ในสถานที่ถ่ายทำดูอึมครึมขึ้นมาทันที หน้าตาทุกคนดูอึดอัด ต้องรู้ว่าเงินค่าตอบแทนแต่ละตอนของหลายๆคนได้มาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเงินลงทุนถูกถอดออกไปในครั้งต่อไป คงยากที่จะได้รับเงินค่าจ้าง
ผู้กำกับเฉินล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา เดินออกไปทางด้านข้าง และเริ่มโทรศัพท์
หวังลั่วตันมายืนข้างหยางโป “ คุณโอเคไหม ? ”
หยางโปส่ายหัว “ ยังดีนะ ที่ผมไม่เป็นไร ไม่โดนคุณใช่ไหม ? ”
หวังลั่วตันส่ายหน้า ใบหน้าสวยแดงระเรื่อเล็กน้อย “ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง ”
“ มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย ผมควรจะขอบคุณคุณที่คอยปกป้องผมซะมากกว่า ผมดีใจจริงๆ ”หยางโปส่งยิ้มให้ เขาเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น เขาไม่สนใจหรอกว่าละครเรื่องนี้จะถ่ายทำต่อไปได้หรือไม่ สำหรับเขาแล้ว การที่อีกฝ่ายมาด่าว่าตัวเองแบบนี้ มันทนไม่ได้จริงๆ !
“ ละครถ่ายทำต่อไปไม่ได้แล้ว ฉันคงได้พักผ่อนแล้ว ” หวังลั่วตันยิ้ม
“ คุณถ่ายทำไปได้ครึ่งค่อนเรื่องแล้ว จะออกอากาศก็ไม่ได้ เงินก็ไม่ได้อีก คุณไม่กังวลใจสักนิดเลยเหรอ ? ” หยางโปหันมามอง
หวังลั่วตันยิ้ม “ ไม่เป็นไร คนเยอะออกขนาดนี้ ไม่ใช่ฉันแค่คนเดียวสักหน่อย รอให้ผู้กำกับมาสั่ง ยิ่งไปกว่านั้นแค่ฉันเสนอไอเดียให้คุณข้อหนึ่ง ก็ได้กำไลมาตั้งวงหนึ่งแล้ว มันก็ถือว่าได้กำไรแล้ว ฉันไปถามเพื่อนมา กำไลที่คุณให้มามีค่าไม่ต่ำกว่าแปดเก้าแสนเชียวนะ ! ”
หยางโปยิ้ม “ แปดเก้าแสน มากกว่าเงินเดือนของคุณเท่าไหร่ ? ”
“ พอฟัดพอเหวี่ยง ” หวังลั่วตันตอบ
หยางโปพยักหน้า ค่าตอบแทนของเธอก็ไม่ได้สูงมากนัก
ลัวย่าวหัวเดินเข้ามา ” ฉันค้นพบว่า ไม่ว่านายจะไปที่ไหนก็สร้างแต่ปัญหาไปซะทุกที่เลยนะ ?
นี่มันไม่ง่ายเลยนะที่ฉันจะได้บทละครมาสักบท นายดูสิ ถูกนายทำซะย่อยยับไปหมดแล้ว ”
หยางโปเหลือบมองไปที่ลัวย่าวหัว ” ขอฉันดูบทของนายหน่อยสิ มันมีสักกี่คำกัน ? ”
“ มีไม่กี่คำหรอก นายอย่าดูดีกว่า ” ลัวย่าวหัวรีบหยิบบทละครซ่อนไว้ในอ้อมอกด้วยความรวดเร็ว
หยางโปเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ใช้ประโยชน์ในระหว่างที่ ลัวย่าวหัวไม่ทันสังเกต แย่งบทละครมาดู ลัวย่าวหัวรีบเอื้อมมือออกไปคว้าไว้ แต่หยางโปกลับเห็นตัวอักษรบนนั้นแล้ว ด้านในเขียนข้อความไว้เรียบง่ายมาก
” ซื้อแตง แล้วถูกยิงล้มลงไปบนพื้น คว้ากริ๊งที่มือของ(หวงเชิงอี้) การปฏิวัติยังไม่สำเร็จ สหายยังต้อง… ”
หยางโปมองบทละครบนกระดาษ ที่อธิบายไว้อย่างคราวๆ แล้วเหลือบไปเห็นบทละครของจริงอีกครั้ง คำพูดมีทั้งหมดเพียงสิบสองคำเท่านั้น ลัวย่าวหัวได้พูดเพียงสิบคำเท่านั้น แล้วก็ ” ตาย ” !
