บทที่ 194
เขาทำราวกับเธอเป็นอากาศธาตุ
เมื่อเวลาผ่านไป มู่หรงเสวี่ยก็ได้เข้าไปมีบทบาทในงานวิจัยอย่างเต็มที่ โชคดีที่ยาถอนพิษยากลืนวิญญาณของ มู่หรงเสวี่ยวก่อนหน้านี้ใช้ได้ผลซึ่งช่วยดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้อย่างมาก ป้ายชื่อระดับ B ถูกเอาติดแทน ซึ่งบอกได้ว่า มู่หรงเสวี่ยวถูกเลื่อนไปอยู่ระดับ B ได้ในเวลาอันสั้น ช่วงนี้มีคนที่จงใจพยายามจะเข้ามาท้าทายดราก้อนพาวิลเลี่ยนเสมอๆ
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อีกฝ่ายไม่ได้ใช้กลยุทธ์ที่โจ่งแจ้งแต่กลับเลือกที่จะใช้ยาแปลกๆกับคนของดราก้อนพา วิลเลี่ยน อีกฝ่ายไม่กล้าที่จะเปิดฉากสู้กับดราก้อนพาวิลเลี่ยนอย่างเปิดเผย ดังนั้นคนพวกนั้นจึงหาโอกาสแยกคนออกจากดราก้อนพาวิลเลี่ยน หลังจากที่ควบคุมได้แล้ว คนพวกนั้นจะไม่ฆ่าเจ้าหน้าที่ของดราก้อนพาวิลเลี่ยนแต่ฉีดยาแปลกๆให้แล้วโยนพวกเขากลับมาที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยน…
หนึ่งในนั้นคือยากลืนวิญญาณ อีกฝ่ายทิ้งโน้ตไว้กับคนที่ถูกฉีดยาว่าเขาจะยอมแลกเงินกับยาถอนพิษ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายต้องการสูบเงินจากดราก้อนพาวิลเลี่ยนเพื่อเอาไปขยายอำนาจของตัวเองซึ่งทำให้ดราก้อนพาวิลเลี่ยนโกรธอย่างมาก ตอนนี้เขาได้รวบรวมหมอมาจากทั่วโลกให้มาร่วมกับดราก้อนพาวิลเลี่ยน แน่นอนว่าต้องได้รับการประเมินเช่นกัน การลงทุนในแผนกงานวิจัยของดราก้อนพาวิลเลี่ยนก็ขยายไปมากเช่นกัน
โชคดีที่มู่หรงเสวี่ยรู้ยาถอนพิษและแก้ปัญหาใหญ่ของ ดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้ มู่หรงเสวี่ยนึกถึงกลุ่มคนที่จับเธอไปก่อนหน้านี้ คนพวกนี้จะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือเปล่านะ? เพราะเธอมอบสูตรยาถอนพิษให้พวกเขาไป อีกฝ่ายใช้วิธีที่รุนแรงแบบนี้เพื่อหาเงิน
เมื่อถึงเวลาพัก มู่หรงเสวี่ยถามเกี่ยวกับเรื่องภารกิจของ ดราก้อนพาวิลเลี่ยน อย่างไรก็ตามมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ เพราะพวกหมอไม่เหมือนพวกที่ต้องออกไปทำภารกิจ โดยปกติแล้วพวกหมอก็จะอยู่แค่ห้องวิจัยกับห้องรักษาเท่านั้น
พวกหมอไม่เคยถามถึงเรื่องภารกิจอื่นแต่พวกเขาก็บอกมู่หรงเสวี่ยว่าถ้าเธออยากที่จะรู้เรื่องภารกิจ ก็มีแค่หัวหน้าทีมและผู้บัญชาการที่ดูแลเท่านั้นถึงจะรู้ พวกเขาบอกให้มู่หรงเสวี่ยขึ้นไปที่ห้องทำงานของกัปตันในดราก้อนพาวิลเลี่ยน ถ้าเธอโชคดีเธอก็อาจจะได้เจอกัปตันจากหลายๆหน่วยแต่กัปตันก็อาจจะไม่บอกอะไรเธอด้วยเหมือนกัน ปกติแล้วระหว่างแต่ละทีมก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องภารกิจของทีมอื่น เพื่อความปลอดภัยของภารกิจ จึงมักจะไม่ค่อยบอกคนนอก
