ตอนที่ 362 หวังให้เขามีความสุข / ตอนที่ 363 หนูพูดเรื่องจริงนะคะ

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 362 หวังให้เขามีความสุข  

 

 

หู่พั่วมองลั่วเซ่าเซินที่ยืนมองอยู่บนพื้นดิน มองเธอจากไปอยู่ตลอด ตั้งแต่วินาทีที่เครื่องบินทะยานขึ้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกเจ็บปวดในใจเป็นอย่างมาก อย่างกับว่ามีเข็มทิ่มแทง หู่พั่วลูบหน้าอก นี่มันเพราะอะไรกัน? ทำไมเธอถึงได้เจ็บปวดใจเพราะผู้ชายคนนี้? 

 

 

… 

 

 

เมิ่งชิงซีไปที่คฤหาสน์อีกแล้ว นอกจากแม่บ้านหลิวเธอก็ไม่เห็นใครสักคน “แม่บ้านหลิว พี่เซ่าเซินละคะ?” 

 

 

“คุณเมิ่ง ดิฉันไม่ทราบค่ะ คุณผู้ชายคงจะไปส่งคุณหนูกระมังคะ” สองสามวันมานี้ลั่วอิงไม่ได้กลับมาอยู่ที่บ้าน แม่บ้านหลิวถามแล้วลั่วเซ่าเซินก็ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน แต่จากคำพูดของเขา แม่บ้านหลิวจับใจความได้ว่าตอนนี้คุณหนูอาศัยอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง  

 

 

“ถ้าอย่างนั้นแม่บ้านหลิวรู้หรือเปล่าว่าเขาไปส่งลั่วอิงที่ไหน” เพื่อที่เมิ่งชิงซีจะสามารถเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ เธอจึงประจบประแจงและไม่แสดงอาการดูถูกแม่บ้านหลิว เธอรักษาสถานะคุณหนูผู้ร่ำรวยของบ้านเจียเอาไว้ เธอรอลั่วเซ่าเซินมาสองปี และก็ไม่ถือสาที่จะรอต่อไปอีกสักหน่อย 

 

 

แม่บ้านหลิวรู้มาว่าดูเหมือนว่าถังโจวโจวจะเกิดอุบัติเหตุและหายตัวไป แม้ว่าลั่วเซ่าเซินจะยืนยันว่าถังโจวโจวยังไม่ตาย แต่ว่าในใจของแม่บ้านหลิวคิดว่า ถ้าไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถังโจวโจวถึงได้ไม่กลับมาหาสองพ่อลูกบ้างเลยล่ะ? 

 

 

เมิ่งชิงซีมาหาลั่วเซ่าเซินบ่อยๆ แม่บ้านหลิวไม่ห้ามปราบแต่ก็ไม่ได้ต้อนรับ รักษาใจอันเป็นกลางเอาไว้ 

 

 

ส่วนตัวแล้วแม่บ้านหลิวหวังให้ลั่วเซ่าเซินมีความสุข แม้ว่าเขาจะชอบถังโจวโจวมากมายขนาดไหน แต่ถังโจวโจวก็หายตัวไปได้สองปีแล้ว ลั่วอิงเองก็โตขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องการคนดูแล 

 

 

การปรากฏตัวของเมิ่งชิงซี แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมกับลั่วเซ่าเซินที่สุด แต่แม่บ้านหลิวก็หวังว่าจากการเข้ามารบกวนของเมิ่งชิงซี ลั่วเซ่าเซินก็คงจะรู้แจ้งแล้วว่าถัวโจวโจวได้จากไปแล้ว และหาคนใหม่ๆ มาใช้ชีวิตด้วยกัน 

 

 

แม่บ้านหลิวกับบรรดาญาติผู้ใหญ่ของลั่วเซ่าเซินมีความคิดเหมือนกัน หวังว่าเขาจะไม่เอาแต่ตกอยู่ในภวังค์ของความรู้สึก มองไปข้างหน้า ค่อยๆ มองโลกในมุมที่เขายังไม่เคยเห็น 

