ตอนที่ 572 หลอมตัวกระบี่

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

“รีบจบการต่อสู้ ไม่ว่ายังไงก็ต้องฆ่านางให้จงได้!” หัวหน้านักฆ่าตะโกนสั่งอย่างเกรี้ยวกราด

ภัยคุกคามจากผู้หญิงตรงหน้านี้รุนแรงมาก จนทำให้เขาต้องคิดหาวิธีฆ่านางอย่างไร้ซึ่งความปรานี

เข็มยาขนาดเล็กหลายเข็มพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของมู่เฉียนซี ตามด้วยแสงสว่างวาบสีแดงเข้ม

กระบี่มังกรเพลิง จ้องมองเจ้าแล้ว!

หลังจากที่มาถึงเสียโจว ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองตงไห่หรือเมืองโม่ ก็ล้วนแต่ไม่เจอนักหลอมอาวุธที่แข็งแกร่งพอที่จะหลอมตัวกระบี่ให้กับกระบี่มังกรเพลิงได้เลย ดังนั้นกระบี่มังกรเพลิงจึงยังคงสภาพเดิมไว้

ใช้มันเป็นอาวุธลับ!

นักฆ่าเหล่านี้ต่างก็หลบหลีกเข็มยาที่พุ่งมาราวกับสายฝน และกลับถูกกระบี่มังกรเพลิงเล่นงานเข้าจนได้

พรวด! หัวใจถูกแสงสีแดงเข้มแทงจนทะลุ ภายในชั่วพริบตาเดียววิญญาณก็ถูกกลืนกินไปจนสิ้น

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ยังจะกินอีก นี่เจ้ายังกินไม่พออีกเหรอ ?”

“สาวน้อยอำมหิต นึกไม่ถึงว่าจะมีอาวุธลับถึงสองอย่าง พี่น้อง ฆ่านางซะ!”

เมื่อเห็นเหล่าบรรดาพี่น้องตนเองล้มตายไป และไม่อาจปล่อยให้ล้มตายไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว จิตสังหารของพวกเขาก็ยิ่งทวีความโหดร้ายมากขึ้น

นักฆ่าเหล่านี้ลงมือได้อย่างโหดร้ายมาก พลังก็แข็งแกร่งมาก ทุก ๆ การโจมตีล้วนแต่บีบบังคับให้มู่เฉียนซีลุ้นระทึกทุกครั้ง ราวกับเดินไต่เชือกอยู่บนหน้าผาก็มิปาน ทำให้คนอื่นรู้สึกหวั่นกลัวกลัวเป็นอย่างมาก

โม่ซางคงกล่าวเสียงขรึมว่า “รีบฟื้นฟูพลังเร็วเข้า!”

“รีบไปช่วยนาง!”

“ขอรับ นายน้อย!”

“ทักซะตี้ซวน!”

“ทักษะเทียนซวน!”

“มังกรวารีพิฆาต!”

พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีดูเหมือนจะใช้อย่างไรก็ใช้ไม่หมด โจมตีนักฆ่าตรงหน้าด้วยกระบวนท่าที่ติดต่อกันอย่างบ้าคลั่ง

มุมปากขององครักษ์ตำหนักโม่อวี่กระตุกขึ้น “นายน้อย นั่น……ดูเหมือนว่าแม่นางมู่จะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราแล้ว!”

“แม่นางมู่กินยาไปมากมายในคราเดียวเช่นนั้น นางคงจะไม่เป็นไรหรอกนะ!”

พวกเขาจับตามองมู่เฉียนซีมาโดยตลอด ทุกครั้งที่พวกเขาเห็นนางกินยาไปเช่นนั้น ก็อดที่จะเจ็บปวดใจไม่ได้จริง ๆ

นี่มันใช่การสู้รบซะที่ไหนกันเล่า! เห็นได้ชัดว่านี่คือผลาญเงิน!

โมซางคงกล่าว “ไม่เป็นไร เม็ดยาพวกนี้สำหรับนางแล้วไม่ถือว่ามากมายหรอก”

ถึงแม้ว่าโม่ซางคงจะไม่รู้ว่าหมอปีศาจมู่ซีคือมู่เฉียนซี แต่เขาก็รู้ว่ามู่เฉียนซีนั้นเป็นหนึ่งในเจ้าของหอหมอปีศาจ ยาวิญญาณที่นางได้ใช้ไปในวันนี้ สำหรับหอหมอปีศาจแล้ว ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก

อู๋ตี้และเสี่ยวหงได้จัดการกับศัตรูที่มีพลังระดับสูงไปมากแล้ว และสถานการณ์ของนักฆ่าเหล่านี้ยิ่งแย่ลงไปเรื่อย ๆ และสิ่งที่น่าคับแค้นใจที่สุดนั่นก็คือ พวกเขายังจัดการกับมู่เฉียนซีไม่ได้!

