ตอนที่ 728

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันคว้าตัวจูเสวี่ยนเอ๋อ และไม่สนใจคนอื่น

เหยียนเฮิงเหอ หลี่เฟิงหยู่และน้องสาวของเขาต่างเป็นศิษย์ของสำนักสวรรค์ โชคดีที่ตงหยางเหวินไม่ได้มีความบาดหมางและเพ่งเล็งไปที่พวกเขา ส่วนความเร็วของฮูหนิวและเจ้ากระต่ายไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาจึงไม่จำเป็นต้องห่วง

ประเด็นคือยิ่งมีคนน้อยเท่าไหร่ ความเร็วของหลิงฮันก็จะเร็วขึ้นเท่านั้น

หลังจากที่เขาพุ่งออกไปอย่างกับสายฟ้า ทำให้ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่น่าทึ่ง แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับจอมยุทธระดับสวรรค์

“เจ้าคิดจะวิ่งหนีงั้นรึ?” ตงหยางเหวินแสยะยิ้ม

เขารวดเร็วมาก แต่หลิงฮันก็ไม่ได้เชื่องช้าหลังจากที่ใช้ย่างก้าวเทพธิดาปีศาจ ทำให้ร่างของเขาเคลื่อนไหวเหมือนกับภูติผี และในเวลาเดียวกันเขาหันหลังกลับแล้วโจมตีออกไป

ตงหยางเหวินไม่กล้าที่จะรับการโจมตีโดยตรง เขาโคจรพลังปราณไปที่มือขวาเพื่อยับยั้งการโจมตีของหลิงฮัน

หลิงฮันเลยถือโอกาสนี้พุ่งไปข้างหน้าเพื่อหลบหนี ในขณะที่มีจูเสวี่ยนเอ๋อเอนตัวอยู่ด้านหลังเกาะเขาแน่น เขาใช้คันศรตะวันยอแสงควบแน่นพลังปราณเป็นลูกศรและยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าจะไม่ใช่ลูกศรของจริง แต่พลังของทักษะศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามทักษะก็ยังคงน่าทึ่งอยู่ดี ทำให้ตงหยางเหวินถูกบังคับให้ใช้มือปัดป้องอย่างต่อเนื่องและกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

มันเป็นความอัปยศอย่างแท้จริง ทั้งที่ความแข็งแกร่งของเขาสามารถบดขยี้หลิงฮันได้อย่างราบคาบ แต่แท้จริงแล้วเขากลับถูกอีกฝ่ายปั้นหัวและทำได้แค่จ้องมองอีกฝ่ายทิ้งระยะห่างออกไปเรื่อยๆ

แต่ทว่าความโกรธเกรี้ยวทำให้โลหิตของเขาเดือดพล่านและเพิกเฉยต่อการโจมตีของหลิงฮันอย่างสมบูรณ์ และไล่ตามหลิงฮันอย่างบ้าคลั่ง ฉึก ฉึก ฉึก แม้ว่าเขาจะถูกลูกศรพลังปราณยิงใส่ แต่มันแค่ทะลุเสื้อของเขาเท่านั้น และเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แข็งเหมือนกับแร่เหล็ก

ทุกคนในนิกายมังกรปฐพีต่างฝึกฝนบ่มเพาะกายา!

พรสวรรค์ของตงหยางเหวินนั้นไม่ได้ดีเท่าเจี่ยหมิง แต่เขาก็ไม่ได้ด้อยกว่ามิฉะนั้นเขาคงไม่ทะลวงผ่านระดับสวรรค์ และด้วยระดับพลังที่สูงกว่าเลยทำให้ร่างกายของเขามีความแข็งแกร่ง

จอมยุทธระดับสวรรค์…ช่างน่าปวดหัวเสียจริง!

