ตอนที่ 413 โชคดี

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 413

โชคดี

“เจ้าว่าอะไรนะ”หลังจากพ่ายแพ้กลับมา อสูรงูก็เข้ามารายงานให้ไป๋ชินอี้ฟังทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“องค์ชาย กองทัพของอาณาจักรอู๋ตั้งรอพวกเราอยู่แล้ว พวกมันต้องวางแผนเอาไว้ก่อนแน่ๆ”อสูรงูพูดพลางก้มหน้าลง การพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นเพราะกองทัพของอาณาจักรอู๋เข้ามาแทรก หากเป็นกองทัพของอาณาจักรชูพวกตนไม่มีทางแพ้แน่ๆ นี่คือสิ่งที่อสูรงูต้องการจะบอก

“ไปได้”ชินอี้ไม่ได้กล่าวโทษอสูรงูแต่อย่างไร เพราะตนเองก็ทราบว่าหากเป็นกองทัพอาณาจักรอู๋แล้วกองทัพที่มันส่งไปไม่มีทางชนะแน่นอน มันจึงไม่ใช่ความผิดอะไรของอสูรงูที่รอดมาได้ ตรงกันข้ามมันกลับมารายงานเช่นนี้ทำให้ชินอี้ได้ทราบด้วยว่าอาณาจักรอู๋มีท่าทีไม่น่าไว้วางใจ

“ต้องเป็นท่านพ่อแน่ๆ”ชินอี้ว่าพลางแสดงสีหน้าครุ่นคิดออกมา อาณาจักรอู๋ไม่น่าจะลงมือด้วยตนเอง เพราะท่านลุงอู๋หมิงไม่มีทางโจมตีมันโดยที่พ่อของมันไม่ยินยอมแน่ๆ และการที่กองทัพอาณาจักรอู๋มาดักรอหลังจากอาณาจักรชูขับไล่คนของอาณาจักรเผิงออกมาก็เหมือนกับว่าเป็นการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้แล้วทำให้ชินอี้คิดเอาว่าการที่อู๋หมิงวางแผนเช่นนี้ก็เพราะมีพ่อของตนร่วมมือด้วยแน่ๆ

“ท่านพ่อ ท่านจะทำอะไรกันแน่”ชินอี้พูดพลางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ชินอี้แม้จะยังเป็นเด็ก แต่สมองไม่ได้เหมือนเด็กแม้แต่น้อย มันโตมาท่ามกลางเหล่าขุนนางและชั้นตำรา ทำให้มันมีสมองพอจะคิดหาสาเกตของเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น

“องค์จักรพรรดิก็จะพาเด็กดื้อกลับบ้านนะสิ”เสียงของชิงชิงน้องสาวของชิงชิวพูดพลางมองมาทางชินอี้ ตอนนี้นางอยู่กับไป๋หลินตลอดเวลาไม่ไปไหน เพราะในวังหลวงแห่งนี้มีแต่ไป๋หลินเท่านั้นที่ทำให้ชิงชิววางใจได้

“เจ้าว่าอะไรนะ”ชินอี้มองมาทางชิงชิงด้วยท่าทีประหลาดใจ อีกฝ่ายบอกว่าพ่อของมันจะมารับตัวมันงั้นหรือ?

“แบบนี้นี่เอง ท่านพ่อจะอาศัยช่วงที่ข้าส่งอสูรไปรับมือกองทัพของอาณาจักรอู๋เข้ามาโจมตีพวกเรานี่เอง”ชินอี้ว่าพลางพยักหน้าช้าๆ แม้ชินอี้จะเป็นจุดศูนย์กลางของอาณาจักรเผิง แต่ชินอี้ก็เป็นจุดอ่อนสำคัญของอาณาจักรเผิงเช่นกัน เนื่องจากชินอี้ไม่ได้มีพลังวิญญาณแข็งแกร่งอะไร และหากชินอี้โดนจับตัวละก็ เหล่าอสูรที่ชินอี้ควบคุมอยู่จะทำอะไรไม่ได้ในทันที

