708 – จ้าวเทวะ
ซือหยูแตะเกราะสายฟ้าเหนือศีรษะด้วยมือสายฟ้าที่เขาเก็บสะสมมานานได้ระเบิดออกมา สายฟ้าเกือบแปดร้อยสายปะทุออกมาจนเต็มท้องฟ้า
บางสายฟ้าเป็นวิบัติอัสนีธรรมดาขณะที่หลากหลายสายฟ้าที่เป็นสีทองนั้นมีเป็นหลายร้อยสายวิบัตอัสนีธรรมดาจะปรากฏเมื่อมีคนจะเลื่อนระดับเป็นภูติ แต่สายฟ้าสีทองที่ปรากฏท้ายสุดนั้นจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อสังหารคนที่จะเลื่อนระดับพลัง!
“ลิ้มรสสายฟ้าของเจ้าเองซะ!”
ซือหยูตะโกนอย่างเยือกเย็นเมื่อสายฟ้าทั้งแปดร้อยสายพุ่งไปยังวายุบนท้องนภาและเสียงคำรามดังก้อง
ภาพอันน่าตกใจดูราวกับวันสิ้นโลกทุกคนหัวใจสั่นไหว ทั้งทวีปทั้งเหนือใต้ออกตกต่างสัมผัสได้ถึงพลังคุกคามของสายฟ้า แม้แต่ทวีปตะวันออกที่ไกลที่สุดยังสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ปะทุไปถึงก้นบึ้งของท้องทะเล!
ทุกชีวิตในเฉินหลงต่างสั่นกลัวชายหนุ่มบนยอดหอคอยสีหน้าเปลี่ยนไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาขมวดคิ้ว
เกราะสายฟ้าประหลาดดูจะเหนือความคาดหมายของเขาเพราะตามที่คนทั่วไปรับรู้ สมุนไพรายฟ้าทำได้แค่ต้านทานสายฟ้า แต่สมุนไพนสายฟ้าที่ซือหยูใช้นั้นกลับดูดซับวิบัติอัสนีและเอามาใช้เองได้ตามต้องการ
หอคอยส่งเสียงดังลำแสงทำลายล้างพุ่งลงมาล้างโลก และสายฟ้าหลายร้อยสายก็ได้พุ่งเข้าไปปะทะกับลำแสงนั้น ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะมีพลังที่ทำลายได้ทั้งทวีป การปะทะครั้งใหญ่เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดมาก่อน!
ปั้ง
ทั้งผืนดินและท้องฟ้าถูกแยกจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เริ่มเกิดขึ้น เสียงคำรามดังจนหูหนวก! คลื่นเสียงจากแรงปะทะเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างที่กระจายไปยังทุกทิศทาง
ก้นบึ้งมังกรเป็นศูนย์กลางส่งพลังไปยังคลื่นสมุทรคลื่นยักษ์ได้ก่อตัวขึ้นซัดไปยังฝั่งทวีปและท่วมแผ่นดินทุกผืน ภูเขาและหุบเขานับไม่ถ้วนในทวีปเหนือได้จมน้ำทะเลลงไป
สำนักหลิวเซี่ยนทุ่งหิมะอู๋หลง พันธมิตรร้อยดินแดน คณะวิหคเพลิง พื้นที่เหล่านี้ถูกน้ำทะเลเข้าท่วมและจมลงไป คลื่นยักษ์ได้ทำให้ทั้งทวีปลอยเลื่อนออกไปหลายพันลี้!
ทวีปเหนือถูกทำลายโดยสมบูรณ์มีหลากหลายชีวิตที่ตายคาที่
ส่วนดินแดนอื่นพื้นดินได้แยกตัว ภูเขาไฟทุกลูกปะทุขึ้น เมืองต่างๆล่มสลายเพราะแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เหล่าผู้คนต่างหนีเอาชีวิตรอด!
จู่ๆก็เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่จนทำให้ทุกชีวิตในทวีปจมอยู่ในความกลัวเสียงร้องตะโกนดังไปทั่วทวีป
ในก้นบึ้งมังกรคนที่ได้เห็นการปะทะอันยิ่งใหญ่ต่างตื่นตระหนก ไม่มีคำพูดใดจะอธิบายความกลัวและความตกตะลึงในใจพวกเขาได้เลย นี่ไม่ใช่แค่การต่อสู้อีกต่อไปแล้ว…มันคือการทำลายล้างโลก!
