บทที่ 1426 การล่าถอยของฟงจิวเก้อ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

“โฮก…”

 

ฟางหยวนเปิดปากและยิงลมหายใจมังกรดาบออกไป

 

ลมหายใจมังกรดาบเหมือนคลื่นแสงสีเงินที่พุ่งเข้าหาฟงจิวเก้อด้วยความเร็วสูง

 

ฟงจิวเก้อต้องหลบด้วยเพลงทางผ่านแสง

 

โดยปกติเมื่อฟงจิวเก้อใช้เพลงทางผ่านแสง นั่นก็หมายความว่าท่าไม้ตายต่อไปที่เขาจะใช้ก็คือนักรบเพลง

 

ท่าไม้ตายอมตะนักรบหยกเขียว!

 

ฟงจิวเก้อเรียกร่างแยกออกมา

 

ร่างแยกหยกเขียวพุ่งเข้าไปหามังกรดาบบรรพกาล

 

ฟงจิวเก้อพึ่งพาเพลงทางผ่านแสงเพื่อสร้างความได้เปรียบในการเคลื่อนไหวและด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้อันยาวนานรวมกับจิตใจที่สามารถวิเคราะห์สิ่งต่างๆได้อย่างสงบ เขาจึงไม่ล้มเหลวในกระบวนการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตาย

 

แม้ลมหายใจมังกรดาบจะพุ่งเข้ามา ฟงจิวเก้อก็ยังไม่ตื่นตระหนก

 

ฟงจิวเก้อรู้ว่านักรบหยกเขียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางหยวน มันไม่สามารถทำลายเกราะหวนคืน

 

ฟงจิวเก้อใช้นักรบเพลงหยกเขียวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของฟางหยวนเท่านั้น

 

นักรบเพลงหยกเขียวราวกับแมลงวันที่บินไปรอบๆฟางหยวนและขัดขวางเส้นทางการเคลื่อนไหวของเขา

 

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ต้องหันไปจัดการนักรบเพลงหยกเขียวอย่างจริงจัง

 

รูม่านตาของฟงจิวเก้อหดเล็กลง ฟางหยวนเปลี่ยนเป้าหมายเร็วเกินไป แต่ฟงจิวเก้อสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

 

ฟางหยวนเข้าประชิดตัวนักรบเพลงหยกเขียว

 

เขาใช้กรงเล็บมังกรดาบฟาดไปที่เป้าหมาย

 

รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นบนร่างของนักรบเพลงหยกเขียวขณะที่มันบินกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

 

แต่นักรบเพลงหยกเขียวยังไม่พังทลาย มันยังสามารถต่อสู้

 

“ช่างทนทานนัก” ฟางหยวนก่นเสียงเย็นชา

 

ในการต่อสู้ครั้งก่อน นักรบเพลงหยกเขียวไม่ได้โจมตี ดังนั้นเกราะหวนคืนจึงไม่สะท้อนสิ่งใดกลับไป เพียงกรงเล็บมังกรดาบยังไม่เพียงพอที่จะทำลายนักรบเพลงหยกเขียว

 

ท้ายที่สุดฟงจิวเก้อก็มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดขณะที่การป้องกันของนักรบเพลงหยกเขียวแข็งแกร่งกว่านักรบเพลงอื่นๆของเขา

 

หลังจากส่งนักรบเพลงหยกเขียวบินห่างออกไป ฟางหยวนก็หันกลับมาหาฟงจิวเก้อ

 

แต่ในเวลานี้ฟงจิวเก้อได้ปล่อยนักรบเพลงร่างที่สองออกมาแล้ว

 

นักรบเพลงสวรรค์พิภพ!

 

หลังจากผ่านไปหลายสิบรอบ ฟงจิวเก้อยังคงหลบการโจมตีของฟางหยวนด้วยเพลงทางผ่านแสงขณะที่เขาเรียกนักรบเพลงออกมาต่อสู้กับฟางหยวน

 

ฟางหยวนต่อสู้กับศัตรูห้าคนพร้อมกันแต่พลังการต่อสู้ของเขายังเต็มเปี่ยม ฟงจิวเก้อไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากล่าถอยอย่างต่อเนื่อง

 

‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’

 

‘ฟางหยวนมีขีดจำกัดเมื่อเขาใช้งานเกราะหวนคืนครั้งก่อน’

 

‘แต่ตอนนี้เขาสามารถรักษาเกราะหวนคืนเอาไว้ขณะแปลงร่างเป็นมังกรดาบบรรพกาลและยังสามารถต่อสู้ได้อย่างยาวนานถึงเพียงนี้ เขาไม่มีขีดจำกัดเลยงั้นหรือ?’