“เรียกตัวมังกรอัสนีกับค้างคาวโลหิตกลับมา”ชินอี้สั่งพลางบอกให้อสูรบินที่ทำหน้าที่ส่งข่าวรีบออกไปเรียกตัว 2 แม่ทัพใหญ่ของชินอี้กลับมาให้ไวที่สุด

หากท่านพ่อจะบุกเข้ามาก็ต้องจัดการมังกรอัสนีทองคำให้ได้ก่อน เมื่อมีชินอี้อยู่ไป๋จูเหวินก็ไม่สามารถควบคุมอสูรได้ แล้วจะมีใครเอาชนะมังกรอัสนีทองคำอีกเล่า ขอเพียงชินอี้เรียกมังกรอัสนีทองคำกลับมา ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้ามาในวังได้อีกแน่ๆ ต่อให้เป็นชิงชิวก็ย่อมโดนอสูรตาเดียวจับตัวได้อยู่แล้ว

“ชินอี้ เจ้าอย่าได้ดูถูกท่านพ่อกับท่านแม่เกินไปนัก”ไป๋หลินว่าพลางมองชินอี้ด้วยสายตาตำหนิ มันกำลังจะเรียกอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 มาป้องกันการโจมตีของท่านพ่อ ต่อให้ไม่มีอสูรไป๋หลินก็ยังเชื่อว่าท่านพ่อต้องทำอะไรได้บ้างแน่ๆ แม้หนทางจะสิ้นหวังเกินไปก็ตาม

“ชิงชิง เจ้าไม่ต้องกังวลนะ พี่ชายของเจ้าต้องมาช่วยเจ้าแน่”ไป๋หลินว่าพลางจับมือชิงชิงที่อยู่ข้างๆ ในตอนนี้คนที่หวาดกลัวที่สุดคงเป็นชิงชิงนี่เอง นางไม่ได้เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณเสียด้วยซ้ำ การโดนจับมาท่ามกลางเหล่าอสูรเช่นนี้คงทำให้นางกังวลมากทีเดียว

“ข้าไม่กลัวหรอกเจ้าค่ะ”ชิงชิวกัดฟันตอบพลางจ้องมองไปทางชินอี้ด้วยสายตาเคียดแค้น สำหรับเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งแล้วนางดูเข้มแข็งไม่น้อยเลย

.

.

“องค์จักรพรรดิ ท่านคิดว่าเราจะต้องเจอกับอะไร”อีกด้านหนึ่งกองทัพของอาณาจักรชินที่เริ่มเดินทัพเข้าไปใกล้ชายแดนของอาณาจักรเผิงอย่างช้าๆ

“คงเป็นอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 5 หรือ 6 ละมั้ง”จักรพรรดิชินถอนหายใจพลางกำด้ามกระบี่ทองแน่น ในบรรดาอาณาจักรพันธมิตรทั้งหลาย อาณาจักรชินและชูมีกำลังอ่อนด้อยที่สุด ยังดีที่หลังจัดการกลุ่มเขี้ยวโลหิตลงไปได้ ราชวงศ์ชินก็ฟูมฟักเหล่ายอดฝีมือหน้าใหม่ขึ้นมาหลายคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีระดับเจ้าสวรรค์เลยแม้แต่คนเดียว

“แบบนั้นเราจะสู้ได้หรือขอรับ”ขุนนางคนหนึ่งถามพลางมองภาพเบื้องหน้าด้วยท่าทีกังวล หลังจากนี้อาณาจักรอู๋ ชิน ไป๋ และ ชู จะประกาศสงครามกับอาณาจักรเผิงหลังจากอาณาจักรเผิงโจมตีอาณาจักรชูซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรของพวกมัน เมื่อถึงเวลานั้นเหล่าทัพอสูรที่แข็งแกร่งไม่ต่างจากอาณาจักรไป๋ก็จะบุกเข้ามาโจมตีพวกมันอย่างแน่นอน

