บทที่ 394 มาพนันกันหน่อย

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

หลังจากนั้น เย่เทียนก็กำชับเฉินหวั่นชิงสั้นๆ ก่อนจะพาคุณลุงที่หนังศีรษะเน่าไปครึ่งหัวมาอยู่ท่ามกลางฝูงชน

“เพื่อนนักข่าวทุกท่าน เชื่อว่าพวกคุณรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นใคร ผมกล้ารับประกันด้วยตัวผมเองเลยว่าเซรั่มปลูกผมไม่มีปัญหาแน่นอน!”

“อาการของคุณลุงคนนี้เกิดขึ้นเพราะมีคนอิจฉาบริษัทแซ่เฉินของเรา จงใจเล่นตุกติกลับหลัง”

“ถ้าทุกคนไม่เชื่อ ลองถามคุณลุงคนนี้ดูก็ได้ครับ”

เย่เทียนเพิ่งจะพูดจบ ก็มีนักข่าวออกมาโต้ทันที

“คุณเย่ คุณบอกว่าเรื่องนี้มีคนอยู่เบื้องหลัง คุณมีหลักฐานพิสูจน์มั้ยครับ?”

“นั่นน่ะสิ เมื่อกี้ฉันเห็นพอดีว่าประธานเฉินหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งให้คุณลุง อยากถามว่าใช่เช็คหรือเปล่าคะ?”

“ใช่แล้ว เมื่อกี้ประธานเฉินจะเซ็นเช็คและจ่ายเงินเพื่อจบเรื่องรึเปล่าครับ?”

เย่เทียนกวาดสายตามองบรรดานักข่าวที่ปะทะเสียงดังที่สุดก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก

“ผมเข้าใจความคิดของทุกคนดี แต่ไม่ว่าผมจะพูดเยอะขนาดไหนก็สู้พิสูจน์ด้วยความจริงไม่ได้”

“ทุกท่านรอสักครู่นะครับ ผมไม่ได้โกหกแน่นอน”

ครู่เดียว กู้กวนชีที่รับคำสั่งจากเฉินหวั่นชิงก็เดินเข้ามา ในมือถือเซรั่มปลูกผมแบบพิเศษ

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนในนี้ฉงนกันหมด ไม่รู้เลยว่าเย่เทียนจะทำอะไร

“นายจะทำอะไร? ทำร้ายเขาครั้งเดียวยังไม่พอ นี่คิดจะทำร้ายเขาซ้ำเป็นครั้งที่สองเหรอ?”

เวลานั้น ฉีหลินชิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาอีกครั้ง

ถึงแม้เมื่อกี้เขาโดนยามไล่ออกไปแล้ว แต่เจ้านี่ยอมอ้อมซะยกใหญ่และเข้ามาทางประตูข้างอีกครั้ง

เหอเชิ่งในฐานะหัวหน้า รปภ เลิกคิ้วขึ้นทันควัน ยกมือจะให้คนไปจับตัวเขา

แต่เย่เทียนกลับโบกมือหยุดการกระทำของเหอเชิ่งไว้

เย่เทียนมองฉีหลินชิ่งด้วยรอยยิ้มจางๆ ไม่มีความโกรธเกรี้ยวเลยสักนิด

“ก่อนหน้านี้ทุกคนสงสัยว่าเซรั่มปลูกผมของพวกเราบริษัทแซ่ฉินมีสารพิษใช่มั้ยครับ”

“ถ้าตอนนี้ผมรักษาอาการหนังศีรษะเน่าเปื่อยของพี่ชายคนนี้ได้ คำลวงนี้คงจะถูกทลายลงอัตโนมัติใช่มั้ยครับ?”

ฉีหลินชิ่งหัวเราะเย็นๆ “กล้าพูดจริงเชียว คิดว่าตัวเองเป็นเทวดาจริงๆหรือยังไงกัน? บอกว่ารักษาหายได้ก็หายได้จริงรึ?”

“เทวดาเหรอ?”

เย่เทียนพึมพำ และพูดด้วยสีหน้าแน่วแน่ “ตอนนี้ผมยังไม่ใช่เทวดา แต่ผมสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เหมือนกัน!”

