หรือว่าข้าจะมาช้า?
หลิงฮันกวาดสายตามอง มีผู้คนอยู่ที่นี่แล้วอย่างน้องหนึ่งร้อยคน และพวกเขากำลังยืนอยู่ด้านนอกตำหนัก และไม่แน่ใจว่ามีคนอยู่ข้างในกี่คน
“พี่ชาย ข้าขอถามอะไรหน่อย สถานการณ์ที่นี่เป็นยังไงบ้าง?” หลิงฮันเดินถามใครบางคน
หลิงฮันโชคดีที่ถามถูกคน อีกฝ่ายเริ่มเปิดปากพูดทันทีและบอกเรื่องที่เขาอยากจะรู้
นี่คือตำหนักตำราซึ่งมีทักษะลับและเทคนิคบ่มเพาะพลังมากมาย ตำราลับเหล่านั้นจะถูกห่อหุ้มด้วยลูกบอลแสงอยู่บนท้องฟ้า วิธีการที่จะได้มันมาคือจะต้องคว้ามันมาและทำลายลูกบอลแสง แล้วตำราลับก็จะตกเป็นของคนผู้นั้น
ทุกคนสามารถเข้าไปข้างในได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น และอยู่ได้นานที่สุดคือหนึ่งวัน แต่หากได้รับตำราลับมาแล้วจะถูกส่งออกมาทันทีแม้จะไม่ถึงเวลาก็ตาม
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “ไม่ใช่ว่ามีจอมยุทธระดับทลายมิติอยู่ที่นี่หรอกหรือ? มันจะไม่ง่ายกว่าหรือที่จะทำลายตำหนักตำราแล้วเก็บทีเดียว?”
ชายคนนั้นหัวเราะและพูดว่า “เจ้าหนุ่ม เจ้าโชคดีแล้วที่มาถามข้าคนนี้ มิฉะนั้นคงไม่มีใครตอบคำถามของเจ้าได้!” เขาลดระดับเสียงลงทำให้มันดูลึกลับแล้วพูดว่า “ข้าจะบอกอะไรให้ ตำหนักนี่มีรูปแบบอาคมอยู่และเมื่อใดที่รูปแบบอาคมถูกทำลาย ตำราลับที่อยู่ข้างในก็จะถูกทำลายไปด้วย”
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึง ถ้าใช้กำลังก็จะไม่ได้รับอะไรเลย และทำได้แค่ทำตามกฎ ไม่ใช่ว่าจอมยุทธระดับทลายมิติไม่สามารถทำลายรูปแบบอาคมนี้ได้ แต่เป็นเพราะว่าถ้าทำลายรูปแบบอาคมทักษะและเทคนิคลับก็จะถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นจอมยุทธระดับทลายมิติจึงไม่มีทางเลือกอื่น
“ขอบคุณมากพี่ชาย” หลิงฮันพยักหน้าให้กับชายคนนั้นและหันหน้าไปหาจูเสวี่ยนเอ๋อกับคนอื่นแล้วพูดว่า “พวกเราเองก็เข้าไปลองเสี่ยงโชคกันเถอะ”
พวกเขาเดินเข้าไปอยู่ในกลุ่มฝูงชนและได้เข้าไปในตำหนัก
นี่มันอะไรกัน!
