305 โจ๊กแปดขุมทรัพย์

ปล้นสวรรค์

SPH:บทที่ 305 โจ๊กแปดขุมทรัพย์

 

ซึ่งเหมิงมองเย่หยูด้วยสีหน้าที่สับสน แววตาสะท้อนให้เห็นถึงความช็อค อิจฉาและความผิดหวัง

 

“เย่หยู ฉันไม่เคยคิดเลยว่านายจะรวมพลังจิตวิญญาณได้จริงๆ แต่ฉันยังคงห่างไกลมันนัก!”

 

เย่หยุมองสีหน้าที่ผิดหวังของซึ่งเหมิงแล้วกล่าวกับเขาอย่างอ่อนโยนว่า

 

“คณไม่จําเป็นต้องสิ้นหวังแต่อย่างใด ในความคิดของผม คุณเหลือเพียงแค่ครึ่งก้าวจากการกลั่นเมล็ดพลังจิตของคุณ”

 

“เมล็ดพลังจิตวิญญาณ?”

 

ซึ่งเหมิงมองมองเย่หยูอย่างอยากรู้

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

“หลังจากที่ผมกลั่นพลังจิตวิญญาณ พลังจิตวิญญาณในพลังจิตผมจะกลายเป็นเมล็ด รอสักพักเปลือกก็จะแตกออก!”

 

“นี่คือระดับปัจจุบันของผม ระดับต่อไปผมคงต้องถามท่านอาวุโสเท่านั้น”

 

เมื่อเห็นซิงเหมิงสับสน เย่หยูจึงอธิบาย

 

หลี่อี้เฉินพยักหน้า

 

“ใช่แล้ว! ขั้นแรกคือการกลั่นเมล็ดพลังจิตวิญญาณ ขั้นต่อมาคือทําให้ผู้ใช้วรยุทธ์นั้นเข้าใจและเข้ากันกับเมล็ดพลังจิตวิญญาณ และจากนั้นก็ฝึกฝนเจตจํานงจิตของตนเอง!”

 

“งั้น วิธีนี่มัน…”

 

ซึ่งเหมิงถอนหายใจ ส่ายหัว

 

“ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่จะสามารถกลั่นเมล็ดแห่งจิตได้!”

 

เย่หยุตบบ่าซึ่งเหมิงและพูดอย่างอ่อนโยน

 

“อย่ากังวลไป ผมจะช่วยคุณเอง!”

 

ซึ่งเหมิงส่ายหัว ไม่พูดอะไร

 

การกลั่นพลังจิตสามารถทําได้ด้วยตัวเอง เขาจะให้คนอื่นมาช่วยได้อย่างไรกัน?

 

ซึ่งเหมิงเชื่อว่าเย่หยุแค่พยายามจะปลอบใจ เย่หยูมองทะลุความในใจของซิงเหมิง แต่ก็ไม่ได้อธิบายสิ่งใด

 

ตราบใดที่เหมูสามารถสื่อสารกับโลกนั้นได้อีกครั้ง มันก็มีโอกาสสูงที่เขาจะได้รับคริสตัลนั้นอีกครั้ง เมื่อเวลามาถึง การช่วยซึ่งเหมิงกลั่นพลังจิตวิญญาณก็จะง่ายเหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก!

 

“ศิษย์น้อง!”

 

หลี่อี้เฉินฟื้นจากอาการช็อค ถอดใจแล้วถามเย่หยว่า

 

“ตั้งแต่ที่นายกลั่นเมล็ดพลังจิตวิญญาณ สิ่งที่สําคัญที่ต้องทําที่สุดคือท่าให้วรยุทธ์ของนายแข็งแกร่ง เข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งนายมีใจมุ่งมั่นและมีเจตจํานงของตนเอง!”

 

เย่หยูพยักหน้า

 

“ผมเข้าใจครับ ศิษย์พี่”

 

“อื้ม!”

 

หลอี้เฉินพยักหน้าเล็กน้อย

 

“สําหรับกระบวนดาบแห่งสวรรค์ ฉันไม่มีอะไรแล้วที่จะสอนนาย!”

 

หลี่อี้เฉินมองเย่หยูแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ญาณของเย่หยูนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ

 

“กระบวนดาบของนายนั้นเหนือกว่าระดับฉันไปแล้ว ดูเหมือนว่ารับนายมาเป็นศิษย์ฉันนั้นเป็นตัวเลือกที่ดี!”

 

หลี่อี้เฉินมองไปบนฟ้า จากนั้นก็หันไปถามซึ่งเหมิง

 

“ซ่งเหมิง นี่มันก็สายแล้ว ไปท่าอาหาร!”

 

“ทําอาหาร?”

 

ซึ่งเหมิงจ้องหลี่อี้เฉิน

 

“ลุงอยากให้ผมทําอาหารงั้นหรอ?”