“เชื่อมั่นในราชวงศ์ชินเถิด พวกเราต้องทำได้อย่างแน่นอน”จักรพรรดิชินว่าพลางพาเหล่าทหารมาตั้งแถวเรียงรายอยู่หน้าชายแดนของตนเอง พวกมันเดินทัพโดยเปิดเผย อีกไม่นานอาณาจักรเผิงก็ต้องได้รับข่าวว่าอาณาจักรอู๋ ชู และ ชิน กำลังโอบล้อมอาณาจักรเผิงอยู่เป็นแน่ ที่เหลือก็ได้แต่รอลุ้นว่าอาณาจักรเผิงจะโจมตีมาแบบไหนเท่านั้น

“องค์จักรพรรดิชิน พวกมันมากันแล้ว”เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมร่างงามในชุดสีแดงเพลิงที่เดินเข้ามาอยู่ข้างๆองค์จักรพรรดิชิน

“ระดับเท่าไหร่”องค์จักรพรรดิชินถามพลางหายใจเข้าลึกๆ

“โชคดีหน่อย อีกฝ่ายนำมาด้วยอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 6 เท่านั้น”หญิงสาวตอบพลางจ้องมองไปทางชายแดนช้าๆ

“ขั้นที่6…. นี่โชคดีแล้วงั้นหรือ”คนของอาณาจักรชินสั่นสะท้านไปทั้งตัว อสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 6 เทียบเท่ากับมนุษย์ที่ฝึกฝนถึงขั้นเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 6 เลยนะแบบนั้นเรียกโชคดีได้งั้นหรือ

“อาณาจักรเผิงมีอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 อยู่ แค่ไม่ส่งเจ้านั่นมาพวกเราก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว

“หมายความว่าอสูรระดับ 10 ถูกส่งไปโจมตีฝั่งอาณาจักรอู๋งั้นหรือ”จักรพรรดิชินถามพลางมองไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ

“เกรงว่าจะไม่ใช่”หญิงสาวตอบพลางส่ายหน้าช้าๆ

“ข้าเชื่อว่าองค์ชายชินอี้จะต้องใช้อสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 10 เพื่อป้องกันเมืองแน่ๆ คงไม่ได้ส่งมันออกมาโจมตีกองทัพของชินหรืออู๋หรอก ท่านน่าจะมีอสูรระดับสูงกว่าขั้นที่ 6 อยู่อีกตนหรือสองตน และก็คงส่งเจ้านั่นไปโจมตีอาณาจักรอู๋แล้วกระมัง”หญิงสาวตอบตามที่ไป๋จูเหวินบอกเอาไว้

“เช่นนั้นข้าควรยินดีสินะที่ได้ของง่ายเช่นนี้”จักรพรรดิชินว่าพลางชักกระบี่ทองคำออกมา

“แน่นอน อย่างน้อยเจอกับเจ้านี่ข้าก็ยังมีโอกาสชนะ”หญิงสาวพูดพลางสยายปีกผีเสื้อของนางออกมา ยามนี้นางพญาผีเสื้อถูกส่งมาช่วยเหลืออาณาจักรชิน เพราะหากตามไป๋จูเหวินเข้าไปโจมตีละก็นางก็จะโดนพลังของชินอี้ทำให้ไม่สามารถโจมตีชินอี้ได้ น่าเสียดายจริงๆที่กิ่งไม้ที่ส่งกลิ่นหอมออกมากลบกลิ่นอายของชินอี้ได้ถูกนำไปสร้างมีดสั้นและสร้อยคอจนหมดแล้ว แถมทั้งสองชิ้นยังอยู่ในวังหลวงของอาณาจักรเผิงอีกต่างหาก ไม่อย่างนั้นคงใช้กลิ่นนั้นช่วยให้เหล่าอสูรของไป๋จูเหวินโจมตีได้บ้าง

“พวกมันมาแล้ว เตรียมพร้อม”เหล่าทหารของอาณาจักรชินใจเต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างมาก แม้จะมีอสูรของอาณาจักรไป๋ถูกส่งมาช่วย แต่อีกฝ่ายก็เป็นกองทัพที่เต็มไปด้วยอสูรระดับบรรพกาล พวกมันจะสามารถรับมือไหวจริงๆงั้นหรือ