ไม่ว่ายังไง มู่หรงเสวี่ยก็จะลองถามดูก่อน
เธอเป็นห่วงเรื่องพี่ใหญ่จริงๆ เธอพยายามโทรหาเขานับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็โทรไม่ติด เธอลนลานอย่างมาก นั่นเป็นเพราะสัญชาตญาณของเธอเอง
หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนกลับเป็นชุดปกติแล้ว เธอก็เดินออกจากแผนกการแพทย์ของดราก้อนและเดินไปห้องทำงานของกัปตัน ตลอดทางเธอเดินผ่านจุดตรวจมากมาย พูดได้ว่าที่ดรากอนพาวิลเลี่ยนมีการควบคุมที่แน่นหนาจริงๆ
เธอยังคิดถึงเรื่องพี่ใหญ่และเรื่องอื่นๆอีก จนไม่สังเกตเห็นสองคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“โอ้ย” มู่หรงเสวี่ยแตะไปที่หน้าผากที่เจ็บ ” ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่ได้…” มู่หรงเสวี่ยที่กำลังกล่าวขอโทษก็ต้องตกใจนิ่งเมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงข้าม
ดวงตาเธอเบิกกว้างและประกายประหลาดใจก็แวบเข้ามา “อี้…ฉัน…”
“ดราก้อนมาสเตอร์ ได้เวลาไปหรือยังคะ?” น้ำเสียอ่อนหวานฟังดูอ่อนโยนขึ้นไปอีก ดังขึ้นมาขัดน้ำเสียงแปลกใจของมู่หรงเสวี่ย
มู่หรงเสวี่ยตัวแข็ง เธอเพิ่งเห็นว่ามีสาวสวยกำลังยืนอยู่ข้างๆฮวงฟูอี้ด้วย หน้าตาของเธอดูคล้ายกับเธออย่างมากด้วย
ท่าทางที่อ่อนโยนและนุ่มนวลของเธอซึ่งบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงของฮวงฟูอี้
สายตาของฮวงฟูอี้เย็นชาและสีหน้าของเขาก็ไร้อารมณ์ เขายื่นมือออกไปอย่างอ่อนโยนและจับผมของหลินเสี่ยวชังไปทัดหูพร้อมทั้งพูดออกมา “ไปกันเถอะ…” แต่ที่หางตาของเขาก็ยังชำเลืองมองมาที่มู่หรงเสวี่ย
หล่นเสี่ยวชิงเผยรอยยิ้มเขินๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ดราก้ออนมาสเตอร์สัมผัสเธอ ถึงแม้มันจะเป็นแค่ที่ผมแต่สีหน้าเธอก็แดงระเรือเล็กน้อยพร้อมกระซิบตอบเสียงเบา “อืม!”
ทั้งสองเดินฝานมู่หรงเสวี่ยไปอย่างรวดเร็วราวกับเธอเป็นอากาศธาตุอย่างงั้นแหละ
ไปมีใครสังเกตเห็นว่ามืออีกข้างของฮวงฟูอี้ในกระเป๋ากางเกงกำลังกำแน่น
สายลมที่พัดผ่านทำให้หัวใจเธอเย็นเเฉียบทันที เธอยังค้างอยู่ในท่าเดิมทีเงยหน้าพร้อมที่จะทักทายอยู่เลย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจางหายไปนานแล้วจนกระทั่งมีคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเธอ “คุณหมอหลง เป็นอะไรหรือเปล่า?”
ทันใดนั้นมู่หรงเสวี่ยก็กลับมาได้สติแล้วเห็นว่าเป็นการ์ดทำเดินตรวจของดราก้อนพาวิลเลี่ยนจึงยิ้มไปแบบเกรงๆ “ไม่มีอะไรหรอก!”
