บทที่ 987 อัดอยู่ฝ่ายเดียว / บทที่ 988 ถูกคุมจนจะถล่มแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 987 อัดอยู่ฝ่ายเดียว

คนสิบกว่าคนกลับหาช่องโหว่โต้กลับไม่เจอแม้แต่น้อย ทั้งหมดถูกทำเหมือนเป็นกระสอบทราย ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียว

ทุกคนในที่นั้นตาค้างแล้ว…

ใครจะคาดคิดได้ว่า สาวน้อยที่ดูอ่อนหวานน่ารักคนหนึ่งจะน่ากลัวขนาดนี้ ลงมือรุนแรงจนทำคนขนพองสยองเกล้า…

นี่มันเหนือการรับรู้ของสามัญสำนึกพวกเขาแล้วชัดๆ

เวลานี้ ข้อมือทั้งสองข้างของจางเวยถูกเหยียบแหลกแล้วเรียบร้อย…

ทั้งหมดนั้นถูกแหลกทั้งเป็น…

กงซวี่ตัวสั่นกอดแขนลั่วเฉินที่อีกด้าน แม่จ๋า พวกเขาตกใจตายแล้ว!

เห็นแค่ว่าโลลิน้อยหัวเราะคิกคัก ก้าวย่างไปหาจางเวยทีละก้าว “บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ เจ้านายเลือกฉันมาเพราะฉันเก่งที่สุด!”

ตอนรกจางเวยยังแสดงความโหดเหี้ยม แต่เวลานี้เขาตกใจจนเหลือแต่ความกลัว ดิ้นไปมากับพื้นอย่างหน้าซีดเผือดเพราะความเจ็บแปลบ เห็นโลลิน้อยเข้ามาใกล้ เขาก็รีบเอ่ยปากอย่างสั่นเทา “คะ…ครับๆๆ…คุณนาย คุณเก่งที่สุด ผมมีตาหามีแววไม่! ได้โปรดละเว้นผมครั้งนี้ด้วยเถอะ!”

เงาของโลลิน้อยตกลงบนใบหน้าของจางเวย เธอพูดด้วยสีหน้าเสียใจ “ไม่ได้หรอก ฉันลงมือ ยังไม่เคยไว้ชีวิตใครมาก่อนเลยน้า~”

ว่าไงนะ!

จิตสังหารในแววตาของอีกฝ่าย ทำให้จางเวยเชื่อคำพูดของเธออย่างหมดใจ

นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!

เมืองหลวงจะมีสัตว์ประหลาดอย่างนี้ปรากฏตัวได้ยังไง!

“ยะ…อย่าฆ่าฉันเลย! อย่าฆ่าฉันเลยนะ…ขอร้องล่ะ…ฉันผิดไปแล้ว…ฉันสำนึกผิดแล้ว…คุกเข่าขอร้องคุณละ…” จางเวยร่างกายสั่นเทาไปทั้งตัว แข้งขาปวกเปียกอยู่บนพื้น

จากนั้นก็พลันมีกลิ่นเหม็นลอยมา เขาถึงกลับกลัวจนฉี่ราดกางเกงไปแล้ว

จิตสังหารท่วมท้นนั้น ต่อให้เขาฝึกวิชายุทธ์มาก็ต้านทานไม่ไหว

เขาก็นับว่าพอมีตาอยู่บ้าง เวลานี้เขาสังเกตเห็นเรื่องราวไม่ชอบมาพากลแล้ว อีกฝ่ายไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน

เพราะเขารู้ว่าเยี่ยไป๋เจ้าเล่ห์ จึงไม่เพียงมาด้วยตัวเอง แต่ยังพาคนฝูงใหญ่ขนาดนี้มาด้วย แต่กลับนึกไม่ถึงสักนิดเดียวว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบนี้

แต่มารู้ตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว

ไม่เพียงแค่จางเวย พวกเยี่ยมู่ฝานก็สติกระเจิง ถ้าเกิดมีคนตาย กองถ่ายพวกเขาก็หนีไม่พ้นความเกี่ยวข้อง

พวกเขาคิดจะขัดขวาง แต่เวลานี้โลลิน้อยนั่นน่ากลัวเกินไปแล้ว ไม่มีใครสักคนกล้าขึ้นหน้าไป

