ตอนที่ 364 ลั่วอิงมายังปราสาท / ตอนที่ 365 โอวหยางเลี่ยลงโทษไม่สำเร็จ

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 364 ลั่วอิงมายังปราสาท

 

 

“หนูมีคุณยายแล้วค่ะ ท่านเป็นคุณแม่ของคุณแม่โจวโจว คุณเป็นใครคะ?” คุณแม่โจวโจวมีแม่สองคนได้ยังไงกัน? เพราะว่ามีแม่คนนี้แล้ว คุณแม่โจวโจวถึงไม่ยอมกลับไปอย่างนั้นเหรอ?

 

 

เฉินหลานอีไม่คิดว่าจู่ๆ ลั่วอิงจะพูดถึงแม่ของถังโจวโจวขึ้นมา เธอนิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น “คือ…ฉัน…”

 

 

หู่พั่วมองความลำบากใจของเฉินหลานอีออก เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายกับลั่วอิงอย่างไรดีลั่วอิงถึงจะเข้าใจและยอมรับได้ นี่ก็เหมือนกับความคิดของเฉินหลานอีที่มีต่อหู่พั่วในตอนนั้น เธอไม่อยากบีบบังคับให้ลั่วอิงยอมรับเฉินหลานอี เธออยากให้ลั่วอิงเป็นเหมือนกับหู่พั่ว ยอมรับเฉินหลานอีจากใจจริง

 

 

เพราะอย่างนั้นเธอจึงยอมที่จะไม่บอกความจริงกับลั่วอิงดีกว่า อย่างนี้ก็เป็นผลดีกับทุกๆ คน

 

 

“ลั่วอิง ฉันมีแม่สองคน ไหนๆ หนูก็เรียกฉันว่าคุณแม่โจวโจวแล้ว หนูก็จะมีคุณยายถึงสองคน มีคนเอาใจหนูเพิ่มอีกคนหนึ่ง นี่ก็ไม่ดีหรอกเหรอ?” หู่พั่วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆ ขอเพียงแค่พูดกับลั่วอิงให้ชัดเจน เธอก็จะเข้าใจได้เอง

 

 

ลั่วอิงคิดอยู่สักครู่ “คุณแม่โจวโจว คุณยายทั้งสองคนจะเอาใจหนูจริงๆ เหรอคะ? อย่างนั้นหนูก็จะได้ของขวัญสองชิ้นเลยใช่ไหมคะ?” ไม่ว่าอย่างไรเด็กน้อยก็เป็นเด็กน้อยอยู่วันยังค่ำ อย่างไรก็เห็นของขวัญสำคัญกว่าเสมอ! ดูแล้วเรื่องคงเป็นไปตามที่พวกเธอต้องการเสียแล้ว

 

 

“ลั่วอิงก็ต้องลองถามคุณยายดูนะจ๊ะ” หู่พั่วเงยหน้ามองเฉินหลานอี

 

 

เฉินหลานอีได้ฟังว่ามีของขวัญเธอถึงจะยอมรับให้เป็นยาย ก็รีบพยักหน้า “ต้องมีอยู่แล้วสิจ๊ะ ทั้งวันเกิดและวันปีใหม่ ไม่ว่าเทศกาลไหนๆ ยายจะเตรียมของขวัญไว้ให้หนูเสมอเลย หนูจะว่ายังไง?” เธอมองลั่วอิงด้วยความระมัดระวัง รอให้เธอตอบรับ

 

 

“คุณยาย!” ลั่วอิงเรียกเฉินหลานอีเสียงดัง ใบหน้าของคนที่ห้อมล้อมต่างยิ้มแย้ม เฉินหลานอีมองไปยังลั่วอิง อดไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา

 

 

“คุณยาย หนูเรียกคุณยายแบบนี้ คุณยายไม่ดีใจหรอกเหรอคะ?”

