ตอนที่ 458 ทำให้เสียโฉม / ตอนที่ 459 สักวันหนึ่งจะรู้ความจริง

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 458 ทำให้เสียโฉม

 

 

ซูจิ่วซือไม่สะทกสะท้าน กรีดมีดลงไปที่แก้มขวาของจูอวี้ซิ่วอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย จูอวี้ซิ่วเจ็บจนอยากกรีดร้อง แต่ถูกซูจิ่วซืออุดปากไว้ หน้าของนางมีเลือดไหล หน้าผากมีเหงื่อซึม ถลึงตาใส่ซูจิ่วซืออย่างโกรธแค้น

 

 

พอซูจิ่วซือปล่อยมือ จูอวี้ซิ่วก็ร้องขู่ “เจ้า…สักวันหนึ่งเจ้าจะตกอยู่ในกำมือข้า ข้าจะแล่เนื้อเจ้าให้หมากินทีละชิ้นๆ ”

 

 

“เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว เป็นชายาแท้ๆ ยังสู้องค์หญิงไม่ได้

 

 

ในจวนซิ่นอ๋อง เจ้าไม่ได้มีความสำคัญ เจ้าเชื่อหรือไม่ คราวนี้พอเจ้ากลับไปเจ้าจะถูกทอดทิ้ง ไม่มีใครเห็นใจเจ้า พวกเขาใส่ใจแต่หน้าตาของจวนซิ่นอ๋อง ไม่ใช่เจ้า”

 

 

“เจ้า…” จูอวี้ซิ่วอยากเถียง แต่ก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร ถ้าเมื่อก่อนได้ยินคำนี้ นางคงไม่ยอมแน่ แต่หลังจากนางเกิดเรื่องครั้งก่อน คนทุกระดับในจวนซิ่นอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางไม่เหมือนเดิมนางเข้าใจเหตุผลนี้ดี นางไม่ได้มีความสำคัญในจวนซิ่นอ๋องแล้ว

 

 

“ถ้าเจ้าฉลาดสักหน่อยก็พอจะรักษาตัวรอดได้ แต่นี่เจ้ากลับวู่วามจนถูกหลอกใช้ เรื่องของจวนซิ่นอ๋องข้าไม่ใส่ใจ นี่เป็นหนี้ที่เจ้าต้องชดใช้ปิงปิง”

 

 

ซูจิ่วซือพูดจบก็กรีดใบหน้าจูอวี้ซิ่วอีกแผลหนึ่ง นางหยิบผ้าซึ่งเตรียมไว้อุดปากจูอวี้ซิ่ว แล้วกรีดหน้าจูอวี้ซิ่วต่ออีกสี่ห้าแผล ใบหน้าเสียโฉม เลือดสดๆ เต็มหน้า และไหลจากร่องแก้มหยดลงมา

 

 

ซูจิ่วซือโยนมีดสั้นในมือทิ้ง ก้มลงมองจูอวี้ซิ่ว “เจ้าอยากจัดการข้า รอให้เจ้ายืนมั่นคงในจวนซิ่นอ๋องก่อนเถอะ เวลานี้คนที่ควบคุมการงานจวนซิ่นอ๋องอย่างแท้จริงก็คือน้องสาวสามีเจ้า”

 

 

จูอวี้ซิ่วเหงื่อเต็มหน้าผาก ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของนางบิดเบี้ยว นางถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ แทบจะกินซูจิ่วซือ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร

 

 

นางนอนบนพื้นอย่างหมดแรง นึกถึงสภาพที่ตนจะประสบหลังจากนี้ แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกใจสั่น นางไม่รู้ว่าคนจวนซิ่นอ๋องจะทำอย่างไรกับนาง

 

 

ไม่มีวัน ถึงอย่างไร นางก็มีลูกสองคนชายหญิงให้ฟู่อี้หาน เพื่อเห็นแก่ลูก พวกเขาคงไม่ใจร้ายกับนาง พอคิดได้อย่างนี้ นางจึงสงบใจ

 

 

พวกเขาคงจะแก้แค้นแทนนาง คงจะดูแลนางอย่างดี ไม่มีวันทอดทิ้งนาง

 

 

สำหรับซูจิ่วซือแล้ว สักวันหนึ่ง ซูจิ่วซือต้องตกอยู่ในกำมือของนาง พอถึงตอนนั้นนางไม่ปล่อยซูจิ่วซือแน่

