ตอนที่ 1660

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,660 : ผู้มีพระคุณ

 

“คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง…”

 

หลังจากที่เหินกระบี่บินข้ามผ่านแนวเทือกเขามา สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็มืดลงทันใด

 

เพราะนายน้อยคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องคิดข่มเหงรังแกน้องสาวเขาอย่างหานเฉวี่ยไน่! เช่นนั้นแล้วในสายตาเขาคฤหาสน์ฟ้าลิว่ล่องก็ไม่ใช่ตัวดีอันใด!!

 

หากเขามีพลังอำนาจสูงมากพอล่ะก็ เขาจะบุกไปสร้างความฉิบหายมันดื้อๆ เอาให้มันวินาศสันตะโรไปเป็นแถบๆ พอนายน้อยบัดซบนั่นโผล่หัวมา ก็ตัดคอมันเสียต่อหน้าทุกผู้คนในคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง!

 

‘พลัง! แค่มีพลังฝีมือสูงพอจะเรียกลมเรียกฝนอย่างไรก็ได้! ข้ายังอ่อนแอเกินไป ขนาดภูมิภาคเบื้องล่างยังทำอะไรไม่ได้ นับประสาอะไรกับภูมิภาคเบื้องบน!’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบร้องร่ำในใจอย่างอับจน

 

ด้วยพลังฝึกปรือของเขาตอนนี้ ต่อให้ใช้กระบี่นิลสวรรค์โดยถ่ายทอดปราณสุริยันแรกกำเนิดเปิดใช้พลังอำนาจเต็มกำลัง แต่อย่างดีก็พิฆาตสังหารได้แค่ เซียนขัดเกลาขั้นสูงสุดเท่านั้น

 

หากเข้าเจอตัวตนระดับ อริยะเซียนล่ะก็…น่ากลัวต่อให้ใช้กระบี่นิลสวรรค์เขาก็ยังฆ่ามันไม่ได้

 

ทว่าในฐานะขุมพลังชั้น 4 คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องไม่เพียงมีอริยะเซียน แต่ยังมียอดฝีมือที่พลังฝึกปรือเหนือกว่าอริยะเซียนอยู่อีกด้วย!

 

ตอนนี้ถึงเขาจะบุกไปยังคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องโดยมีกระบี่นิลสวรรค์ในมือ แต่น่ากลัวเขาจะฆ่าอาวุโสระดับสูงได้แค่ไม่กี่คนก่อนที่จะถูกฏ่าตาย

 

หลังจากที่เข้าสู่เขตอิทธิพลหลักของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องแล้ว เขาก็เริ่มสอบถามผู้คนถึงทางไปยังคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องทันที พอรับทราบและไปสำรวจที่ทางดีแล้ว เขาก็เข้าไปในหุบเขาลึกอันเงียบสงบร้างผู้คน ก่อนที่จะขุดถ้ำแล้วพักอาศัยอยู่ในนั้น

 

แน่นอนว่าลึกลงไปในถ้ำที่ถูกปกปิดอย่างดี ก็มีแต่เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติที่เล็กเท่าธุลีดินตั้งอยู่

 

ส่วนตัวเขานั้นวูบเข้าไปบ่มเพาะฝึกฝนในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติแล้ว

 

หลังจากที่ไปสอบถามมาจนได้ข้อมูลแน่ชัด เขารู้ว่าแม้การประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องจะเริ่มในอีก 1 ปีหลังจากนี้ แต่ทุกคนก็กล่าวถึงกันมาตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว เพราะนี่นับเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย

 

รายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง จะเปลี่ยนทุกๆ 50 ปี…นับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่นัก!

 

ตราบใดที่มีนามของท่านปรากฏอยู่ใน 10 อันดับแรกของรายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง ชื่อเสียงของท่านย่อมขจรขจายไปทั่วเขตอิทธิพลของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง เป็นดั่งสุดยอดอัจฉริยะ!

 

เรียกว่า รายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง เสมือนตั๋วที่จะนำพาท่านให้ทะยานสู่ฟ้า

 

นอกจากนี้ตราบใดที่ท่านสามารถติด 1 ใน 10 รายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องได้ล่ะก็…คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องก็ยินดีรับท่านเป็นศิษย์ ยังจะให้การสนับสนุนอย่างดี!!

 

ในประวัติศาสตร์ ยอดฝีมืออันร้ายกาจแถวหน้าของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องแทบทุกคน ล้วนเคยมีนามจารึกไว้ในรายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่องทั้งสิ้น!

 

ด้วยเหตุนี้ภายในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง รายนามสุดยอดนักรบฟ้าลิ่วล่อง จึงเป็นอะไรที่ศักดิ์สิทธิ์และทรงเกียรติที่สุด!