 

 

“เหมือนจะเป็นสนามบินนะคะ” แม่บ้านหลิวรู้เรื่องนี้ก็เพราะลั่วเซ่าเซินรีบร้อนออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า แม่บ้านหลิวได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ 

 

 

“แม่บ้านหลิว ขอบคุณนะคะ” เมิ่งชิงซีได้รับข่าวเกี่ยวกับลั่วเซ่าเซินก็พลันมีชีวิตชีวาในทันที ลั่วอิงไปกับใครนะ? อย่างนี้ก็เป็นผลดีกับเธอไม่ใช่เหรอไง จะไม่มีก้างขวางคอคอยขัดขวางระหว่างเธอกับพี่เซ่าเซินแล้ว 

 

 

เมิ่งชิงซีออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว แม่บ้านหลิวไม่เข้าใจว่าเมิ่งชิงซีจะขอบคุณเธอทำไม หรือว่าเพราะคุณผู้ชาย? 

 

 

ลั่วเซ่าเซินไม่รู้ตัวว่ามีคนคอยติดตามการเคลื่อนไหวของเขามาตลอด เมื่อเมิ่งชิงซีไปถึงสนามบินพอเห็นถังโจวโจวถึงได้เข้าใจเรื่องทั้งหมด เธอจะไม่ยอมให้สองคนนั้นได้อยู่ด้วยกัน ไม่มีทาง 

 

 

เมิ่งชิงซีหันหลังออกมาจากสนามบิน เธอจะไม่ปล่อยโอกาสให้ถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเซินได้อยู่ด้วยกัน ดูท่าว่าถังโจวโจวจะบินไปต่างประเทศ และเมิ่งชิงซีรู้ว่า ด้วยนิสัยของลั่วเซ่าเซิน เขาจะต้องตามเธอไปแน่ 

 

 

ขอแค่เธอรู้ว่าพี่เซ่าเซินไปที่ไหน ก็สามารถหาที่ที่ถังโจวโจวอาศัยอยู่ได้อย่างแม่นยำ จากนั้น…ก็ทำให้เธอหายไปจากโลกใบนี้เสีย 

 

 

ลั่วเซ่าเซินส่งถังโจวโจวและลั่วอิงเรียบร้อยแล้วก็กลับมาที่บ้าน แม่บ้านหลิวรายงานเรื่องที่เมิ่งชิงซีมาหา “เธอมาทำอะไร?” 

 

 

“คุณเมิ่งเธอไม่ได้บอกค่ะ” แม่บ้านหลิวไม่รู้ว่าเมิ่งชิงซีมาทำอะไรกันแน่ ทว่าจุดประสงค์ของเมิงชิงซีมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นก็คือลั่วเซ่าเซิน นี่เป็นเรื่องที่แม่บ้านหลิวและลั่วเซ่าเซินต่างรู้อยู่แก่ใจ 

 

 

“ครับ ผมรู้แล้ว อีกสองวันผมจะไม่อยู่นะ” ลั่วเซ่าเซินขึ้นไปยังชั้นบน เข้าไปในห้องหนังสือ เขาต้องจัดการเรื่องต่างๆ ในบริษัทให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะไปหาถังโจวโจวและลั่วอิงได้อย่างวางใจ 

 

 

… 

 

 

ผ่านการเดินทางมาเป็นเวลาเนิ่นนาน ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอดที่ลานหญ้าที่ปราสาทเก่าแก่ของประเทศ H โอวหยางหงอุ้มเสี่ยวอวี่ หู่พั่วจูงมือลั่วอิง พ่อบ้านพาคนมารอที่ลานหญ้าอยู่แล้ว “คุณชาย คุณหนู กลับมากันแล้วเหรอครับ! คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายรออยู่ในปราสาทแล้วครับ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 363 หนูพูดเรื่องจริงนะคะ 

 

 

“พ่อบ้าน ไม่เจอกันหลายวันเลยนะคะ ดูเหมือนว่าคุณจะหนุ่มขึ้นมากเลย!” พ่อบ้านไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรกับคำพูดของหู่พั่ว เขาเอ่ยตอบไปตามหน้าที่ว่า “ขอบคุณคุณหนูครับ นี่คงเป็นคุณหนูเล็กสินะครับ?” 

