ตอนที่ 578 ดูว่าฉันจะตีเธอตายไหม / ตอนที่ 579 ฉันอยากฆ่าเธอ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 578 ดูว่าฉันจะตีเธอตายไหม

 

 

           มองดูท้องฟ้าเงียบๆ ตอนนี้น่าจะเที่ยงคืนแล้ว ยิ่งถ่วงเวลามากเท่าไรก็ยิ่งไม่เป็นผลดีต่อเธอ

 

 

           เธอรู้ว่ายิ่งกังวลในเวลานี้มากเท่าไรก็ยิ่งไร้ประโยชน์ จะต้องสงบนิ่งจึงจะสามารถรักษาชีวิตของตัวเองได้

 

 

           ตอนนี้หวังอวิ๋นไฉ่เป็นบ้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรอีก

 

 

           “ผิด? เรื่องที่ผิดที่สุดของฉันคือการเอาเธอกลับมาเลี้ยง เธอกับแม่หน้าไม่อายของเธอ รู้จักแต่ยั่วสามีของคนอื่น!” หวังอวิ่นไฉ่ถุยน้ำลายใส่หน้าของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนเต็มไปด้วยน้ำลายของเธอ

 

 

           “เธอจะด่าฉันก็ได้ แต่ห้ามด่าแม่ของฉัน!”

 

 

           “เผยหนานเจวี๋ยเป็นสามีของฉัน ฉันจะเป็นคนไร้ยางอายได้ยังไง คนที่เป็นเมียน้อยคือฉู่อีอีลูกสาวของเธอ! ถ้าตอนนั้นชีวิตส่วนตัวของเขาไม่เน่าเฟะ เขาจะไปเมืองนอกทำไม ฉันจะช่วยเขาโกหกทำไม”

 

 

           “ฉันแต่งเข้าบ้านเผยตั้งหลายปี ฉันเคยมีความสุขสักวันเหรอ”

 

 

           “ฉันทำทุกอย่างตามที่เธอวางแผน ทำไมสุดท้ายถึงกลายเป็นฉันที่หน้าไม่อายซะล่ะ? ทำไมคนที่ผิดที่สุดกลายเป็นฉัน? หวังอวิ๋นไฉ่ นโมธรรมของเธอถูกหมากินไปแล้วหรือไง?!”

 

 

           ฉู่เจียเสวียนโกรธจนตัวสั่นทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างในอดีตเป็นเพราะพวกเขาทั้งสองคุกเข่าอ้อนวอนให้เธอช่วยเหลือ แต่ทำไมสุดท้ายจึงเป็นความผิดของเธอ

 

 

           ใช่สิ เธอผิดไปแล้วจริงๆ ถ้าหากเธอไม่รับปากว่าจะช่วย เช่นนั้นเรื่องหลังจากนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น เธอจะไม่ถูกทรมานจากเผยหนานเจวี๋ยเป็นเวลาสามปี จนสุดท้ายแม้แต่ลูกก็ปกป้องไม่ได้

 

 

           มันเป็นความผิดของเธอ เธอสมควรได้รับความผิดเหล่านี้ หากเธอไม่ไปเป็นคนที่แสนดี การแก้แค้นเหล่านี้ก็จะไม่ตกอยู่กับเธอ

 

 

           ความโศกเศร้าและความเจ็บปวดไหลลงไปในหัวใจของฉู่เจียเสวียนทันที ทั้งๆ ที่ตอนนี้เธอบอกว่าเธอต้องการจะลืมอดีตแล้ว แต่ทำไมเธอถึงยังไม่ยอมปล่อยเธอไป

 

 

           ทำไมต้องเอาทุกอย่างในอดีตมาลงที่เธอ

 

 

           ดูเหมือนว่าอากาศจะเยือกเย็นลง หวังอวิ๋นไฉ่โกรธจนตัวสั่น

 

 

           ผู้หญิงเลวคนนี้ จนป่านนี้แล้ว เธอยังกล้าปากแข็งแบบนี้อีก!

 

 

           “แกมันคนเลว จนป่านนี้แล้ว แกยังปากแข็งแบบนี้ แกคิดว่าฉันไม่กล้าตีเธอให้ตายหรือไง!”