แล้วเธอก็เดินไปที่ห้องทำงานของกัปตัน น่าเสียดายที่พี่ใหญ่และหัวหน้าทีมของพวกเขาไม่อยู่ทีนี่ มู่หรงเสวี่ยจังทำได้เพียงกลับออกมาจากฐานอย่างสิ้นหลังและเตรียมที่จะกลับไปที่วิลล่า
วันนี้เป็นวันที่แย่จริงๆ เธอนึกถึงสายตาที่เย็นชาของ ฮวงฟู่อี้ เธอเดาภาพเหตุการณ์ว่าถ้าพวกเขาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างไว้มากมาย มีทั้งภาพที่เขามีความสุขและโกรธแต่เธอไม่ได้คิดว่าเขาจะทำเหมือนเธอเป็นคนแปลกหน้าอย่างที่ทำวันนี้และถึงขนาดไม่ยอมมองหน้าของเธอเลยด้วยซ้ำ
ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเขาหรือเปล่า ?!!!
ตั้งแต่วินาทีที่เห็นเธอ เธอก็มีแต่คำถามนี้อยู่ในหัวใจมาตลอด! เธอกังวลอยากที่จะรู้มากว่าพวกเขาเป็นอะไรกันและเธอก็ไม่พอใจมากที่หาเหตุผลที่จะโทษเขาไม่ได้เลยด้วย
เธอไม่เคยคิดว่าพวกเธอจะกลายเป็นคนแปลกหน้ากันขนาดนี้ ระหว่างพวกเธอไม่มีแม้การทักทายกันสักคำ
มู่หรงเสวี่ยหมอบอยู่บนเตียงพร้อมกอดผ้าห่มแน่น ถึงแม้เธอจะถูกเลื่อนขั้นไปเป็นหมอมังกรระดับ A แต่เธอจะมาสามารถที่จะพูดอะไรกับเขาได้หรือเปล่านะ
เธอเห็นเขาปฏิบัติกับเด็กสาวคนนั้นอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งแรก ซึ่งต่างกับเอ ทุกครั้งที่เขาอยู่กับเธอ เขาจะสบายมากกว่านี้
แน่นอนว่าเด็กสาวคนนั้นต้องเป็นคนสำคัญของเขาใช่ไหมน่ะ?!!
ที่อีกด้าน ฮวงฟูอี้ที่เดินออกมาจากประตูไปแล้วก็มีสีหน้าท่าทางที่ผ่อนคลายลงทันทีและถอนหายใจออกมา เขาหันไปหันหลินเสี่ยวชิงและพูดออกมาว่า “เธอกลับไปได้แล้ว! ไม่ต้องตามฉันมา!” แล้วเขาก็เดินออกไปทันที
หลินเสี่ยวชิงไม่เข้าใจเรื่องที่ดราก้อนมาสเตอร์พูด เมื่อกี้เขาเพิ่งจะช่วยทัดผมให้เธอเอง ทำไมอยู่ดีๆถึงได้เย็นชาขึ้นมาได้เร็วแบบนี้ล่ะ? อยู่ดีๆเธอก็นึกถึงหญิงสาวที่เพิ่งเจอกันเมื่อกี้ขึ้นมา
เธอก้มหน้าอยู่จึงมองไม่เห็นหน้าเธอ เธอน่าจะรู้ว่าผู้หญิงทุกคนของดราก้อนมาสเตอร์จะต้องมีองครักษ์เดินตาม นอกจากการดูแลพวกเธอ พวกองครักษ์ก็ยังต้องคอยเก็บข้อมูลมากมายและเพื่อกำจัดศัตรูด้วย ส่วนเรื่องคนไหนจะเป็นศัตรูก็ขึ้นอยู่กับความคิดของพวกเขาเอง
