ตอนที่ 698

The Divine Nine Dragon Cauldron

698 – เจอตะขาบเลือดอีกครั้ง

 

ซือหยูรู้สึกราวกับโดนระเบิดที่หัวนี่คือตะขาบเลือดเกล็ดมุก!

 

วันที่ซือหยูได้สู้กับเซี่ยหวู่เซี่ยหวู่ได้ปลดปล่อยมันออกมา และท้ายสุดก็มีคนลึกลับชิงตะขาบเลือดไปและเกือบจะได้ฆ่าซือหยู

 

ความน่ากลัวของเขายังคงอยู่ในจิตใจของซือหยูมาถึงตอนนี้และตอนนี้ ตะขาบเลือดเกล็ดมุกที่ถูกพาตัวไปได้ปรากฏตัวอีกครั้ง! พลังที่มันปล่อยออกมายังน่ากลัวกว่าครั้งก่อนเป็นสิบเท่า

 

ซือหยูสัมผัสได้ถึงพลังจากโบราณกาลของมันเขาจ้องมองร่างกายของมันและพบว่ามีร่องรอยของเหลวสีเลือดอยู่ด้วย

 

“ท่านจ้าวศักดิ์สิทธิ์เลี้ยงหนอนวิญญาณนี้ด้วยตัวเองเขาได้อัดสายโลหิตอมตะเข้าไปด้วย หุ่นเชิดของเจ้าทำอะไรมันไม่ได้หรอก”

 

แววตาของสามศักดิ์สิทธิ์เยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง

 

จ้าวศักดิ์สิทธิ์รึ?ซือหยูเริ่มตั้งใจ

 

“ใครคือจ้าวศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า?”

 

ถ้าเป็นอย่างที่ซือหยูคิดคนที่ชิงตะขาบเลือดเกล็ดมุกไปจะต้องเป็นจ้าวศักดิ์สิทธิ์! นั่นหมายความว่าเขาได้มาถึงทวีปเฉินหลงแล้ว!

 

เรื่องนี้ทำให้ซือหยูตกตะลึงเป็นอย่างมากแต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมเขาถึงไม่แสดงตัวออกมาปกครองเฉินหลงเล่า?

 

และตอนนี้ก็เป็นเวลาชี้ขาดความสำเร็จและความล้มเหลวของเขตกลางในจิวโจวทำไมเขาถึงไม่ปรากฏตัวออกมาเล่า?

 

หรือว่าเขาจะหวาดกลัวอะไรบางอย่าง?เขากลัวว่าจักรพรรดิจิวโจวจะฆ่าเขารึ?

 

ซือหยูที่ปะติดปะต่อเรื่องราวดูเหมือนจะเข้าใจในอะไรบางอย่าง

 

สามศักดิ์สิทธิ์ถอนหายใจ

 

“จ้าวศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยปรากฏตัวให้ใครได้เห็นแม้แต่คนอย่างข้าถ้าเจ้าอยากรู้ เจ้าก็ตายไปก่อนเถอะ!”

 

“ไป!”

 

สามศักดิ์สิทธิ์สั่งตะขาบเลือดเกล็ดมุกได้พ่นโลหิตออกจากปาก มันจ้องมองหุ่นเชิดแมงมุมอย่างไม่ละสายตา

 

หุ่นเชิดแมงมุมไม่ได้หวาดกลัวมันคลานด้วยขาทั้งแปดและพุ่งเข้าใส่ตะขาบ ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน!

 

ตะขาบเลือดเกล็ดมุกนั้นมีขนาดใหญ่ขณะที่แมงมุมนั้นมีขนาดที่เล็กมากทั้งสองมีพิษที่คล้ายๆกัน

 

เวลาผ่านพ้นไปช่วงหนึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีฝ่ายใดที่ชนะ

 

“ข้าอยากจะได้เห็นนักว่าเจ้าจะมีอะไรนอกจากหุ่นเชิดอีก!เพราะเจ้าเคยฆ่าร่างเงาของจ้าวเทวะไม่ใช่รึ?”

