ตอนที่ 680 หลิงเอ๋อ
ตั้งแต่ครั้งก่อน เหล่าที่ปรึกษาได้ลองหยั่งเชิงอันหลิงเกอและมู่จวินฮานก็รู้ได้ว่าอันหลิงเกอพร้อมทำทุกอย่างเพื่อท่านอ๋อง ทว่าพวกเขาก็ยังมิวางใจ และเมื่อปรึกษากันแล้วก็พบว่าการกำจัดนางไปเสียคงเป็นทางที่ดีสุด
แต่ไม่มีผู้ใดกล้าลงมือแม้เพียงคนเดียวจึงทำได้แค่หารือกันใหม่จนได้ข้อสรุปว่าควรหาสตรีคนใหม่มาให้มู่จวินฮานดีกว่า
วิธีนี้แม้พวกเขาเคยใช้มาแล้วทั้งยังมิได้ผล แต่เหล่าที่ปรึกษาก็ยังเชื่อว่าต้องมีสตรีสักคนที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้
ครั้งนี้พวกเขาจึงจัดเตรียมสตรีที่ไร้เดียงสานางหนึ่งเอาไว้
กล่าวไปแล้วก็แปลกเพราะสตรีนางนี้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายอันหลิงเกอยิ่งนัก แม้แต่เหล่าที่ปรึกษาก็พากันแปลกใจมิน้อย
ผ่านมาหลายวันแล้วทว่ามู่จวินฮานก็หาได้สนใจสตรีนางนี้ไม่ ถึงขั้นมิเคยไปพบหน้านางด้วยซ้ำจึงทำให้เหล่าที่ปรึกษาเริ่มร้อนใจรวมทั้งรู้สึกอึดอัดใจมิน้อย
ต่อไปมู่จวินฮานอาจจะไม่ไปหานางอีกเลยก็ได้ อย่างไรภายในใจของเขาก็มีเพียงอันหลิงเกอ ซึ่งมู่จวินฮานรับรู้ถึงการมีตัวตนของสตรีผู้นี้แต่ก็มิได้มีผู้ใดเคยไปพบหน้า
ทางด้านหลิงเอ๋อเดิมทีก็รู้สึกพึงพอใจในความสุขสบายเช่นนี้อยู่แล้ว นางชื่นชอบจวนแห่งนี้มิน้อยแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ ทำได้เพียงมองออกไปนอกหน้าต่างเท่านั้น หลายวันมานี้นางได้เห็นอันหลิงเกอกับมู่จวินฮานที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ด้านนอกหน้าต่าง
หลิงเอ๋อเห็นพวกเขาป้อนอาหารให้กันไปมา เห็นมู่จวินฮานเด็ดดอกไม้ให้อันหลิงเกอ เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของพวกเขาแล้ว นางก็รับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของบุรุษผู้นี้ รับรู้ได้ถึงความรักที่เขามอบให้แก่อันหลิงเกอ
ทำให้หลิงเอ๋อเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมา นางหวังว่าสักวันจะได้รับความรักเช่นนั้นบ้าง
แต่นางเป็นเพียงสาวชาวบ้านธรรมดา ที่ผ่านมามักโดนกดขี่อยู่เสมอ แม้แต่ความรู้สึกของตนเองก็ยังถูกผู้อื่นคอยบังคับ
ตอนนี้นางมิรู้สึกเสียใจเลยที่พวกเขาให้นางมาอยู่ที่นี่ เพราะบุรุษผู้นี้มีใบหน้าหล่อเหลาและรอยยิ้มอบอุ่นยิ่งนัก ทั้งหมดนี้ทำให้หลิงเอ๋อปรารถนาในตัวมู่จวินฮานมากขึ้น
ทั้งเห็นว่าใบหน้าของอันหลิงเกอมีความคล้ายกับตน ภายในใจของหลิงเอ๋อก็แอบหวังว่าจะได้เป็นเช่นอีกฝ่ายบ้าง ต่อให้แค่วันเดียวก็ยังดี ขอเพียงให้ตนได้รับรู้ถึงความอ่อนโยนของเขาบ้างก็คงจะดี
ทว่าความปรารถนามีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลิงเอ๋อหารู้ไม่ว่าความปรารถนาจะทำให้นางค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป
อีกทั้งเหล่าที่ปรึกษาได้กำชับนางไว้ว่าก่อนที่มู่จวินฮานจะสังเกตเห็น นางห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ห้ามออกไปให้อันหลิงเกอเห็นหน้าเป็นอันขาด
เนื่องจากพวกเขาต่างก็เกรงกลัวอันหลิงเกอและรู้ดีว่าหากทำให้อันหลิงเกอโมโหขึ้นมา ต่อไปก็จะหมดโอกาสลงมือได้อีก
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้หลิงเอ๋ออยู่อย่างสงบเสงี่ยมเพื่อรอโอกาส แต่คาดมิถึงว่าสตรีตัวเล็ก ๆ จักมีความกล้ามากเพียงนี้
วันนี้อันหลิงเกอมิได้อยู่ที่เรือน แม้หลิงเอ๋อมิรู้ว่านางไปไหน แต่ได้ยินนางสั่งความกับสาวใช้เอาไว้ว่าตอนกลางวันถึงจะกลับมา
หลิงเอ๋อรู้ว่าโอกาสของตนมาถึงแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวออกจากเรือนอย่างแผ่วเบาแล้วตรงไปที่เรือนของมู่จวินฮาน
มู่จวินฮานกำลังสะสางงานราชการอยู่ในห้องหนังสือ เมื่อเห็นคนที่เข้ามาเป็น ‘อันหลิงเกอ’ จึงมิได้คิดอันใดมาก
หลิงเอ๋อมาหยุดอยู่ที่ข้างกายของมู่จวินฮาน แต่ถูกเขาดึงเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทันที นางยังมิเคยโดนบุรุษแตะเนื้อต้องตัวเช่นนี้มาก่อนจึงตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นและมิรู้ว่าควรทำตัวเช่นไร
มู่จวินฮานที่ตอนนี้ยังมิทันรู้ตัวจึงปล่อยนางเป็นอิสระพร้อมรอยยิ้มหยอกเย้า เมื่อเห็นท่าทางของนางเช่นนั้นก็อดขบขันขึ้นมามิได้
“เกอเอ๋อ เราเป็นสามีภรรยากันมาหลายปี เจ้ายังมิคุ้นชินอีกหรือ ? ”
เมื่อเห็นรอยยิ้มบาดตาของมู่จวินฮานแล้ว ใบหน้าของหลิงเอ๋อก็แดงเรื่อ มู่จวินฮานเห็นท่าทีเก้อเขินและแก้มสุกปลั่งเพราะเขินอายของนางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างมิถูกต้อง เขาก้าวเข้ามาหานางก่อนจะบีบให้นางถอยหลังไปจนชิดกำแพงและจ้องนางตาเขม็ง
“เจ้าเป็นผู้ใด ? ”
มู่จวินฮานถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวแล้วกอดอกมองนางอยู่เช่นนั้น หลิงเอ๋อถูกเขาถามเช่นนี้จึงรู้สึกประหม่าขึ้นมาและมีท่าทีอึกอักอยู่นานแต่ก็ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา
มู่จวินฮานเห็นท่าทางของนางก็รู้ว่าคงมิได้ประสงค์ร้ายจึงมิเอ่ยสิ่งใดอีก ก่อนจะนั่งลงจัดการงานราชการต่อเพื่อรอให้นางเปิดปาก แต่เมื่อหลิงเอ๋อเห็นว่ามู่จวินฮานมิสนใจอีกก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
หลิงเอ๋อคุกเข่าลงกับพื้นทันที
“หืม ? ”
“ข้าน้อย…ชื่อหลิงเอ๋อเจ้าค่ะ” สุดท้ายหลิงเอ๋อก็เอ่ยนามออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและเมื่อเห็นสีหน้าที่มิเข้าใจของมู่จวินฮานแล้ว นางก็รู้ว่าเขาไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตนเลยแม้แต่น้อย
“ข้าน้อย…ก็คือคนที่หลายวันก่อน…” หลิงเอ๋อยังกล่าวมิจบก็เกรงว่าจะทำให้มู่จวินฮานรังเกียจเสียก่อนและจริงดังนั้นเพราะมู่จวินฮานได้ยินถึงตรงนี้ก็นิ่วหน้าทันที
สนมที่แต่งเข้าจวนเมื่อหลายวันก่อนเองหรือ ?
