Chapter 50 เลื่อนระดับภายในเวลาครึ่งวัน

ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything

หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง เฉินเฉินได้เก็บเหรียญตราของเขาไป ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปยังสนามหญ้าในสวนของเขา

 

พลังปราณในสนามหญ้านั้นหนาแน่นกว่าตรงพื้นที่ด้านนอก นอกจากห้องฝึกตน ห้องนอนและห้องอย่างอื่นแล้ว มันมีสวนสมุนไพรรักษาเล็กๆอยู่ตรงใจกลางของสนามหญ้า ซึ่งมันกองไปด้วยดินวิญญาณ

 

“หูเซียงเอ๋อ เจ้ากรงที่อยู่ข้างสวนสมุนไพรนั่นมีไว้ทำไมกัน? ทำไมมันดูเหมือนเล้าไก่ที่ข้ามีตอนอยู่ที่บ้านของข้ากัน?”

 

เฉินเฉินถามอย่างสงสัย ก่อนที่จะชี้ไปที่กรงที่อยู่ด้านข้างของสวน

 

หูเซียงเอ๋อจ้องไปที่บนท้องฟ้าก่อนที่จะตอบออกมาอย่างปกติธรรมดาทั่วไป “ข้าไม่รู้ มันน่าจะมีไว้ให้ไก่นะ”

 

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเธอแล้ว เฉินเฉินก็เหลือบไปมองที่เธอ ก่อนที่จะโยนเธอเข้าไปในกรงโดยไม่ลังเล

 

“เจ้าเด็กเวร! ทำไมเจ้าถึงโยนข้าลงไปในกรงขังปีศาจนี่กัน!?” หูเซียงเอ๋อกรีดร้องออกมาอย่างไม่พอใจ ทันทีที่กรงเล็บของเธอสัมผัสเข้ากับขอบกรง เธอก็ถอยกลับทันที มันเหมือนกับว่าเธอโดนไฟฟ้าช็อตยังไงยังงั้น

 

“กรงขังปีศาจ? ของดีเลยนี่นา!” เฉินเฉินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มกว้าง เมื่อเขามีของแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องแบกหูเซียงเอ๋อไว้บนแขนของเขาอีกแล้ว

 

‘มันคงเศร้านะที่ต้องฆ่าเจ้าจิ้งจอกนี้ทิ้งไป แต่ถ้าข้าไม่ฆ่าเธอทิ้งแล้ว ข้าต้องระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเลยนี่สิ ข้าควรให้เธออยู่ในกรงไปก่อน เมื่อข้ามีเวลาว่าง ข้าค่อยเอาเธอออกมาคุยเล่นละกัน’

 

“ระบบ มันมีของล้ำค่าที่อยู่ในระยะ 20 เมตร ที่นอกจากกรงขังปีศาจนี่ไหม?”

 

เฉินเฉินถามระบบในหัวของตัวเอง เพื่อที่จะทำความเข้าใจกับที่พักของเขาแล้ว การใช้ระบบตรวจสอบมันเป็นวิธีที่ไวที่สุดแล้ว

 

“มันมีเตียงวิญญาณไม้อยู่ด้านซ้ายห่างออกไป 16 เมตรจากตัวท่านค่ะ มีเบาะนั่งหยกขาวที่อยู่ด้านซ้ายห่างออกไป 13 เมตรจากตัวท่านค่ะ คริสตัลวิญาณอยู่ลึกลงไป 12 เมตรใต้ดินค่ะ มีเตาเหล็กดำอมฤตอยู่ด้านซ้ายห่างออกไป 18 เมตรจากตัวท่านค่ะ ท่านเจ้าของ ท่านกำลังสวมเกราะในจระเข้ดำอยู่ค่ะ”

 

เมื่อเฉินเฉินนั่งฟังระบบเสร็จ เขาก็เดินตรงไปที่ห้องที่อยู่ด้านหน้าเขา เขาเดาว่าระบบไม่สามารถที่จะค้นหาและตรวจสอบของอยู่ในแหวนเก็บของได้

 

มันมีไม้ควบคุมมังกรที่อยู่ในแหวนเก็บของ ซึ่งมันมีค่ามากกว่าเจ้ากรงขังปีศาจนี่อยู่มาก

 

 

เพียงเวลาไม่นานที่เขาเข้าไปในห้อง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือเบาะนั่งหยกสีขาวซึ่งมีรอยพิลึก มันมีแสงสว่างหมุนรอบไปมา เขาบอกได้เลยว่ามันเป็นสมบัติที่หาได้ยาก

 

เฉินเฉินนั่งลงไปบนมันอย่างระมัดระวังและเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าพลังปราณที่อยู่รอบข้างได้ไหลเข้ามาในตัวเขาเร็วกว่าปกติหลายเท่า

 