หลิงฮันถอนหายใจ แต่เขาเป็นแค่จอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณเท่านั้นกลับสามารถต่อต้านจอมยุทธระดับสวรรค์ได้ขนาดนี้มันก็น่าทึ่งแล้ว หลิงฮันเลยตัดสินในนำลูกศรของจริงออกมาและยิงใส่ฝ่ายตรงข้ามด้วยพลังทั้งหมด

พลังทำลายล้างของลูกศรของจริงนั้นรุนแรงมาก แม้แต่ตงหยางเหวินยังกลัวที่จะถูกยิงและปล่อยฝ่ามือออกไปเพื่อป้องกันลูกศร

ในเวลานั้นเองหลิงฮันใช้โอกาสนี้หลบนี้อีกครั้ง และอยู่ห่างไกลจากอีกฝ่ายมาก

“สุนัขเฒ่าไร้ยางอาย เมื่อข้าทะลวงผ่านระดับก้าวสู่เทวา ข้าจะตัดหัวสุนัขอย่างเจ้า!” หลิงฮันพูดทิ้งท้ายและหันหลังจากไปอย่างรวดเร็ว

ฮูหนิวเองก็แสดงสีหน้าบูดบึ้งและพูดว่า “สุนัขเฒ่า ครั้งหน้าหนิวจะเป็นคนสังหารเจ้าเอง!”

เจ้ากระต่ายรู้สึกว่ามันบริสุทธิ์ มันไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย แล้วทำไมมันต้องวิ่งหนีด้วย? มันพูดออกมาด้วยความไม่พอใจว่า “ทำไมข้าต้องหนีไปกับเจ้าด้วย? นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”

“เจ้าขโมยสมุนไพรมามากมาย แม้จะทำผิดหนึ่งครั้งหรือสองครั้งมันก็เป็นความผิดเหมือนกัน” หลิงฮันหัวเราะ

ตงหยางเหวินไล่ตามหลิงฮันอีกครั้ง แต่เป็นเพราะระยะห่างระหว่างพวกเขามันไกลเกินไป ทำให้เขาสูญเสียร่องรอยที่จะตามหลิงฮันไป

หลังจากที่หลิงฮันวิ่งหนีมาเป็นเวลานาน เขาจึงเริ่มชะลอความเร็วลง จากแผนที่พวกเขาน่าจะอยู่ใกล้สวนสมุนไพรแล้ว

“เจ้ากระต่าย เบื้องหน้ามีสวนสมุนไพรอยู่ เจ้ารู้สึกตื่นเต้นหรือไม่?” หลิงฮันถาม

เจ้ากระต่ายกลืนน้ำลาย แต่มันก็ยังคงทำเป็นเค้นเสียงออกมาและพูดว่า “เจ้าคิดว่าข้าไม่เคยเห็นสวนสมุนไพรมาก่อนหรือไง ทำไมข้าจะต้องตื่นเต้นด้วย?”

ในขณะเดียวกัน หนูทองคำปีนขึ้นมาอยู่บนหน้าอกของหลิงฮัน ดวงตาของมันเต็มไปด้วยความคาดหวัง ราวกับว่าจะเจอสมุนไพรอะไรอย่างกับเด็ก

“หนิวอยากเห็นสวนสมุนไพร!” ฮูหนิวกล่าว

เมื่อได้ยินหลิงฮันเหงื่อเย็นเริ่มท่วมตัว มีคนสี่คนอยู่รอบตัวเขา แต่มีสามคนที่กินจุก

พวกเขามุ่งไปข้างหน้าจนกระทั่งทะเลทรายหายไปและมีป่าไม้เขียวชอุ่มกับทุ่งหญ้าปรากฏอยู่เบื้องหน้า และมีกำแพงล้อมรอบที่พังทลายอยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

“นี่…ยังเป็นสวนสมุนไพรอยู่อีกหรือ?”  หลิงฮันพูดพึมพัม

แม้ว่าสมุนไพรจะเป็นที่รักของสวรรค์และปฐพี แต่ก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับการเจริญเติบโตดังนั้น สวนสมุนไพรจะแบ่งออกเป็นพื้นที่นับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละพื้นที่จะมีรูปแบบอาคมเฉพาะอยู่ที่จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสมุนไพร

อย่างไรก็ตาม ที่นี่มันได้รับความเสียหายรุนแรงเกินไป รูปแบบอาคมส่วนใหญ่คงจะถูกทำลายไปแล้ว หากเป็นแบบนั้นสมุนไพรเองก็จะต้องถูกทำลายไปด้วย และเมื่อมองไปจะเห็นว่ามันมีแค่ต้นไม้และดอกไม้ธรรมดาเท่านั้น

แต่บางทีอาจจะมีสมุนไพรบางอย่างหลงเหลืออยู่ แต่ถ้าต้องการหามันให้เจอโอกาสคงจะมีน้อยมากกว่าครึ่ง

“เจ้ากระต่าย ถึงตาเจ้าออกโรงแล้ว” หลิงฮันกล่าว

“ออกโรงบ้านป้าเจ้าสิ ข้าไม่ใช่สุนัข!” เจ้ากระต่ายรีบพูดโต้กลับทันที

“ออกไปหามัน!” ฮูหนิวพูดด้วยสีหน้าดุเดือดและจ้องไปที่เจ้ากระต่าย “หรือจะให้ข้ากินเจ้า!”

เจ้ากระต่ายไม่ได้หวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับฮูหนิว และเมื่อได้ยินคำพูดของนาง มันรีบใช้จมูกดมกินหาสมุนไพรทันที

อย่างไรก็ตามที่แห่งนี้กว้างใหญ่เกินไป แม้เจ้ากระต่ายจะมีจมูกสุนัข แต่ก็ไม่สามารถหาสมุนไพรเจอได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาเดินวนไปวนมาไม่หยุด และเจ้ากระต่ายก็ส่ายหัวอยู่ตลอดเวลาบ่งบอกว่าไม่ได้กลิ่นสมุนไพรเลยแม้แต่น้อย

หลังจากผ่านไปสามวัน พวกเขาก็ยังไม่เจอสมุนไพรแม้แต่ต้นเดียว พวกเขาเลยตัดสินใจที่จะออกไปจากที่นี่และไปที่ตำหนักตำรา

พวกเขาหันหน้าไปในทิศที่ตำหนักตำราตั้งอยู่และเดินหน้าต่อไป หลังจากผ่านไปครึ่งวัน มีพระราชวังอยู่ด้านหน้าของพวกเขา ซึ่งแต่ก่อนมันน่าจะงดงามมากทีเดียว แต่ตอนนี้มันถูกทำลายแทบจะราบคาบและห่างออกไปพวกเขาเห็นร่องรอยของสัตว์อสูร

พวกเขาเลยตัดสินใจเดินไปที่พระราชวังด้วยความระมัดระวังอย่างมาก สัตว์อสูรที่ปรากฏที่นี่ไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งกว่าจอมยุทธ ดังนั้นพวกเขาจะต้องไม่ประมาท

แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร ซึ่งสัตว์อสูรระดับสวรรค์เป็นตัวตนที่หลิงฮันไม่สามารถต่อกรด้วยได้ในตอนนี้

“ทิศของตำหนักตำรา…อยู่ตรงนั้น!”  หลิงฮันมีแผนที่ที่ได้รับมาจากราชินีหยิน และเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเดินไปทิศทางไหน เขาจะเป็นคนเดินนำ

ตำหนักมีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่สำคัญว่ามันมีขนาดใหญ่แค่ไหน ในไม่ช้าพวกเขาทั้งสามคน เจ้ากระต่ายและเจ้าหนูก็อยู่ด้านหน้าตำหนัก

มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงแค่สามชั้นเท่านั้นมันไม่ได้ใหญ่เกินไป แต่ดู “เล็ก” ไปเลยเมื่ออยู่ในพระราชวัง แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งก่อสร้างเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย

แต่เนื่องจากคุณลักษณะของมันทำให้มีผู้คนมากมายถูกดึงดูดให้มาที่นี่ และมีผู้คนมากมายรวมตัวอยู่ที่นี่แล้ว

หลิงฮันมองไปที่ตำหนักตรงที่มีแผ่นป้ายแขวนอยู่ มันเขียนไว้ว่า “ตำหนักตำราหลางหยา”