ลัวย่าวหัวทำอะไรไม่ถูก “ ฉันก็ไม่ได้มีทักษะการแสดงอะไร ก็ทำได้แค่นี้แหละ ! ”
หวงเชิงอี้เดินเข้ามาในเวลานี้ ” ละครเรื่องนี้คงถ่ายทำกันไม่ได้แล้ว ผู้กำกับเฉินกำลังออกไปคุยโทรศัพท์ ดูเหมือนว่าจะมีความหวังไม่มากแล้ว ฉันว่า สู้คุณหยางลงทุนให้ดีกว่าไหม ! ”
หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “ ผมลงทุนงั้นเหรอ ? ”
ลัวย่าวหัวทั้งตกใจและปนดีใจจนพูดว่า ” นี่ถือเป็นวิธีที่ดีเลย นายยังมีบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์อยู่ในมืออีกแห่งไม่ใช่หรือไง ? นายลงทุนไปเลยมันก็สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้แล้วไม่ใช่หรือไง ? ”
หยางโปอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาหันกลับไปมองผู้กำกับเฉิน เมื่อเห็นว่าผู้กำกับเฉินคุยโทรศัพท์โดยใบหน้าที่ทุกข์ใจอยู่ “ รอถามผู้กำกับเฉินดูก่อน ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะลงทุนให้ ”
ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” ถ้านายเป็นคนลงทุนให้จริงๆ ให้ฉันเป็นพระเอกนะ ”
หยางโปปรายตามองลัวย่าวหัว ” นายจะมาเป็นพระเอก ? ”
“ ฉันเป็นไม่ได้หรือไง ? ” ลัวย่าวหัวยืดอก
หยางโปมองไปที่หวังลั่วตัน ” คุณคิดว่าไง ? ”
หวังลั่วตันค่อนข้างที่จะลังเลใจ “ ฉันไม่รู้ ” novel-lucky
หยางโปมองไปที่หวงเชิงอี้ หวงเชิงอี้ ก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “ คุณทำไม่ได้ ทักษะการแสดงของคุณเกินจริงเกินไป มันเหมือนกับละครเวที อีกทั้งยังดูเกินจริงกว่าการแสดงบนเวทีไปอีก ทักษะการแสดงแบบนี้ในละครมันดูโดดเด่นเกินไป ”
ใบหน้าของลัวย่าวหัวปรากฏความยุ่งยากใจ ” สาวน้อย หน้าตาคุณก็ออกจะสวยนะ มีใครเคยบอกคุณไหมว่าปากของคุณมันช่างร้ายกาจเอามากๆ มันจะจำกัดการพัฒนาของคุณได้นะ ”
หวงเชิงอี้เอียงหน้ามอง “ จำกัดก็จำกัดไปสิ ”
หยางโปยืนยิ้มอยู่ข้างๆโดยไม่พูดอะไร
ไม่นาน ผู้กำกับเฉินก็กลับมาและพูดว่า ” เอาล่ะ วันนี้ทุกคนแยกย้ายกันกลับเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมารวมตัวกันที่นี่ ”
ลัวย่าวหัวรีบถามผู้กำกับทันที “ ผู้กำกับ จัดการว่าไง ? ไอ้คนปัญญาอ่อนนั่นยังจะกลับมาอีกไหม ? ”
ผู้กำกับเฉินรู้สึกไม่มีทางเลือกอื่น เขามองไปลัวย่าวหัว ” คุณไม่ต้องไปสนใจแล้ว ”
ลัวย่าวหัวยังอยากจะพูดมากกว่านี้ แต่กลับถูกหยางโปคว้าตัวเขาและส่ายหน้าห้ามเขาไว้ เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับเฉินไม่ต้องการพูดอะไรมากที่นี่ ยังไงคนมากปัญหามันก็เยอะ
ไม่นานหยางโปทั้งสองก็ตามพวกเขากลับมาถึงที่โรงแรมและเข้าไปในห้องของผู้กำกับเฉิน