ยังไงก็ตาม เนื่องจากว่าเขาขาดวิชาฝึกตน มันจึงไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรสำหรับพลังปราณที่จะไหลเข้ามาในตัวเขา มันแค่เริ่มรวมตัวกันเท่านั้น

 

“ข้าต้องฝึกวิชาบ้างแล้วละ”

 

เฉินเฉินพึมพำก่อนที่จะหยิบ ‘วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน’ ออกมาเพื่อฝึกฝน

 

พูดตามจริงแล้ว เขาค่อนข้างมีแรงกดดันมากเลย

 

ด้วยการผสมผสานระหว่างระบบที่ยอดเยี่ยมนี้ในร่างกายของเขา รวมทั้งสภาพการฝึกตนที่ยอดเยี่ยมและคุณสมบัติของเขาแล้ว มันคงจะเป็นหลักฐานได้อย่างดีเยี่ยมเลยว่าเขาคงจะโง่เขลาเกินไป ถ้าระดับการฝึกตนของเขาไม่ได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เฉินเฉินจะยอมรับได้ยังไงกัน?

 

ด้วยเหตุนี้นี่เองเขาจึงเริ่มเรียนรู้วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนด้วยความมุ่งมั่น มันเหมือนกับการเรียนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อชาติก่อนของเขาเลย

 

 

ก่อนที่จะรู้ตัว เวลาก็ได้ผ่านไปครึ่งวันแล้ว

 

มันพิสูจน์ให้เห็นว่าความยากของวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนนั้นยากน้อยกว่าวิชาคณิตศาสตร์และวิชาเคมี

 

เมื่อตระหนักได้ว่ามันถึงเวลากลางวันแล้ว เฉินเฉินได้ปิดคัมภีร์ไปและหายใจเข้าลึกๆ

 

ในวินาทีต่อมา พลังปราณในจุดตันเถียนได้เริ่มไหลเวียนอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา มันได้เปลี่ยนจากบ่อน้ำที่นิ่งสงบกลายเป็นกระแสน้ำวันที่ก่อตัวขึ้นสามมุม มันได้สร้างแรงดูดมากมาย

 

ในเวลานี้เอง เฉินเฉินได้เข้าใจถึงความสำคัญที่ยอดเยี่ยมของวิชาบ่มเพาะลมปราณ

 

การฝึกเป็นเซียนนั้นคือการดึงดูดพลังปราณบนโลกเข้ามาในร่างกายตัวเองเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

ถ้าก่อนหน้านี้มันเหมือนกับการเติมน้ำลงไปในถังโดยการใช้มือของตัวเอง วิชาการบ่มเพาะลมปราณมันเหมือนกับการใช้ขันตักน้ำลงไปในถังแทน

 

วิชาบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยมมันเหมือนกับขันใบใหญ่ ในขณะที่วิชาบ่มเพาะลมปราณที่ด้อยค่านั้นเหมือนกับการใช้ถ้วยเทน้ำลงไปในถัง

 

ชายคนที่ไม่มีความเหมาะสมในการฝึกตนนั้นเหมือนกับถังที่เต็มไปด้วยรูโหว่ ซึ่งมันไม่สามารถที่จะเติมน้ำลงไปได้

 

ถ้ามันมีรูเพียงไม่กี่รูและความเร็วของน้ำที่ใส่ลงไปมันมากกว่ารูโหว่แล้ว มันก็หมายความว่าเขาคนนั้นยังมีคุณสมบัติในการฝึกตน

 

คนที่มีร่างกายต้นกำเนิดอย่างเฉินเฉินเทียบได้กับถังขนาดใหญ่ที่มีปั๊มน้ำติดไว้อยู่ ซึ่งมันสามารถจะถ่ายโอนน้ำลงไปในถังได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ขัน

 

“สิ่งที่มีคุณภาพต่ำมันไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งที่มีคุณภาพสูงเลย”

 

เฉินเฉินถอนหายใจออกมา มันมีความแตกต่างกันอย่างมากของร่างกายในการรับพลังปราณเข้าไปในร่าง ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีบางคนแล้ว การดูดซึมพลังปราณลงไป 100% บุคคลนั้นอาจจะสูญเสียพลังปราณที่ซึมซับมาไปถึง 70% หรือ 80% ได้เลย

 

ความแตกต่างนี้มันยิ่งใหญ่มาก!

