ตอนที่ 580 พูดมันน้อยหน่อย / ตอนที่ 581 เขามาแล้ว

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 580 พูดมันน้อยหน่อย

 

 

           “แกนังตัวดี เห็นผู้ชายพวกนั้นไหม ฉันจะให้พวกเขาจัดการแกก่อน แล้วค่อยฆ่าแก” หวังอวิ๋นไฉ่ยื่นมือชี้ผู้ชายเจ็ดแปดคนที่อยู่ในโกดัง เธอหัวเราะอย่างดุเดือด ใบหน้าบิดเบี้ยว

 

 

           การแสดงออกของเธอในขณะนี้ราวกับว่าเห็นฉู่เจียเสวียนถูกทนมานอยางแสนสาหัส ราวกับว่าเห็นเธอกำลังอ้อนวอนขอความเมตตา

 

 

           มองดูฉู่เจียเสวียนที่ถูกเธอทำร้ายจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย หวังอวิ๋นไฉ่เอ่ย “แก้เชือกมันซะ ให้มันได้

 

 

เพลิดเพลิดอย่างเต็มที่”

 

 

           คราวก่อนลูกสาวของเธอถูกกระทำชำเรา เธอก็จะให้ผู้หญิงเลวคนนี้ได้ลิ้มรส เธออยากดูว่าเธอจะคงความเย่อหยิ่งได้ถึงไหน ความทรมานที่ฉู่อีอีได้รับนั้น เธอจะค่อยๆ เอาคืนมาจากเธอ

 

 

           ทำไมลูกสาวของเธอต้องตายด้วย ทำไมคนที่ตายถึงไม่ใช่ฉู่เจียเสวียน ทำไมลูกสาวของเธอต้องได้รับโทษหนักขนาดนั้น ทำไมในท้ายที่สุดลูกสาวของเธอถูกผู้คนนับหมื่นพันด่าว่าและสุดท้ายก็ยังเสียชีวิตในคุก?

 

 

           “หวังอวิ๋นไฉ่ เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ” ฉู่เจียเสวียนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่ เธอจะให้ผู้ชายพวกนั้นข่มขืนเธองั้นเหรอ

 

 

           มโนธรรมของเธอถูกสุนัขรับประทานไปแล้วจริงๆ เหรอ

 

 

           เธออยู่กับเธอมาหลายปี แม้ว่าเธอจะไม่มีความรู้สึก แต่เธอก็ไม่ควรปฏิบัติกับเธอเช่นนี้ เรื่องที่โหดร้ายและบ้าคลั่งเช่นนี้ เธอพูดมันออกมาได้อย่างง่ายดายเหลือเกิน

 

 

           “ฉันเป็นบ้าไปแล้วนี่แหละ! ฉู่เจียเสวียน เพราะฉันบ้าถึงปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้!” หวังอวิ๋นไฉ่คำราม สีหน้าเปี่ยมด้วยความชั่วร้าย เธอเสียใจจริงๆ ที่เธอไม่ได้บีบคอเธอตั้งแต่เธอเกิด!

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหน้า มองดูผู้ชายที่เข้ามาใกล้เธอ บนใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยลมหายใจเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด และตอนนี้ร่างกายของเธอก็อ่อนแอมาก

 

 

           แม้ว่าจะได้ถูกมัด แต่เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนมากมายเพียงนี้

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่มองดูฉู่เจียเสวียนที่ถูกบีบบังคับให้จนมุม ความชั่วร้ายในแววตาเด่นชัด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนฉันจะคอยดูว่าเธอจะโชคดีทุกครั้งหรือเปล่า ทุกครั้งก็จะมีคนมาช่วยเธอ

 

 

           ที่นี่ตั้งอยู่ห่างไกล แม้ว่าคนของเธอจะพบว่าเธอหายไปแล้วยังไงเหรอ ใครจะหาเธอเจอกัน

 

 

           “ออกไป!” เสียงที่เย็นชาดังขึ้น ลมหายใจของฉู่เจียเสวียนยิ่งเยือกเย็นลงเรื่อยๆ

 

 

ความดุร้ายและเยือกเย็นในแววตาทำให้ผู้ชายเหล่านั้นมองหน้ากัน ในใจของพวกเขารู้สึกหวาดหลัวอย่างประหลาด

 

 

           เมื่อเห็นว่าผู้ชายเหล่านั้นไม่ลงมือเสียที หวังอวิ๋นไฉ่อดไม่ได้ที่จะโมโห “พวกแกกินหญ้ารึไง ฉันให้เงินแกให้มาทำงานไม่ใช่ให้มาดู!”