“ถอย”อยู่ๆจักรพรรดิชินก็สั่งถอยเสียอย่างนั้น ทำเอาเหล่าทหารและเหล่าอสูรพากันประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงถอยตั้งแต่ยังไม่สู้ล่ะ”ทหารคนหนึ่งถามพลางมองเหล่าอสูรที่วิ่งเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที แม้จะรู้สึกเสียเปรียบ แต่ก็ไม่ได้ไร้หนทางชนะ ทหารของอาณาจักรชินไม่ได้ขี้ขลาดถึงเพียงนั้นเสียหน่อย

“ทำตามที่องค์จักรพรรดิสั่ง”นางพญาผีเสื้อว่าพลางบินอยู่เหนือกองทัพของอาณาจักรชินอย่างเชื่องช้า อีกฝ่ายเป็นอสูรระดับ 6 แถมยังเป็นอสูรกิเลนธาตุน้ำอีกต่างหาก ทำให้นางพญาผีเสื้อค่อนข้างเสียเปรียบเลยทีเดียว

“ถอยไปให้ไว เร็วเข้า”จักรพรรดิชินตะโกนสั่งพลางพากองทัพของตนเองห้อตะบึงกลับเข้าไปในหุบเขาเสียอย่างนั้น

“หัวหน้า พวกมันหนีทำไม”อสูรตนหนึ่งถามพลางมองไปทางกองทัพของอาณาจักรชิน

“คงจะกลัวกระมัง พวกมนุษย์ไม่มีคนระดับเจ้าสวรรค์เลยแม้แต่คนเดียว คงกะจะให้อสูรพวกนั้นสู้แทน”อสูรกิเลนว่าพลางพุ่งวาบเข้าไปหานางพญาผีเสื้อที่ยืนรออยู่ด้านหน้าเพียงลำพัง

บึมๆๆๆๆๆๆๆ ระเบิดผีเสื้อเพลิงถูกสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะระเบิดใส่กองทัพของอสูรกิเลนอย่างจัง แต่เพราะแนวหน้าของมันเป็นอสูรระดับบรรพกาลทั้งสิ้น ไม่ว่าจะขั้นที่ 2 หรือ 3 ต่างก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดที่ว่าจะโดนระเบิดของนางพญาผีเสื้อทีเดียวตายได้

“ร้อนแรงจริงๆนะแม่นาง”อสูรกิเลนว่าพลางพุ่งวาบเข้าใส่นางพญาผีเสื้อ ระเบิดของนางทำอะไรเกล็ดของกิเลนไม่ได้นัก เกราะของมันมีธาตุน้ำช่วยป้องกัน ทำให้ระเบิดจากเปลวเพลิงมีผลเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

ฟุบ!! นางพญาผีเสื้อใช้ความได้เปรียบตรงที่นางสามารถบินได้หลบหลีกการโจมตีของอสูรกิเลน ก่อนจะเริ่มถอยร่นกลับเข้าไปเช่นกัน

บึมๆๆๆๆๆๆ ระหว่างทางนางโปรยระเบิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ฝุ่นดินคละคลุ้งไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นอสูรกิเลนก็ยังตามนางพญาผีเสื้อมาได้อย่างรวดเร็ว

“นี่เจ้า…”นางพญาผีเสื้อมองไปที่เท้าของอสูรกิเลน เจ้านี่มันสามารถวิ่งบนฟ้าได้ แบบนี้ก็เท่ากับว่าความได้เปรียบของนางพญาผีเสื้อลดลงไปอีกนะสิ

“เจ้าดูงดงามดี ข้าจะเก็บเจ้าเอาไว้แล้วกัน”อสูรกิเลนว่าพลางยิ้มกว้าง มันวิ่งตามนางพญาผีเสื้อมาจนเกือบจะทัน หากไม่ใช่เพราะระเบิดที่นางพญาผีเสื้อโปรยเอาไว้ มันคงตามเข้ามาจับนางพญาผีเสื้อทันได้นานแล้วแน่ๆ

