หยางโปก็ไม่รู้ว่าช่างแต่งหน้าทาอะไรบนใบหน้าของเขา มันดูเยิ้มๆเหนียวๆไปหน่อย แต่ก็ไม่มีเวลามาให้เขาคิดเรื่องนี้มาก ช่างแต่งหน้าตบไหล่แล้วพูดอย่างจริตจะก้านว่า “ ยังไม่รีบออกไปอีก
ไปรออยู่ข้างนอกนั้น ! ”
หยางโปกลัวจนขนลุกไปหมด เขารีบเดินออกไปและมาถึงที่สถานที่ถ่ายทำ
ลัวย่าวหัวล้ำหน้าเขาไปก้าวหนึ่ง ได้พบกับเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังท่องบทอยู่
เมื่อหยางโปเห็นพวกเขาจริงจัง ก็ไม่ได้เดินเข้าไปรบกวน แต่แค่ยืนอยู่ข้างมองดูอยู่ห่างๆ
ดูเหมือนเวลานี้เป็นช่วงพักผ่อน พระเอก นางเอก กำลังท่องบทกันอยู่ ทั่วทั้งกอง มีแต่พระเอก นางเอก ที่แต่งชุดหรูหรา คนอื่นนุ่งห่มเสื้อผ้าฉีกขาด มอมแมม นางเอกหยางโปก็รู้จักเช่นกัน
เธอคนนั้นคือหวังลั่วตัน หยางโปคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่กันหมด
ไม่ว่าเมื่อหยางโปจะยืนอยู่ที่ไหน ลัวย่าวหัวก็จะส่งยิ้มให้เขาอย่างมีชัย เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ได้บทตัวประกอบคนหนึ่งที่มีบทพูดมาครอง
หยางโปครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และวิ่งไปที่หน้าแผงขายผลไม้ ยิ้มแล้วถามว่า “ ครึ่งโลเท่าไร ? ”
เจ้าของแผงขายผลไม้เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างผอมเพรียวหุ่นดี แต่เสื้อผ้าขี้ริ้วขี้เหร่ ก้มหน้าและไม่พูดอะไร เมื่อได้ยินหยางโปถาม ก็เงยหน้าขึ้นและฉีกยิ้มส่งให้ทันที ” ไม่เอาเงิน ”
หยางโปมองดูใบหน้ายิ้มแย้มที่น่ารักนี้ และถึงกับตกตะลึงไปทีเดียว ” หวงเชิงอี้ ทำไมคุณแต่งตัวแบบนี้ ? ”
หวงเชิงอี้หัวเราะลั่น ” แบบนี้ดูไม่ดีเหรอ ? ”
หยางโปมองไปที่เธอ ” มันน่ากลัวมาก ”
หวงเชิงอี้หัวเราะลั่น ” ฉันแสดงเป็นสายลับ กำลังทำงานอยู่ ”
“ คุณเป็นสายลับเหรอ ? สวยขนาดนี้ ไม่มีอะไรสกปรกติดบนใบหน้าเลย ชะเง้อชะแง้อยู่บนถนนแบบนี้ มันรู้สึกเหมือนหงส์ในหมู่กาจริงๆ แบบนี้มันจะดีจริงๆเหรอ ? ” หยางโปถาม
หวงเชิงอี้ยิ้มและพูดว่า “ แค่การแสดงน่ะ มันก็เป็นแบบนี้แหละ ! ”
หยางโปหัวเราะตาม “ เอาล่ะ ปกติผมไม่ค่อยชอบดูละครเท่าไหร่ ”
“ ดูออกเลย เพราะฉันรู้สึกว่าวันแรกที่กินข้าวด้วยกัน คุณไม่รู้จักฉันเลย ? ” หวงเชิงอี้ชายตามอง
หยางโป
หยางโปพยักหน้า “ ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ คุณดูออกด้วยเหรอ ? ”
“ เดาเอาน่ะ ” หวงเชิงอี้ก็ไม่รู้ว่าทำไม น้ำเสียงถึงดูไม่ค่อยจะไม่พอใจสักเท่าไร
เวลานี้เจ้าหน้าที่ภาคสนามก็เดินถือโทรโข่งตะโกนมาด้วยเสียงอันดัง ” ทุกคนแยกย้ายอยู่กับที่
ทุกคนเตรียมพร้อมกันแล้ว ! ”
หยางโปไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาควรจะยืนตรงไหน จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนข้างหลังกระชากตัวเอง “ คุณอย่าวิ่งไปมั่วซั่ว คุณเป็นแค่คนเดินสัญจรผ่านไปมา ”
หยางโปไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามแบบอย่างของคนอื่นและเดินไปมาตามท้องถนน
ยังมีหลายคนที่อยู่กับหยางโป ทุกคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เลอะเทอะ เดินอย่างไร้จุดหมายมาบนถนนสายสั้นๆ ที่ยาวกว่าสิบเมตร
หลังจากนั้นก็เห็นพระเอกและนางเอกเดินเข้ามา ทั้งสองดูเหมือนจะกำลังพูดถึงอะไรบางอย่าง หยางโปตั้งใจฟังอย่างระมัดระวัง ก็ได้ยินพระเอกละครกำลังพึมพำนับเลข “ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก หนึ่ง สอง สาม…… ”
หยางโปตกตะลึงไปอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปข้างหลัง พระเอกหนุ่มคนนั้นหล่อมาก แต่สีหน้าท่าทางกลับดูค่อนข้างเย่อหยิ่ง
“ หยุด ! หยุด ! หยุด ! ”
จู่ๆผู้กำกับเฉินก็หยิบลำโพงขึ้นมาและตะโกนออกมา ” คุณหยาง คุณเป็นแค่คนเดินสัญจรผ่านไปมา มันจะดีที่สุดถ้าไม่หันหน้ากลับไปมอง เมื่อสักครู่คุณเพิ่งถูกถ่ายเข้ากล้องไป ”
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากโบกมือให้ผู้กำกับเฉิน “ ผู้กำกับเฉิน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ! ”
ผู้กำกับเฉินกลับไม่สนใจชูมือขึ้น “ ถ่ายใหม่อีกครั้งสิ ! ”
ใบหน้าที่หล่อเหลาของพระเอกมีสีหน้าโกรธเกลียวอย่างปกปิดไม่มิด “ นี่ใครกัน ? ทำไมปัญญาอ่อนขนาดนี้ ทำไมเขาถึงถูกพาตัวมาที่นี่ได้ ? ” novel-lucky
หวังลั่วตันได้รับของขวัญชิ้นใหญ่จากหยางโป ช่วงนี้ก็ได้ไปที่บริษัทมาหลายครั้ง ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที ” หยานเฉียง ระวังกิริยามารยาทหน่อย ! ”
หยานเฉียงทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ “ ผมมารยาทแย่หรือไง ? ผมจะเทียบตัวประกอบคนหนึ่งไม่ได้เลยหรือไง ? ”
“ หยานเฉียง ไม่มีใครด้อยกว่าใคร ทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน ! ” หวังลั่วตันกล่าวต่อ
ทั้งสองไม่กลับไปประจำที่ตำแหน่งของตัวเอง แต่กลับยืนเถียงกัน มันจึงดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที หยางโปอดไม่ได้ที่จะขยับเข้าไปใกล้ขึ้น
เมื่อได้ยินหยานเฉียงพูดต่อว่า ” พวกเรามาถ่ายทำกันแต่เช้า ก็เพื่อเพียงเพราะความผิดพลาดของตัวประกอบคนนี้หรือไง ? แล้วมาให้เราถ่ายทำกันใหม่อีกครั้ง ถ้าเขาไม่ใช่คนโง่ แล้วเขาเป็น
อะไร ? ”
หยางโปถูกด่าเพราะความผิดพลาดครั้งนี้ และรู้สึกค่อนข้างที่จะตกใจ แต่อีกฝ่ายพูดจาหยาบคายเอามากๆ เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา !
ผู้กำกับกเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยเสียงอันดัง “ เหล่าหลิว คุณรีบไปดูสิ ! ”
หยานเฉียงทำฮึดฮัดไม่พอใจ “ ผมต้องมากลัวคุณในฐานะตัวประกอบหรือไง ? ”
ในขณะที่พูด หยานเฉียงยักไหล่แล้วเดินมาหาหยางโป ยังมีผู้ช่วยชายสูง เมตรเก้าสิบ ที่เดินตามเข้ามาหา คิดไม่ถึงว่าทันทีที่ผู้ช่วยชายใช้แรงก็รู้สึกว่าถูกรั้งไว้จากทางด้านหลัง เขาพยายามจะสะบัดทิ้ง แต่กลับถูกล็อคตัวเอาไว้
หยางโปส่ายหัวเล็กน้อยโดยที่ไม่คิดจะสนใจเลยด้วยซ้ำ
ในขณะที่ไหล่ของคู่ต่อสู้กระทบกัน หยางโปก็แค่เอียงตัวหลบไปทางด้านข้างเล็กน้อย หยานเฉียงถึงกับรับมือไม่ทัน พุ่งตรงเข้ามาข้างหน้า ! จนฝูงชนส่งเสียงร้องอุทานดังขึ้นทันที
เหล่าหลิวรีบวิ่งเข้ามาห้าม ” แยกย้ายเร็ว แยกย้ายกันเร็ว ! ”
หวังลั่วตันตกใจจนหัวใจไปอยู่ที่ตาตุ่ม กำลังจะเข้าไปขวางหยานเฉียงไว้ แต่กลับเห็นเขาล้มลงไปอยู่บนพื้นแล้ว เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถามไปว่า “ หล่อแต่ไม่ฉลาดเลยนะ ! ”
หยางโปยิ้มแต่ก็ไม่พูดอะไร
หยานเฉียงล้มลงบนพื้น ผู้กำกับจึงรีบวิ่งเข้าไปหา เมื่อเห็นหยานเฉียงลุกขึ้นและยังจะพุ่งเข้าไปหา
หยางโป เขาก็รีบตะคอกเสียงดังใส่ทันที ” หยานเฉียง คุณจะทำอะไร ? ”
“ ผู้กำกับเฉิน เขาตีผม คุณต้องช่วยผมนะ ! ” หยานเฉียงพูดด้วยเสียงอันดัง
ผู้กำกับเฉินเหลือบมองหยานเฉียง รู้สึกเสียใจที่หลอมเหล็กให้เป็นเหล็กกล้าไม่ได้ เขาหันไปมอง
หยางโป ” คุณหยาง คุณโอเคใช่ไหม ? ”
เมื่อหยานเฉียงได้ยินคำนี้ ก็ตกใจทันที เขาล้มลงบนพื้น น่าจะแสดงความเสียใจกับเขาก่อนไม่ใช่หรือไง ?
หยางโปยิ้ม “ ไม่เป็นไร ”
ผู้กำกับเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ เอาล่ะ แยกย้ายกันได้แล้ว มารุมล้อมกันอยู่ที่นี่ทำไม ? ถ่ายทำกันต่อสิ ! ”
หยานเฉียงตะลึงเมื่อเห็นปฏิกิริยาแบบนี้ของผู้กำกับ เขาก็ตกใจนิ่งเงียบไปทันที นักแสดงในทีมของตัวเองถูกซ้อม แต่เขากลับไปปลอบใจคนอื่น ?
“ ผมไม่ถ่ายแล้ว ! ” หยานเฉียงสะบัดมือทิ้ง และโยนหมวกลงบนพื้น เขาถอดเสื้อคลุมออก
และเขวี้ยงทิ้งลงพื้นทันที “ คนแซ่เฉิน ผมจะบอกคุณให้เอาบุญนะ ผมไม่โอเค ไม่อยากถ่ายทำมันแล้ว และจะถอนเงินลงทุนออกเดี๋ยวนี้ ถอน ถอนให้หมด ! ”
ตอนนี้ในที่สุดผู้ช่วยของหยานเฉียงก็หลุดพ้นจากการฉุดดึงของลัวย่าวหัว และเดินตามหยานเฉียงออกไป
ผู้กำกับเฉินไล่ตามไปได้ไม่กี่ก้าว ก็หันมองไปรอบๆอีกครั้ง และหยุดเดินตามทันที จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกและหดกลับ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังอยากจะรักษาศักดิ์ศรีไว้ !
หยางโปมองดูความยุ่งเหยิงในงาน อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เขามองไปทางผู้กำกับเฉิน เมื่อเห็นใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขา “ ผู้กำกับเฉิน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ มาครั้งแรกก็ทำให้คุณวุ่นวายใหญ่เลย ”
ผู้กำกับเฉินส่ายหัวและถอนหายใจเบาๆโดยที่ไม่พูดอะไร