บทที่ 1427 ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

แสงสีทองส่องประกายขึ้นขณะที่ฟงจิวเก้อหายไปจากจุดนั้นทันที

 

นี่หมายความว่าท่าไม้ตายอมตะเพลงทางผ่านแสงของฟงจิวเก้อถึงขีดจำกัดแล้ว หลังจากนี้เขาต้องรออีกสิบสี่ชั่วโมงก่อนที่จะสามารถใช้งานมันได้อีกครั้ง

 

แต่นั่นไม่สำคัญ

 

ฟงจิวเก้อออกจากสนามรบแล้ว ข้อจำกัดด้านเวลาของเพลงทางผ่านแสงไม่สำคัญอีกต่อไป

 

อัจฉริยะในรอบพันปีของภาคกลางบินลงบนพื้นอย่างช้าๆ เขายังมีใบหน้าที่สง่างามแต่ตอนนี้เขากลับขมวดคิ้วลึกก่อนจะถอนหายใจยาว

 

“เป็นคนที่น่าอัศจรรย์นัก”

 

เขาไม่ได้กล่าวถึงตัวเองแต่หมายถึงฟางหยวน

 

ในอดีตฟางหยวนยังเป็นเพียงมดตัวน้อยในสายตาของฟงจิวเก้อ แต่ผ่านมาไม่นานเขากลับสามารถบังคับให้ฟงจิวเก้อล่าถอย

 

การเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วเกินไป ฟงจิวเก้อรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

 

“ฟางหยวนมีรากฐานที่ลึกล้ำตั้งแต่แรก เขาย้อนเวลากลับมาด้วยวิญญาณกาลเวลา เขายังได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือด ตอนนี้เขาเป็นผู้นำนิกายเงาของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาเหมือนภูเขาไฟที่สงบนิ่ง หากมีเวลามากพอ มันจะปะทุขึ้นสู่ท้องฟ้า”

 

“การพุ่งทะยานขึ้นในครั้งนี้ของเขาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันเกิดขึ้นด้วยความสามารถของเขาจริงๆ”

 

“คนเช่นนี้ต้องถูกกำจัดเพื่อปกป้องอนาคตของพวกเรา แต่วังสวรรค์ต้องการใช้เขาเพื่อค้นหามรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง นี่ไม่ใช่เรื่องฉลาด…”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฟงจิวเก้อรู้สึกสงสัยและไม่เห็นด้วยกับแผนการของวังสวรรค์

 

ในวังสวรรค์ เทพธิดาจื่อเวยกำลังครุ่นคิด

 

นางเห็นการต่อสู้ของฟงจิวเก้อกับฟางหยวนก่อนหน้านี้

 

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นของฟางหยวนไม่ได้ทำให้ฟงจิวเก้อตกใจเท่านั้น แต่กระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่ยิ่งใหญ่เช่นเทพธิดาจื่อเว่ยยังตกใจเช่นกัน

 

รากฐานของฟางหยวนลึกมาก เขามีความได้เปรียบจากการกำเนิดใหม่ เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก้าวข้าวขอบเขตมนุษย์มาสู่ขอบเขตอมตะ หลังจากผ่านการต่อสู้มาหลายครั้ง เขาสามารถต่อสู้กับฟงจิวเก้อได้อย่างเท่าเทียม เขาเป็นคนที่กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังไม่สามารถมองข้าม

 

พัฒนาการของเขารวดเร็วเกินไป

 

หากเขามีเพียงโชคเช่นหม่าหงหยุน มันจะไม่น่ากังวล

 

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของฟางหยวนคือบุคลิกของเขา!

 

ผู้บ่มเพาะบนเส้นทางสายปีศาจมีความทะเยอทะยานสูงและไม่แยแสต่อศีลธรรม พวกเขาสามารถอดทนต่อการทำงานหนักหรือความยากลำบาก พวกเขาจะซ่อนความแข็งแกร่งและระเบิดออกมาในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่คำนึงถึงการเสียสละหรือเรื่องไร้ยางอายใดๆ

 

เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการได้ว่าฟางหยวนผ่านประสบการณ์ใดมาบ้างจึงทำให้เขากลายเป็นคนเช่นนี้

 