 

สามศักดิ์สิทธิ์ก้าวออกมาข้างหน้า

 

ทุกย่างก้าวของเขาทำให้พื้นเยือกแข็งมีเสียงแตกดังออกมาจากพื้น

 

ซือหยูใจสั่นนี่คือภูติระดับเจ็ดที่เป็นภูติขั้นสูง!

 

มันต่างจากร่างเงาของจ้าวเทวะในกระโจมเทพสวรรค์เพราะภูติตรงหน้าซือหยูก็คือภูติของจริงที่ไม่มีการจำกัดพลัง!

 

ซือหยูพยายามจะข่มใจเมื่อความเยือกเย็นเข้าใกล้

 

ซูม

 

แสงสีทองปรากฏในฝ่ามือมันคือกระบี่ทองที่หมุนไปมาในฝ่ามือของเขา

 

เขาพลิกฝ่ามือกระบี่เล่มเล็กพุ่งไปยังสามศักดิ์สิทธิ์โดยตรง สามศักดิ์สิทธิ์ไม่สนใจมันด้วยซ้ำ

 

เอี๊ยด

 

กระบี่ทองหยุดนิ่งมันตกลงกับพื้นและถูกแช่แข็ง มันหยุดนิ่งในระยะของพื้นที่ถูกแช่แข็ง

 

แต่ทันดนั้นก็มีมิติสั่นสะเทือนที่ด้านหลังสามศักดิ์สิทธิ์กระบี่ทองอีกเล่มปรากฏอีกครั้ง แต่ทันทีที่มันปรากฏ มันก็ถูกแช่แข็งและร่วงไปที่พื้น

 

พริบตาเดียวสมบัติกึ่งวิญญาณสองชิ้นได้กลาเยป็นน้ำแข็ง ซือหยูยังสัมผัสขนเส้นเดียวของศัตรูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!

 

สามศักดิ์สิทธิ์พูดอย่างเยือกเย็น

 

“หลอกล่อข้างั้นรึ?วิธีชั้นต่ำแบบนี้ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่าเจ้าฆ่าร่างเงาของจ้าวเทวะได้ยังไง!”

 

เล่ห์กลของซือหยูไร้ผลต่อหน้าศัตรูที่แข็งแกร่งแต่เขาก็ไม่ได้โกรธแค้นเมื่อถูกเหยียดหยาม

 

เขากลับใจเย็นอย่างเคย

 

“ระยะสามลี้คือระยะสังหารของเจ้าระยะสองลี้คือระยะที่เจ้ามีพลังป้องกันมากที่สุด หรือพูดอีกอย่างก็คือ การฆ่าเจ้า จะต้องทำลายระยะสองลี้ให้ได้ มิเช่นนั้นทุกอย่างจะกลายเป็นน้ำแข็ง”

 

สามศักดิ์สิทธิ์เลิกคิ้วเมื่อได้ฟังคำพูดของซือหยูสามศักดิ์สิทธิ์มองไปยังสมบัติกึ่งวิญญาณสองชิ้นที่ตกอยู่กับพื้น

 

เขาเริ่มเป็นกังวลในทันที

 

“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าทำอะไรกระบี่สองเล่มนี้ก็เพื่อทดสอบพลังน้ำแข็งของข้าสินะ? เล่มแรกใช้ทดสอบระยะสังหาร เล่มที่สองใช้ทดสอบระยะป้องกันของข้า”

 

เขาเริ่มจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย

 

“ตอนนี้เจ้าดูเหมือนอัจฉริยะสีเงินที่ข้าเคยได้ยินมาจริงๆแต่เจ้าจะทำอะไรข้าได้เล่า?”

สามศักดิ์สิทธิ์ชี้ดัชนีไปที่ซือหยู

 

“ผนึกน้ำแข็ง!”

