306 ผมดกดํา

ปล้นสวรรค์

SPH:บทที่ 306 ผมดกดํา

 

อาหารทั้งแปดจาน เป็นจานที่วิจิตรงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยอยู่ในอากาศทําให้เรียกน้ําย่อยได้อย่างดี หลี่อี้เฉินและซิงเหมิงอดไม่ได้ที่หันไปสนใจอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

“อาจารย์ลุง ที่ผมมองอยู่คืออะไรหรอครับ? จานนี้มันส่องสว่างได้จริงๆหรอ?”

 

ซึ่งเหมิงมองของอร่อยบนโต๊ะอย่างไม่เชื่อ พร้อมถามหลี่เฉินด้วยความตกตะลึง หน้าหลี่อี้เฉินเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาเบิกตากว้างขณะพึมพํากับตัวเองว่า

 

“จานนี้ช่างดูดี มันต้องอร่อยแน่!”

 

หลังจากที่หลี่อี้เฉินพูดจบ เขาถึงกับกลืนน้ําลายไปอีกใหญ่ หลังจากเย่หยูนั่งลง เขาก็มองสีหน้าที่กระหายของหลี่เฉินและซิงเหมิง จากนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ

 

“ตะเกียบอยู่นี่ หยิบไปได้เลยครับ!”

 

หลังจากที่เย่หยูพูดจบ เขาก็หยิบตะเกียบคู่หนึ่งและก็หยิบจานที่ใกล้ที่สุดเข้ามา

 

เสี้ยว!

 

ทันใดนั้น

 

ตะเกียบของหลี่อี้เฉินและซึ่งเหมิงก็ลอยขึ้นไปในอากาศ เกิดลมพัดแรงจนกลุ่มเมฆแตกกระจาย ทั่วทั้งโต๊ะเต็มไปในภาพๆนั้นเพราะตะเกียบ2 คู่นั้น

 

ติ้ง!ตั้งติ้ง!

 

เสียงของตะเกียบที่สัมผัสกับจานดังก้องพร้อมกัน ขณะที่พวกเขาก็เริ่มกินอาหารราวกับบรรเลงซิมโฟนีอย่างเข้าจังหวะ

 

ในขณะที่เย่หยหยิบตะเกียบค้าง แล้วหยุดตะลึงอยู่ครู่นึง ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง มองหลี่เฉินและซิงเหมิงที่เปิดการโจมตีราวกับสายฟ้า ภายในพริบตาเดียว อาหารแสนอร่อยก็ถูกจํากัดโดยพวกเขา

 

“เบร่อ…”

 

ซึ่งเหมิงวางตะเกียบของเขาลงจากนั้นก็เอนตัวพิงกับเก้าอี้ เข้าเรอออกมาคําใหญ่

 

“นี่มันอร่อยมาก ผมไม่เคยกินอาหารอร่อยไหนนี้มาก่อน!”

 

รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความพอใจปรากฏบนหน้าซึ่งเหมิงขณะมองไปที่จานที่ว่างเปล่า

 

“ชิ..”

 

หลี่อี้เฉินดูดฟัน เหยียดแขนไปหยิบไฟจิ้มฟันมาเขียฟัน จากนั้นก็พูดกับเย่หยุ

 

“อาหารนี้คงจะพบแค่บนสวรรค์เท่านั้น มันยากมากที่จะได้กินของแบบนี้บนโลกมนุษย์!”

 

“ศิษย์น้อง เทพแห่งการทําอาหารได้ชื่อว่าเป็นคนมีเมตตา!”

 

ซึ่งเหมิงรีบพยักหน้าแล้วยกนิ้วโป้งให้เย่หย

 

“อาจารย์อาเหยู คุณทําอาหารแสนอร่อยได้ยังไงครับ? พ่อครัวศักดิ์สิทธิ์? เมื่อเทียบกับอาจารย์ลุงแล้ว ผมว่าเขาไม่เหมาะจะเป็นคนถือรองเท้าด้วยซ้ํา!”

 

หลีอี้เฉินและซึ่งเหมิงหันไปมองเหยู แล้วพบว่าเหยูกําลังงงงงและมองพวกเขากลับด้วยดวงตาเบิกกว้าง

 

ทั้งคู่ยิ้มอย่างเขินๆ ตอนนี้พวกเขาเพียงนึกย้อนไปถึงตอนที่แย่งกันกินอาหารรสเลิศ นั้นเทียบได้กับวิญญาณอันชั่วร้ายที่หิวโหย

 

“พวกคุณ…ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!”

 

เย่หยลังเลสักครู่ แต่ก็หาคําพูดที่ดีมาอธิบายไม่ได้

 

“แค่กแค่ก!”

