ดูเหมือนว่าไอ้แก่คนนี้จะซุกซ่อนเอาไว้อย่างลึกซึ้ง!

เพียงแต่ไม่เป็นไร

ต่อให้เป็นหมาจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์แค่ไหน

สักวันหนึ่ง ก็จะต้องปรากฏหางจิ้งจอกของตนเองออกมา!

หยางเฟิงฆ่าลูกชายทั้งสองของเย่เทียน แล้วยังทำลายครอบครัวพี่ใหญ่ของเย่เทียนอีก

เขาไม่เชื่อว่า เย่เทียนจะไม่มีความอาฆาตแค้นต่อตนเองเลยแม้แต่นิดเดียว

ที่ตอนนี้เย่เทียนมีการแสดงออกอย่างกระตือรือร้นต่อตนเองขนาดนั้น ล้วนเป็นการเสแสร้ง

แน่นอนว่า

แผนการร้ายหลอกลวงทุกสิ่งทุกอย่าง ต่อหน้าอย่างเฟิงก็ล้วนเป็นเสือกระดาษ

เพียงแต่เย่เทียนเป็นคุณปู่ของเย่เมิ่งเหยียน

ขณะที่ยังไม่มีพยานหลักฐานที่แน่นอน

หยางเฟิงก็ไม่อาจลงมือกับไอ้แก่ตายยากคนนี้ได้!

วันต่อมา

ณ วิลล่าหยุนติ่ง

“หยางเฟิง แกมันไอ้สารเลว! แกฆ่าพี่ใหญ่ของฉัน! ตอนนี้ยังจะมากักบริเวณพ่อของฉันอีก!”

“แกต้องการจะฆ่าตระกูลหลันของฉันให้สิ้นซากเลยหรืออย่างไร? ถ้าคุณมีความสามารถ ก็ฆ่าฉันไปด้วยเลยสิ!”

“ฉันก็เป็นคนของตระกูลหลัน! อีกอย่าง คุณก็ฆ่าเมิ่งเหยียนไปด้วยเลยสิ เธอก็มีสายเลือดของตระกูลหลันเหมือนกัน!”

หลังจากหลันซินได้ทราบเรื่องของตระกูลหลัน ก็กระฟัดกระเฟียดตั้งแต่เช้าตรู่

เผชิญหน้ากับการคำรามของหลันซิน

หยางเฟิงนั่งอยู่บนโซฟา ไม่พูดไม่จา

เย่เมิ่งเหยียนที่อยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า: “แม่ คุณอย่าพาลหาเรื่องไปเลย! ตระกูลหลันทำความผิดมหันต์ในตงไห่ ที่หยางเฟิงทำเช่นนี้ก็มีเหตุผล……”

“มีเหตุผลกะผีเหรอ?”

ไม่รอให้เย่เมิ่งเหยียนพูดจบ

หลันซินก็ด่าขึ้นมาทันทีว่า: “เย่เมิ่งเหยียน ตกลงแกยังเป็นคนตระกูลหลันอยู่ไหม? หยางเฟิงฆ่าคุณลุงของแก น้องสาวของแก กักบริเวณคุณตาของแก คาดไม่ถึงว่าแกยังจะช่วยเขาพูดอีกเหรอ? แกทำให้ฉันต้องผิดหวังอย่างมากจริงๆ!”

“คุณ……..”

เห็นว่าหลันซินพาลไม่ยอมฟังเช่นนี้

เย่เมิ่งเหยียนก็ต้องการจะโต้แย้ง

แต่เธอก็ได้แต่อ้าปาก พูดไม่ออกเลยสักคำเดียว

ที่หลันซินพูดไม่ผิด

ถึงอย่างไรในตัวของเธอ ก็ยังไหลรินไปด้วยเลือดของตระกูลหลัน!