 

อากาศเย็นเยือกรอบข้างรับบัญชามันเข้าล้อมตัวซือหยู อากาศ พลังวิญญาณ เศษฝุ่น และพื้น ทุกสิ่งถูกดูดกลืนโดยพลังน้ำแข็ง มันคือกระบวนท่าที่สร้างมาเพื่อใช้แช่แข็งซือหยูไปพร้อมกับทุกสิ่งรอบข้าง!

 

ซือหยูเลิกคิ้วเมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นรอบข้างเขาเห็นน้ำแข็งที่เริ่มก่อตัวบนผิว อวัยวะภายในของเขาค่อยๆแข็งตัวอย่างช้าๆ

 

ต้นกำเนิดน้ำแข็งที่เขาบ่มเพาะมาแทบจะเทียบกับพลังน้ำแข็งนี้ไม่ได้เพียงลมหายใจเดียว เขาจะไม่ต่างกับรูปปั้นน้ำแข็ง พลังของเขาค่อยๆจางหายไป

 

ซือหยูหวาดวิตกอย่างหนักเขาหยิบเอาร่มวิเศษบัวแดงออกมา เขาพยายามจะไล่พลังน้ำแข็งออกไปด้วยเพลิง

 

แต่เพลิงก็ถูกแช่แข็งในพริบตาเดียวเมื่อสัมผัสกับพลังน้ำแข็งเพลิงที่ดับมอดถูกแช่แข็งคาที่

 

“เปล่าประโยชน์เส้นทางน้ำแข็งของข้าเหนือกว่าต้นกำเนิดน้ำแข็งมากนัก เพลิงธรรมดาทำอะไรไม่ได้หรอก”

 

สามศักดิ์สิทธิ์ส่ายหน้าซือหยูในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับซากศพ

 

แต่จู่ๆเขาก็เบิกตาโพลงเขาเห็นว่าซือหยูเรียกสายเพลิงทมิฬออกมาจากอก มันดูอ่อนแอจนแทบมองไม่เห็น

 

ทันทีที่มันปรากฏเขารู้สึกราวกับจักรวาลถึงจุดเดือด รอบข้างเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นพลังน้ำแข็งที่เข้าใกล้ซือหยูยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

“วิบัติอัคคีเรอะ?”

 

สามศักดิ์สิทธิ์เลิกคิ้ว

 

เขารู้สึกกังวลใจเป็นครั้งแรก

 

“เจ้ามีพลังสังหารจ้าวเทวะจริงๆเจ้ายังซ่อนวิบัติอัคคีเอาไว้อีก!”

 

ซือหยูยิ้มตอบ

 

“เจ้าพูดถูกข้าเก็บวิบัติอัคคีไว้ใช้กับสี่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ถ้าเจ้ามาแล้ว ข้าก็จะให้มันเป็นของขวัญกับเจ้าแทน!”

 

รอยยิ้มของซือหยูหายไปมันแทนที่ด้วยสายตาคมกริบ เขาดีดวิบัติอัคคีไปยังสามศักดิ์สิทธิ์ อีกฝ่ายเคร่งเครียดเมื่อรู้สึกถึงอันตรายตรงหน้า

 

เขาตะโกน

 

“สองตะวันเยือกแข็ง!”

 

ครืน

 

เกิดชั้นน้ำแข็งสองชั้นในระยะสามลี้แต่ละชั้นปล่อยพลังน้ำแข็งที่น่ากลัวออกมา

 

พลังน้ำแข็งในผนึกน้ำแข็งนั้นด้อยกว่าพลังน้ำแข็งครั้งนี้อย่างมากดังนั้นระยะสามลี้จึงเป็นระยะสังหารที่แน่นอน!

 

ชั้นนอกของน้ำแข็งเป็นชั้นที่ใช้โจมตีส่วนชั้นในใช้ป้องกัน พลังน้ำแข็งนี้สามารถแช่แข็งภูติระดับเจ็ดให้ตายได้ในพริบตา!