ทันใดนั้น หลังจากที่พวกเขาก้าวเข้ามาในตำหนัก พวกเขาก็เผยสีหน้าประหลาดใจ เพราะมันเต็มไปด้วยดวงดาวอยู่บนท้องฟ้า ในสภาพแวดล้อมที่มืดทำให้แสงที่อยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับดวงตาที่เปล่งประกาย
เมื่อจับตามองอย่างใกล้ชิดมันจะมีตำราลับถูกห่อหุ้มด้วยลูกบอลแสงอยู่ด้านในเหมือนกับที่ชายคนนั้นพูดไว้ก่อนหน้านี้
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ท้องฟ้าของจริง ถ้ามองแวบแรกจะรู้สึกว่ามันมีขนาดใหญ่มาก แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ใหญ่มากนักและมีความสูงประมาณห้าสิบฟุต สำหรับจอมยุทธแล้วขนาดและความสูงดังกล่าวไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อหลิงฮันพยายามที่จะกระโจนขึ้นไป เขาพบว่ามีพลังบางอย่างผลักดันเขาลงมาและความเร็วของเขาเองก็ลดลงอย่างมาก
หรือว่านี่จะเป็นความยากลำบากที่จะได้รับตำราทักษะและเทคนิคลับ
เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างตำหนักตำรานี่ แต่มันค่อนข้างน่าอัศจรรย์ทีเดียว
– ความเป็นไปได้ที่อ้วนหม่าเป็นคนสร้างนั้นสูงมากและคนคนนี้มีความลับที่ปกปิดไว้อยู่อีกมากมาย
เมื่ออยู่ที่นี่ความเร็วของทุกคนจะลดลงเท่ากับความเร็วของคนทั่วไป และกระโดดได้ไม่สูง ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะโดดไปถึงลูกบอลแสงที่อยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตามจะมีลูกบอลแสงจะมีลูกบอลแสงตกลงมาบนพื้นเป็นครั้งคราว ซึ่งยังพอมีโอกาสที่จะจับมันได้
แต่มันก็ขึ้นอยู่กับโชคด้วย เพราะสถานที่แห่งนี้ยังคงกว้างใหญ่อยู่ดี ถ้าไม่อยู่จุดที่มันจะตกก็จะไม่สามารถคว้ามันมาได้
หลิงฮันกวาดสายตามองลูกบอลแสงในอากาศ เนื่องจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกมันรวดเร็วเกินไปและมีจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะมองดูสิ่งที่อยู่ในลูกบอลแสง ด้านในมีเพียงแค่คำไม่กี่คำเท่านั้นที่อยู่ด้านใน ซึ่งเขาเชื่อว่ามันน่าจะเป็นชื่อของทักษะลับพวกนั้น
หลิงฮันจึงเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรมและค้นหาลูกบอลแสงเหล่านั้นจริงจัง
“เจอแล้ว!” หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหลิงฮันก็เพ่งเล็งไปที่ลูกบอลแสงลูกหนึ่งและชื่อที่ปรากฏของมันคือผนึกพลิกปฐพี
แม้ว่าเขาจะใช้เนตรแห่งสัจธรรม แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่กว่าจะหามันเจอ ถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงไม่สามารถแยกความแตกต่างลูกบอลแสงแต่ละลูกได้ หากลูกบอลแสงพุ่งเข้ามาหา พวกเขาก็แค่รับมันไว้ ซึ่งไม่มีทางรู้เลยว่าได้รับทักษะลับอะไรมา
ตอนนี้ลูกบอลแสงนั่นลอยอยู่สูงมาก หลิงฮันเลยลองใช้ทองคำก่อเกิดผลาญโลหิตดู แต่ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วเกินไปที่จะจับทัน