เวลานี้

หยางเฟิงลุกขึ้นยืน มองหลันซินแล้วกล่าวว่า: “แม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำฉันก็รู้อยู่แก่ใจ! ตระกูลหลันคือเนื้อร้ายก้อนหนึ่งของตงไห่ หากไม่ขุดรากถอนโคนละก็ ฉันก็จะต้องรู้สึกผิดต่อประชาชนทั้งเมืองตงไห่”

“ฮ่าๆๆ!”

หลันซินหัวเราะเสียงดัง แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ยว่า: “หยางเฟิง แกเปลี่ยนเป็นคนมีคุณธรรมสูงส่งเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ทั้งยังทำเพื่อประเทศเพื่อประชาชนอีกเหรอ? แกสูงส่งขนาดนั้น ทำไมแกไม่ไปเป็นคุณชายล่ะ? วิ่งแจ้นมาเป็นลูกเขยตระกูลเย่ทำไม?”

“อีกอย่าง ตระกูลหลันทำผิด ปกติแล้วก็จะมีหน่วยที่เกี่ยวข้องมาจัดการอยู่แล้ว ต้องการให้แกเข้ามายุ่งเรื่องของชาวบ้านเหรอ?”

“หยางเฟิงแกเป็นลูกเขยของฉัน แกไร้น้ำใจไร้คุณธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใครเช่นนี้! ฆ่าพี่ใหญ่ของฉัน ฆ่าหลานสาวของฉัน กักบริเวณพ่อของฉัน แกยังเห็นแม่ยายอย่างฉันคนนี้อยู่ในสายตาบ้างไหม?”

หลันซินยิ่งพูดยิ่งโมโห

ไอ้สารเลวหยางเฟิงคนนี้

ทำเรื่องที่เกินไปต่อตนเอง ต่อตระกูลหลันเช่นนี้

แสดงว่าไม่เห็นว่าตนเองเป็นแม่ยายโดยสิ้นเชิง!

เมื่อเห็นว่าหลันซินยิ่งพูดยิ่งมากเกินไป

สีหน้าของหยางเฟิงก็มืดมนลงมา: “แม่ ฉันเห็นแก่หน้าคุณกับเมิ่งเหยียนอยู่แล้ว มีความเมตตาต่อตระกูลหลันแล้ว! หลันเฟิงคือโจวห้าวเป็นคนฆ่า ส่วนหลันจื่อก็ฆ่าตัวตาย ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับฉันแต่อย่างใด! ส่วนหลันเจิ้น ความผิดของเขา เพียงพอที่เขาจะถูกยิงเป้าสิบครั้ง แต่ฉันเพียงแค่กักบริเวณเขา ก็นับว่ายกผลประโยชน์เขาแล้วนะ!”

“เชอะ!”
หลันซินกล่าวอย่างเหยียดหยาม: “หยางเฟิง แกเสแสร้งกับฉันให้มันน้อยๆ หน่อยนะ! พี่ใหญ่ของฉันถูกโจวห้าวฆ่าที่ไหนกัน? ถ้าไม่ใช่เพราะแกบีบบังคับโจวห้าว เขาจะฆ่าพี่ใหญ่ของฉันเหรอ?”

“อีกอย่างหลันจื่อ เธอก็ถูกแกบีบบังคับให้ตาย ถ้าแกไม่บังคับเธอ เธอจะฆ่าตัวตายเหรอ?”

“ทีหลังแกไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ ฉันไม่มีลูกเขยที่ไร้น้ำใจไร้คุณธรรมอย่างแก!”

สำหรับการเถียงข้างๆ คูๆ ของหยางเฟิง

หลันซินไม่เชื่อถือแม้แต่คำเดียว

ที่หลันเฟิงกับหลันจื่อต้องตาย

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้

หยางเฟิงล้วนเป็นคนทำทั้งหมด!

“ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรต้องพูดแล้ว!”

เห็นหลันซินก่อความวุ่นวายสุ่มสี่สุ่มห้า