225 เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่225 เกือบจะเป็นเรื่องใหญ่(1)

ตอนนี้ เย็เฉินก็อยู่ในห้องผู้ป่วย กำลังคุยกับเซียวฉางควนพร้อมกับเซียวชูหรัน ภรรยาตน

ในตอนนั้นเอง ประตูห้องก็มีเสียงถีบเข้ามา

หม่าหลันผู้เป็นแม่ยายก็โมโหหัวเสียพุ่งเข้ามา

พอเข้ามา หม่าหลันก็หยิบเอาเช็คเงินสดร้อยล้านนั้น ขึ้นในมือ ทั้งสะบัดมัน ทั้งด่าออกมาว่า “ไอ้เย่เฉิน แกนี่มันชั่วจริงๆ เลยนะ ที่กล้าหลอกฉัน?!”

เย่เฉินก็อึ้ง แล้วถามอย่างสงสัยว่า “แม่ครับ แม่พูดเรื่องอะไรครับเนี่ย? ผมไปหลอกแม่ตอนไหน?”

หม่าหลันไม่สนใจเขา แล้วก็เดินไปยังตรงหน้าเซียวชูหรัน พร้อมฟ้องว่า “ลูกแม่ ลูกต้องรีบหย่ากับไอ้คนหลวงลวง คนนี้ให้เร็วที่สุดเลยนะ ไอ้คนนี้มันคิดไม่ซื่อ! มันจะแกล้งแม่ให้ตายเลยเนี่ย!”

เซียวชูหรันก็ถามอย่างไม่เข้าใจว่า “แม่คะ มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่คะ?”

หม่าหลันเอาเช็คเงินสดนั้นยัดใส่มือเซียวชูหรัน แล้วโมโหพูดว่า “ลูกดูเองแล้วกัน ไอ้ผัวชั่วของลูก มันเอาเช็คเงินสด ราคาร้อยล้านหยวนมาให้แม่ พนักงานเก็บเงินของโรงพยาบาลจะแจ้งความเอาผิดแม่ บอกว่าแม่หลอกลวง!”

“ห๊ะ………”

เย่เฉินก็ใจเต้น ไอ้….ไอ้เช็คเงินสดร้อยล้านนั้น มันเป็นเช็คที่ซ่งหวันถิงให้ตอบแทนตนเองมานี่นา………

แม่งเอ้ย น่าจะเป็นเพราะตนเองเอาใส่กระเป๋าไว้ แล้วไปรวมกับเช็คแสนแปดนั่น!

จบเห่แน่ๆ !

แล้วทีนี้จะอธิบายอย่างไรเนี่ย?

ในตอนนั้น เซียวชูหรันก็หยิบเอาเช็คขึ้นมาดู ใบหน้าก็ดูไม่ได้ขึ้นมาในทันที แล้วพูดว่า “เย่เฉิน ไอ้เช็คปลอมร้อยล้านนี่ มันอะไรกันแน่? คุณกำลังทำเรื่องที่หลวงลวงพวกนี้อยู่งั้นหรือ?”

เย่เฉินรีบอธิบาย “ไอหย๋าคุณภรรยา คุณเข้าใจผิดไปแล้ว!”

เซียวชูหรันถามอย่างขมวดคิ้วว่า “เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่? คุณอธิบายมาให้ชัดเจน!”

หม่าหลันก็พูดขึ้นด้านข้างว่า “ยังจะต้องถามอีกหรือ? ไอ้เช็คปลอมนี่ ก็คงจะเป็นอุปกรณ์ที่มันเอาไว้หลอกคนอื่นนะสิไม่ว่า สุดท้ายไม่ระวัง เอามาให้แม่ เหอะ! โชคดีที่เอาให้ฉันนะเนี่ย! ถ้าเอาไปหลอกคนอื่นจริงๆ ละก็ ตำรวจก็คงจะจับตัวมันไปยิงเป้า

ประหารชีวิตเสียแล้วละมั้ง?”

พูดจบ ก็มองไปยังเซียวชูหรัน แล้วพูดอย่างปวดใจว่า “ชูหรันเอ้ย ไอ้ไม่เอาไหนนี่ มันไปหลอกว่ามีเงินร้อยล้าน มันกล้าทำเช่นนี้ ลูกยังเชื่อมันอีกหรือ? ถ้าลูกยังไม่หย่ากับมัน บ้านเราคงจะต้องถูกมันทำลายจนสิ้นแน่!”

เซียวชูหรันก็หน้านิ่งไป มองไปยังเย่เฉิน พูดว่า “เย่เฉิน ถ้าคุณอธิบายเรื่องนี้ไม่ชัดเจนละก็ ฉันก็อาจจะพิจารณาว่าจะหย่ากับคุณ! คุณจนไปหน่อย! ไม่เอาไหนไปหน่อย ฉันก็รับได้หมด แต่ถ้าคุนไม่เดินเส้นทางที่ถูกต้อง ไปขโมยไปหลอกลวง ฉันก็อยู่กับคุณ ต่อไปไม่ได้!”

เย่เฉินหันหัวมา แล้วพูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “คุณภรรยาครับ ผมจะบอกตรงๆ เลยนะ ไอ้เช็คเงินสดราคาร้อยล้านนี่ ผมซื้อมาจากร้านอุปกรณ์ในพีธีศพ….”

“ร้านอุปกรณ์ในพีธีศพ? !” เซียวชูหรันและหม่าหลันก็นิ่งไป แล้วถามว่า “มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

เย่เฉินก็ได้ถอนหายใจพูดว่า “พ่อของผมเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ผมอายุ8ขวบแล้วใช่ไหมล่ะ? สองวันก่อนเขามาเข้าฝันผม บอกว่าอยู่ปรโลกไม่มีเงินใช้ ถูกคนรังแก ก็เลยบอกว่าให้ผมเผาเงินไปให้เขาเสียหน่อย………..”

พอพูดถึงจุดนี้ เย่เฉินก็พูดต่ออีกว่า “ผมไม่กล้าที่จะล่าช้า ก็เลยไปถามที่ร้านอุปกรณ์ในพีธีศพ เขาก็เลยแนะนำเช็คเงินสดนี้มาให้ บอกว่า ใบละร้อยล้านหยวน ใบเดียวสู้เงินแบบเมื่อก่อนได้หลายมัด ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมได้ด้วย ดังนั้นผมก็เลยจ่ายเงินสิบหยวน เพื่อซื้อมันมาหนึ่งแผ่น คิดว่าคืนนี้จะเอาไปเผาที่ทางแยก ไม่คิดว่าเมื่อครู่จะหยิบผิดไป เอาใบนี้ให้แม่เราไป………”

เซียวชูหรันถามอย่างสงสัยว่า “คุณพูดจริงใช่ไหม?”

เย่เฉินรีบพยักหน้า “จริงแท้แน่นอน คุณลองคิดดูนะ ช่วงปีนี้ทุกคนล้วนฉลาดจะตายไป ใครจะมาถูกหลอกด้วยเช็คเงินสด ราคาร้อยล้าน? เช็คร้อยล้าน แม้แต่พนักงานเก็บเงิน ก็ยังหลอกไม่ได้เลย……”

เซียวชูหรันครุ่นคิด ที่เย่เฉินพูดมาก็มีเหตุผล