ที่มู่จวินฮานขมวดคิ้วมิใช่เพราะได้ทราบฐานะของนาง แต่เพราะมิเข้าใจว่าเหตุใดมู่เหล่าหวางเฟยและเหล่าที่ปรึกษาจึงหาสนมที่มีหน้าตาเหมือนอันหลิงเกอมากเพียงนี้ ทั้งยังเป็นสตรีที่อ่อนแอและขี้กลัวมากด้วย
เมื่อหลิงเอ๋อเห็นมู่จวินฮานขมวดคิ้วมุ่นก็รู้สึกหวาดกลัวจนมิกล้าขยับตัว มู่จวินฮานเห็นนางคุกเข่าและมีท่าทีหวาดกลัวจึงอดยกมือขึ้นกุมขมับมิได้
เข้าก้าวเข้าไปประคองนางขึ้นมาพลางมองใบหน้าที่หวาดกลัวของนาง เนื่องจากมู่จวินฮานมิเคยสัมผัสสตรีเช่นนี้มาก่อนจึงรู้สึกรำคาญโดยมิรู้ตัว
อีกทั้งความรู้สึกของเขาที่มีต่อนางก็เป็นเหมือนพี่ชายมีต่อน้องสาวก็มิปาน มู่จวินฮานเห็นท่าทางหวาดกลัวจนตัวสั่นของนางแล้ว ขณะที่กำลังประคองให้ลุกขึ้น เขาก็รู้สึกว่ามือทั้งสองข้างของนางได้จับตนเอาไว้แน่น
“หืม ? ” มู่จวินฮานแสร้งมองหลิงเอ๋ออย่างโมโห นางจึงรู้สึกตัวว่าเล็บแทบจะจิกเข้าในผิวของเขาอยู่แล้ว
นางจึงรีบปล่อยมือและคุกเข่าลงอีกครั้ง มู่จวินฮานเห็นดังนั้นจึงรีบประคองนางไว้เสียก่อน
“ต่อไปมิต้องเอาแต่คุกเข่า ข้ามิใช่ปิศาจที่น่ากลัว” มู่จวินฮานมองอย่างเอือมระอา ก่อนจะเดินนำหน้านางออกไปนอกห้อง หลิงเอ๋อรับคำเบา ๆ หลังจากนั้นจึงเดินตามเขาออกไป
มู่จวินฮานมิรู้ด้วยซ้ำว่านางพักอยู่ที่เรือนไหน ชั่วขณะหนึ่งจึงมิรู้ว่าควรเดินไปทางไหนดี ส่วนหลิงเอ๋อก็แปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้ว่าเขาคงมิทราบที่พักของนาง ดังนั้นจึงรีบเอ่ยลาแล้วกลับไปที่เรือนของตนทันที
มู่จวินฮานยิ้มอย่างระอาและหันไปมองสาวใช้ที่ตอนนี้ได้จัดเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว ทว่าเขาก็เดินไปทางเรือนฝูหลิงของอันหลิงเกอแทน
ตอนนี้อันหลิงเกอยังมิกลับมา มู่จวินฮานจึงเข้ามานอนรออยู่บนเตียง
ทว่ามู่จวินฮานก็หลับไปโดยมิรู้ตัวพร้อมใบหน้าที่มีรอยยิ้มประดับอยู่
เมื่อหลิงเอ๋อกลับถึงห้องแล้วก็นั่งอยู่นานก่อนจะสงบลงได้ หลายวันมานี้นอกจากสาวใช้แล้ว นางก็มิได้สนทนากับผู้ใดอีก
นางมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง ตอนนี้ใกล้ถึงยามอู่แล้วอันหลิงเกอคงใกล้กลับมาเช่นกัน นางยังมิเคยรู้ว่าอันหลิงเกอเป็นคนเช่นไรและมิรู้ว่าจะอาละวาดใส่ตนหรือไม่
เมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ นึกถึงอ้อมกอดแสนอบอุ่นของมู่จวินฮานแล้ว หลิงเอ๋อก็อดคาดหวังถึงครั้งต่อไปที่จะได้พบเขาอีกมิได้
ความจริงแล้ววันนี้อันหลิงเกอไปที่ถ้ำน้ำแข็ง นางรู้ว่าสักวันหนึ่งบุตรและฟางหลิงซู่ต้องตื่นขึ้นมาอย่างแน่นอน ดังนั้นนางจึงชอบไปนั่งอยู่ที่นั่นทุกวัน