เมื่อเหล่าคลื่นพลังจางหายสถานการณ์บนสนามรบเห็นได้ชัดเจนขึ้น ซือหยูยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่มีเส้นผมสักเส้นที่ถูกสัมผัส
ในท้องนภาเมฆครึ้มได้ถูกพัดหายไปจากแรงปะทะ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือหอคอยลอยฟ้าที่โดดเดี่ยวและชายหนุ่มที่อยู่ด้านบน
แม้จะต้องเจอกับสายฟ้าที่น่ากลัวนั้นหอคอยก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ได้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเสียหายอย่างหนัก รอยแตกมากมายปรากฏบนหอคอย เศษศิลาร่วงลงมาจากหอคอยลงไปยังมหาสมุทร
พลังของสายฟ้านั้นบอกได้จากความเสียหายของหอคอยวิบัติอัสนีที่เก็บรวบรวมจากวิบัติสวรรค์นั้นน่ากลัวที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!
แม้จ้าวเทวะจะก้าวเข้ามาก็มิอาจต้านทานมันได้สิ่งที่หอคอยต้องเจอไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจนัก
แต่น่าแปลกที่หอคอยยังคงส่งพลังทำลายล้างออกมาแม้หอคอยจะเสียหายแต่พลังกลับไม่ได้อ่อนแอลงไปเลย มันแปลกมาก!
แม้ว่าชายหนุ่มเหนือหอคอยจะดูไม่เป็นอะไรแต่ในแววตานั้นมีความโกรธอยู่มาก ความโอหังที่เคยมีแต่เก่าก่อนที่แสดงเป็นพระเจ้าได้หายไปแล้ว
“ซือหยู!”
ชายหนุ่มตะโกนด้วยจิตสังหาร
ซือหยูแสยะยิ้ม
“อะไรกัน?เจ้าเลือกทำตัวเป็นพระเจ้าแล้วรึ? มนุษย์อย่างเจ้ากล้าดียังไงมาทำตัวเป็นพระเจ้าแล้วพยายามจะปกครองทุกสิ่ง? ตลกสิ้นดี!”
ชายหนุ่มโกรธซือหยูจนไม่เสแสร้งต่อไปอีก
“ข้าควรจะยอมแลกทุกสิ่งเพื่อฆ่าเจ้าตั้งแต่ตอนนั้น!”
ชายหนุ่มจ้องซือหยูอย่างเยือกเย็น
ตามที่เป็นที่รู้กันชายหนุ่มผู้นี้น่าจะอยู่ในเฉินหลงมานานแล้ว เขามีโอกาสนับไม่ถ้วนที่จะกำจัดซือหยู แต่เขาก็ไม่ได้แสดงตัวออกมาตั้งแต่เริ่ม
เขาเพียงแค่ปรากฏตัวในตอนที่มีคนกำลังจะผ่านวิบัติสวรรค์หรือต่อต้านบัญชาสวรรค์ดังนั้นเขาคงจะเป็นกังวลในเรื่องบางอย่างถึงไม่เลือกที่จะจู่โจมซือหยู มิเช่นนั้นซือหยูก็คงจะตายไปแล้ว!
“เจ้าก็ทำในตอนนี้เลย!”
ซือหยูเก็บเกราะสายฟ้าและยืนมือไพล่หลัง
“มีอะไรก็เข้ามาเลย!”
ชายหนุ่มหรี่ตามองเขายืนเหนือยอดหอคอย ดูเหมือนว่าเขาไม่อยากจะออกจากหอคอยนี้
“ซือหยูไม่ต้องรีบร้อนไป ถ้าเจ้าอยากตาย ทีของเจ้าก็จะมาถึงแล้ว! ข้าต้องหาคนอื่นก่อน!”
ชายหนุ่มไม่ฆ่าซือหยูและเผยความจริงออกมา
การสังหารซือหยูคงจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาเขามีเป้าหมายอื่นในใจ นั่นจึงเป็นเหตุที่เขาไม่แสดงตัวออกมาตั้งแต่แรก
“เฉินอี้เจิงทำไมเจ้ายังซ่อนตัวอยู่อีก? ข้าแสดงตัวออกมาแล้ว ทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว! เจ้าจะซ่อนตัวไปอีกทำไม!”
ชายหนุ่มมองรอบๆและตะโกนเสียงดัง
เสียงของเขาดังก้องสะท้อนไปทั่วเฉินหลงไม่มีใครที่พลาดเสียงของเขา ทุกคนสงสัยขึ้นมา…
เฉินอี้เจิง?เขาเป็นใคร?