 

ฟงจิวเก้อขมวดคิ้ว เขาจงใจใช้นักรบเพลงสร้างสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนเพื่อให้ฟางหยวนคิดวิธีการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง

 

มันเป็นไปได้ยากที่ฟางหยวนจะคิดและตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่เขาใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังเช่นนี้

 

‘นี่หมายความว่าเขามีพัฒนาการที่น่าทึ่งในแง่ของการใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่อง?’ ฟงจิวเก้อคาดเดา

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น

 

ฟงจิวเก้อเห็นสิ่งนี้และรู้สึกมีความสุข ‘อย่าบอกว่าเขาถึงขีดจำกัดแล้ว’

 

แต่ในเวลาต่อมาฟงจิวเก้อกลับต้องโยนความคิดนี้ลงถังขยะ

 

เพราะฟางหยวนไม่ได้ถึงขีดจำกัดแต่เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!

 

มังกรดาบบรรพกาลจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับมหาสมุทรสีเงินปรากฏขึ้นและสร้างเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่

 

นักรบเพลงทั้งสี่ถูกปิดล้อมและโจมตีจากทุกทิศทางก่อนจะถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว

 

ฟงจิวเก้อไม่สนใจพวกมัน เขายังใช้เพลงทางผ่านแสงเพื่อหลบหนีจากระยะโจมตีของฝูงมังกรดาบบรรพกาล

 

เวลาของเพลงทางผ่านแสงยังไม่หมด ฟงจิวเก้อยังมีเวลาสำหรับการต่อสู้

 

“เช่นนั้นลองรับท่านี้” ฟงจิวเก้อมองไปที่ฝูงมังกรดาบบรรพกาล

 

เขาวางฝ่ามือข้างขวาไว้บนหน้าอกข้างซ้าย จากนั้นนิ้วของเขาก็กดลงบนหน้าอกทำให้เกิดเสียงกลองอันแผ่วเบา

 

“ตุบ ตุบ ตุบ…”

 

เสียงกลองยังดำเนินต่อไปและกระจายไปทั่วสนามรบ

 

ฟงจิวเก้อไม่พบร่างจริงของฟางหยวนแต่เขาไม่จำเป็นต้องค้นหาเนื่องจากนี่เป็นท่าไม้ตายที่สามารถโจมตีเป็นวงกว้าง

 

ฟางหยวนอยู่ในระยะโจมตี เขาได้รับผลกระทบทันที หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุม

 

ฟางหยวนตกตะลึง

 

แม้จะมีเกราะหวนคืนแต่มันกลับไม่สามารถป้องกันท่าไม้ตายนี้

 

‘ไม่ ผลกระทบส่วนใหญ่สะท้อนกลับไปแล้ว มีเพียงบางส่วนที่สามารถเจาะเกราะหวนคืนเข้ามาหาข้า ดูเหมือนวังสวรรค์จะสามารถถอดรหัสเกราะหวนคืนของข้าได้บางส่วน’

 

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ

 

นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาใช้เกราะหวนคืนไปหลายครั้งแล้ว วังสวรรค์มีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาชั้นยอดเช่นเทพธิดาจื่อเว่ย รวมกับกระดานหมากรุกกลุ่มดาว ไม่แปลกที่นางจะมีความก้าวหน้าเช่นนี้

 

“บึม บึม บึม…”

 

มังกรดาบบรรพกาลเริ่มระเบิดตัวเองทีละตัว

 

‘ท่าไม้ตายเสียงกลองหัวใจถูกมอบให้ข้าโดยวังสวรรค์ มันเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา เมื่อถูกโจมตี ความคิดของผู้อมตะจะถูกก่อกวน ท่าไม้ตายของฟางหยวนค่อนข้างซับซ้อน แล้วเขาจะทนได้นานเท่าใด?’ ฟงจิวเก้อรอคอยอย่างมีความหวัง

 

‘เป็นท่าไม้ตายที่น่าประทับใจ มันถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีข้าโดยเฉพาะ’ ฟางหยวนพิจารณาถึงผลกระทบของท่าไม้ตายที่น่าเหลือเชื่อนี้

 

ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ร่างแยกหมื่นตัวตนที่เกิดจากเจตจำนงของฟางหยวนถูกทำลายไปอย่างต่อเนื่อง

 

ร่างแยกเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของมังกรดาบบรรพกาลที่เขาใช้อยู่

 

‘ร่างแยกหมื่นตัวตนเหล่านี้เกิดจากวิญญาณบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่นั่นก็ทำให้พวกมันอ่อนไหวต่อการโจมตีของฟงจิวเก้อ’

 

ฟางหยวนเฝ้ามองการสูญเสียของเขา

 

เกือบทุกลมหายใจ ร่างแยกของเขาจะแตกสลายไปหลายสิบร่าง

 