ต้องยอมรับเลยว่าท่าทางห้าวหาญของเย่เทียนในตอนนี้ดูหล่อมากเลยล่ะ

เฉินหวั่นชิงที่ยืนอยู่ด้านข้างมีสีหน้าอ่อนใจ และอดบ่นไม่ได้

“เจ้านี่นี่นะ นี่มันใช่เวลามั้ย ยังมีกะจิตกะใจจะเก๊กหล่ออีก”

แซ่เจียที่มียามล้อมไว้มองเย่เทียนด้วยสายตาประหลาด เธอยืนรออยู่ที่เดิมเพื่อรอดูต่อไป สายตาเป็นประกายนั้นฉายแววอยากรู้อยากเห็น

ในเมื่อเธอยอมเป็นพรีเซ็นเตอร์เซรั่มปลูกผมของบริษัทแซ่เฉิน ต้องพอรู้จักและเคยใช้อยู่บ้าง

เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่มีผลข้างเคียงอะไรแน่นอน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าสามารถทำให้หนังศีรษะเน่าเปื่อยได้

แต่ขณะเดียวกัน ผลของเซรั่มปลูกผมนี้ก็ไม่ได้สุดยอดขนาดนั้นหรอก

ที่สำคัญที่สุดคือสิ่งที่เย่เทียนแสดงออกบนเครื่องบินก่อนหน้านี้ส่งผลกระทบต่อเธออย่างลึกซึ้ง เธออยากจะเห็นจริงๆว่าเย่เทียนจะสร้างปาฏิหาริย์ได้ยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน

พานเหลียงผิงที่เสียหน้าและโดนเบียดไปอยู่ด้านข้างตาเป็นประกายเช่นเดียวกัน เขาแอบหยิบมือถือออกมาแล้วเปิดกล้องเล็งไปที่เย่เทียน

คนในที่นี้ต่างโดนเย่เทียนกระตุ้นต่อมอยากรู้เข้าให้ จึงเร่งเร้าอย่างอดไม่ได้

“จะลาหรือม้าก็ลากออกมาให้ดูหน่อย อย่าเอาแต่คุยโว!”

“อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย รีบพาออกมาให้พวกเราดูหน่อยว่าเซรั่มปลูกผมที่ว่ามหัศจรรย์อย่างที่คุณว่าหรือเปล่า”

ฉีหลินชิ่งมือกอดอก สีหน้าเหยียดหยาม

“มหัศจรรย์รึ? เอาทั้งเงินทั้งชีวิตชัดๆ!”

เย่เทียนไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำ เขาที่สั่งผ่านเฉินหวั่นชิงไปแล้ว ไม่นานนักก็มีคนยกน้ำร้อนเข้ามา

เย่เทียนเริ่มจากล้างหนังศีรษะให้คุณลุงก่อน และแกะเซรั่มปลูกผมต่อหน้าทุกคน

เมื่อเขาหมุนฝาขวดของเซรั่มปลูกผม กลิ่นหอมจางๆของยาก็กระจายออกมาทันที ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา เหมือนผสมสารพิษซะที่ไหน

“ทุกท่าน เซรั่มปลูกผมตัวนี้ของเราผลิตด้วยสมุนไพรจีนบริสุทธิ์ ทุกคนโปรดรอสักสิบนาที เดี๋ยวจะได้เห็นปาฏิหาริย์กันแล้วนะครับ!”

เย่เทียนถือขวดเซรั่มปลูกผมและหมุนรอบให้ทุกคนดู แล้วจึงบีบออกมาจำนวนมากค่อยๆทาตรงจุดเน่าเปื่อยบนหัวของคุณลุงอย่างระมัดระวัง

ยามสามสี่คนรีบเดินถือป้ายโฆษณากว้างเมตรกว่าเข้ามา ปกปิดร่างของเย่เทียนและคุณลุงไว้อย่างง่ายๆ

“ลิงหลอกเจ้า! ฉันจะดูซิว่าอีกเดี๋ยวนายจะจบเรื่องนี้ยังไง!”