ไม่ มันจะต้องมีวิธีที่จะได้รับมันมา
หลิงฮันจับตามองด้วยความระมัดระวังและไม่เร่งรีบ เขากลับว่าจะไปโดนลูกบอลแสงลูกอื่นเข้าโดยบังเอิญและนั่นจะทำให้เขาถูกส่งออกไปจากตำหนักตำรา
“เย้ หนิวจับได้แล้ว!” ฮูหนิวพูดออกมาอย่างมีความสุข นางเป็นคนที่โชคดีมาก ลูกบอลแสงมันตกลงมาหานางเอง และแน่นอนว่านางจะต้องหยิบมันขึ้นมา
พรึบ ฮูหนิวถูกส่งออกไปจากตำหนักตำราทันที
หลิงฮันเพ่งสายตาไปที่ลูกบอลแสงที่ห่อหุ้มทักษะผนึกพลิกปฐพีอีกครั้ง
หลังจากที่สังเกตดูมันอยู่ครึ่งมัน เขาพบว่ารูปแบบการเคลื่อนที่ของมันมีความซับซ้อนมากและเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาการเคลื่อนที่ของมัน
“จุดที่มันจะตกต่อไปคือ….ตรงนั้น!” หลิงฮันรีบวิ่งไปที่ที่เขาคำนวณเอาไว้ทันที แต่เมื่อเขาวิ่งไปได้ครึ่งทางมีคนผู้หนึ่งยืนขวางทางเขาอยู่
“โปรดหลีกทางให้ข้าด้วย!” หลิงฮันเปิดปากพูด เขาโค้งคำนับและเดินผ่านอีกฝ่ายไป
เมื่อเขาเดินผ่านไป ด้านหน้าเขาลูกบอลแสงกำลังตกลงมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงหนึ่งไมล์
ถ้าเป็นความเร็วปกติหลิงฮันจะใช้เวลาเพียงแค่ชั่วขณะเดียว แต่ตอนนี้หลิงฮันต้องเดินสามก้าว
“ฮึ่ม เจ้ากล้า!” ชายคนนั้นโกรธเกรี้ยวและโจมตีออกไปด้วยรัศมีกระบี่ใส่หลิงฮัน
เขาโค้งคำนับและพูดสุภาพด้วยแล้ว แต่อีกฝ่ายยังคิดที่จะฆ่าเขาอีก?
หลิงฮันไม่คิดที่จะเสียเวลารับมือกับอีกฝ่าย เขาเลยใช้ร่างกายรับการโจมตีของอีกฝ่ายโดยตรง
ตู้ม รัศมีกระบี่กระแทกใส่ร่างของเขา และมีโลหิตไหลออกมาจากแผ่นหลังของเขา แต่โชคดีที่เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นและกายาเพชรของเขาก็รักษาบาดแผลอัตโนมัติ
หลิงฮันยื่นมืออกไปและคว้าลูกบอลแสงที่ตกลงมา ฟิ้ว ทว่าลูกบอลกลับหลุดออกมาจากนิ้วมือของเขาและกระเด้งลงกับพื้นก่อนที่จะกลับขึ้นไปบนท้องฟ้า
อะไรกัน!
หลิงฮันถึงกับพูดไม่ออก มันเป็นเพราะการโจมตีของอีกฝ่ายทำให้แขนขาของเขาเป็นอัมพาตและทำให้ลูกบอลแสงหลุดมือไป
บัดซบ!
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าหนู นี่คือบทเรียนสำหรับเจ้า ในอนาคตอย่างได้ทำตัวหุนหันแบบนี้อีก!” ชายที่โจมตีใส่หลิงฮันพูดอยู่ด้านหลังและดูมีความสุข
อีกฝ่ายเป็นแค่รุ่นเยาว์ที่เป็นจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เกรงกลัว นั่นเป็นเพราะเขาเป็นถึงจอมยุทธที่อยู่บนจุดสูงสุดของระดับก้าวสู่เทวาและมีพลังต่อสู้มากกว่าเก้าดาว!
อีกฝ่ายเป็นแค่รุ่นเยาว์กลับกล้าที่จะเมินเฉยเขาอย่างนั้นหรือ?
หลิงฮันอยากจะฆ่าอีกฝ่าย แต่เมื่อเขาจ้องมองลูกบอลแสงที่อยู่บนท้องฟ้า ทำให้เขาล้มเลิกความคิดนั้นไป เขาจะต้องค้นหาและจับตาดูลูกบอลแสงลูกนั้นอีกครั้ง และคำนวณเวลาและจุดที่จะตกต่อไป
เขามีเวลาแค่หนึ่งวันเท่านั้นตามกฎ และนี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา