บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 683

เมเดลีนหยิบการ์ดขึ้นมาและกวาดสายตาไปรอบ ๆ หลังจากอ่านข้อความนั้นเงียบ ๆ

“ลินนี่ เป็นอะไรไป?” เจเรมี่รู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อไม่ได้ยินอะไรจากเมเดลีน

“ไม่มีอะไรหรอก” เมเดลีนพูดแล้วเปิดประตูฝั่งผู้โดยสาร “เข้าไปในรถซะ”

เจเรมี่สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้น แต่เขาไม่ได้ถามเธอและขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง

เมเดลีนขึ้นรถและเหลือบมองคำที่พิมพ์อยู่บนการ์ด [ระวังหลังไว้ให้ดี เอวลีน มอนต์โกเมอรี]

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การเตือนด้วยความจริงใจ แต่เป็นการเตือนที่คล้ายข่มขู่แทน

คนคนนี้เรียกเธอว่า เอวลีน มอนต์โกเมอรี

เมเดลีนเหลือบมองเจเรมี่ที่นั่งอยู่ข้างเธอ การแสดงออกที่เงียบสงบของเขาทำให้เธอรู้สึกสงบ

ยิ่งไปกว่านั้น วิธีป้องกันตัวเองในลิฟต์เพิ่งแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ปล่อยให้อาการตาบอดของเขามาทำให้เขาอ่อนแอลง

เขาคือเจเรมี่ ยังคงเป็นเจเรมี่คนเดิม

เมเดลีนไม่คิดมากเรื่องนั้นอีกและสตาร์ทรถ

หลังจากที่เจเรมี่และเมเดลีนจากไป เฟลิซิตี้ก็ออกไปด้วยเช่นกัน

คาเลนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยความไม่พอใจและพึมพำกับตัวเอง หลังจากการอาบแดดนายท่านอาวุโสวิทแมนก็กลับเข้ามาข้างใน

เมื่อเขาเห็นคาเลนยังคงสาปแช่ง เขาก็ขมวดคิ้วและพูดด้วยความรำคาญว่า “เธอยังไม่รู้อีกเหรอว่าตลอดมาเธอทำอะไรผิด? ทำไมเธอยังเอาแต่โทษแมดดี้? ทำไมเธอไม่ลองคิดดูก่อนล่ะ ว่าเธอปฏิบัติกับแมดดี้อย่างไรตั้งแต่แรก?”

“ฉันทำอะไรเธอคะ ฉันแค่ดุเธอนิดหน่อย แต่เธอก็ยังแค้นอยู่จนถึงตอนนี้” คาเลนจิ๊ปากของเธอและไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ฉันมีเรื่องจะพูดกับท่านเช่นกันค่ะ ท่านผู้อาวุโสวิทแมน เธอเอาธุรกิจใหญ่ของครอบครัวเราออกไป และท่านก็ยังอยู่ข้างเธออีก? ก็แน่ล่ะ สิ่งที่ฉันต้องการให้เกิดกับเธอก็มีเพียงเรื่องแย่ ๆ เท่านั้นแหละค่ะ!”

“พูดตรง ๆ นะ เธอด่าแค่สองสามครั้งเองเหรอ? ตอนนั้น แมดดี้ทุกทรมานอย่างแสนสาหัส แล้วเธอก็เติมเชื้อเพลิงใส่กองไฟด้วยการพูดเกินจริงทุกอย่าง!” ผู้อาวุโสวิทแมนดุอย่างโกรธเคือง

คาเลนยังคงไม่สนใจ “ความทุกข์ทรมานที่เธอได้รับมันมาจากโชคชะตาของเธอ คุณพ่อโทษใครไม่ได้หรอกค่ะ แม้ว่าตอนนั้นเธอจะเสียชีวิต แต่มันก็เป็นเพราะชะตากรรมของเธอเอง!”

“เธอ… เอ่อะ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคุยกับเธอ” ผู้เฒ่าวิทแมนรู้สึกว่าเขาไม่สามารถพูดอะไรกับคาเลนเพื่อให้เธอเข้าใจได้เลย จากนั้นเขาจึงหมุนรถเข็นเข้าห้องไป

เมื่อคาเลนเห็นว่าผู้อาวุโสวิทแมนไม่สนใจเธออีก เธอก็พ่นลมหายใจออกมา และหยิบถั่วพิสตาชิโอมาหนึ่งกำมือ “มันคือความผิดของเมเดลีนที่เธอโชคร้ายต่างหาก ทำไมต้องมาโกรธฉันด้วย?”