‘ตั้งแต่กำเนิดใหม่ ฟางหยวนอยู่ภายใต้การควบคุมของเจตจำนงสวรรค์ หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน เขาพยายามซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์ แต่เขาได้เปิดเผยตัวเองในอาณาจักรแห่งความฝัน เส้นทางการบ่มเพาะของเขาเต็มไปด้วยความยากลำบากและอุปสรรค หากเขาสามารถบ่มเพาะได้อย่างสงบ ความก้าวหน้าของเขาจะไม่สามารถจินตนาการถึง’

 

ความรู้สึกังวลเริ่มปรากฏขึ้นในใจของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

ตอนนี้การดำรงอยู่ของฟางหยวนกลายเป็นภัยคุกคามต่อนางแล้ว

 

นางต้องการกำจัดเขาอย่างรวดเร็วที่สุด!

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้เจตนาสังหารจึงปะทุขึ้นในใจของนาง

 

“จื่อเว่ย อย่าประหม่า” เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงทุ้มต่ำดังเข้าหูของเทพธิดาจื่อเว่ย

 

นางคุ้นเคยกับเสียงสายนี้

 

นางหันหลังกลับเพื่อพบกับราชันมังกร

 

“ท่านราชันมังกร ท่านอยู่ที่นี่!” เทพธิดาจื่อเว่ยประหลาดใจและดีใจมาก

 

ราชันมังกรยิ้ม “ใช่”

 

“นั่นหมายความว่าเทพปีศาจจิตวิญญาณ…”

 

“ถูกต้อง ข้ากำหราบเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่มันยังเป็นเรื่องยากที่จะค้นวิญญาณของเขา ข้าต้องการเวลาอีกระยะหนึ่ง” ราชันมังกรเผยรอยยิ้มบาง

 

“อา…” เทพธิดาจื่อเว่ยมีความสุขมาก

 

นี่เป็นข่าวดีที่ทำให้อารมณ์ของนางดีขึ้น

 

ราชันมังกรกล่าวต่อ “เปรียบเทียบกับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดง ฟางหยวนไม่ถือเป็นสิ่งใด”

 

“แต่เขาเป็นปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์…” เทพธิดาจื่อเว่ยลังเล

 

“นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่เข้าใจเทพปีศาจบัวแดง” ราชันมังกรถอนหายใจ

 

“มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงมีเจ็ดส่วน แต่วังสวรรค์ของเราไม่เคยพบแม้แต่ส่วนเดียว เทพปีศาจจิตวิญญาณได้รับหนึ่งในนั้น ตราบเท่าที่พวกเราได้รับเบาะแสนี้ พวกเราจะสามารถตามหามรดกที่แท้จริงทั้งหมดของเขาและทำลายทิ้ง”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ตอนนี้เรามีผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ฟงจิวเก้อ และผู้อมตะระดับแปดอีกสองคนสำหรับภารกิจนี้ ท่านคิดเห็นอย่างไร?”

 

ราชันมังกรยิ้ม “เจ้าเป็นปรมาจารย์เอกบนเส้นทางแห่งปัญญา ไม่ใช่ข้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าจัดการได้ หลังจากนี้ข้าจะเป็นที่ปรึกษาให้กับเทพอมตะแห่งความฝัน โอ้ ถูกต้อง ประกาศให้โลกรู้ว่าเราสามารถจับตัวเทพปีศาจจิตวิญญาณได้แล้ว”

 

“วังสวรรค์นิ่งเงียบมานานเกินไป ถึงเวลาแล้วที่โลกจะได้รับรู้ว่าวังสวรรค์คือกองกำลังอันดับหนึ่งของโลกใบนี้เสมอ!”

 

“ทราบแล้ว” เทพธิดาจื่อเว่ยตอบรับและมองราชันมังกรจากไป

 

…..

 

ทะเลทรายตะวันตก

 

ภายในค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง ฟางหยวนเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ในมิติช่องว่างของเขายังมีค่ายกลวิญญาณอมตะอีกหนึ่ง แต่เปรียบเทียบกับค่ายกลวิญญาณอมตะชำระล้างตัวเอง ค่ายกลนี้เล็กกว่ามาก อย่างไรก็ตามมันยังมีวิญญาณอมตะสองดวงเป็นแกนกลาง

 

หนึ่งคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของราชันภูเขาม่วง อีกหนึ่งคือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดของตระกูลวู

 