เวลาที่อยู่ใกล้ๆดราก้อนมาสเตอร์เธอมักจะเขินอายเสมอ แต่ความรู้สึกที่เธอมีต่อดราก้อนมาสเตอร์กลับตรงไปตรงมา ผู้หญิงของดราก้อนมาสเตอร์ ทุกคนจะมีรูปร่างหน้าตาที่เฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสวย, ท่าทาง, ความน่ารักหรือนิสัยน่ารักขี้เล่น แต่ผู้หญิงทุกคนจะไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาภายใต้การฝึกอบอรมของราชวังดราก้อนพาวิลเลี่ยน
ตอนนี้หลงอี้ยืนอยู่เบื้องหน้าฮวงฟูอี้ ขนาดบรรยากาศที่จะหายใจออกมาก็ยังน่ากลัวเลย มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าดราก้อนมาสเตอร์จะบ้าคลั่งขึ้นมาเมื่อไรอีก หลังจากที่กลับมาเขาก็เรียกให้เขาเข้าไปหาทันทีและนี่ก็นานกว่าสิบนาทีแล้วที่เขายังไม่อ้าปากพูดอะไรออกมาเลยมีเพียงสายตาเยือกเย็นที่มุ่งร้ายสุดๆ
จากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ของเขา การยืนก้มหน้าอยู่นิ่งๆจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด เขาก้มหัวลงและค้อมไหล่เล็กน้อย เขารู้ว่าถ้าทำท่าทางที่นอบน้อมบางทีเขาก็อาจจะรอดจากเรื่องนี้ไปได้ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร
“ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?!! ถึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามายุ่งกับฉันเลย?” น้ำเสียงเย็นชาของฮวงฟูอี้ทำให้หลงอี้รู้สึกหนาวขึ้นมาจนถึงหัว
หัวของหลงอี้ก้มต่ำจนแทบจะหมอบลงไปกับพื้นเพื่อแสดงความภักดีของเขา
“ดราก้อนมาสเตอร์ ผมมันคนขี้ขลาด…ขี้ขลาดมากๆ…” เขาเริ่มที่จะนึกว่าช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้เขาได้ทำเรื่องอะไรไว้บ้าง รวมทั้งเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างเช่นที่เขาแอบอู้ไปไม่กี่นาทีด้วย แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าตัวเองทำเรื่องอะไรที่จะทำให้คนตรงหน้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้บ้าง
“ฉันคิดว่านายเองก็พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะได้ขึ้นมาเป็นดราก้อนมาสเตอร์ แล้วจะมีเรื่องอะไรที่นายยังไม่กล้าอีกล่ะ?” ฮวงฟูอี้พูดเยาะเย้ยออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ
ห่ะ นี่มันเรื่องใหญ่แล้ว ใครกันที่จะกล้าคิดแย่งตำแหน่งของดราก้อนมาสเตอร์ อ่า หลงอี้รีบทรุดลงไปที่พื้น กอดขาฮวงฟูอี้ไว้และร้องออกมา “ดราก้อนมาสเตอร์ เข้าใจผิดแล้วนะครับ อ่า!!!! ดราก้อน…”
ฮวงฟูอี้เตะเขาออกไปและพูดออกมา “พูดออกมา!”