 

หลี่อี้เฉินปรายตามองไปข้างซึ่งเหมิง

 

“มีอะไร? นายเป็นศิษย์ ถ้านายไม่อยากทํา จะให้ฉันท่าอาหารให้อาจารย์อาเยู่ของนายเหรอ?”

 

ซึ่งเหมิง ก้มหน้าแล้วกระซิบบ่น

 

“แต่ฉันแค่ต้มน้ําเป็น!”

 

เย่หยุที่ยนอยู่ข้างๆมองสีหน้าเป็นทุกข์ของซิงเหมิง รอยยิ้มก็สะท้อนในดวงตาของเขา

 

“แล้วถ้าให้ผมเป็นคนทําหละ!”

 

“นั้นยอดเยี่ยม!”

 

“ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์อาเย่!”

 

ซึ่งเหมิงประกบมือเข้าหากันทันทีและคารวะเย่หยูอย่างขอบคุณ

 

หล่อี้เฉินจ้องดุซึ่งเหมิงก่อนที่จะพูดกับเย่หยู

 

“นายไม่จําเป็นต้องไป เด็กเหลือขอนรนหาเรื่อง!”

เย่หยูโบกมือแล้วพูดกับหลี่อี้เฉิน

 

“ผมคิดว่ามันดีกว่าถ้าเป็นผม ผมทําอาหารอร่อยนะ ดังนั้นผมจึงกินอาหารฝีมือคนอื่นไม่ค่อยได้!”

 

“ก็ไม่เห็นจําเป็นต้องอวดอ้างเลยอาจารย์อา! ถึงแม้จะทําอาหารอร่อย แต่ถึงขนาดด็จนไม่กินอาหารของคนอื่นไม่ได้เลยหรอ?”

 

เย่หยุพยักหน้าแล้วพูดว่า

 

“แน่นอน ไม่อย่างนั้นผมจะกล้าเรียกตัวเองว่าพ่อครัวศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร”

 

“งั้นก็ไปกันเถอะ ฉันอยากจะเห็นฝีมือของอาจารย์อาแล้ว”

 

“ในอดีต ฉันเคยชิมอาหารของเหยียนเอ่อ ของอร่อยในปักกิ่ง และไม่รู้มาก่อนเป็นพ่อครัวระดับใดกัน? แต่ไม่เคยมีใครกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นพ่อครัวศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ!”

 

เย่หยมองไปรอบๆห้องครัวอันหรูหรา แววตาของเขาสะท้อนเห็นรอยยิ้ม ใครจะไปคิดว่าศิษย์พี่ผู้นี้จะเป็นคนตะกละ!

 

เมื่อให้เทียบกับลานที่เรียบง่ายและไร้การตกแต่ง ห้องครัวนี้ดูหรูหราอย่างมาก เตาอบล้ําสมัย น้ํามันสําหรับ ปิ้งย่าง โต๊ะอาหารคุณภาพดี ส่วนผสมที่พรั่งพร้อม ที่นี่มีส่วนผสมมากมายหลากหลาย ตู้อาหารในห้องครัวจริงๆมีสมุนไพรที่ใช้สําหรับทําอาหารเป็นยาได้!

 

“ดูเหมือนว่าฉันต้องแสดงฝีมือสักหน่อยแล้ว!”

 

เย่หยูพึมพํากับตัวเองจนเริ่มยุ่ง

 

ภายในโถงห้องนั่งเล่น หลี่อี้เฉินและซิงเหมิงต่างคนต่างถือถ้วยชาของตนนั่งอยู่บนโซฟาอีก!

 

ซึ่งเหมิงจิบชาเข้าปาก ตาของเขาปรายไปมองที่ห้องครัวอย่างไม่รู้ตัว

 

“อัยหยา ฉันสงสัยว่าอาจารย์อาเย่จะทําอาหารได้ดีแค่ไหน เขาจะทําได้ดีอย่างที่เขาพูดไหมนะ!?”

 

หลอี้เฉินพูดเบาๆว่า

 

“ถ้านายอยากรู้ งั้นก็ไปช่วยเขาสิ!”

 

“สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการไปที่ห้องครัว

 

เขาพูดพลางหัวเราะพลาง

 

“โดยเฉพาะห้องครัวของท่านลุง! ผมไม่สามารถจ่ายไหวถ้าเกิดอะไรขึ้น!”

 

ซึ่งเหมิงปรายตามอง เขาเข้าไปใกล้หล่อี้เฉินแล้วกระซิบ

 

“อาจารย์ลุง ท่านไม่อยากรู้จริงๆหรอ?”

 

“ฉันคิดว่านายแค่กินน่าจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นห้องครัวของฉันคงพังแน่!”

 

“แค่กแค่ก!”