ด้วยการสนับสนุนจากวิญญาณระดับมนุษย์อีกนับพันดวง มันกลายเป็นค่ายกลวิญญาณอมตะแก่นแท้สีแดงเลือด

 

หินวิญญาณอมตะจำนวนมากถูกโยนเข้าไปในค่ายกลนี้และถูกเปลี่ยนเป็นลูกพลัมแดงอมตะ

 

ฟางหยวนกำลังเติมเต็มคลังเก็บพลังงานอมตะของเขา

 

ในการต่อสู้ครั้งก่อน แม้เขาจะสามารถบังคับให้ฟงจิวเก้อล่าถอย แต่เขาก็ใช้พลังงานอมตะไปมากมาย ค่าใช้จ่ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือเกราะหวนคืน ตามมาด้วยหมื่นมังกร ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนรูปแบบใหม่ของเขาก็ยังมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยเพราะเขาใช้วิญญาณอมตะรักตัวเองและวิญญาณอมตะความใคร่เป็นแกนกลางเพื่อสร้างเจตจำนงของตนเอง

 

นี่ไม่ใช่ข้อเสีย ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังล้วนมีค่าใช้จ่ายสูงเสมอ มันเป็นเรื่องปกติ

 

แต่นี่คือจุดอ่อนของฟางหยวน

 

ฟางหยวนพึ่งก้าวเข้าสู่ระดับเจ็ดเมื่อไม่นานมานี้ เขายังสะสมทรัพยากรได้ไม่มาก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติ เขาจึงชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิและทำให้ผลผลิตทั้งหมดของเขาลดลง

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะแก่นแท้สีแดงเลือดมีประสิทธิภาพมาก ในไม่ช้าฟางหยวนก็เปลี่ยนหินวิญญาณอมตะทั้งหมดที่ได้รับมาจากตระกูลวูเป็นพลังงานอมตะของตนเอง

 

นี่ทำให้เขาสามารถเก็บสะสมลูกพลัมแดงอมตะได้เป็นจำนวนมาก

 

‘ตอนนี้พลังการต่อสู้ของข้าเทียบเท่าฟงจิวเก้อแล้ว’

 

‘ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวคือหมื่นตัวตนจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้า หากข้าถูกซุ่มโจมตี มันอาจมีปัญหา’

 

หากฟางหยวนต้องเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปด เขาต้องใช้เกราะหวนคืนทันที

 

หากใช้เกราะหวนคืนโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากหมื่นตัวเอง เขาจะไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอื่นๆ

 

‘เมื่อร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลถูกกำจัดไปอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าควรไปที่สายธารแห่งกาลเวลาและรับมรดกของเทพปีศาจบัวแดง แม้เทพปีศาจจิตวิญญาณจะได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงไปแล้ว แต่ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจบัวแดงไม่มีที่สิ้นสุด หากข้าได้รับมัน ข้าจะสามารถยกระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวล อย่างน้อยก็ระดับปรมาจารย์!’

 

ตามข้อมูลของนิกายเงา ทะเลทรายตะวันตกมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในการควบคุมของพวกเขาอยู่สองแห่ง

 

แต่ก่อนหน้านี้ฟางหยวนใช้ไปแล้วหนึ่งแห่งเพื่อวางกับดักผู้อมตะจากวังสวรรค์ ดังนั้นมันจึงเหลือเพียงแห่งเดียว

 

และที่นั่นก็คือเป้าหมายต่อไปของฟางหยวน

 

เวลานี้ภาคกลางคือสถานที่ที่ฟางหยวนไม่สามารถเข้าไป สำหรับภาคใต้ เขาจะถูกไล่ล่าโดยกองกำลังฝ่ายธรรมะทั้งหมด ภาคเหนือยังมีถ้ำสวรรค์นิรันดรและกองกำลังตระกูลฮวงจิน

 

มีเพียงทะเลทรายตะวันตกและทะเลตะวันออกเท่านั้นที่ฟางหยวนสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

เขาสามารถไปที่ทะเลตะวันออก แต่เพื่อไปที่นั่น เขาต้องผ่านภาคกลาง ภาคเหนือ หรือภาคใต้

 

ทะเลตะวันออกมีสาขาของสายธารแห่งกาลเวลา แต่เปรียบเทียบกับการเดินทางไปที่นั่น ฟางหยวนจะทดลองไปยังสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาในทะเลทรายตะวันตกเป็นอันดับแรก