 

โชคร้ายที่เฉินเฉินก็พบปัญหาด้วยเช่นกัน

 

ยกตัวอย่างเช่น ร่างกายต้นกำเนิดของเขาจะดูดกลืนพลังปราณรวดเร็วเกินไป เมื่อเขาใช้งานมันร่วมกับวิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน เพียงระยะเวลาชั่วครู่ พลังปราณทั้งหมดในสนามหญ้าก็ได้ถูกดูดซึมไปหมดแล้ว

 

ถึงแม้ว่าคริสตัลวิญญาณที่อยู่ใต้ผืนดินจะปลดปล่อยพลังปราณออกมาอย่างต่อเนื่องก็ตามที ความเร็วของการแพร่กระจายมันก็ยังช้ากว่าความเร็วที่เฉินเฉินดูดกลืนเข้าไป

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เฉินเฉินหยิบหินวิญญาณออกมาจากกระเป๋าเก็บของของเขา

 

เขาได้เรียนรู้วิชานี้โดยไม่ต้องใช้อาจารย์สอนอีกต่อไป เมื่อเขาพกหินวิญญาณระดับต่ำนี้ไว้ เขาก็หายใจเข้าลึกๆ ในเวลาไม่ถึงนาที ก้อนหินนี้ก็ได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้ว

 

พลังปราณทั้งหมดในหินวิญญาณได้ถูกดูดกลืนลงไปในกระแสน้ำวนของจุดตันเถียนของเขา

 

เมื่อเห็นว่าเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เฉินเฉินตัดสินใจที่จะไม่งกกับการใช้หินวิญญาณอีกต่อไป เขาหยิบพวกมันออกมาจากในกระเป๋าทั้งหมด

 

ปัง ปัง ปัง…..

 

หินวิญญาณได้เปลี่ยนกลายเป็นขี้เถ้าทีละก้อน ทีละก้อน เมื่อถึงตอนที่เฉินเฉินได้ดูดกลืนพวกมันไปทั้งหมดหนึ่งร้อยก้อนแล้ว กระแสน้ำวนในร่างกายของเขาทั้งสามจุดก็ได้ขยายใหญ่ขึ้น

 

“นี่มันเหมือนกับการเลื่อนระดับในการฝึกพลังปราณอย่างงั้นหรือ? มันเหมือนกับว่าการฝึกตนเป็นเซียนมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปากสำหรับฉันเลยสินะ อื้ม ด้วยความเร็วเท่านี้แล้ว ไม่ใช่ว่าฉันต้องเปลี่ยนอาจารย์เมื่อหมดปีงั้นหรือยังไง?”

 

เฉินเฉินตกใจ

 

เขาเพียงแค่บ่มเพาะลมปราณอย่างจริงจังเพียงแค่ครึ่งวัน แต่เขาก็ได้เลื่อนระดับจากขั้นสามไปสู่ขั้นสี่แล้ว

 

โชคร้ายที่เขาไม่เหลือหินวิญญาณให้ดูดซึมอีกแล้ว

 

เพื่อที่จะได้ฝึกฝนต่อ เขาจะต้องออกไปหาสมบัติโดยใช้ระบบนี้

 

….

 

ในเวลาเดียวกัน เซี่ยวอู่โยวได้ยืนอยู่ด้านนอกสนามหญ้าอย่างเงียบๆเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง

 

ทันทีที่เขารู้สึกได้ว่าเฉินเฉินได้เลื่อนระดับแล้ว เขาก็ถอนหายใจยาวออกมา

 

“ร่างกายต้นกำเนิดของเขานี่มันช่างน่าหวาดกลัวเสียจริง วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนนั้นเลื่อนระดับได้ยากมากกว่าวิชาธรรมดาทั่วไปถึงหลายเท่า แต่ลูกศิษย์ของข้ายังทำมันสำเร็จได้โดยง่ายดาย แต่ว่าการใช้หินวิญญาณของเขาก็มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปถึงร้อยเท่า ช่างมันเถอะ มันก็แค่หินวิญญาณไม่เท่าไหร่ เขาก็เป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวที่ข้ารับไว้อยู่ดี”

 

เซี่ยวอู่โยวส่ายหัวเบาๆ เขาสะบัดแขนเสื้อก่อนที่จะเดินจากไป

 

 

ภายในห้องฝึกตนในสวน เฉินเฉินยังคงฝึกตนอย่างต่อเนื่อง แต่ว่ากองหินวิญญาณขนาดใหญ่ก็ได้ตกลงมาที่เบื้องหน้าของเขา เมื่อเขาตรวจสอบมันแล้ว เขาพบว่ามันมีอย่างน้อยก็หนึ่งพันก้อน

 

เมื่อเขาเห็นหินวิญญาณ เฉินเฉินได้มองออกไปด้านนอก

 

เขารู้ดีว่าหินวิญญาณเหล่านี้นั้นมาจากอาจารย์ของเขา แต่เขาอดสงสัยออกมาไม่ได้ “อาจารย์หมายความว่ายังไงกัน? เขาต้องการให้ระบบมันไร้ประโยชน์หรืออย่างไร?”

 

ระบบดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มันสัมผัสได้จากเจ้าของ ชั่วขณะต่อมา เสียงของระบบดังขึ้นในหัวของเฉินเฉิน “ท่านเจ้าของ ทรัพยากรที่ท่านได้ดูดซึมไปนั้นถึงระดับที่ต้องการแล้ว ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงได้รับรางวัลเป็นการตรวจสอบโอกาส 1 ครั้งภายในภูเขาเทียนหยุนค่ะ”