หยางโปนั่งฟังคำพูดที่กราดเกรี้ยวของพวกเขาพ่อลูก เขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น ” ผู้กำกับเฉิน คุณเอาโทรศัพท์มาให้ผมสิ ! ”
เมื่อหยานเฉียงได้ยินเสียงของหยางโป ก็ลุกพรวดขึ้นทันที ” เอาสิ คนแซ่เฉิน คุณเป็นพวกเดียวกับใครกันแน่ ก่อนหน้านี้ผมว่าแล้วคุณไม่ค่อยจะปกติ นี่คุณถือหางเข้าข้างกันอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ดูเหมือนว่า ต้องเป็นคุณที่กำลังชักใยอยู่แน่ๆ ! ”
“ พอได้แล้ว ! ” หยางโปกล่าวตำหนิ “ เถ้าแก่หยาน คุณเป็นคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผมรู้ว่าหนทางที่คุณก้าวผ่านมามันโหดมาก และคงคิดว่าตัวเองสามารถเอามือปิดฟ้าและทำทุกอย่างในมณฑลเจ้อเจียงได้งั้นสินะ ? ”
เถ้าแก่หยานเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “ ผมไม่สามารถเอามือปิดฟ้าและทำทุกอย่างได้ แต่เชื่อมั่นว่าจะรับมือกับไอ้แมลงตัวเล็กอย่างคุณได้ ! ”
“ ไม่รู้ว่าใครให้ความมั่นใจแบบนี้กับเถ้าแก่หยาน ถึงได้กล้าพูดแบบนี้ออกมาได้ ดูเหมือนว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเถ้าแก่หยานจะราบรื่นเกินไปแล้ว ! ” หยางโปถือโทรศัพท์และเหลือบมองไปทางลัวย่าวหัว “ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายเป็นอย่างช้า ผมคิดว่าเราคงได้พบกันอย่างแน่นอน ”
พอพูดจบ หยางโปก็ตัดสายทิ้ง
หยางโปเงยหน้ามองลัวย่าวหัว ” เรื่องนี้ให้นายจัดการก็แล้วกัน ”
ดวงตาของลัวย่าวหัวเบิกกว้าง ” ทำไม ? ทำไมฉันต้องมาเคลียร์ปัญหาตบท้ายอีกแล้ว ! ”
“ เพราะนายมีเส้นสายที่กว้างขวางและมีสายสัมพันธ์มากมาย ชื่อของคุณชายลัวดังไปทั่วประเทศ ส่วนฉันไม่ไหว ที่นี่ไม่มีใครที่รู้จักฉัน แล้วจะมาช่วยเรื่องของฉันได้ยังไง ? ” หยางโปกล่าว
ลัวย่าวหัวไม่มีทางเลือก ” นายจะมาสนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้ทำไม สู้พวกเรากลับไปใช้ชีวิตที่มีความสุขดีกว่า… ”
ลัวย่าวหัวพูดมาได้ครึ่งทาง จู่ๆก็รู้สึกบางอย่างผิดปกติ เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นหวังลั่วตัน หวงเชิงอี้ และผู้กำกับเฉิน ต่างก็มองมาที่เขาด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่พอใจ ทันใดนั้นเขาก็ได้สติกลับมาและรีบพูดทันที ” เอาล่ะ เรื่องนี้ปล่อยให้ฉันเป็นคนจัดการเองก็แล้วกัน ฉันจะจัดการมันอย่างดีแน่นอน ”
หยางโปยิ้ม “ คนเก่งย่อมทำงานหนักกว่าคนอื่น คุณชายลัวทำได้ดีในด้านนี้มาโดยตลอด ฉันเชื่อว่านายจะทำได้อย่างสวยงาม ! ”
ลัวย่าวหัวหันไปเหลือบมองหยางโป รู้สึกหมดหนทางมาก ” ฉันค้นพบว่า ตอนนี้นายยิ่งนับวันยิ่งเก่งกาจขึ้นนะ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ใช้ให้ฉันไปทำหมด ส่วนนายก็นั่งเก็บเกี่ยวผลสำเร็จของคนอื่นไป ”
หยางโปยิ้ม “ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันเต็มใจที่จะทำนะ ฉันเองก็อยากเป็นเหมือนคุณชายลัวที่ไปไหนก็มีแต่เพื่อน ไปไหนก็มีแต่คนเลี้ยงข้าว ประจบหน้าประจบหลัง ฉันไม่มีความสามารถแบบนั้นเลย ! ”
“ เอาเถอะ นายไม่ต้องมาสาดสิ่งสกปรกโสมมใส่ฉันอีกแล้ว แค่ฉันไปจัดการก็จบแล้วใช่ไหม ? ”