 

 

           “เขาให้พวกนายเท่าไร ฉันให้เป็นสองเท่า ปล่อยฉันไป” ฉู่เจียเสวียนกล่าว พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมพวกเขา เธอเชื่อว่าจำนวนเงินที่หวังจ่ายนั้น เธอก็สามารถจ่ายได้ อีกทั้งยังจ่ายได้มากกว่า

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยินแล้วสีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว แต่ว่าวินาทีต่อไป เธอก็หัวเราะ “ฮ่าๆ…ฉู่เจียเสวียน แกคิดว่าแกจะใช้เงินซื้อพวกเขาได้เหรอ ไร้เดียงสาจริงๆ”

 

 

           คนเหลานี้เป็นลูกน้องของเฉิงเฮ่า ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา เธอจะจับตัวเธอมาได้อย่างไร

 

 

           “ฉันให้พวกนายสามเท่า ปล่อยฉันเถอะ” ฉู่เจียเสวียนไม่ฟังคำพูดของหวังอวิ๋นไฉ่ ยังคงมองพวกเขาโดยตรงอย่างไม่หวาดกลัว

 

 

           “แกพูดให้มันน้อยๆ หน่อย ให้เงินเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์”

 

 

           “แกรู้ไหมว่าทำไมถึงไม่มีประโยชน์” หวังอวิ๋นไฉ่มองฉู่เจียเสวียน จู่ๆ ก็ยิ้มสดใส

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเธออย่างเย็นชา รอเธอพูดเงียบๆ หรือว่าเฉิงเฮ่าช่วยเหลือเธอจริงๆ ไม่ช้าการคาดเดาของเธอก็ได้รับการยืนยันจริงๆ

 

 

           “เพราะว่าพวกเขาเป็นลูกน้องของเฉิงเฮ่า” หวังอวิ๋นไฉ่พูดด้วยความภูมิใจ

 

 

           แน่นอนว่ามือที่อยู่ด้านข้างนั้นกำแน่นเล็กน้อย เธอแอบออมแรงไว้ และวางแผนที่จะหนีในเวลาที่เหมาะสม

 

 

           “เธอยังติดต่อกับเขา” ฉู่เจียเสวียนพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผู้ชายเหล่านั้น

 

 

           “หึ แกพูดให้มันน้อยหน่อย จัดการมันซะ” เห็นได้ชัดว่าหวังอวิ๋นไฉ่ไม่มีความอดทนที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเธออีก เห็นว่าท้องฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว ถ้าหากไปรบกวนเผยหนานเจวี๋ยเข้า เช่นนั้นเธอก็จะต้องตายแน่ๆ

 

 

           เธอตายไม่เป็นไร แต่ฉู่เจียเสวียนจะต้องตาย ไม่เช่นนั้นเธอก็ไม่สามารถปล่อยวางความโกรธแค้นนี้ได้

 

 

           ตอนนี้ เมื่อฉู่เจียเสวียนเห็นว่าผู้ชายเหล่านั้นไม่ทันจะตอบสนอง เธอก็เตะผู้ชายคนหนึ่งจนตัวลอย จากนั้นเธอก็ก้มตัว แล้ววิ่งไปข้างหน้า

 

 

           

 

 

       ตอนที่ 581 เขามาแล้ว

 

 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพริบตา ผู้ชายสองสามคนตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วตามเธอไป

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ไม่ได้คาดหวังว่าฉู่เจียเสวียนจะมีความต้านทานทางกายภาพแม้ในเวลานี้ เวลานี้เธอได้แต่โกรธจนกัดฟัน มองดูเธอที่วิ่งไปที่หน้าประตู ความเกลียดชังวูบผ่านแววตา “เร็ว จับมันไว้ อย่าให้มันหนีไปได้ ถ้ามันหนีไปได้พวกเราจะตายกันหมด”

 

 

           ใกล้แล้วๆ มองดูทางออกที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ฉู่เจียเสวียนรีบเร่งฝีเท้า แต่ว่าด้วยความเร็วของเธอ ก็หนีผู้ชายที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ไม่พ้น

 

 

           ร่างกายของฉู่เจียเสวียนมีบาดแผลมากเกินไป การเคลื่อนไหวนั้นไม่ได้คมชัดเหมือนปกติ และเธอก็ถูกจับได้ในขณะที่มือของเธอกำลังจะสัมผัสประตู

 

 

           ทันทีที่ผู้ชายดึงผมของเธอ เธอก็รู้สึกเจ็บปวด ร่างกายถอยหงายไปด้านหลัง

 

 

           เมื่อเห็นว่าฉู่เจียเสวียนถูกจับได้ หวังอวิ๋นไฉ่เดินเข้าไปหาเธออย่างไม่เกรงใจ เตะเข้าที่เอวฉู่เจียเสวียนสองที

 

 