หลงอี้รีบคลานขึ้นมา ถึงแม้ผู้เป็นนายจะพูดไม่ดีกับเขาแต่มันก็ไม่แปลกใช่ไหม?!! ตอนนี้เขาลุกขึ้นก้มหัวเล็กน้อยและถามออกมาอย่างจริงจัง “ดราก้อนมาสเตอร์ ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรพลาดครั้งใหญ่อะไร? เชิญลงโทษได้เลยครับ!” เขาเหน็ดเหนื่อยมากกว่าพี่เลี้ยง, ไร้ซึ่งสิทธิของมนุษย์ราวกับทาสและต้องทำงานหนักมากกว่าทหารอีก
“นายเอาเธอเข้ามาที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้ยังไง?!!” ตอนที่เขาเห็นมู่หรงเสวี่ยวันนี้ เขาเกือบที่จะสูญเสียความสงบนิ่งก่อนหน้านี้ไป แต่เขาเองก็เห็นป้ายสัญลักษณ์ของหมอมังกรที่ มู่หรงเสวี่ยด้วย เขาคิดถึงเรื่องนั้นอยู่สักพัก แล้วก็นึกได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ตรงกลางระหว่างเขาและมู่หรงเสวี่ยใช่ไหมล่ะ?! นี่เขาเป็นดราก้อนมาสเตอร์ที่จะอยู่ไม่ได้เมื่อขาดผู้หญิงงั้นเหรอ
“ใครเหรอครับ?” หลงอี้ถาม เงยหน้าขึ้นมาอย่างสงสัย
เมื่อเห็นท่าทางของดราก้อนมาสเตอร์ เขาก็ก้มหัวลงไปชั่วขณะ พระเจ้า ท่าทางของดราก้อนมาสเตอร์ช่างน่ากลัวจริงๆ
“บ้าจริง! มู่หรงเสวี่ยไง นายทำยังไงถึงทำให้เธอเข้ามาที่ ดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้?” ฮวงฟูอี้เตะไปที่โซฟาที่อยู่ข้างๆหลงอี้ เมื่อเขาเตะออกไปโซฟาก็หักออกทันที
หลงอี้สะดุ้งแล้วนึกขึ้นได้ เรื่องของมู่หรงเสวี่ยเป็นความสนุกของเขา เขาเพียงแค่อยากที่จะดูเรื่องสนุกอยู่เงียบๆ เขาไม่ได้คิดที่จะเข้าไปอยู่ในวังวนของดราก้อนมาสเตอร์เลย!!!
“คุณมู่หรงเข้ามาโดยผ่านการประเมิน ผมเพียงแค่ได้รับข่าวหลังจากที่เธอกลายเป็นหมอมังกรแล้วเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่ทำไมคุณมู่หรงถึงเข้ามาที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยน ลูกน้องของผมก็ยังไม่มีข้อมูล บางทีอาจจะเป็นเพราะดราก้อนมาสเตอร์คุณมู่หรงถึงได้มาที่นี่…” หลงอี้คิดอยุ่ในหัวและตอบออกมาอย่างจริงจัง
“นายไม่ได้เป็นคนพาเธอมาที่นี่จริงๆงั้นเหรอ?” ในความคิดของเขา มู่หรงเสวี่ยน่าที่จะอยากอยู่ห่างๆเขา แล้วทำไมเธอถึงอาสาที่จะเข้ามาที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนเองแบบนี้
“ผมสาบาน! เป็นคุณมู่หรงเองที่สมัครเข้ามาเอง จากรายงานของหมอมังกรระดับA คุณมู่หรงมีความสามารถที่จะอยู่ในระดับหมอมังกรระดับ A แล้ว อย่างไรก็ตามเพราะกฎและระเบียบของดราก้อนพาวิลเลี่ยนเรื่องที่คุณมู่หรงยังทำภารกิจให้สำเร็จยังไม่มากพอ ดังนั้นเธอจึงเลื่อนขั้นขึ้นมาได้เพียงระดับ B…”
“ฉันบอกให้นายมารายงานเรื่องเธอหรือไง?! ทำไมต้องพูดเรื่องอะไรไร้สาระนั้นด้วย” ฮวงฟูอี้พูด
หลงอี้ที่ได้ฟังก็สีหน้าเครียดขึ้นมาทันที เขาน่าจะรู้ว่าไม่ควรพูดเรื่องแบบนี้ นี่กังวลจึงลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย!!!