 

ถึงแม้จะเหลือเวลามากกว่าปี ที่การประลองจัดอันดับสุดยอดนักรบจะจัดขึ้น แต่ทุกผู้คนจากทั่วสารทิศก็เริ่มเดินทางมาถึงเขตอิทธิพลหลักของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องกันแล้ว ทั้งหมดล้วนเฝ้ารอคอยเวลาด้วยความวาดหวัง

 

‘ไม่คิดเลยจริงๆว่าผู้คนในเขตอิทธิพลของคฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่อง จะให้ค่าการประลองจัดอันดับนี่สูงถึงขนาดนี้…ไม่น่าแปลกใจเลยที่คฤหาสน์ฟ้าลิ่วล่องถึงกำหนดไว้…ว่าผู้ที่จะมิสิทธิ์รับตำแหน่งผู้นำต้องมีชื่อติดในรายนามนั่น! นับว่าเป็นการทดสอบที่มีประสิทธิ์ภาพที่ดีที่สุดจริงๆ หากมีชื่อในรายนามก็เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะมากคุณสมบัติได้เต็มปาก…’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบถอนหายใจเบาๆ

 

ไม่นาน ในชั้น 3 ของเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ร่างต้วนหลิงเทียนก็ลอยค้างกลางหาวดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินในเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติราวกับวังวนพายุ ด่านพลังฝึกปรือที่พึ่งบรรลุเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นทุกขณะเวลา คนจมจ่อมสูภวังค์บ่มเพาะไม่รับรู้ถึงสิ่งใดอีก…

 

และไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใดที่ปราณสุริยันแรกกำเนิดเริ่มแผ่ออกมาจากร่างเขาจางๆ ทั้งยังเริ่มเผยแสงสว่างปานดวงตะวัน!

 

ยิ่งมาแสงสีทองยิ่งทรงพลังอานุภาพ ยังสว่างเจิดจ้ามากขึ้นทุกขณะ ให้ความรู้สึกคล้ายอาทิตย์สุริยันเข้าไปทุกที

 

เหตุผลของปรากฏการณ์นี้ก็คือ ต้วนหลิงเทียนกำลังกระตุ้นปราณสุริยันแรกกำเนิดในร่างของเขา เพื่อปรับพลังให้เสถียรมั่นคง

 

ทำให้ยิ่งมากลิ่นอายพลังของปราณสุริยันแรกกำเนิด ก็ยิ่งมีกลิ่นอายพลังละม้ายคล้ายดวงตะวัน!

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังปรับด่านพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนดั้งเดิมขั้นต้นให้มีเสถียรภาพ และทำให้ทั่วร่างเปี่ยมล้นไปด้วยปราณสุรันแรกกำเนิดโดยสมบูรณ์ ด้านต้วนหรูเฟิงที่อยู่ในตำหนักเมฆาครามอันห่างไกลก็ได้รับข่าวลือเรื่องตราผนึกมารแล้วเช่นกัน

 

“ตราผนึกมาร!?”

 

หลังจากได้รับทราบเรื่องที่บุตรชายของตัวเองอย่างต้วนหลิงเทียนเป็นผู้ที่ถือครองตราผนึกมาร ต้วนหรูเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะสะท้านสะเทือนใจไปอย่างใหญ่หลวง!

 

ไหนเลยมันจะไม่รู้จักตราผนึกมารได้!!

 

กระทั่งเหตุผลที่ทำให้มันต้องหายตัวไปอย่างลึกลับเป็นเวลา 20 กว่าปี ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพราะตราผนึกมารทั้งสิ้น…ทุกอย่างเป็นเพราะตราผนึกมาร! กล่าวให้ชัดก็คือเศษเสี้ยวดวงจิตของผู้ฝึกมารอันร้ายกาจที่เล็ดรอดออกมาจากตราผนึกมารช่วงชิงร่างกายของมัน ทำให้มันจำต้องพรัดพรากจากภรรยาและไม่มีโอกาสได้เห็นบุตรชายเติบโต…!!

 

และเป็นเศษเสี้ยวดวงจิตของมารร้ายตนนั้นที่ทำให้มีมัน ต้วนหรูเฟิง จ้าวตำหนักเมฆาครามอย่างทุกวันนี้!

 

อย่างไรก็ตามต้วนหรูเฟิงไม่เคยรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้เลยสักครั้ง ยังรู้สึกเกลียดชังมารร้ายนั่นจับใจนัก เพราะหากไม่ใช่จิตใจมันแน่วแน่เข็มแข็ง น่ากลัวว่าดวงจิตของมันคงถูกมารร้ายทำลาย และเสียร่างกายไปอย่างสมบูรณ์นานแล้ว!!

 

“ที่แท้…ดวงจิตหลักของเฮยหมิงถูกเทียนเอ๋อทำลายไปเช่นนั้นหรือ!?”

 

สองตาต้วนหรูเฟิงทอแสงสว่างออกมาเจิดจ้า มันไม่อาจคิดคาดจินตนาการได้จริงๆว่าจะมีเรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นได้!!

 

แม้มันจะรู้ว่าตราผนึกมารอยู่ที่ไหน แต่ในฐานะผู้ฝึกมารมันย่อมไม่กล้าเข้าไปหากไม่มั่นใจเต็ม 10 ส่วน ผู้ใดจะไปรู้ว่าขืนเข้าใกล้แล้วตราผนึกมารนั่นจะพยายามสะกดกักขังดวงจิตมันหรือไม่?

