิวในคราวเดียว!

สีหน้าที่ทุกคนมองเด็กสาวในตอนนี้เต็มไปด้วยความตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะมีฝีมือน่ากลัวขนาดนี้…

จางเวยกุมหน้าอก หน้าบึ้งตึงสุดขีด ปะ…เป็นไปได้ยังไง…นึกไม่ถึงว่าเขาจะโดนเด็กผู้หญิงซ้อม?

เขาจะทนรับเรื่องน่าอดสูอย่างนี้ได้ยังไง…

“จับ…จับยัยเด็กเวรนั่นไว้! พวกแกทุกคนไปจับมันไว้!”

ถึงเธอจะเก่งแค่ไหน แต่ยังไงก็มีแค่คนเดียวเท่านั้น!

“บ้าเอ๊ย! นังแพศยานั่น! ลุยพวกเรา!”

นักเลงพวกนั้นตะโกนอย่างฮึกเหิม จากนั้นก็วิ่งเข้าใส่เจียวเจียวอย่างพร้อมเพรียง…

“สวบ” ชายสักลายดอกไม้เหวี่ยงหมัดใส่สาวใช้โลลิ

สาวใช้โลลิยื่นมือออกไปจับแขนเขาไว้อย่างง่ายดาย วินาทีต่อมา…

“อ๊ะ โอ๊ยยยยย”

ผ่านไปไม่นาน เสียงโอดครวญก็ดังระงมไปทั่ว คละเคล้ากับเสียงกระดูกหักเอ็นขาดที่ฟังดูน่าขนลุก เสาสไตล์โรมันหนึ่งในนั้นถูกกระแทกจนแทบไม่เหลือสภาพแล้ว

พวกเยี่ยมู่ฝานพอเห็นว่าพวกนั้นโดนซ้อมทีละคนๆ จากตอนแรกที่ตกตะลึง ตอนนี้กลับเริ่มหวาดกลัวแล้ว…

กงซวี่ยิ่งเห็นก็ยิ่งกลัว เขารีบตะโกน “ฉะ…ฉิบหาย…นะ…น้องสาว…ไม่สิ…เจ๊ใหญ่…พอเถอะ…หยุดได้แล้ว…อย่าตีคนอีกเลย! ถ้ายังไม่หยุดต้องมีคนตายแน่ๆ!”

จนใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว สายตากระหายเลือดและสีหน้าท่าทางที่เหมือนกำลังตื่นเต้นสุดขีดนั่น น่าขนลุกเกินไปแล้ว เหมือนหนังสยองขวัญไม่มีผิด

……………………………………………………….