 

 

หวังอวิ๋นไฉ่กวาดตามองหารอบๆ เมื่อเห็นแส้บนพื้น เธอก็ไม่ลังเลที่จะหยิบแส้บนพื้นขึ้นมา แล้วฟาดลงไปที่ฉู่เจียเสวียน

 

 

           ทุกครั้งที่แส้ฟาดลงไป ก็จะมีลมเย็นส่งเสียง “วืดๆ” แส้นั้นฟาดลงไปที่ตัวฉู่เจียเสวียน เธอไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ กัดฟันแน่นและไม่ยอมส่งเสียงร้องใดๆ

 

 

           ตอนนี้บนหน้าผากของเธอมีเหงื่อซึมออกมาแล้ว ทั้งๆ ที่เป็นวันในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ ใครๆ ก็จินตนาการได้ว่าแส้นั้นเจ็บปวดแค่ไหน

 

 

           ผู้ชายเหล่านั้นยืนมองอยู่ข้างๆ มองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าเธอจะบ้าคลั่งถึงเพียงนี้ แต่ว่าพวกเขากลับไม่ได้สนใจ และได้แต่ยืนดูละครอยู่อย่างนั้น

 

 

           มากเรื่องใช่ว่าจะเป็นเรื่องดี

 

 

           “หวังอวิ๋นไฉ่ ในที่สุดฉันก็รู้ว่าทำไมฉู่อีอีถึงอารมณ์ร้อนและเลวทรามขนาดนั้น ที่แท้เป็นเพราะมีแม่อย่างเธอแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากต่อว่าหวังอวิ๋นไฉ่ ทดลองใช้วิธีนี้เพื่อถ่ายโอนความเจ็บปวด

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยินแล้วยิ่งออกแรงหนักกว่าเดิม ไม่นาน บนร่างกายของฉู่เจียเสวียนก็มีบาดแผลเพิ่มขึ้น

 

 

           เธอรู้ไหมว่าที่เธอทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย” สูดหายใจลึก ฉู่เจียเสวียนพูดต่อ

 

 

           “หวังอวิ๋นไฉ่ เธออย่าทำผิดอีกเลย ตอนนี้ฉู่อีอีไม่อยู่แล้ว หรือว่าสุดท้ายแล้วเธอก็อยากตายด้วยหรือไง” ฉู่เจียเสวียนลองเกลี้ยกล่อมเธอ

 

 

           “เฮอะ ผิดกฎหมาย? ฉันทำผิดกฎหมายแล้วยังไง ตอนนี้ฉันเหลือตัวคนเดียวแล้ว อย่างมากก็ตาย ถึงยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่เหลืออะไรแล้ว” หวังอวิ๋นไฉ่พูดพลางออกแรงฟาดเธอ เมื่อเห็นว่าผิวหนังของฉู่เจียเสวียนปริแตกแล้ว ดวงตาก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

 

 

 

 

       ตอนที่ 579 ฉันอยากฆ่าเธอ

 

 

           ในโกดังว่างเปล่า เสียงแส้ฟาดที่ดังก้องครั้งแล้วครั้งเล่านั้นดูเยือกเย็นสุดขีดในค่ำคืนที่เงียบสงัด

 

 

           สายลมนอกหน้าต่างดัง “หวือๆ” ไม่หยุดหย่อน คืนนี้ดูมืดมนมาก บนทางด่วน มีรถสปอร์ตสีดำคันหนึ่งขับอย่างรวดเร็ว และยังมีรถคนเล็กสองคันขับตามหลังเขา

 

 

           ในรถสปอร์ต เผยหนานเจวี๋ยเม้มปากแน่น สีหน้าเย็นชา แสงจันทร์สาดส่องอยู่บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาทำให้ยิ่งเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด ในตัวเขามีแต่แรงอาฆาต เร่งรุดไปถึงเป้าหมายโดยเร็วที่สุด

 

 

           หลังจากผู้ช่วยหาตำแหน่งของฉู่เจียเสวียนเจอแล้ว เขาก็รีบออกมาทันที ขับฝ่าไฟแดงตลอดทาง ความเร็วรถยิ่งเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด

 

 

           ‘ฉู่เจียเสวียน คุณจะต้องรอผม เดี๋ยวผมก็ถึงแล้ว คุณจะต้องรอผม’ ทันทีที่เท้าเหยียบ รถก็เหมือนจะวิ่งเร็วขึ้น

 

 

           ความเร็วนั้นดุจลูกศรที่พุ่งออกจากธนู

 

 

           ในโกดัง ตอนนี้ฉู่หมดสติไปแล้ว ในเวลานี้เสื้อผ้าของเธอก็มีรอยเลือดปรากฏให้เห็น

 

 

           “ราดน้ำให้ตื่น!” หวังอวิ๋นไฉ่ยังไม่สะใจ เธอจะทรมานเธออย่างโหดเ**้ยมให้พอ จากนั้นค่อยส่งเธอลงนรก!