ส่วนลูกน้องของจางเวย ก็คลานไปหลบอยู่ที่ไกลๆ นานแล้ว…

“น้องสาว พอได้แล้ว! สั่งสอนนิดหน่อยก็พอแล้ว!” เยี่ยมู่ฝานโน้มน้าวอย่างร้อนใจ แต่เวลานี้โลลิน้อยอยู่ในโลกตัวเองโดยสมบูรณ์แล้ว

“อืม…เจ้านายบอกว่าห้ามเอาชีวิต…งั้น…ขอฉันคิดหน่อย…ว่าจะทำให้นายเหลือครึ่งลมหายใจยังไงดี…”

จางเวยทนไม่ไหวแล้ว เขายันตัวขึ้นมาได้ก็วิ่งหนี โลลิน้อยหัวเราะคิกคัก ไล่ตามไปปานสายฟ้าแลบ นิ้วพรากชีวิตของจางเวยราวกับกรงเล็บแหลมคม…

จบเห่! เยี่ยมู่ฝานมีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง…

ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจจนหน้าถอดสีอยู่นั่นเอง ฉับพลันนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งโลผ่มาคั่นระหว่างโลลิน้อยกับจางเวย

เสียง ‘ฟึบ—’ ดังขึ้น ก่อนที่มือของโลลิน้อยจะสัมผัสโดนจางเวย ก็ถูกฝ่ามือหนึ่งขวางไว้

จากนั้น เสียงของเยี่ยหวันหวั่นก็ดังขึ้นมา “พอได้แล้ว เจียวเจียว!”

“อ๊ะ” เจ้านายมาแล้ว!” ทันทีที่ได้ยินเสียงเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาของโลลิน้อยก็ทอประกาย กลับคืนท่าทางซื่อใสไร้เดียงสา

เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าหมดคำพูด โชคดีที่เธอไม่วางใจจึงมา…

ก่อนเดินทางก็ย้ำซ้ำๆ แล้วว่าอย่าเอาชีวิตใคร แค่คุมสถานที่เท่านั้นพอไม่ใช่เหรอ

——————————————————————————————–

บทที่ 988 ถูกคุมจนจะถล่มแล้ว

หลังเห็นเยี่ยหวันหวั่นปรากฏตัว แถมยังขัดขวางโลลิน้อยผู้โหดเหี้ยมน่ากลัวคนนั้นได้ ทุกคนในที่นั้นก็ถอนหายใจโล่งอก

จางเวยเกือบตกใจกลัวจนสลบแล้ว เหงื่อเย็นไหลอาบเต็มหน้าผาก ท่าทีที่เขามองเยี่ยหวันหวั่นราวกับมองพระผู้มาโปรด…

เยี่ยไป๋!?

เด็กสาวคนนั้นน่ากลัวขนาดนี้ แต่เยี่ยไป๋เจ้าคนหน้าขาวนี่กลับขัดขวางเด็กหญิงคนนั้นไว้ได้…

“ว้าว! พี่เยี่ยโคตรเท่!”

“เท่จังๆ!”

เจ้าหน้าที่ทุกคนในที่เกิดเหตุเห็นแบบนี้ก็พลันร้องกรี๊ดด้วยความตื่นเต้น

“พี่เยี่ย ในที่สุดพี่ก็มาฮือ! ผมตกใจจะแย่แล้ว!” กงซวี่เข้าไปติดหนึบอย่างตื่นตัน ผลคือเขาไม่ทันระวังเหยีบโดนอะไรบางอย่าง ก็กรีดร้องข้อเท้าพลิกแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าหมดคำจะกล่าว รีบยื่นมือไปพยุงคนไว้ “ระวังหน่อย”

เด็กคนนี้ ช่วยสุขุมหน่อยได้ไหม

“พี่เยี่ย นะ…น้องสาวคนนี้เป็นสาวใช้ของครอบครัวพี่เหรอ” กงซวี่ถามอย่างกลัวไม่หาย

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ถูกต้อง”

สีหน้ากงซวี่เต็มไปปแววไม่อยากเชื่อ “เอ่อ ไม่มั้ง…บริการแม่บ้านสมัยนี้น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอ จ้างได้แม้แต่คนรับใช้แบบนี้?”