 

 

“คุณหนูซู พวกเราควรไปได้แล้ว”

 

 

ซูจิ่วซือไม่คิดจะฆ่าจูอวี้ซิ่ว นางพยักหน้า พาปิงซินออกจากห้องเก็บฟืน ปิงซินยังรู้สึกใจสั่น ความโกรธเกรี้ยวในสายตาของซูจิ่วซือทำให้นางตกใจมาก

 

 

ปกติซูจิ่วซือท่าทางอ่อนโยนมาก แต่พอเด็ดขาดขึ้นมาก็โหดเ**้ยมจริงๆ แม้แต่นางก็ไม่กล้ามองตาซูจิ่วซือตรงๆ

 

 

ปิงอวิ๋นตามหลังซูจิ่วซือไป พูดเบาๆ “ทำไมคุณหนูซูต้องทำร้ายชายาด้วยตัวเอง ถ้าจะทำอะไรจริงๆ บอกผู้น้อยให้ทำก็ได้ จะได้ไม่เผยตัว”

 

 

“แม้ไม่เผยตัว พวกนั้นก็สงสัยข้าอยู่แล้ว ข้าต้องแก้แค้นให้เผยปิงปิงด้วยตัวเอง เรื่องนี้ยังไม่จบ รอให้จูอวี้ซิ่วกลับจวนซิ่นอ๋อง นางคงรู้ว่าความชั่วร้ายจริงๆ เป็นอย่างไร

 

 

ข้าได้ยินมาว่าตั้งแต่นางทำเรื่องอับอายแล้ว ฟู่อี้หานก็เย็นชากับนาง ฐานะของนางในจวนซิ่นอ๋องอยู่ในอันตรายมาก เหตุการณ์ครั้งนั้นก็จะทำให้นางถูกเย็นชา เห็นชัดว่าฟู่อี้หานไม่ได้จริงใจกับนาง

 

 

จูอวี้ซิ่วเป็นคนปากร้ายอวดเก่ง ปกติคงจะกดดันฟู่เยว่อี้ไม่น้อย ฟู่เยว่อี้ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 459 สักวันหนึ่งจะรู้ความจริง

 

 

“ถ้าเดาไม่ผิด ฟู่เยว่อี้คงไม่พอใจนางอยู่ก่อนแล้ว เรื่องนี้ข้าได้ยินปิงปิงพูดถึง ฟู่เยว่อี้แย่งปิงปิงจากจูอวี้ซิ่ว สองคนนี้ขัดแย้งกันมาตลอด

 

 

พอจูอวี้ซิ่วกลับไปที่จวน คงไม่มีความสุขแน่ ถ้านางแค้นคนจวนซิ่นอ๋อง เรื่องจะยิ่งสนุก คนแปลกหน้าทำร้ายไม่รุนแรงเท่าคนใกล้ชิดทำร้าย

 

 

ปิงอวิ๋นพอได้ยินซูจิ่วซือวิเคราะห์ ก็รู้สึกว่าซูจิ่วซือพูดมีเหตุผล ซูจิ่วซือช่างมีความคิดล้ำลึกจริงๆ เมื่อก่อนนางไม่พอใจซูจิ่วซืออยู่บ้าง รู้สึกว่าซูจิ่วซือรั้งฟู่เฉินหรงไว้ แต่นี่ไม่ใช่แคว้นเว่ย

 

 

เวลานี้นางกลับชื่นชมซูจิ่วซือจริงๆ รู้สึกว่าฟู่เฉินหรงดูคนไม่ผิด

 

 

“คุณหนูซูพูดมีเหตุผล แต่ต้องระวังตัว ผู้น้อยเกรงว่าคนจวนซิ่นอ๋องจะทำร้ายคุณหนูซู”

 

 

ซูจิ่วซือกลับไม่วิตกเรื่องนี้ นางพูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย “พวกนั้นไม่ออกหน้าช่วยจูอวี้ซิ่วแน่ จวนซิ่นอ๋องเองคงไม่ทำอะไรข้าเพื่อจูอวี้ซิ่ว

 

 

อีกไม่นานจูอวี้ซิ่วก็จะเข้าใจความจริง ข้าอยากให้นางเข้าใจเร็วหน่อย ถ้าคนคนหนึ่งถูกผลักออกห่าง ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