 

 

พ่อบ้านรู้จากเฉินหลานอีมาว่า ครั้งนี้คุณชายและคุณหนูไปพาคนสำคัญกลับมาคนหนึ่ง พูดกันว่าเป็นลูกของลูกสาวคนโตของคุณผู้หญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ 

 

 

“ใช่แล้ว เธอชื่อลั่วอิง ลั่วอิง สวัสดีพ่อบ้านสิจ๊ะ!” 

 

 

“สวัสดีค่ะคุณลุง!” ดวงตาของลั่วอิงไม่ได้มองไปรอบๆ เธอรู้ดีว่านี่ไม่ได้พื้นที่ของคุณพ่อของเธอ เธอจะทำให้คุณพ่อเสียหน้าไม่ได้ 

 

 

“คุณหนูเล็ก คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงรอคุณหนูมาตลอดเลยนะครับ ตามผมมาทางนี้ครับ” คนรับใช้นำกระเป๋าเดินทางของพวกเขาลงมา ก่อนจะส่งไปยังแต่ละห้อง 

 

 

“ทำไมถึงได้รอหนูเหรอคะ?” ลั่วอิงไม่เข้าใจจึงถามออกมาตรงๆ พ่อบ้านที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เป็นนาย จึงไม่อาจบอกเหตุผลให้เธอฟังได้ 

 

 

หู่พั่วลูบหัวของลั่วอิง “เพราะว่าพวกเขารู้ว่าลั่วอิงจะมายังไงละจ๊ะ ก็เลยอยากเห็นมาตลอดว่าลั่วอิงเป็นเด็กแบบไหนกัน” 

 

 

เหมือนกับหู่พั่วเองที่มีความรู้สึกที่แตกต่างออกไปกับลั่วอิงเช่นกัน แม่ของลั่วอิงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพี่สาวคนนี้เลย แต่หู่พั่วกลับรู้สึกว่าในเมื่อให้กำเนิดเด็กที่น่ารักอย่างลั่วอิงออกมาได้ พี่สาวของเธอจะต้องเป็นแม่ที่ดีอย่างแน่นอน 

 

 

โดยเฉพาะเมื่อตัวหู่พั่วเองกลายเป็นแม่คนแล้ว เธอจึงอ่อนไหวกับเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ เมื่อรู้ตัวว่าคิดมากเกินไป หู่พั่วจึงรีบกลับมาใส่ใจกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้า 

 

 

เมื่อเข้าไปในปราสาท เฉินหลานอีเห็นหู่พั่วจูงมือเด็กคนหนึ่งเข้ามาก็ตื่นเต้นดีใจจนแทบนั่งไม่ติด โอวหยางเลี่ยจึงรีบประคองเธอเอาไว้ กระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ว่า “ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ยังไงเธอก็มาถึงที่นี่แล้ว คุณยังกลัวว่าเธอจะหนีไปไหนอีกเหรอ คุณอย่าลืมคำสัญญาที่คุณให้ไว้เมื่อกี้นี้สิ” 

 

 

“จำได้สิคะ ฉันจำได้ ไม่ลืมหรอก” เฉินหลานอีไม่มองเขาเลยแม้แต่นิดเดียว สายตาจ้องมองไปที่ลั่วอิงแน่วแน่ นี่เป็นหลานสาวของเธอ ลูกสาวของชิงเยียน ในที่สุดก็ได้เจอตัวเสียที 

 

 