 

และตอนนั้นมันกระจ่างแจ้งแก่ใจดีว่าพลังอำนาจของเฮยหมิงที่พยายามช่วงชิงร่างกายของมันนั้นร้ายกาจเพียงใด!

 

กระทั่งเศษเสี้ยวดวงจิตของเฮยหมิง กลับทำให้มันเป็นจ้าวตำหนักเมฆาครามผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้!!

 

‘หากที่หลบหนีออกจากตราผนึกมารได้เป็นดวงจิตหลักของเฮยหมิงมิใช่เศษเสี้ยวดวงจิต…น่ากลัวดวงจิตของข้าคงถูกมันทำลาย และร่างกายข้าคงตกเป็นของมันไปนานแล้ว’

 

พอคิดถึงเรื่องนี้ต้วนหรูเฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดีนัก

 

ในอดีตเป็นเพราะตราผนึกมารทุ่มพลังสะกดปราบดวงจิตหลักของเฮยหมิงเอาไว้ ทำให้มันสามารถใช้ชีวิตอยู่รอดมาได้อย่างปลอดภัย แม้ร่างจะถูกเศษเสี้ยวดวงจิตของเฮยหมิงครอบงำอยู่ก็ตามที

 

ทว่าตอนนั้นอยู่ดีๆมันก็สัมผัสได้ว่าดวงจิตหลักของเฮยหมิงคล้ายถูกทำลายลงไป ทำให้เศษเสี้ยวดวงจิตพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้มันอาศัยจังหวะนี้ทำลายเศษเสี้ยวดวงจิตนั่น และยึดครองร่างกลับมาเป็นของตัวเองได้โดยสมบูรณ์!!

 

และในตอนนั้นเองมันก็รู้ได้ทันทีว่าสมควรมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับตราผนึกมาร มิแคล้วตราผนึกมารจะมีเจ้าของคนใหม่ และเจ้าของที่ว่ายังใช้พลังอำนาจของตราผนึกมารทำลายดวงจิตหลักของเฮยหมิงได้ทัน ก่อนที่ดวงจิตหลักเฮยหมิงจะจู่โจมชิงร่าง!

 

อย่างไรก็ตามร้อยพันหมื่นคาดต้วนหรูเฟิงก็ไม่เคยคิด ว่าเจ้าของตราผนึกมารคนใหม่ที่ว่าจะเป็นบุตรชายของตัวเอง ต้วนหลิงเทียน!

 

‘ความแข็งแกร่งของดวงจิตหลักเฮยหมิงนั้นน่ากลัวนัก ตอนนั้นข้ายังสงสัยไม่น้อยว่าผู้มีพระคุณผู้นี้ที่แท้เป็นใครกันแน่ ถึงได้เปิดใช้พลังอำนาจของตราผนึกมารสะกดดทำลายดวงจิตหลักของเฮยหมิงได้ทันการ! ไม่อยากจะเชื่อเลยที่แท้กลับเป็นลูกชายของข้าเอง!!’

 

ต้วนหรูเฟิงลอบทอดถอนในใจ

 

อาจกล่าวได้ว่า ผู้ใดก็ตามที่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของตราผนึกมารคนใหม่ คนผู้นั้นก็คือผู้มีพระคุณของมัน!

 

หาไม่แล้วป่านนี้มันคงยังทำได้แค่พยายามต่อสู้กับเศษเสี้ยวดวงจิตของเฮยหมิงอย่างยากลำบาก เพื่อช่วงชิงสิทธิ์ในการครอบครองร่างกาย และคงไม่อาจกลับไปยังทวีปเมฆาล่องพบหน้าลูกเมียได้แบบนี้!

 

มันสงสัยใครรู้อยู่ตลอดเวลาว่าผู้มีพระคุณชั่วชีวิตคนนี้จะเป็นใคร แต่ไม่คิดเลยจริงๆว่าสุดท้ายจะเป็นลูกชายตัวเอง

 

“แต่…สถานการณ์ของเทียนเอ๋อตอนนี้มิค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร”

 

ทว่าพอนึกถึงสถานการณ์ของต้วนหลิงเทียนในตอนนี้ ต้วนหรูเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล “อีกไม่น่านทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องล่างคงระดมกำลังกันตามหาเทียนเอ๋อไปทุกที่ เพื่อชิงตราผนึกมารนั่น…”

 

ทันทีที่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนครอบครองตราผนึกมาร ต้วนหรูเฟิงก็รู้ดีถึงเรื่องที่ต้วนหลิงเทียนจะตกเป็นเป้าหมายของการแก่งแย่งชิงดี…

 

คนไม่ผิด ผิดที่ครอบครองหยก! ทันทีที่บุตรชายของมันเผยตัว ไม่พ้นต้องตกเป็นเป้าหมายของผู้คนทั่วหล้าแน่นอน!!