ลัวย่าวหัวพูดอย่างช่วยไม่ได้
หยางโปยิ้ม ” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ มักจะมีจุดอ่อนอยู่มาก นายลองตรวจสอบดูก่อน ”
ลัวย่าวหัวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องควักโทรศัพท์แล้วเริ่มสอบถามข้อมูล
หวังลั่วตันมองหยางโปอย่างกังวลใจ “ ยังไงก็เป็นพวกอันธพาล เขาจะไหวไหม ? ” ไอลีนโนเวล
หยางโปส่ายหน้า ” พวกคุณน่ะ ยังไม่ค่อยรู้จักคุณชายลัวดี เขาเป็นคนในรัฐบาลใหญ่ มีเพื่อนมากหน้าหลายตาขนาดนั้น จัดการกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ถือว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ”
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่หยางโปกลับยังคงหันไปถามไถ่ผู้กำกับเฉิน “ ผู้กำกับเฉิน ธุรกิจการค้าของตระกูลหยานใหญ่โตขนาดไหนกันเชียว ? ”
ผู้กำกับเฉินคิดไตร่ตรองเล็กน้อย “ ตระกูลหยานทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลานาน พวกเขาสร้างอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากไว้ในหยูหาง จากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินของบริษัทอย่างน้อยมีสองถึงสามพันล้าน ”
หยางโปพยักหน้า อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังพัฒนาไม่เต็มที่ สองถึงสามพันล้านถือว่าเป็นบริษัทขนาดใหญ่แล้ว ในมณฑลเจ้อเจียง อย่างน้อยก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่สามอันดับแรก ! หากไม่มีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแล้ว เกรงว่าคงจะไม่สามารถทำอะไรได้มากมายขนาดนี้ !
ไม่นาน ลัวย่าวหัวก็เดินกลับมาพร้อมโทรศัพท์ เขาหันไปโบกมือให้หยางโป ” ฉันถามมาแล้วนิดหน่อย พวกเขามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับตระกูลซุน ”
หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ ตระกูลซุนไหน ? ”
“ ซุนเหอจั๋ว ซุนเชี่ยนหยุน ” ลัวย่าวหัวตอบ
หยางโปเข้าใจทันที ไม่น่าละที่ลัวย่าวหัวจะรู้สึกยุ่งยาก พวกเขาทั้งสองคนก็ถือได้ว่ามีภูมิหลังทางครอบครัวที่แข็งแกร่ง แต่อย่างน้อยแล้วทั้งสองก็เทียบกับตระกูลซุนไม่ได้ ถ้าลัวย่าวหัวขอให้เพื่อนที่นี่กดตระกูลหยาน เกรงว่ามันคงจะไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
หยางโปครุ่นคิดอยู่สักพัก “ เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง ! ”
ลัวย่าวหัวพยักหน้า “ นายมาเคลียร์เลย ! ”
หยางโปเดินถือโทรศัพท์ออกไป ขณะที่ลัวย่าวหัวเดินกลับมา หวงเชิงอี้ก็แทบรอไม่ไหวที่จะถาม
“ สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง ? เขาพูดว่าไงบ้าง ? ”
ลัวย่าวหัวส่ายหัว ” ไม่เป็นไร รอสักครู่ ให้หยางโปคิดหาวิธีก่อน ”
ผู้กำกับเฉินมีสีหน้าที่ค่อนข้างลำบากใจ ” ตระกูลหยานมีภูมิหลังที่ลึกมาก ? ”
“ เกือบจะใหญ่คับฟ้าแล้ว ” ลัวย่าวหัวกล่าวเสริม
ผู้กำกับเฉินจ้องเขม็ง เขาหันมองออกไปข้างนอก “ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ แม้แต่คุณหยาง เกรงว่า เกรงว่าก็… ”