เมื่อลั่วอิงเห็นสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไปและคนที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา เธอก็จับมือของหู่พั่วเอาไว้แน่น หู่พั่วรู้ดีว่าตอนนี้เธอตื่นเต้น จึงให้กำลังใจเธอเบาๆ “ลั่วอิง ไม่ต้องกลัวนะ แม่ของฉันกับคุณลุงโอวหยางเป็นคนใจดี พวกเขาชอบหนูมากนะ” 

 

 

แม้ว่าหู่พั่วจะพูดแบบนี้ แต่ลั่วอิงก็ยังไม่วางใจอยู่ดี แรงที่มือของเธอไม่ได้คลายลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าสายตาของพวกเฉินหลานอีดูตื่นตัว 

 

 

โอวหยางเลี่ยมองเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าตั้งท่าราวกับว่าพวกเขาเป็นศัตรู ก็ดูเหมือนว่าเด็กน้อยที่ชื่อลั่วอิงนี้จะระวังตัวมากทีเดียว! ทั้งที่ไม่วางใจกับที่นี่ แต่ก็ยังกล้ามาอย่างนั้นหรือ? 

 

 

เฉินหลานอีกลับไม่ได้มองอย่างโอวหยางเลี่ยเลยแม้แต่น้อย หลานสาวของเธอเป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้มีสายตาแบบนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้ได้รับความลำบากอะไรหรือเปล่า ถึงได้มีท่าทางเป็นแบบนี้? 

 

 

ยิ่งลั่วอิงแสดงออกแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เฉินหลานอีปวดใจ เฉินหลานอีเดินออกมาสองสามก้าว เข้ามาตรงหน้าลั่วอิง “หนูน้อย ฉันเป็นแม่ของหู่พั่วนะจ๊ะ หนูจะเรียกฉันว่ายายก็ได้” 

 

 

“มีคุณยายที่สาวขนาดนี้ด้วยเหรอคะ?” ลั่วอิงเห็นเฉินหลานอีใช้ท่าทางสนิทสนม เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่า เฉินหลานอีจะดูสาวขนาดนี้ เมื่อยืนอยู่ด้วยกันกับคุณแม่โจวโจวแล้วอย่างกับพี่สาวน้องสาวอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

คำพูดใสซื่อของเด็กน้อยลั่วอิงคนนี้ทำให้คนที่อยู่โดยรอบขบขัน โดยเฉพาะโอวหยางเลี่ยที่ชอบให้คนชื่นชมเฉินหลานอีเป็นที่สุด เมื่อเห็นว่าเฉินหลานอีมีความสุขก็พลอยยินดีไปด้วย หากเขาเกิดในยุคโบราณ จะต้องเป็นกษัตริย์ที่หลงใหลในรอยยิ้มของสาวงามจนไม่สนใจสิ่งใดแน่ 

 

 

“หลานอี หลานสาวของเธอไม่ธรรมดาเลยนะ! ช่างพูดเสียจริง!” 

 

 

“หนูพูดเรื่องจริงนะคะ” ลั่วอิงรู้สึกว่าคุณลุงที่อยู่ตรงหน้านั้นวุ่นวายจังเลย ทำไมถึงได้สงสัยความจริงใจของเธอล่ะ ที่เธอพูดเป็นความจริงทั้งนั้นนะ 

 

 

“เอาละๆ หนูพูดความจริงจ้ะ งั้นหนูเรียกยายให้ฉันฟังได้ไหมจ๊ะ?” เฉินหลานอีมองเธอด้วยความคาดหวัง ตอนนี้เธอทำได้เพียงใช้ฐานะของหู่พั่วเป็นข้ออ้างให้ลั่วอิงพูดคำว่ายายให้ฟัง เธอไม่กล้าเล่าเรื่องของชิงเยียนให้ลั่วอิงได้รับรู้ 

 

 

ตอนนี้ลั่วอิงอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อีกอย่างเธอเองก็ยังเด็ก หากถึงตอนนั้นแล้วเธอรับไม่ได้ เกิดทำเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้นมาก็จะแย่กันไปหมด