 

หลอี้เฉินไอแห้งสองสามครั้งก่อนจะจ้องซิงเหมิง

 

“ร้อนใจไปไย!? รออีกไม่นานหรอก!”

 

ชั่วชีวิตของหลี่อี้เฉิน มีสองสิ่งที่เขารักมากที่สุด การฝึกดาบและของอร่อย!

 

เมื่อมองเข้าไปในครัว หลี่อี้เฉินนิ่งสงบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทานอาหารกับศิษย์น้อง ดังนั้นเขาจึงไม่ละเลยอย่างแน่นอน!

 

ในห้องครัว แสงจากดาบหยุดลง เย่หยูกําลังสนใจกับการทําอาหารจานสุดท้ายอยู่

 

โจ๊กแปดสมบัติ!

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเขาได้ใช้พลังจิตของเขาตรวจสอบโลกข้างนอก เย่หยูก็พบว่าพลังโลหิตในร่างกายของหลี่อี้เฉินนั้นไม่แข็งแรง บางที่อาจเป็นเพราะหลีอี้เฉินอายุมากแล้ว พลังโลหิตเลยลดลง และพลังโลหิตในร่างกาย เขาไม่แข็งแรงเท่าซิงเหมิง

 

ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของหลอี้เฉินจะไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณพลังงานในโลหิตของเขาอีกต่อไป แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้จะไม่สําคัญ อย่างไรก็ตาม พลังของโลหิตที่มากขึ้นก็ยังคงมีประโยชน์ อย่างน้อยที่สุด ก็ช่วยให้หลี่อี้เฉินอยู่ได้อีกสองสามปี!

 

ดังนั้น เย่หยุจึงตัดสินใจที่จะทําอาหารเองเพื่อทําอาหารวิเศษบํารุงพลังชีวิตและโลหิตของเขา!

 

เขาเลือกสมุนไพรอย่างเช่น แอสทรากาสัลและโสมจีนที่สามารถบํารุงพลังชีวิตและโลหิต ผสมเข้ากับแปดธัญพืช และเสริมด้วยความสามารถพิเศษของพ่อครัวศักดิ์สิทธิ์

 

ควบคู่ไปกับกระบวนฝึกตน นี่เป็นครั้งแรกที่ใช้กระบวนวิชาในการเปลี่ยนเป็นยา!

ท้ายที่สุด ยาสุดประณีตก็ปรากฏ

 

โจ๊กแปดสมบัติ!

 

อีก!

 

พลังของสายฟ้าก็โผล่ออกมาจากร่างเย่หยู มือของเขากลายเป็นตราประทับ และกระแสพลังของสายฟ้ากลายเป็นยันต์รอบตัวเย่หยู

 

“หึ!”

 

เสียงตะโกนหุ้มต่า ยันต์สายฟ้ารอบตัวเย่หยูส่องแสงริ้วยาวส่องเข้าไปในหม้อความดันบนเตา

 

วิธีการฝึกตน: กระบวนการสกัดยาขั้นหนึ่ง!

 

ทักษะการเล่นแร่แปรธาตุได้มาจากโลกแห่งไฟซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาได้

 

ตูม!

 

หม้อความดันบนเตาสั้นและจากนั้นมันก็หยุด เย่หยูถอยมือกลับมา แววตาฉายแววแห่งความปลาบปลื้ม

 

เรียบร้อย!

 

ในห้องนั่งเล่น หลี่อี้เฉินมีท่าทิ้งนงง ตอนนี้เขารู้สึกคาดไม่ถึงว่าเย่หยูจะระเบิดพลังสายฟ้าได้

 

มันเป็นเหมือนสงครามการทําอาหาร?

 

“เป็นอะไรไป ท่านลง?”

 

เมื่อเห็นท่าที่หลี่อี้เฉินแปลกไป ซ่งเหมิงจึงถาม

 

“ไม่ต้องกังวล! เย่หยุควรจะทําเสร็จแล้ว!”

 

ในห้องครัว เย่หยูกําลังหยิบจานอาหารทั้งสอง

 

“ยังมีอาหารอีกสองสามอย่าง รอสักครู่นะ!”

 

หลังจากที่เข้าไปในครัวสองสามนาที เย่หยูก็นําอาหารที่ทําเสร็จแล้วมาวางบนโต๊ะในห้องนั่งเล่น อาหารทั้งแปดอย่างถูกปิดด้วยฝาครอบ

 

“อาจารย์อาเย่หยู พวกเราเริ่มได้รึยัง?”

 

“แน่นอน!”

 

เย่หยูพยักหน้าแล้วยกฝาครอบขึ้น

 

เสี้ยว!

 

ทันใดนั้น

 

ริ้วแสงที่แจ่มแจ้งก็ส่องสว่างไปในอาหาร

 

“นี่มันเป็นจานที่สุดยอดจริงๆ!”