“ครับ ผมจะไปพูดเรื่องคุณมู่หรงอีกแล้ว”
สีหน้าของฮวงฟูอี้เปลี่ยนไป “อยากตายหรือไง?!! เล่าต่อสิ…”
หัวใจของหลงอี้เริ่มเบาลง เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจเรื่องนี้อย่างมาก ยังจะมาปากแข็งอีก! แกล้งทำอยู่ได้! “ได้ยินมาว่าคุณมู่หรงเข้ามาทำการประเมินได้เพราะถูกสมาชิกของดราก้อนพาวิลเลี่ยนของเราแนะนำเข้ามา นอกจากนี้ลูกน้องของผมได้ถามข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว และดูเหมือนว่าคุณมู่หรงจะเป็นคนที่อยากเข้ามาในดราก้อนพาวิลเลี่ยนเองราวกับว่าเธอกำลังตามหาใครอยู่…” ดูเหมือนว่าเธอกำลังตามหาคุณอยู่นะ เธอเป็นห่วงคุณไง! หลงอี้รู้สึกมีความสุขอยู่ในหัวใจ นี่เป็นเพียงความสนุกเดียวของลูกจ้างที่ถูกทรมาน
“นายรู้เรื่องนี้มานานแล้วแต่ทำไมไม่เอามารายงานฉัน?” น้ำเสียงของฮวงฟูอี้เย็นชาเล็กน้อย หลงอี้ไม่รู้สึกทรมานอีกแล้ว เขาบังเอิญเปิดเผยความตั้งใจที่จะได้ดูละครออกไปแล้ว
“ดราก้อนมาสเตอร์ ผมคิดว่าคุณไม่อยากที่จะเจอ คุณมู่หรงแล้วซะอีกใช่ไหมครับ?! ถ้าไม่แล้วผมจะหาจุดผิดพลาดที่จะลงโทษคุณมู่หรงแล้วก็ไล่เธอออกไปซะ เพื่อที่ดราก้อนมาสเตอร์จะได้สบายใจขึ้น…” เขาหวังว่านี่จะเป็นประโยชน์ ถ้าเขายังไม่ตายก็ยังอยากที่จะเล่นสนุกอยู่ไม่งั้นคงน่าเสียดายแย่
“ถ้านายกล้า!! ฉันจะฆ่านายก่อนเลย” เมื่อพูดจบเขาก็มองไปที่หลงอี้ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
บ้าจริง ถ้าไม่วิ่งหนีนี่ก็โง่มากเลยนะเนี่ย หลงอี้เปิดประตูและรีบวิ่งออกไปทันที ฮวงฟูอี้ไม่ได้ตั้งใจที่จะลงโทษหลงอี้จริงๆ เมื่อคนที่เขาไว้ใจที่สุดในดราก้อนพาวิลเลี่ยนคือหลงอี้ อย่างไรก็ตามทำไมเธอถึงยังมาโผล่อยู่ตรงหน้าเขาอีกล่ะ? ในตอนนั้น เธอพูดออกมาชัดเจนแล้วนี่ว่าเขามันน่ารำคาญ
เขาปลดเนกไทและนั่งลงที่โซฟา หัวใจของเขาแวบถึงช่วงเวลาที่เขาได้เห็นเธอในวันนี้ตลอด เธอยังมีใบหน้าเดิมเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวมาก
คืนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นวันที่หลับไม่ลงเลย
ฮวงฟูอี้ได้รับการรักษาจากหลงอี้และอาการของเขาก็ดีขึ้นมา หลังจากที่กินยานอนหลับไปมากเกินไป มันก็ไม่ดีเลยสักนิด หลายวันที่ผ่านมานี้เขาไม่ได้กินยามากเท่าไรแต่ร่างของเธอที่เอาแต่โผล่ขึ้นมาในความคิดเขาซึ่งทำให้มันยากสำหรับเขามากที่จะหลับตาลง
มู่หรงเสวี่ยเองที่กำลังนอนอยู่บนเตียงก็กลิ้งไปกลิ้งมากพร้อมกับความเจ็บปวดในหัวใจ เธอค่อยๆเข้าใจว่าที่เธอมีท่าทางแบบนี้ก็เพราะอีกฝ่ายที่ทำแบบนั้น ทำราวกับเธอเป็นก้อนหินไร้ลมหายใจ