ลัวย่าวหัวส่ายหน้า “ ก็ไม่แน่ รอฟังข่าวจากเขาก่อนดีกว่า ! ”
สีหน้าของผู้กำกับเฉินเต็มไปด้วยความกังวล สำหรับเขาแล้ว ภูมิหลังของลัวย่าวหัวก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าหยางโปจะมาออกโรงด้วยตัวเอง ก็ไม่มีผลอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เส้นสายของตระกูลหยานใหญ่คับฟ้า ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่จะพูดจาแบบนี้ในมณฑลเจ้อเจียง เขาค่อนข้างจะเสียใจ บางทีเขาทำเพื่อหยางโปจนไปทำความขุ่นเคืองใจต่อตระกูลหยานเข้า มันดูจะไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไร
ในห้องเงียบกริบ หวังลั่วตันหลือบมองออกไปข้างนอกแล้วหันมามองหน้าผู้กำกับเฉินอีกครั้ง
อดไม่ได้ที่จะเริ่มรู้สึกกังวลใจ ถ้าเคลียร์เรื่องนี้ไม่ได้ก็ช่าง แต่ถ้าหยางโปเข้ามายุ่ง มันคงจะไม่ดีไปใหญ่
ไม่นานหยางโปก็เดินกลับมา ลัวย่าวหัวอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของหยางโปที่ดูผ่อนคลาย
ผู้กำกับเฉินหันไปมองหน้าหยางโป “ คุณหยาง เป็นยังไงบ้าง ? ”
หยางโปพยักหน้า ” ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้ผลเอง ”
ผู้กำกับเฉินอดที่จะตกใจไม่ได้ น้ำเสียงค่อนข้างสั่นเทา “ รู้ผล ? หมายความว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำต่อไปไม่ได้แล้ว ? ”
หยางโปยิ้ม “ ไม่ต้องห่วง คงแค่ครึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยคุยกันอีกที ”
หวังลั่วตันมองหยางโป และพูดคร่ำครวญขึ้นมาว่า “ คุณมีอะไรก็พูดออกมาตามตรงเลย จะซ่อนมันไว้ทำไม ? ”
หยางโปยิ้ม “ ผมพูดไปแล้วไม่ใช่หรือไง ? ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ ผมจะหัวเราะออกไหม ? ”
“ แต่ยังไงซะเขาก็มีอำนาจล้นฟ้า ” หวงเชิงอี้กล่าว
หยางโปส่ายหัว “ อำนาจล้นฟ้าอะไร ? ไม่เชื่อคุณก็ถามย่าวหัวได้ ตระกูลหยานที่บอกว่าที่มีอำนาจล้นฟ้า มันก็แค่เพื่อนที่เปลือยก้นโตมาด้วยกันกับลัวย่าวหัวก็เท่านั้น ! ”
“ ไป ไป ไป ! จะมีใครพูดได้น่ารังเกียจเท่านายได้อีกแล้ว ! ” ลัวย่าวหัวพูดอย่างไม่พอใจ
หยางโปหัวเราะ ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมอีก เขารู้ดีว่าพวกเขาไม่ยอมเชื่อ ต่อให้อธิบายไปมากแค่ไหน เกรงว่าจะทำให้ว้าวุ่นใจกันซะเปล่า รอพรุ่งนี้ดีกว่า !
หยานเฉียงนั่งมองพ่ออยู่บนโซฟา ” พ่อ ผมคิดว่าพ่อสุภาพเกินไปสำหรับพวกเขาแล้ว คนอย่างพวกเขา จะไปสุภาพด้วยทำไม ? ”
“ แกรู้ที่ไปที่มาของพวกมันไหม ? ” พ่อหยานถาม
หยานเฉียงส่ายหัว “ เป็นแค่เด็กหนุ่มสองคนเท่านั้น จะมีประวัติความเป็นมาอะไรกัน ? ”
“ แล้วที่แกออกไป ผู้คนรู้ได้ไงว่าแกเป็นลูกของฉัน ? ” พ่อหยานถาม
หยานเฉียงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ ผมไม่ใช่ลูกพ่อหรือไง ? ”
พ่อหยานไม่สนใจเขาและพูดต่อ “ ฉันไปสืบมาแล้ว ทั้งสองคนประวัติไม่ธรรมดา เมื่อคืนก่อน คุณชายสองสามคนจากตัวเมืองหลวงของมณฑลยังไปกินข้าวที่เหิงเตี้ยนกับพวกเขาเลย ”
ในขณะที่พูด โทรศัพท์ก็ดังขึ้น พ่อหยานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ใบหน้าก็ถอดสีไปทันที