 

 

           ความเกลียดชังของเธอที่มีต่อฉู่เจียเสวียนนั้นเข้ากระดูกดำนานแล้ว

 

 

           “ซู่ซ่า” ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเธอได้ยินแล้ว ยกน้ำเย็นขึ้นมาถังหนึ่งแล้วสาดไปที่ใบหน้าของฉู่เจียเสวียน

 

 

           หนาว ฉู่เจียเสวียนตัวสั่น ความรู้สึกหนึ่งเดียวของเธอคือความหนาว น้ำเย็นที่สาดใบหน้านั้นทำให้เธอลืมตาขึ้นช้าๆ ร่างกายของเธอเจ็บปวดจนเธอรู้สึกหมดแรง

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ยิ้มเย็นชา มองดูเธอในตอนนี้ที่หมดสภาพ รอยยิ้มในดวงตาของเธอชั่วร้ายเป็นที่สุด

 

 

           “แกหยิ่งนักไม่ใช่เหรอ แกมีความสามารถนักไม่ใช่เหรอ ว่าไงล่ะ ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ”

 

 

           “นังตัวดี! ตอนนี้แกอยู่ในมือของฉัน แกจะไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้แล้ว!”

 

 

           คำหยาบคายของหวังอวิ๋นไฉ่เป็นเหมือนคำสาป และแววตาก็เหมือนราวกับว่ากำลังมองไปที่คนตายอย่างไรอย่างนั้น         

 

 

           ลูกสาวของเธอตายไปแล้ว คนเลวอย่างฉู่เจียเสวียนจะอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร เธอต้องการให้เธอไปอยู่กับฉู่อีอี ให้เธอไม่ต้องเปล่าเปลี่ยวบนถนนหลังความตาย

 

 

           “แกจะฆ่าฉันเหรอ” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยเย็นชา จ้องมองดวงตาที่เย็นเยียนของหวังอวิ๋นไฉ่

 

 

           แม้ว่าในตอนนี้เธอถูกตีจนผิวหนังถลอกปอกเปิด เธอก็ยังรักษาท่าทีเยือกเย็นเอาไว้ แม้เธอจะเป็นนักโทษ เธอก็จะไม่แสดงความขี้ขลาดใดๆ ออกมา

 

 

           “ใช่ ฉันอยากฆ่าแก ทำไม กลัวงั้นเหรอ แกขอร้องฉันสิ แกขอร้องให้ฉันปล่อยแกไปสิ” หวังอวิ๋นไฉ่ยิ้มเอ่ย ความบ้าคลั่งผุดขึ้นในดวงตา

 

 

           ที่แท้ความเกลียดชังสามารถทำลายคนคนหนึ่งได้จริงๆ ไม่ว่าคนนั้นจะมีความเป็นอยู่ที่สูงส่งมากเพียงใด แต่เมื่อหน้ากากถูกกระชากออกมาแล้ว ก็จะกลายเป็นบ้าและเป็นเหมือนปีศาจตนหนึ่ง

 

 

           ในความทรงจำของฉู่เจียเสวียนนั้น หวังอวิ๋นไฉ่ค่อนข้างเป็นคนเกรี้ยวกราด แต่ว่าเธอไม่เคยเห็นเธอที่คลุ้มคลั่งเช่นนี้มาก่อนเลย

 

 

ในขณะนี้หวังอวิ๋นไฉ่เป็นเหมือนปีศาจที่มาจากนรกอย่างไรอย่างนั้น ความเกลียดชังในดวงตาของเธอเพียงพอที่จะกรีดฉู่เจียเสวียนจนถึงแก่ความตาย

 

 

           “เธอเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ แม้ความตายของฉู่อีอีจะไม่เกี่ยวข้องกับฉันเลยงั้นเหรอ?” ฉู่กัดฟันเอ่ยปาก ความเย็นชาในแววตาไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

 

 

           “ไม่เกี่ยวกับแก? ฉู่เจียเสวียน แกยังกล้าพูดอะไรแบบนี้อีกเหรอ” หวังอวิ่นไฉ่ยื่นมือออกมือหยุดยั้งความสง่างามของเธอไว้ บีบบังคับให้เธอเงยหน้ามองเธอ

 

 

           หนังศีรษะถูกดึงจนด้านชา ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว ใบหน้าขาวซีดมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าที่เดิมทีซีดอยู่แล้ว ยิ่งซีดขาวมากขึ้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงยหน้ามองเธอ ยิ้มมุมปากจางๆ “ถ้าเธอต้องการโยนความผิดมาให้ฉันจริงๆ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูด”

 

 

           ทั้งๆ ที่เธอเป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็กลับกลายเป็นคนชั่วที่ไม่น่าให้อภัยคนหนึ่ง

 

 

           หึหึ หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่ถึงเพียงนี้อย่างแน่นอน