           “นังแพศยา ฉันจะให้แกหนี ให้แกหนี รีบจัดการมันซะ จะได้ไม่เกะกะลูกตาฉัน!” หวังอวิ๋นไฉ่เอ่ยด้วยความโกรธ ความอดทนของเธอถึงขีดสุดแล้วจริงๆ ตอนนี้ล่วงเลยเวลามานานแล้ว

 

 

           ผู้ชายเหล่านั้นได้ยินแล้วก็ไม่รีรออีก เข้ามาใกล้ฉู่เจียเสวียนทีละคน ฉู่เจียเสวียนถูกผู้ชายห้าคนมัดมือและเท้า เธอไม่สามารถหนีได้

 

 

           เมื่อมองไปที่ผู้ชายเหล่านั้น ฉู่เจียเสวียนตื่นตระหนกและหวาดกลัว เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ย ช่วยฉันด้วย เผยหนานเจวี๋ย ร่างกายของฉู่เจียเสวียนเริ่มสั่น

 

 

           เมื่อเห็นชายคนนั้นเริ่มเอนกายเข้ามา เธอพูดด้วยความกลัว “เผยหนานเจวี๋ย ช่วยฉัน…”

 

 

           ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญที่สุด ในใจของฉู่เจียเสวียนคิดถึงเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ยืนมองอย่างเย็นชาอยู่ด้านข้าง ในเวลานี้แม้แต่ผีจะรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่ไหน

 

 

           “อย่าแตะต้องตัวฉัน!” ขณะที่มือของชายคนนั้นโดนตัวเธอ เธอก็ร้องตะโกน “เผยหนานเจวี๋ย ช่วยฉันด้วย ทำไมคุณถึงยังไม่มา…”

 

 

           บางทีสวรรค์อาจได้ยินเสียงร้องเรียกของฉู่เจียเสวียน สวรรค์จึงได้ส่งทูตสวรรค์มาช่วยเธอแล้ว

 

 

           เสียง “ปัง” ดังขึ้น ประตูถูกเปิดออก ผู้คนในโกดังต่างตกใจกับเสียงดังนั้น แต่ละคนหันไปมองที่ประตู

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ที่หน้าประตู ด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น สายตาชวนน่ากลัว ลมหายใจราวกับพระราชา ทำเอาผู้คนที่อยู่ด้านในขวัญหนีดีฝ่อ

 

 

           “ปล่อยเธอซะ!” เสียงที่ไร้ความอบอุ่นดังขึ้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรู้สึกโล่งใจ เขามาแล้ว ในทันใดนั้น น้ำตาก็เอ่อล้นขอบตา

 

 

           มองดูเผยหนานเจวี๋ยที่ยืนอยู่หน้าประตูราวกับเทพบุตร ทั้งตัวเยือกเย็น ใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาได้

 

 

           การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ เผยหนานเจวี๋ยก้าวขายาวๆ แล้วเตะคางของชายคนหนึ่ง ในขณะนี้เขาเหมือนปีศาจที่หลุดออกมาจากนรก สายตาเปี่ยมด้วยความกระหายเลือด

 

 

           ด้วยท่าทางที่ละเอียดอ่อน การเคลื่อนไหวที่มีเสน่ห์และทรงพลังดุจสายน้ำ ไม่นาน ผู้ชายทั้งเจ็ดแปดก็ลงไปกองกับพื้น

 

 

           “โอ๊ย…โอ๊ย…” ตอนนี้ผู้ชายเหล่านั้นนอนตัวบิดเบี้ยวอยู่บนพื้น ใบหน้าเปี่ยมด้วยความเจ็บปวด

 

 

           ฉู่เจียเสวียนลุกขึ้นยืนจากพื้น ในเวลานี้เธอมองเขาด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยน้ำตา ความซาบซึ้งวูบผ่านแววตา

 

 

           มองดูผู้ชายที่เดินเข้ามาใกล้เธอทีละก้าวๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะปรากฏตัวจริงๆ

 

 

           เมื่อเผยหนานเจวี๋ยเข้าใกล้เธอ เธอก็พุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของเขา เนื้อตัวสั่นเทาเล็กน้อย

 

 

           “ผมมาช้าไป…” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวอย่างเจ็บปวด ยื่นมือโอบเธอเบาๆ

 

 

           เมื่อเขาเห็นเธอถูกคนกดอยู่ที่พื้น เมื่อเธอใบหน้าที่อับจนหนทางของเธอ เมื่อเห็นรอยเลือดบนตัวเธอ เปลวไฟในหัวใจของเขายังคงไหม้อย่างต่อเนื่อง

 

 

           เขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขามาสายกว่านี้อีกสองสามนาที เขาไม่กล้าคิดเลย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนส่ายหัวในอ้อมอกของเขา เขามาทันเวลาพอดี ไม่สายไป ไม่สายไปเลยสักนิด