 

ใบหน้าหล่อี้เฉินเริ่มแดง เดิมที่เขาเพียงแค่ต้องการรักษาศักดิ์ศรีในฐานะผู้อาวุโส แต่สุดท้ายศักดิ์ศรีของเขากลับถูกกวาดหายไปหมด ในที่สุดเขาก็เป็นเพียงแค่ชายแก่ผู้หนึ่ง หลังจากที่หลอี้เฉินไอแห้งสองสามครั้ง เขาก็ลูบเคราพลางหัวเราะพลาง

 

“ในโลกใบนี้มีเพียงดาบและอาหารเลิศรสเท่านั้นที่ฉันยอมรับ!”

 

“ผมด้วย!”

 

ซึ่งเหมิงมองหลี่เฉินอย่างเย้ยหยันก่อนที่จะยิ้มให้เขาอย่างง่ายๆและจริงใจ

 

“พอได้แล้ว!”

 

เย่หยหัวเราะแล้วโบกมือ

 

“ได้เห็นพวกคุณสนใจอาหารอันเลิศรส ผมก็รู้สึกดีมากเช่นกัน”

 

“แต่ผมยังไม่ได้เสริฟอาหารหลักจานสุดท้ายเลย คุณแน่ใจหรอว่ายังกินไหวอยู่?”

 

หลีอี้เฉินและซึ่งเหมิงตาสว่างขณะร้องตะโกนออกมาพร้อมกัน

 

“ยังมีอีกหรอ?”

 

นั่งคู่นั่งตัวตรงมองกันและกัน พวกเขาหลับตาเพื่อกระตุ้นโลหิตและลมปราณเพื่อเร่งการย่อยและดูดซึมอาหาร

 

หลังจากนั้นสักพัก

 

หลี่อี้เฉินและซึ่งเหมิงก็ลืมตาและหัวเราะเล็กน้อย

 

“อาหารในท้องย่อยหมดแล้ว มีอะไรให้กินอีกไหม? รีบเอาออกมาเร็วเข้า!”

 

เย่หยูทําหน้ายิ้ม เขาเข้าใจคนตะกละสองคนนี้อย่างลึกซึ้ง เขายืนขึ้นแล้วหันกลับเข้าไปในห้องครัว หลังจากนั้นไม่นาน เย่หยูก็เดินออกมาพร้อมถ้วยสองชาม

 

ตุบ!ตุบ!

 

เย่หยวางถ้วยทั้งสองลงตรงหน้าหลี่อี้เฉินและซึ่งเหมิง จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า

 

“นี่คือโจ๊กแปดสมบัติที่ผมทํา ลองชิมดูครับ ผมไม่ทําให้ผิดหวังหรอก!”

 

เมื่อเทียบกับจานที่สว่างไสวก่อนหน้านั้น โจ๊กแปดสมบัติสองถ้วยนี้ดูธรรมดามากไปเลย

 

ซึ่งเหมิงมองถ้วยโจ๊กแปดสมบัติด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง

 

“อ่า! อาจารย์อาเหยู โจ๊กถ้วยนี้มันไม่ดีเท่าอีกอันหนึ่งที่อาจารย์อาทํานี่!”

 

พวกเขาทั้งคู่ต่างทําปากยู่ ซึ่งเหมิงพูดต่อ

 

“หลังจากที่กินอาหารที่อาจารย์อาทํา แล้วมาดูโจ๊กถ้วยนี้สิ ผมรู้สึกเหมือนจะไม่หิวเลยสักนิด

 

เขาหันไปมองหลี่อี้เฉินและซิงเหมิงแล้วกลอกตาใส่

 

“ท่านอาจารย์อา ทําไมพวกเราไม่ให้โจ๊กถ้วยนี้กับอาจารย์ลุงดีกว่าหละ?”

 

หลี่อี้เฉินจองซึ่งเหมิง

 

“แกนี่ช่างเป็นหลานที่อกตัญญเสียจริง!”

 

“แล้วไง!”

 

หลี่อี้เฉินถอนหายใจ โจ๊กนี้เย่หยูเป็นคนทํา ถึงแม้ว่ามันจะดูหน้าตาไม่ดี แต่เขาก็อดไม่ได้ที่ต้องรักษหน้าเย่หยู หลี่เฉินยกถ้วยขึ้นมา ยกขึ้นมาใกล้ปากและซิมเพียงเล็กน้อย

 

“หืม?”

 

หลี่อี้เฉินพยักหน้าพร้อมเสียงที่เป็นนัยและคลางแคลงและหลังจากนั้นก็กลืนโจ๊กไปอีกคําใหญ่

 

“อืม”

 

หลี่อี้เฉินหลับตาเพื่อลิ้มรสถึงรสชาติ คิ้วของเขาย่นลงขณะใบหน้าที่สบายๆก็เริ่มปรากฏขึ้นแทนอีก!