“ถอยก่อน!”

รักษาชีวิตที่เหลือเอาไว้ก่อน ยังไงก็ยังมีโอกาสมาเอาคืน ครั้งหน้าพวกเขาต้องทำสำเร็จแน่นอน

พวกเขาจะล่าถอย เสี่ยวหงกับอู๋ตี้ไม่มีทางที่จะขวางพวกเขาไว้ทั้งหมดได้ มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ขวางพวกมันเอาไว้!”

อาการบาดเจ็บขององครักษ์ตำหนักโม่อวี่ได้หายดีแล้ว และพวกเขาทั้งหมดก็ลงมือขวางนักฆ่าเหล่านั้น

“นี่มันอะไรกัน! อาการบาดเจ็บของพวกมันหายแล้วงั้นเหรอ ?”

“บัดซบยิ่งนัก รีบถอยเร็วเข้า!”

ไม่ว่าจะเร็วแค่ไหน พวกเขาก็ไม่อาจเร็วไปกว่าองครักษ์ตำหนักโม่อวี่ผู้ที่มีความพร้อมได้ ภายในชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็ถูกห้อมล้อมไว้ คราวนี้ พวกเขาคิดจะหนี ก็มิอาจหนีได้แล้ว

โม่ซางคงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “จับพวกมันเอาไว้ให้หมด”

นักฆ่าเหล่านั้นรู้สึกงงงวยเป็นอย่างมาก “พวกเจ้าสูญเสียไปแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลย ?”

มู่เฉียนซีอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างอารมณ์ดีว่า “ก็เป็นเพราะพวกเขากินเม็ดยาของหอหมอปีศาจยังไงเล่า!”

มู่เฉียนซีแบะปากเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวต่อว่า “แต่ดูเหมือนพวกเจ้ากำลังจะกลายเป็นแค่คนตาย ไม่อาจมาสนับสนุนยาของหอหมอปีศาจได้แล้ว โฆษณาให้พวกเจ้าฟังไปก็เปล่าประโยชน์”

“เม็ดยา!”

พรวด! พวกเขาโกรธมู่เฉียนซีเป็นฟืนเป็นไฟจนบาดเจ็บภายในขึ้น!

ในฐานะที่เป็นนักฆ่า การทำภารกิจล้มเหลวนั้น แน่นอนว่าต้องจบชีวิตตัวเองด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในกำมือของผู้อื่น โดนทรมานให้ตายทั้งเป็น โดนบังคับให้พูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูด

“ข้าไม่อยากให้พวกเจ้าตาย พวกเจ้าคิดว่าจะตายได้งั้นเหรอ ?”

พวกเขากำลังจะกลืนยาพิษที่ซ่อนอยู่ในปาก และรอให้ความตายมาเยือน แต่เสียงของมู่เฉียนซีก็ดังขึ้น จากนั้นเข็มยาหลายเข็มก็จมลงที่แขนของคนสามคน

ตุบ ตุบ ตุบ!

พี่น้องร่วมรบที่รายล้อมทั้งหมดล้วนแต่กินยาพิษตาย แต่พวกเขาทั้งสามกลับยังมีชีวิตอยู่ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ “เป็นไปได้ยังไง ?”

“ยาพิษไม่ออกฤทธิ์เหรอนี่!”

อยู่ต่อหน้าหมอปีศาจ คิดจะกินยาพิษฆ่าตัวตาย ช่างเป็นเรื่องที่เพ้อฝันยิ่งนัก

“ฆ่าพวกข้าซะเถอะ! พวกข้าไม่มีทางบอกอะไรทั้งนั้น”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เชื่อข้าเถอะ สิ่งที่ควรพูด พวกเจ้าจะพูดออกมาทั้งหมด ไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว!”

“เป็นไปไม่ได้!” พวกเขายังคงเชื่อมั่นในตัวเอง

“เป็นไปได้หรือไม่นั้น พวกเจ้าก็คอยดูเองเถอะ!”

รับมือกับพวกเขา ยาสะกดจิตนั้นมันยังน้อยไป แต่ว่า……

ฉึก ฉึก!

เข็มยาหลายเข็มเจาะเข้าผิวหนังพวกเขา และต่อมาสำหรับนักฆ่าอย่างพวกเขาแล้ว นี่เป็นการทรมานราวกับอยู่ในนรกก็มิปาน!

เสียงกรีดร้องเสียดแทงหัวใจดังขึ้น ทำให้เหล่าองครักษ์ตำหนักโม่อวี่ได้ยินแล้วก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง นี่มันไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็นเลย!

วิธีการสืบสวนเช่นนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก พวกเขาจะล่วงเกินแม่นางมู่ไม่ได้เด็ดขาด

“ข้ายอมบอกแล้ว ข้ายอมบอกแล้ว!”

“เป็นคุณหนูรองแห่งหอชิงลั่ว นางจ้างพวกข้ามาฆ่าเจ้าด้วยราคาที่สูงมาก”

“นักฆ่ากลุ่มก่อนหน้านี้เป็นพวกเดียวกับเจ้าใช่หรือไม่! แล้วใครเป็นคนส่งพวกนั้นมา ?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม

“เทียนฉีส่งมา นายน้อยแห่งสำนักเทียนกัง เขาไม่ชอบหน้านายน้อยโม่มานานแล้ว ก็เลยฉวยโอกาสลงมือฆ่าก่อนที่สำนักศึกษาซวนเหลยจะเปิดรับนักเรียน”

“อ๊า! ฆ่าพวกข้าเสียเถอะ!” พวกเขากล่าวด้วยความเจ็บปวดทรมาน

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ได้!”

มู่เฉียนซีเอาเข็มยาตนเองกลับมา และพวกเขาก็สิ้นลมหายใจลงในทันที

ถึงแม้โม่ซางคงจะรู้ว่ามู่เฉียนซีไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่วิธีนี้ของนางก็ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

มู่เฉียนซีกล่าว “รีบเดินทางเถอะ! ทางข้างหน้าน่าจะเงียบสงบแล้ว”

“ขอรับ!”

และเป็นอย่างที่มู่เฉียนซีว่าไว้จริง ๆ หลังจากที่ได้เผชิญกับนักฆ่าทั้งสองกลุ่ม พวกเขาก็เดินทางมาถึงสำนักศึกษาหนานเฟิงได้อย่างราบรื่น

โม่ซางคงได้พามู่เฉียนซีไปทำตามขั้นตอนการเข้าเรียน และห้องพักภายในสำนักศึกษานั้นเป็นห้องพักเดี่ยว และมู่เฉียนซีก็ย้ายเข้ามาอยู่เรียบร้อยแล้ว

โม่ซางคงกล่าว “แม่นางมู่ เดินทางมาเหนื่อยแล้ว วันพรุ่งก็จะเข้าเรียนเป็นวันแรก เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่เดือนนึง”

มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “โม่ซางคง ในเมืองหนานเฟิงนี้ ที่ไหนมีนักหลอมอาวุธฝีมือดีบ้าง ?”

“นักหลอมอาวุธ ? เจ้าจะทำอาวุธเหรอ ?”

เขาพบว่า นอกจากมู่เฉียนซีจะใช้ทักษะวิญญาณและอาวุธลับในการโจมตีแล้ว นางยังไม่มีอาวุธหลักสักชิ้นเลย

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ใช่ทำอาวุธ แต่ซ่อมอาวุธต่างหาก กระบี่ของข้ามันหักแล้ว ก็เลยอยากจะเอาไปซ่อม”

“นักหลอมอาวุธต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง และต้องใช้วัสดุที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องราคานั้นไม่ใช่ปัญหา” มู่เฉียนซีกล่าว

โม่ซางคงกล่าว “ข้าเคยได้ยินว่ามีคนเช่นนี้อยู่ แต่ท่านอาจารย์ของข้าน่าจะรู้ดีกว่า วันพรุ่งข้าจะช่วยถามให้เจ้า”

“ดีเลย!”

วันต่อมาโม่ซางคงรับมู่เฉียนซีไปเรียน และไม่ทันไปถึงห้องเรียน มู่เฉียนซีก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งรายล้อม

“เป็นนางผู้นี้ ที่แทรกชั้นเรียนเข้ามา!”

“บ้าเกินไปแล้วจริง ๆ แค่เดือนเดียวยังจะแทรกเข้ามาเรียนอีก อีกทั้งยังเป็นห้องเรียนระดับสวรรค์ซะด้วยสิ”

“ดูท่าแล้วก็ไม่ได้ใหญ่อะไร! ความแข็งแกร่งก็คงจะไม่เท่าไหร่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอาความมั่นใจมาจากไหน ถึงได้เข้าชั้นเรียนระดับสวรรค์นี้ได้”