การที่ทัพต่างโลกบุกเข้ามาในเฉินหลงก็เพื่อตามหาคนผู้นี้รึ?
ทำไมถึงไม่มีใครได้ยินนามของเขามาก่อนเล่า?
แม้ว่าเสียงของชายหนุ่มจะดังไปถึงจักรวาลแต่ก็ไม่มีผู้ใดตอบกลับมา
ชายหนุ่มสีหน้าเยือกเย็น
“เราทดสอบมาสามปีแล้วพวกเรารู้แล้วว่าเจ้าตกระดับจากเทพมาเป็นแค่ผู้บ่มเพาะพลัง นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่พวกข้าจะไล่ล่าเจ้า ข้าจะให้เวลาเจ้าสามลมหายใจ ถ้าเจ้ายังไม่ออกมาอีก ข้าจะฆ่าทุกคนในเฉินหลงซะ!”
“ออกมา!”
ชายหนุ่มกระโจนขึ้นฟ้าหอคอยสั่นอย่างแรง หอคอยที่กำลังจะพังเริ่มสั่นและแหลกเป็นชิ้นๆ
ทำไมเขาถึงทำลายหอคอยของตัวเองกัน?คนในก้นบึ้งมังกรสับสนเป็นอย่างมาก พวกเขารู้ว่าชายคนนี้ที่เรียกตัวเองว่าผู้ศักดิ์สิทธิ์มิใช่คนโง่ ดังนั้นพวกเขาจึงคิดได้ว่าบางอย่างที่น่ากลัวยิ่งกว่ากำลังจะเกิดขึ้นตามมา!
แน่นอนว่าเมื่อหอคอยแตกสลายหอคอยภายในที่แทบจะโปร่งใสขนาดเท่าตัวคนได้ปรากฏขึ้นมา นี่คือหอคอยที่ปล่อยพลังทำลายล้างออกมาของจริง!
สีหน้าผู้เฒ่าจิวในก้นบึ้งมังกรเปลี่ยนไป
“เป็นไปไม่ได้!สิ่งนี้ตกไปอยู่ในมือราชาเขตกลางงั้นรึ? เขาเอามันออกมาจากที่ของจักรพรรดิจิวโจวแล้วรึนี่? หอคอยจักรพรรดิเป็นสมบัติภูติคุณภาพสูง มันใช้เคลื่อนที่ข้ามพื้นที่หลายล้านลี้! มีแค่จักรพรรดิจิวโจวที่ควบคุมมันได้! มันไปอยู่ในมือเขาได้ยังไง?”
ซือหยูใช้เนตรวิญญาณมองดูหอคอยโปร่งใสเขาพยายามจะมองทุกส่วนโดยไม่พลาด แต่เมื่อมองดูส่วนในก็ต้องชักสีหน้า พลังจิตวิญญาณของเขาถูกกำจัดไปโดยพลังบางอย่าง!
“น่าสนใจจริงๆที่คนมีพรสวรรค์อย่างเจ้ามาอยู่ในที่แบบนี้! เนตรวิญญาณของเจ้าไปถึงระดับสองแล้วสินะ”
เสียงหัวเราะอย่างเย็นชาดังมาจากหอคอย
ไม่นานผิวหอคอยเริ่มบิดและหมุนจนเป็นวายุที่เชื่อมต่อกับอุโมงค์ภายในหอคอย มีคนสวมชุดสีอำพันก้าวออกมาจากอุโมงค์นั้น!
ชุดสีอำพันที่คนผู้นี้สวมนั้นดูเก่าแก่เป็นอย่างมากดูราวกับว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้ามาหลายสิบปีแล้ว ที่ด้านข้างของมันดูเปื่อยและฉีกขาด และยังมีพลังที่น่าขนลุกแผ่ออกมาจากชุดอีกด้วย
ผู้สวมชุดนี้คือชายแก่ที่เบ้าตาว่างเปล่ามีเพลิงภูติลุกไหม้อยู่ในเบ้าตานั้น เขาดูเหมือนผีไม่มีผิด!
ไม่มีใครรู้สึกถึงพลังชีวิตในร่างของเขาแม้แต่น้อยแม้แต่รอบข้างของเขาก็ไร้ซึ่งพลังชีวิต ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าก็คงไม่มีใครรับรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่
ทันทีที่เขาปรากฏซือหยูขนลุกไปทั้งร่าง เขารู้สึกถึงอันตราย
“จ้าวเทวะ!”
ซือหยูหรี่ตาจนเล็กเท่ากับเข็ม