 

เมื่อวิบัติอัคคีลอยเข้ามาพลังน้ำแข็งได้สลายไปจนหมด แต่ชั้นน้ำแข็งทั้งสองมิได้สั่นไหว

 

ครืน

 

เมื่อวิบัติอัคคีสัมผัสกับชั้นแรกมันได้สร้างรอยเปิดเล็กๆก่อนจะดับมอดไปเพราะพลังน้ำแข็ง วงน้ำแข็งทั้งสองกลายเป็นชั้นเกราะป้องกันที่ทรงพลัง!

 

ใบหน้าของสามศักดิ์สิทธิ์เยอืกเย็นดั่งน้ำแข็งเขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย!

 

โชคดีที่น้ำแข็งทั้งสองชั้นมีพลังที่เขาบ่มเพาะมาทั้งชีวิตเขาได้รวบรวมพลังน้ำแข็งทั้งหมดและสร้างชั้นเกราะป้องกันที่น่าตกใจ นั่นจึงเป็นเหตุที่เขาป้องกันวิบัตอัคคีได้!

 

เขาเงยหน้ามองซือหยูและพบว่ามีความประหลาดอยู่ในดวงตาของซือหยู

 

“ข้าประเมินเจ้าต่ำไปข้าจะไม่ออมมืออีกแล้ว! ทุกอย่างจะต้องจบที่นี่!”

 

สามศักดิ์สิทธิ์ระวังตัวขั้นสูงสุดเขาไม่ออมมืออีกต่อไปแล้ว

 

น้ำแข็งชั้นนอกได้เคลื่อนออกจากตัวเขามันกลายเป็นจันทร์เสี้ยวขนาดยักษ์ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ซือหยู ต่อมาทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ถูกจันทร์เสี้ยวนั้นล้อมรอบรวมถึงซือยหู ไม่ว่าจันทร์เสี้ยวจะไปที่ใด ที่นั่นจะกลายเป็นน้ำแข็ง

 

สามศักดิ์สิทธิ์ใช้วิชาสุดยอดของเขาเพื่อกำจัดซือหยู!เขาไม่อยากจะให้ซือหยูมีโอกาสได้ตอบโต้ เพราะวิบัติอัคคีนั้นทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก

 

ซือหยูรู้สึกว่าเขากำลังจะตายตั้งแต่ก่อนที่จันทร์เสี้ยวน้ำแข็งจะถึงตัวเขารู้สึกว่าเขาจะกลายเป็นน้ำแข็งไปตลอดกาล!

 

อันตรายเช่นนี้ทำให้ซือหยูใจเต้นแรงแต่เขาก็ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวบนใบหน้า เขากลับยิ้มและหยิบเอาม้วนคัมภีร์สีดำออกมาจากอก

 

“หึหึข้าไม่ได้มีวิบัติอัคคีแค่นั้นหรอกนะ”

 

ซือหยูหัวเราะเบาๆและเปิดม้วนคัมภีร์

 

ตู้ม

 

เพลิงทมิฬได้พวยพุ่งออกมาจากม้วนคัมภีร์ก่อนจะพุ่งออกไปยังทุกทิศทางราวกับว่ามันอยากจะออกมาจนทนไม่ไหว

 

รอบข้างร้อนขึ้นอย่างมาก!ทั้งก้นบึ้งมังกรได้ถึงจุดเดือดพล่าน น้ำแข็งที่น่ากลัวถูกคลื่นเพลิงทมิฬโต้กลับไป

 

“อะไรกัน?เจ้าไปเอาวิบัติอัคคีมากมายขนาดนี้มาจากไหน?”