‘อย่างไรก็ตามร่างแยกส่วนใหญ่แตกสลายไปเพราะการรักษาเกราะหวนคืนและภูตมังกรดาบบรรพกาลของข้า ตั้งแต่ข้ากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร ร่างแยกเหล่านี้ก็เริ่มตายไปแล้ว’

 

ถูกต้อง

 

เหตุผลที่ฟางหยวนสามารถใช้เกราะหวนคืนและท่าไม้ตายอื่นๆพร้อมกันเป็นเพราะร่างแยกหมื่นตัวตนที่อยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ตลอดเวลาที่ผ่านมาฟางหยวนประสบปัญหานี้ แม้เขาจะมีเกราะหวนคืนที่ทรงพลังแต่เขาไม่สามารถแบ่งจิตเป็นหลายทางมากเกินไป

 

ในการต่อสู้กับฟงจิวเก้อครั้งก่อน เขาได้รับแรงบันดาลในมาจากนักรบเพลง ดังนั้นเขาจึงสามารถคิดวิธีนี้

 

‘ด้วยการคงอยู่ของร่างแยกหมื่นตัวตน พลังการต่อสู้ของข้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก’

 

มีปัญหาสองประการในการบรรลุเป้าหมายนี้

 

ปัญหาแรกคือร่างแยกหมื่นตัวตนไม่สามารถคิดได้เอง เขาต้องใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาแก้ไข

 

ปัญหาที่สองคือแม้ร่างแยกจะสามารถคิด มันก็ยังไม่สามารถรวมเป็นความคิดเดียวกันกับเขา

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงแก้ปัญหาโดยใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เพื่อใช้ท่าไม้ตายอมตะที่สามารถสร้างเจตจำนงของตนเองจำนวนมหาศาล

 

ทั้งสองปัญหาได้รับการแก้ไขโดยวิธีการบางอย่างจากมรดกของราชันภูเขาม่วง มันเรียกว่าท่าไม้ตายอมตะรวบรวมความคิด!

 

แน่นอนว่าแม้ทั้งสองปัญญาจะได้รับการแก้ไขแต่ฟางหยวนยังต้องพึ่งพาความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนขึ้นสู่ระดับใหม่ทั้งหมด

 

‘ฟงจิวเก้อ ท่าไม้ตายของเจ้ายังไม่เพียงพอ’ ฟางหยวนหัวเราะเย้ยหยันอยู่ภายในใจ

 

เพราะเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี

 

เขาเตรียมร่างแยกนับล้านร่างเอาไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

การตายของร่างแยกเพียงไม่กี่ร่างไร้นัยสำคัญอย่างสิ้นเชิง

 

ท่าไม้ตายอมตะภาพอนาคตสามลมหายใจ!

 

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นมังกร!

 

ท่าไม้ตายอมตะดาบประหารชีวิต!

 

กลิ่นอายของวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนปะทุออกมาจากร่างของฟางหยวน

 

มันเป็นการแสดงที่ยิ่งใหญ่

 

“เป็นไปได้อย่างไร?” ฟงจิวเก้อตกใจมาก “ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะมากมายในเวลาเดียวกันได้อย่างไร!?”

 

เขาตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

มันเป็นไปไม่ได้!

 

เขาเคยคิดว่าฟางหยวนไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะได้เกินสองหรือสามท่า แต่สิ่งที่ฟงจิวเก้อเห็นทำให้เขาตระหนักได้ในที่สุดว่าฟางหยวนมีพัฒนาการที่เกินกว่าจินตนาการของเขาไปไกลมาก

 

จุดอ่อนที่ฟางหยวนเคยมีไม่มีอยู่อีกต่อไป ตอนนี้เขามีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้น

 

คลื่นมังกรดาบบรรพกาลยังอยู่

 

ภาพอนาคตสามลมหายใจทำให้ฟางหยวนมีความรู้สึกที่เฉียบแหลม ขณะเดียวกันดาบประหารชีวิตที่ได้รับการสนับสนุนจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบก็เป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อกัดฟันแน่น เขาไม่ได้ถอยกลับแต่ก้าวไปข้างหน้าและพุ่งเข้าไปหาฝูงมังกรดาบบรรพกาล

 

“บึม บึม บึม…”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ฟงจิวเก้ออาละวาดอยู่ในฝูงมังกรดาบบรรพกาลจำนวนนับไม่ถ้วน

 

แต่เขากลับตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

‘นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ฟางหยวนควบคุมพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมด ข้าอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ ข้าต้องไปเดี๋ยวนี้!’ ขณะที่เพลงทางผ่านแสงยังทำงานอยู่ ฟงจิวเก้อตัดสินใจล่าถอย

 

เขาถูกบังคับให้ถอยโดยฟางหยวนเพียงผู้เดียว!