เธอพูดอย่างไม่พอใจ เมื่อจู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงจากประตู

คาเลนคิดว่าเจเรมี่กลับมาแล้ว เธอจึงลุกขึ้นเดินออกไป อย่างไรก็ตามเธอเห็นเพียงชายสวมหน้ากากสองคนที่ด้านหน้าประตู พวกเขาดูเหมือนพวกอันธพาล

“พวกแกเป็นใคร มาทำอะไรที่บ้านฉัน” คาเลนถามอย่างหงุดหงิดขณะส่งพวกเขาออกไปว่า “ถ้าพวกแกเป็นขอทาน หรือพนักงานขายก็ออกไปจากที่นี่ซะ อย่ามาทำให้ระเบียงหน้าบ้านฉันสกปรก”

หลังจากที่เธอพูดอย่างนั้น ชายคนหนึ่งก็หยิบมีดสั้นชี้ไปที่คาเลนด้วยสายตาดุดัน “นังโง่นี่ แกเรียกใครว่าขอทาน?”

“อ๊า!” คาเลนตกใจและถั่วพิสตาชิโอทั้งหมดในมือของเธอก็ร่วงลงกับพื้น “คะ คุณเป็นใคร? คุณกำลังพยายามทำอะไร?!”

เธอวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความตื่นตระหนก แต่วินส์ตันออกไปทำธุรกิจในขณะที่คนใช้ออกไปซื้อของ แม่บ้านเองก็ไม่อยู่ด้วย ไม่มีใครในบ้าน นอกจากเธอและผู้อาวุโสวิทแมน

ชายทั้งสองเขย่ามีดสั้นในมือและเข้ามาใกล้ “นำของมีค่าทั้งหมดมาให้ฉัน!”

คาเลนหน้าซีดและส่ายหัว เธอบอกว่า “ฉะ ฉันไม่มีของมีค่าอะไรทั้งนั้น!”

“บ้านใหญ่แบบนี้ไม่มีของมีค่าอะไรเลยได้ยังไง? เธอกำลังพยายามบอกว่าชีวิตตัวเองไม่มีค่าแล้วหรือเปล่า?” ชายคนนั้นเหวี่ยงมีดอย่างโหดเหี้ยม

คาเลนกลัวจนวิ่งกลับหลัง และล้มลงกับพื้นพร้อมกับข้อเท้าแพลง

“ถ้าไม่อยากตาย มอบเงินสดและของมีค่าทั้งหมดมา!”

“ตกลง ฉันจะไปเอาพวกมันมาให้!” คาเลนไม่กล้าปฏิเสธพวกเขาอีกต่อไป แล้วเดินกะเผลกขึ้นชั้นบนด้วยข้อเท้าที่แพลงของเธอ

เธอคิดที่จะโทรหาตำรวจหรือแจ้งเจเรมี่ แต่หนึ่งในพวกอันธพาลใช้มีดตามหลังเธอ

คาเลนทนความเจ็บปวดที่ข้อเท้าของเธอ และนำเครื่องประดับและของมีค่าทั้งหมดออกจากตู้เซฟ

“มีอีกไหม?” ชายคนนั้นถามอย่างจริงจัง “ถ้ากล้าโกหกพวกเรา ฉันจะตัดมือเธอ!”

“มีสิ! มี!” คาเลนตื่นตระหนกและมอบเงินที่เธอซุกซ่อนไว้แก่พวกเขา

ชายสองคนพอใจมาก พวกเขามองไปที่คาเลนซึ่งสั่นเทา และเชยปลายคางเธอขึ้นด้วยมีด “ไม่ใช่ว่าปกติคุณจะเย่อหยิ่งหรอกเหรอ? ทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าซะแล้วล่ะ?”

สีหน้าของคาเลนเปลี่ยนไปเมื่อเธอได้ยินสิ่งที่ชายคนนั้นพูด สองคนนี้รู้จักเธออย่างนั้นเหรอ?

“พะ พวกนายเป็นใคร?”