สีหน้าฉีหลินชิ่งโหดเหี้ยม ไม่เชื่อเลยสักนิดว่าเย่เทียนจะสร้างปาฏิหาริย์ใดๆขึ้นมาได้

คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ยังจิตใจดีอยู่ ในเมื่อเย่เทียนบอกว่าขอสิบนาที ทุกคนในที่นี้ก็ไม่ได้เร่งเร้า รอคอยให้เวลามาถึง เพื่อเปิดม่านผืนสุดท้ายนี้ออก

ในใจของเฉินหวั่นชิงก็เต็มไปด้วยความกังวล มือเรียวจับกู้กวนชีไว้อย่างควบคุมไม่ได้

แม้ว่าเธอมั่นใจในตัวเย่เทียนมาก แต่ยังไงซะก็ยังไม่ถึงเวลา ไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงแบบไหน

ยังไงซะ อย่างแรกเย่เทียนไม่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสูตรเซรั่มปลูกผม อย่างที่สอง จากที่เฉินหวั่นชิงรู้มา เซรั่มปลูกผมนี้ไม่ได้มีผลในการรักษา

ยิ่งไปกว่านั้น ทำยังไงถึงจะรักษาหนังศีรษะเน่าเปื่อยของคุณลุงได้ในเวลาเพียงสิบนาทีกันล่ะ?

ไม่ว่ายังไง แม้จะเป็นเวลาสิบนาทีที่ผ่านไปในแป๊บเดียว แต่กลับนานเหมือนผ่านไปเป็นศตวรรษ

สิบนาทีผ่านไปปุ๊บ เย่เทียนเดินนำออกมาจากป้ายโฆษณาก่อน ปรากฏตัวสู่สายตาของทุกคนอีกครั้ง

ทว่าคุณลุงคนนั้นกลับไม่ยอมเดินออกมาสักที

ฉีหลินชิ่งคิดขึ้นมาด้วยจิตใต้สำนึกว่าเซรั่มปลูกผมไม่เกิดผล จึงอดแดกดันขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้

“สิบนาทีผ่านไปแล้ว ทำไมคุณลุงคนนั้นยังไม่ออกมาอีกล่ะ?”

“หรือว่านายเสแสร้งต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่กล้าให้คุณลุงออกมาล่ะสิ?”

“ให้ฉันว่านะ เซรั่มปลูกผมของพวกนายต้องเป็นสินค้าไม่ดีอย่างแน่นอน ฉันกลับไปเมื่อไหร่จะทำข่าวให้คึกโครมไปเลยล่ะ”

เย่เทียนมองเขาเรียบๆด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

“ดูท่านักข่าวฉีตั้งมั่นแล้วว่าจะไม่เชื่อผม ไม่เชื่อเซรั่มปลูกผมของพวกเราใช่มั้ยครับ?”

“ถ้าอย่างนั้น เรามาพนันกันหน่อยมั้ยล่ะครับ?”

คนที่สนิทกับเย่เทียนรู้ดีว่ารอยยิ้มแบบนี้ของเขาเป็นสัญลักษณ์ว่าเขากำลังจะล่อลวงผู้อื่น

“พนัน?”

ฉีหลินชิ่งขมวดคิ้วทันที เขามองเย่เทียนขึ้นลงด้วยสีหน้าประหลาด ไม่รู้ว่าเขามีแผนร้ายอะไร

“ทำไมเหรอครับ? คุณไม่กล้าหรือยังไง?”

“ถ้าไม่กล้าก็รีบกลับบ้านไปร้องไห้กับแม่นะครับ อย่ามาขายหน้าที่นี่เลย”

เย่เทียนแค่นเสียงเย็น เจ้านี่เอาแต่สร้างเรื่องมาตั้งแต่แรก เขาจะทำดีด้วยได้ยังไงกัน

“ไม่กล้า? ทำไมฉันจะไม่กล้า?”

ฉีหลินชิ่งลังเลนิดหน่อย ก่อนจะพูดอย่างแข็งกร้าว “ว่ามาสิ นายจะพนันด้วยอะไร”

เขารู้ดีว่าเซรั่มปลูกผมของบริษัทแซ่เฉินไม่มีพิษร้ายแรงอะไรหรอก แต่เขาไม่เชื่อว่าเย่เทียนจะรักษาอาการเน่าเปื่อยของคุณลุงได้ไวขนาดนี้ เรื่องที่ชนะแน่นอนเช่นนี้ทำไมจะไม่พนัน?!