 

หลี่อี้เฉินลมตาทันทีและเทโจ๊กอีกครึ่งเข้าปากไปเต็มๆ

 

“อื้ม!”

 

หลี่อี้เฉินวางถ้วยลง จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิแล้วหลับตาจดจ่ออยู่กับการไหลเวียนของโลหิตและลมปราณ หลังจากนั้นสักพักก็มีควันสีขาวลอยออกมาจากหัวของเขา

 

ฟู…

 

เสียงคล้ายกับคลื่นกระแทกหินดังมาจากร่างหลี่อี้เฉิน นี่เป็นเสียงของพลังชีวิตและโลหิตในร่างของหลี่เฉิน ที่กําลังไหลพล่านไปทั่วร่างกาย มองไปด้านข้างเป็นซึ่งเหมิงที่ตาเบ็กกว่างจ้องไปยังหลี่อี้เฉินอย่างไม่เชื่อ

 

“พลังนี้..พลังโลหิตนี่มัน!”

 

ซึ่งเหมิงไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองที่กําลังจ้องการไหลเวียนของพลังโลหิตในร่างของหลี่อี้เฉิน เขาร้องอุทานออกมาด้วยความช็อค

 

“พลังโลหิตของอาจารย์ลุงกลับมาทรงพลังตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”

 

ซึ่งเหมิงรู้สภาพของหลี่อี้เฉินดี เมื่อตอนเขายังเด็ก เลือดของหลี่อี้เฉินนั้นเต็มเปี่ยม พลังโลหิตของเขาเหมือนดวงอาทิตย์ที่กําลังโชติช่วง แต่หล่อี้เฉินอายุมากแล้ว พลังโลหิตของเขาก็ลดลงเพราะความสามารถในการต่อสู้เขาเข้าสู่ขั้นขอบเขตดินแดนเทพเจ้า เขาจึงอยู่ได้ อย่างไรก็ตามพลังโลหิตในร่างหลีอี้เฉินลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้หลายครั้งจนถึงจุดที่ไม่สามารถเปรียบกับพลังโลหิตของซิงเหมิงได้

 

“อูววว…”

 

แต่ตอนนี้ซึ่งเหมิงพบว่าพลังโลหิตในกายหล่อี้เฉินนั้นแข็งแกร่งมากกว่าเขาแล้ว!

 

“นี่เป็นเพราะโจ๊กถ้วยนั้นหรอ?”

 

แววตาตกตะลึงของซิงเหมิง เขาจ้องไปยังถ้วยโจ๊กแปดสมบัติที่อยู่บนโต๊ะ เขาคิดถึงเหตุผลอื่นไม่ได้นอกจากเหตุผลนี้

 

“หึ!”

 

หลี่อี้เงินลืมตาทันที แสงวิบวับก็ส่องแสงออกมาจากดวงดาของเขา

 

“ดี! โจ๊กแปดสมบัติช่างดีอะไรเช่นนี้!”

 

สายตาของหล่อี้เฉินฉายความตกตะลึงและปลาบปลื้มขณะปรบมือซ้ําแล้วซ้ําเล่า แล้วชื่นชม

 

“อาจารย์ลุง…ผมของคุณ”

 

ซึ่งเหมิงมองหลี่เฉิน คนรุ่นเยาว์ตัวคดเกร็ง เขาชี้ไปที่ผมหล่อี้เฉินและตกตะลึงจนพูดไม่ออก

 

หลี่อี้เฉินอดลูบผมไม่ได้ เขายากที่จะปกปิดรอยยิ้มบนใบหน้า หลี่อี้เฉินผู้ซึ่งอายุหนึ่งร้อยปีผมก็เกือบจะขาวหมด ตอนนี้ผมขาวทั้งหลาบกลับกลายเป็นสีด่า!

 

เขามองเหยอย่างไม่เชื่อ แววตาหลี่เฉินเปล่งประกาย

 

“เย่หย โจ๊กนี่มีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

“ขอบคุณสําหรับโจ๊กชามนี้ ฉันคงอยู่ได้นานอีกหน่อย!”

 

ปัง!

 

ซิงเหมิงตบโต๊ะเสียงดังและลุกขึ้นอย่างตื่นเต้น

 

“นี่พูดเรื่องจริงหรอ อาจารย์ลุง?”

 

เขาถามเสียงทุ่ม มันเป็นไปได้จริงๆ…

 

หลี่อี้เฉินพยักหน้าแล้วพูดปนตื่นเต้นว่า

 

“ใช่แล้ว! โจ๊กชามนี้ของเย่หยถูกใส่พลังอันแข็งแกร่งและพลังโลหิต!”

 

“พลังโลหิตนี้เป็นเหมือนอาหารบํารุง มันบํารุงร่างกายที่ทรุดโทรมของฉัน มันสามารถช่วยให้ฉันได้อยู่นานขึ้นได้จริงๆ!”