 

 

“เปล่าจ้ะ ทำไมยายจะไม่ดีใจล่ะ ยายดีใจจะตายอยู่แล้ว” เฉินหลานอีไม่เข้าใจว่าทำไมลั่วอิงถึงได้ถามแบบนี้ เธออยากให้ลั่วอิงเรียกเธออย่างนี้มานานแล้ว คิดมานานแสนนานแล้ว

 

 

“ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงร้องไห้ล่ะคะ?” ลั่วอิงใช้นิ้วมือชี้ไปยังหยาดน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีบนใบหน้าของเฉินหลานอี นิ้วมือของเธอสัมผัสบนใบหน้าของเฉินหลานอีเบาๆ ปลายนิ้วมือเปียกชื้นขึ้นเล็กน้อย

 

 

“ลั่วอิง เป็นเพราะว่ายายดีใจต่างหากจ้ะ ยายไม่ได้เสียใจสักหน่อยนะ”

 

 

“ลั่วอิง เพราะยายของหนูดีใจมากถึงได้ร้องไห้ออกมา เอาล่ะ อย่ามัวแต่ยืนอยู่ตรงนี้เลย รีบมานั่งตรงนี้เร็วเข้า” หู่พั่วเห็นว่าทุกคนต่างยืนอยู่ห้องโถง ส่วนโอวหยางหงยังคงอุ้มเสี่ยวอวี่เอาไว้ ดูท่าจะหนักไม่น้อยเลย คิดว่านั่งลงคุยกันน่าจะดีกว่า

 

 

“จริงสิ ลืมไปเลยว่าพวกเธอเพิ่งลงจากเครื่องบินกันมา ต้องไปพักผ่อนสิ ยังไงกลับห้องไปพักกันก่อนเถอะนะ เดี๋ยวตอนกินข้าวค่อยมาคุยกันใหม่”

 

 

“แม่คะ ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ แม่รอพวกเราตั้งนานแล้ว หนูยังไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนแม่เลยนะคะ ลั่วอิงเองก็ยังไม่ได้รู้จักคุณตาเลย” หู่พั่วชี้ไปยังโอวหยางเลี่ย ความจริงแล้วเขายืนอยู่ด้านหลังของเฉินหลานอี

 

 

ลั่วอิงไม่พูดไม่จาอยู่เป็นนาน ระหว่างนั้นบรรยากาศในห้องรับแขกก็พลันนิ่งงัน โอวหยางเลี่ยไม่ได้พูดอะไร หู่พั่วก็ดันตัวลั่วอิงออกไปเบาๆ

 

 

ลั่วอิงถึงได้พยักหน้า เรียกออกมาเบาๆ “คุณตา”

 

 

เสียงนั้นเบาราวกับเสียงยุง แต่ว่าว่าโอวหยางเลี่ยก็ทักทายเธอเป็นอย่างดี “ลั่วอิงเด็กดี รีบให้หู่พั่วพาหนูกลับไปพักผ่อนที่ห้องนะ เพิ่งเดินทางมาถึงคงเหนื่อยแย่แล้ว”

 

 

เฉินหลานอีที่เห็นลั่วอิงยอมรับโอวหยางเลี่ย ในใจเธอก็ยินดียิ่งนัก ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับโอวหยางเลี่ยดีวันดีคืน แน่นอนว่าเธอต้องอยากให้หลานของเธอรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาเอาไว้

 

 

ความจริงแล้วด้วยวัยของเธอในตอนนี้ ย่อมเห็นครอบครัวมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ได้เห็นความสัมพันธ์ของเขาและเธอเป็นอันดับหนึ่ง แต่ใครให้เธอมาพบกับโอวหยางเลี่ยกันล่ะ ต่อให้เธอไม่เห็นแก่ความสำคัญของความสัมพันธ์ของพวกเขา โอวหยางเลี่ยก็ไม่ยอมให้เธอหนีไปไหนอยู่ดี

 

 

ที่ผ่านมาโอวหยางเลี่ยเห็นความสัมพันธ์ของพวกเขามาเป็นอันดับแรก บางครั้งถึงกับละเลยความต้องการของตัวเอง นี่เป็นจุดที่เฉินหลานอีกชื่นชมเขามาก

 

 

น้อยนักที่ผู้ชายจะทำเรื่องแบบนี้ได้ อย่างน้อยสามีคนก่อนของเธอก็ทำไม่ได้ถึงขนาดนี้ ดังนั้นหลังที่เฉินหลานอีฟื้นฟูความทรงจำขึ้นมาแล้ว ถึงได้ให้อภัยให้เขาอย่างง่ายดาย

 

 

ความรู้สึกที่เขามีให้เธอ ไม่ใช่ว่าจะพรรณนาออกมาได้ด้วยคำพูดเพียงแค่ไม่กี่ประโยค ทว่าความรักที่เขามีให้เธอ เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างเห็นได้ด้วยตา เขาแสดงออกออกมาในชีวิตประจำวัน ทำให้เฉินหลานอีใช้ชีวิตเหมือนกับตอนที่ยังไม่ได้แต่งงาน เหมือนกับชีวิตในวัยสาวของเธอไม่มีผิด

 

 

 

 

ตอนที่ 365 โอวหยางเลี่ยลงโทษไม่สำเร็จ

 

 

หู่พั่วพาลั่วอิงไปยังห้องของเธอ โอวหยางเลี่ยอุ้มเสี่ยวอวี่เดินตามหลังมา ตอนนี้บริเวณห้องรับแขกควรเว้นไว้ให้ผู้ต้อนรับอย่างพวกเขา

 

 

โอวหยางเลี่ยเห็นว่าในห้องรับแขกไม่มีใครแล้ว เหล่าคนรับใช้เองก็ล่าถอยไปอย่างรู้งาน เขาจึงอดไม่ได้ที่จะโอบกอดเฉินหลานอี “หลานอี เมื่อกี้คุณลืมสัญญาสามข้อที่ให้ไว้กับผม บอกผมมาสิว่าผมควรจะลงโทษคุณยังไงดี?”

 

 

แน่นอนว่าการลงโทษของโอวหยางเลี่ยไม่ใช่การลงโทษแบบธรรมดา เขาชอบ ‘การลงโทษ’ เฉินหลานอีเป็นที่สุด ทุกครั้งก็จะลงโทษเธอด้วยการแต๊ะอั๋ง ทำให้เขาหยุดมันไม่ได้

 

 

นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากในวันทั่วๆ ไป ดังนั้นทุกครั้งโอวหยางเลี่ยจะรักษาโอกาสนี้เป็นอย่างดี อดไม่ไหวที่จะจับเฉินหลานอีกลืนลงท้อง

 

 

เฉินหลานอีเห็นว่าดวงตาของเขาช่างร้อนแรง อยากจะหลบหนีไป ทว่าตัวเธออยู่ให้อ้อมกอดของเขา แล้วจะหนีไปไหนได้อีก?

 

 

เมื่อสักครู่เธอแค่ลืมไปเท่านั้นเอง โอวหยางเลี่ยไม่ได้พูดขึ้นตั้งแต่แรก เธอก็รู้ว่าเขาอยากแก้แค้นเธอย้อนหลัง แต่เธอไม่รู้ว่า ‘การแก้แค้น’ ที่ว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้! หากรู้ว่าโอวหยางเลี่ยจะมือไวขนาดนี้ เธอก็คงจะไปกับพวกหู่พั่วแล้ว

 

 

“เลี่ย ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ คุณอย่าลงโทษฉันเลย ใจดีปล่อยฉันไปสักครั้งเถอะ เดี๋ยวใครเห็นขึ้นมาจะไม่ดี”

 

 

“หลานอี ที่คุณพูดมาก็ถูก…”

 

 

“เลี่ย ฉันรู้ว่าคุณดีกับฉันที่สุดแล้ว” เฉินหลานอีเห็นว่าเรื่องราวกลับตาลปัตร ก็รีบมอบจุมพิตอันร้อนแรงบนใบหน้าของโอวหยางเลี่ย

 

 

โอวหยางหงมีความสุขมาก ทว่าใบหน้ากลับไม่แสดงความรู้สึก “หลานอี แต่ผมกลัวว่าถ้าพลาดครั้งนี้ไปแล้ว คราวหน้าผมจะจำไม่ได้ เพราะอย่างนั้นไม่ว่ายังไงผมก็ต้องลงโทษคุณอยู่ดี”

 

 

เฉินหลานอีเห็นว่าเขาได้คืบจะเอาศอก ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สั่งสอนเขามานานแล้ว เพราะอย่างนั้นเขาถึงจำไม่ได้ สมองของเธอทำงานอย่างรวดเร็ว “ถ้าอย่างนั้น เลี่ยคะ พวกเรากลับไปที่ห้องกันเถอะค่ะ หากลงโทษฉันที่นี่แล้วใครมาเห็นเข้าจะไม่ดี คุณว่าอย่างนั้นไหม…”

 

 