 

 

มุมปากซูจิ่วซือมีรอยยิ้มน้อยๆ นางเข้าใจดี จวนซิ่นอ๋องปล่อยตนเพื่อให้ตนถ่วงฟู่เฉินหรง ด้วยเหตุนี้ คนจวนซิ่นอ๋องจึงไม่มีวันทำอะไรตนง่ายๆ

 

 

จูอวี้ซิ่วคนเดียวไม่มีความหมายมากพอที่จะทำให้พวกเขาแตกหักกับนาง หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ชะตากรรมของนางดีกว่าจูอวี้ซิ่วมาก

 

 

“ผู้น้อยส่งคุณหนูกลับไปก่อน”

 

 

ซูจิ่วซือไม่พูดอะไรอีก พยักหน้า ถือว่ารับปาก

 

 

ก่อนกลับเข้าไปที่วิหารข้างซูจิ่วซือก็ล้างมือแล้ว นางรอบคอบมาก ตามตัวไม่มีรอยเลือด ฮูหยินมู่รอนางอยู่ก่อน พอเห็นนางกลับมา ฮูหยินมู่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “เมื่อกี้ยังเตรียมจะให้คนไปตามเจ้า เจ้าเด็กคนนี้ไปไหนมาหรือ?”

 

 

“ข้าไปเดินรอบๆ รู้ว่าท่านแม่รอกินข้าวกับข้า จึงรีบกลับมา ให้ท่านแม่รอ ลูกทำไม่ถูก”

 

 

ซูจิ่วซือได้ระบายความแค้นแทนเผยปิงปิงแล้ว นางอารมณ์ดีเป็นพิเศษ จึงอยู่ใกล้ชิดกับฮูหยินมู่อย่างอ่อนโยน

 

 

ฮูหยินมู่พูดยิ้มๆ “เจ้าเด็กคนนี้ เมื่อกี้ข้าได้ยินว่าชายาจวนซิ่นอ๋องหายไป ข้าเองก็เป็นห่วงเจ้า”

 

 

“อ้อ? มีเรื่องอย่างนี้หรือ เรื่องจวนซิ่นอ๋องไม่เกี่ยวข้องกับเรา ท่านแม่ อาหารเจที่นี่น่ากินมาก กินกันเถอะ!”

 

 

ฮูหยินมู่นั่งตรงกันข้ามกับซูจิ่วซือ มองซูจิ่วซือด้วยความเอ็นดู “หิวแล้วสิ!”

 

 

“หิวแล้ว”

 

 

“งั้นก็กินมากหน่อย อาหารในโรงเจวัดเหยียนหัวยอดเยี่ยมที่สุดในเซิ่งจิง”

 

 

ซูจิ่วซือยกข้าวบนโต๊ะขึ้นมา คีบเต้าหู้ใส่ปากเคี้ยวอย่างละเอียด พลางพยักหน้า “อร่อยจริงๆ ท่านแม่พูดถูกจริงๆ”

 

 

พอได้ยินคำชมของซูจิ่วซือ ฮูหยินมู่ก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ คอยบอกให้ซูจิ่วซือกินมากหน่อย

 

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังกินอาหารอยู่ จู่ๆ ก็มีคนเคาะประตูข้างนอก แล้วป้าจางก็เดินเข้ามา มีสาวใช้ตามหลัง เป็นสาวใช้ของจูอวี้ซิ่ว

 

 

“ฮูหยิน ข้าชื่อเฉี่ยวเชี่ยนเป็นคนใกล้ชิดชายา ชายาถูกกรีดใบหน้า ชายาบอกว่าคุณหนูมู่เป็นคนทำ ขอเชิญคุณหนูมู่ไปกับบ่าว”

 

 

เฉี่ยวเชี่ยนพูดจบ ก็ถลึงตาใส่ซูจิ่วซือ

 

 

พอได้ยินอย่างนี้ ฮูหยินมู่ก็วางชามกับตะเกียบลงทันที “พูดจาเหลวไหล ชายาบาดเจ็บเกี่ยวอะไรกับซือซือ? ชายาทำไมใส่ร้ายกันอย่างนี้”

 

 

“ฮูหยินมู่อย่าโกรธ เรื่องนี้พระชายาจะเป็นคนตัดสิน เชิญคุณหนูมู่ไปกับบ่าวเถอะ”