“ข้ามีสามีแล้ว”นางพญาผีเสื้อตอบพลางเรียกลูกไฟออกมาโจมตีใส่อสูรกิเลน

“งั้นข้าจะฆ่าสามีเจ้าเสีย แล้วเอาเจ้ามาอยู่กับข้า”อสูรกิเลนยิ้มกว้างพลางพุ่งตัวผ่านลูกไฟมาอย่างง่ายดาย เกราะธาตุน้ำของมันเป็นปัญหากับนางพญาผีเสื้อจริงๆ

ผลัก!! ร่างของนางพญาผีเสื้อตกลงมาบนพื้นพร้อมร่างของอสูรกิเลนที่ใช้กีบเท้าของมันเหยียบที่ท้องของนางเอาไว้ พลังของมันสูงกว่าเพียงขั้นเดียวก็จริง แต่นางพญาผีเสื้อที่ใช้พลังธาตุมากกว่าพลังกายนั้นกลับเสียเปรียบเพราะอีกฝ่ายใช้ธาตุที่ตนแพ้ทาง ทันทีที่ทราบว่าศัตรูคือใครนางพญาผีเสื้อก็ไม่คิดว่าตนจะชนะอยู่แล้ว

“หึ…”นางพญาผีเสื้อยิ้มพลางมองร่างของอสูรกิเลนที่กำลังยืนคร่อมร่างของนางอยู่ ท่าทางมันจะคึกเกินไปหน่อยกระมังเลยตามนางมาโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเลย

“ที่นี่มัน…”เหมือนอสูรกิเลนจะรู้ตัวเสียแล้วว่าตนเองกำลังตกหลุมพรางอะไรบางอย่างเป็นแน่ มันมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ ที่นี่เต็มไปด้วยเมฆหมอก และบรรยากาศที่แปลกประหลาด

“……”พริบตานั้นอสูรกิเลนนึกถึงคำพูดของชินอี้ที่เตือนมันก่อนจะออกมารบที่อาณาจักรชินขึ้นมาทันที นั่นคืออย่าเข้าไปในแดนลับแลที่เต็มไปด้วยม่านหมอกเป็นเด็ดขาด

ฉับ!! คลื่นกระบี่สีทองพุ่งวาบผ่านร่างของอสูรกิเลนไปอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวเท่านั้นหัวของอสูรกิเลนก็ตกลงมาบนพื้นก่อนจะค่อยๆสลายหายไปเหลือเพียงแก่นอสูรเท่านั้น

“ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”นางพญาผีเสื้อพูดพลางลุกขึ้นมาก้มหัวให้ชายที่โจมตีอสูรกิเลนจนตายให้กับตน

“ไม่เป็นไร เรื่องนี้บุตรชายข้าเป็นคนขอร้องข้าย่อมต้องทำให้อยู่แล้ว”ชินหลุนตอบพลางเดินมายืนที่เนินเขาก่อนจะลงจากแดนลับแล แม้จะเต็มไปด้วยม่านหมอกจนมองไม่เห็น แต่ชินหลุนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของศัตรูที่กำลังวิ่งเข้ามาในหุบเขา

เปรี้ยง!!! ปราณกระบี่พุ่งวาบเข้าไปโจมตีเหล่ากองทัพอสูรที่บุกเข้ามาจนแตกกระเจิง ระดับพลังของชินหลุนยามนี้สูงถึงระดับเจ้าสวรรค์ขั้นที่ 10 เพียงโจมตีจากระยะไกลก็ย่อมสามารถจัดการพวกอสูรระดับบรรพกาลขั้นที่ 2 หรือ 3 ได้ไม่ยาก เพียงการยื่นมือเข้าช่วยเพียงครั้งเดียว อสูรระดับบรรพกาลของฝั่งอาณาจักรเผิงก็ตายไปเป็นจำนวนมาก พริบตานั้นเหล่ากองทัพของอาณาจักรชินก็หันกลับไปโจมตีซ้ำกองทัพของอาณาจักรเผิงในทันที