พอโอวหยางเลี่ยนได้ฟังเฉินหลานอีพูดว่ากลับห้อง ในสมองก็อดคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ใจพลันตื่นเต้นขึ้นมา “ได้สิ หลานอี พวกเรากลับห้องกันเถอะ” เขายับยั้งคลื่นที่โหมสาดซัดในใจเอาไว้ ความคิดในสมองเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ

 

 

เฉินหลานอีจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขาคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว อีกเดี๋ยวเขาจะได้เห็นความร้ายกาจของเธอ ดูสิว่าเขาจะกล้าใช้ข้ออ้างนี้ทุกครั้งหรือเปล่า ครั้งสองครั้งเฉินหลานอียังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ ใครจะรู้ว่าเขายิ่งได้ใจใหญ่ เตรียมการใช้ข้ออ้างนี้ตลอด

 

 

เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน พ่อครัวทำอาหารรสเลิศที่ทั้งประณีตและงดงาม เมื่อพวกหู่พั่วมาถึงห้องอาหาร ก็เห็นโอวหยางเลี่ยดูสีหน้าเซื่องซึม โอวหยางหงก็รู้ดีว่านี่คงเป็นฝีมือของเฉินหลานอี

 

 

ทว่าหู่พั่วไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของโอวหยางเลี่ยมาก่อน จึงเอ่ยถามด้วยเป็นห่วงว่า “คุณลุงโอวหยาง เป็นอะไรไปหรือคะ?”

 

 

เฉินหลานอีคอยเตือนเขาด้วยสายตาอย่างลับๆ แล้วมีหรือว่าโอวหยางเลี่ยจะกล้าขัดคำสั่งของภรรยาผู้เป็นใหญ่ “หู่พั่ว ลุงไม่เป็นอะไร สงสัยเมื่อคืนจะนอนไม่พอน่ะ”

 

 

“แต่ว่าตอนที่พวกเรากลับมา คุณลุงก็ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ?” หู่พั่วไม่เข้าใจเลย นอนไม่พอเกิดขึ้นระหว่างวันได้ด้วยเหรอ?

 

 

คราวนี้โอวหยางเลี่ยถูกเธอถามจนใบ้กิน เฉินหลานอีมองเขาจากอีกฝั่งด้วยความขบขัน “ลั่วอิง มานั่งกับยายเร็วเข้า”

 

 

โอวหยางเลี่ยเห็นว่าภรรยาไม่ออกหน้าช่วยเขา ยังคงนั่งอยู่ข้างๆ ดูเขาจนตรอกต่อไป ก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา หลานอีจงใจแกล้งเขาใช่หรือไม่ ทำไมเขาต้องกลายมาเป็นแบบนี้ด้วย?

 

 

โอวหยางหงรู้ว่าถามต่อไปโอวหยางเลี่ยก็คงจะโมโห เดี๋ยวหู่พั่วเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นคนทำให้คุณพ่อโกรธแล้วจะไม่ได้เสียเปล่าๆ “หู่พั่ว พ่อคงจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่น่ะ เธอถึงได้เห็นพ่อเป็นแบบนั้น”

 

 

เมื่อหู่พั่วได้รับคำตอบก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ โอวหยางหงนั่งอยู่ข้างๆ โอวหยางเลี่ย หู่พั่วให้เสี่ยวอวี่นั่งลงข้างๆ ลั่วอิง เธอจัดการอาหารกลางวันให้กับเสี่ยวอวี่ก่อน

 

 

ระหว่างที่เฉินหลานอีกินมื้อกลางวันก็ไม่ได้พูดจากับโอวหยางเลี่ยอีกเลยสักคำเดียว ไม่ว่าโอวหยางเลี่ยจะพยายามต่อบทสนทนากับเธออย่างไร แต่เธอก็ไม่ตอบ ต่อให้เป็นคนโง่ก็ดูรู้ว่าทั้งสองคนมีปัญหากันอยู่ แล้วพวกหู่พั่วจะไม่รู้ได้อย่างไร

 

 

หู่พั่วรู้สึกว่าจู่ๆ เธอก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อกี้โอวหยางเลี่ยถึงได้มีใบหน้าบูดบึ้ง คงไม่ใช่เพราะเธอหรอก ดูเหมือนว่าเมื่อกี้เธอจะเป็นห่วงเก้อเสียแล้ว นี่เขายอมให้แม่ข่มแต่โดยดีชัดๆ!