“ไปให้ตงไจ๋ช่วยนายสั่งยาหน่อยไป” เยี่ยหวันหวั่นเรียกตงไจ๋มาพยุงคนอย่างละเหี่ยใจ

จากนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็เรียกเยี่ยมู่ฝาน “เมื่อกี้มีคนบาดเจ็บไหม”

เยี่ยมู่ฝานอ้าปากตอบ “นอกจากอุปกรณ์ที่ถูกทำลาย ก็ไม่มีใครบาดเจ็บ เอ่อ นอกจากกงซวี่…”

เยี่ยหวันหวั่นตอบรับ “โอเค…”

ดังนั้นวันนี้พวกเขาไม่มีใครบาดเจ็บ ที่บาดเจ็บมีเพียงคนเดียว คือกงซวี่ที่ทำตัวเองข้อเท้าพลิก…

ภารกิจของเจียวเจียวสำเร็จแล้ว ก็ยังนับว่าพอได้ ถึงแม้จะทำเหนือขอบเขตที่กำหนดไปหน่อยก็ตาม…

เยี่ยหวันหวั่นมองลูกสมุนที่แข่งกันกรีดร้องโหยหวนน่าเวทนาบนพื้น และจางเวยที่กระดูกมือแตกแถมยังถูกทำตกใจกลัวจนฉี่ราด เธอกุมหน้าผากอย่างปวดหัวเหลือแสน “เจียวเจียว ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าแค่ให้คุมสถานที่”

ตอนนี้สถานที่…ถูกคุมจนจะถล่มแล้ว…

เอ่อ เจียวเจียว?

น้องสาวโหดเหี้ยมน่ากลัวคนนี้กลับชื่อเจียวเจียว?

ทุกคนได้ยินชื่อนี้ก็มีสีหน้ายากบรรยาย

เจียวเจียวงึมงำอย่างระมัดระวัง “เจ้านาย ฉันตั้งใจจะเหลือครึ่งลมหายใจให้เขานะ…”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

ครึ่งลมหายใจ…ก็ครึ่งลมหายใจจริงๆ…

เยี่ยหวันหวั่นเดินไปทางจางเวยอย่างจนใจ

“พี่จาง ขอโทษที ล่วงเกินพี่แล้ว”

เยี่ยหวันหวั่นพูดพลาง ยื่นมืออกไปคิดจะช่วยดึงคนขึ้นมา

แต่กลายเป็นว่าจางเวยล้มลุกคลุกคลานไปข้างหลังเหมือนเห็นผี “อย่า อย่าเข้ามา!”

เยี่ยหวันหวั่นลูบจมูก เก็บมือกลับไป แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นมิตร “พี่จาง ฉันก็เป็นแค่นักธุรกิจ คนไม่หาเรื่องผมผมก็ไม่หาเรื่องคน เมื่อกี้ลงมือหนักไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”

จางเวยนิ่งเงียบ

ลูกสมุนทุกคนนิ่งเงียบ

แม้แต่สีหน้าของเจ้าหน้าที่กองถ่ายก็ยังหมดคำพูดอยู่บ้าง

หนักไปหร่อย…นะ…นี่เรียกว่าหนักไปหน่อย?

“ขะ…ขะ…ขอโทษด้วย…เถ้าแก่เยี่ย…ผมมีตาหามีแววไม่! ล่วงเกินเถ้าแก่เยี่ยแล้ว! ผู้ยิ่งใหญ่ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับผู้น้อย! ความจริงผมเดิมทีผมไม่คิดหาเรื่องคุณ ปะ…เป็นไช่หย่งเซิ่งนั้นที่ยุยงผม!” จางเวยขายไช่หย่งเซิ่งโดยตรง

ดวงตาของจางเวยเต็มไปด้วยแววหวาดกลัว ถ้าไม่ใช่ผู้มีอำนาจอิทธิพลล้นหลาม ก็ไม่มีทางมียอดฝีมือสูงสูงอย่างนี้ได้

เยี่ยไป๋คนนี้ ดูเหมือยไร้พลังอำนาจ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ง่ายดายขนาดนั้น…

เมื่อครู่นี้เขาปัดท่านั้นของโลลิน้อยอย่างง่ายดายราวกับสายลมเบา มีแค่เขาที่รู้ว่ามันน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน ท่าที่เขาปัดออก เป็นท่าหมายเอาชีวิต!

………………………………………………….