 

สามศักดิ์สิทธิ์เสียความเยือกเย็นและรีบถอยกลับ

 

เขามิอาจเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น

 

“คนหนุ่มอย่างเจ้าจะเก็บวิบัติอัคคีมากเท่านี้ได้ยังไง?แม้แต่จ้าวเทวะก็ทำไม่ได้!”

 

ยากนักที่จะรวบรวมวิบัติอัคคีและก็ยากมากกว่าที่จะเก็บมัน ตอนที่ซือหยูหยิบเอาสายเพลิงเพียงเสี้ยวเดียวออกมา สามศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ตกใจมากพออยู่แล้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าซือหยูจะมีเพลิงอยู่มากมายเช่นนี้!

 

คลื่นเพลิงทมิฬได้ทะลวงชั้นน้ำแข็งต่อมาและพุ่งตรงไปยังสามศักดิ์สิทธิ์น้ำแข็งที่เหลือที่ล้อมกายเขาถูกทำลายอย่างช้าๆโดยวิบัติอัคคีอันน่ากลัว!

 

“เจ้าหนูเจ้าหลอกข้าเรอะ!”

 

ซือหยูมีเพลิงอยู่มากมายแต่เขาก็ไม่ใช้มันออกมา! เขาจงใจเผยเพลิงออกมาเพียงน้อยนิดเพื่อบังคับให้สามศักดิ์สิทธิ์ใช้ท่าไม้ตาย

 

เดิมทีสามศักดิ์สิทธิ์คงป้องกันเพลิงได้โดยการใช้ชั้นน้ำแข็งทั้งสองรวมกัน แต่เมื่อมันถูกแยกออก แต่ละชั้นก็ถูกเพลิงทำลายอย่างง่ายดาย

 

ซือหยูหัวเราะโดยไม่พูดอะไรในตอนที่เขาเก็บม้วนคัมภีร์แต่เขาก็แอบถอนหายใจ ไพ่ตายของเขาลดลงไปอีกหนึ่งใบแล้ว

 

สิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่คือม้วนคัมภีร์ที่ว่างเปล่าเพื่อที่จะสังหารคนผู้นี้เพื่อสันติสุขของเฉินหลง ซือหยูต้องเสียสละไปมาก เขาใช้หุ่นเชิดสองตัวและวิบัติอัคคีส่วนสุดท้ายที่มี ซึ่งความจริงแล้วพวกมันคือทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี!

 

ปั้ง

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นซือหยูมองออกไปและพบกับแมวหยกในมือสามศักดิ์สิทธิ์

 

ซือหยูคุ้นเคยกับแมวตัวนี้กู้ไทซูเคยใช้มันตอนที่เขารับพลังถึงตายจากซือหยู เขาหลบท่าของซือหยูได้โดยใช้สิ่งนี้แทน

 

ในครั้งนี้สามศักดิ์สิทธิ์ได้รับภารกิจสำคัญคือการปกป้องรอยแยกมิติ ราชาเขตกลางต้องให้ของช่วยชีวิตเขามาอยู่แล้ว

 

พรึ่บ

 

วิบัติอัคคีค่อยๆจางหายไปพร้อมกับความร้อนแมวหยกในมือสามศักดิ์สิทธิ์เริ่มแตกหัก สามศักดิ์สิทธิ์ทั้งตกใจและโกรธแค้น

 

“ซือหยู!”

 

เขาจ้องมองซือหยูตาไม่กระพริบ

 

“เจ้ายังเหลืออะไรอยู่อีก!”

 

ครืน

 

เขาเรียกจันทร์เสี้ยวน้ำแข็งและซัดเข้าใส่ซือหยูอีกครั้งซือหยูไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรเมื่อไร้วิบัติอัคคี

 

สุดทางของข้าแล้วรึ?ซือหยูผิดหวังอย่างมาก เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ทางเดียวของเขาคือต้องถอยกลับ เขารู้ว่าสามศักดิ์สิทธิ์จะไม่ไล่ตามเขา เพราะเขาต้องปกป้องรอยแยกมิติ