ผู้กำกับเฉินถึงได้เอ่ยปากพูด “ เกรงว่าครั้งนี้จะเกิดปัญหาขึ้นซะแล้ว คิดว่าพวกคุณคงจะยังไม่ค่อยเข้าใจ ละครเรื่องนี้ถ่ายทำขึ้นเพื่อหยานเฉียง พ่อของเขาลงทุนให้ยี่สิบล้าน เพื่อต้องการเติมเต็มความปรารถนาของเขาและทำให้เขาได้กลายเป็นดารา ”
จู่ๆหยางโปเหมือนพอจะเดาออก เขาเหลือบมองไปที่หวังลั่วตัน ทั้งคู่ต่างก็เป็นดารารุ่นเยาว์ที่โด่งดัง ค่าจ้างก็คงไม่น้อยทีเดียว สามารถเชิญสองคนนี้มาได้ ย่อมไม่มีทางที่จะหาพระเอกที่เหมาะสมกับสองคนนี้ได้ นอกจากจะตั้งใจหาดาราชายสักคนมาสวมบทบาท ถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ เถ้าแก่หยานพูดว่าไงบ้าง ? ” หยางโปถาม
ผู้กำกับเฉินไม่มีทางเลือก “ เถ้าแก่หยานยังไม่ได้พบกับลูกชายของเขา เขาอยากจะพบกับลูกชายก่อนถึงจะตัดสินใจขั้นต่อไปได้ ”
ในขณะที่พูด โทรศัพท์ของผู้กำกับเฉินก็ดังขึ้น เขาก้มมองหน้าจอที่กระพริบ ลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็กดปุ่มรับและกดปุ่มขยายเสียง จากนั้นก็หันมาส่งสัญญาณให้หยางโป เพื่อให้ทุกคนเงียบ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงเถ้าแก่หยานดังมาตามสาย ” น้องเฉิน ตอนนี้ลูกชายของผมกลับมาแล้ว
เมื่อสักครู่ผมได้ยินที่เขาเล่ามาแล้วเช่นกัน เรื่องนี้คุณทำไม่ถูกนะ ในเมื่อคุณเป็นผู้กำกับ คุณก็ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของทุกคนในกองถ่าย ทำไมคุณไม่ปลอบใจและไต่ถามพระเอก
แต่กลับไปปลอบใจและถามไถ่คนนอก ”
ผู้กับเฉินรีบอธิบาย ” เถ้าแก่หยาน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เรื่องนี้อันที่จริงมันเป็นสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบจริงๆ ผมอยากจะขอให้คุณโปรดเมตตาด้วย ”
“ ถ้าคุณอยากให้เรื่องนี้จบโดยดี ก็แค่เรื่องง่ายๆ คุณให้คนที่ทุบตีลูกชายของผมคนนั้นเข้ามาขอโทษ เรื่องนี้ก็ถือว่าจบกัน ” เถ้าแก่หยานกล่าว
“ เขาไม่เพียงมาขอโทษ ฉันยังต้องต่อยเขาคืนทีหนึ่งเรื่องถึงจะจบ ! ” เสียงหยิ่งยโสของหยานเฉียงดังมาตามสาย
หยางโปอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ผู้กำกับเฉินรู้สึกลำบากใจมาก ” เถ้าแก่หยาน คุณอาจไม่รู้สถานะของอีกฝ่ายดี ให้ผมแนะนำให้คุณรู้จักหน่อยไหม ! ”
“ ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจว่าสถานะของเขาจะเป็นอะไร ยังไงก็ตามเขาต้องไม่รวยไปกว่าผมแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นผมไม่สนว่าเขาจะมีสถานะอะไรเช่นกัน แต่ในถิ่นมณฑลเจ้อเจียง ไม่มีใครมีอำนาจไปมากกว่าผม ! ” เถ้าแก่หยานพูดอย่างโอ้อวดมาก ทุกคนในห้องต่างพากันตกใจไม่น้อย
หยางโปถลึงตาจ้องไปที่โทรศัพท์ เป็นคนที่หยิ่งผยองแค่ไหนกันเชียว ถึงได้พูดแบบนี้ออกมาได้ !
“ เถ้าแก่หยาน นี่… ถ้าเขาไม่ไปล่ะ ” ผู้กำกับเฉินถาม
“ ถ้าอย่างนั้นผมจะตีขาเขาจนหัก ! ” เถ้าแก่หยานกล่าว
“ ตีขาหักทั้งสามข้างเลย ! ” หยานเฉียงกล่าวเสริม