บทที่ 330 หายไปได้จริงหรอ

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“ยังไงเธอก็ไม่มีธุระ งั้นช่วยไปสอนฉันทำที่บ้านได้ไหม แล้วเดี๋ยวฉันจะให้คนขับรถไปส่งเธอที่บ้าน ตอนนี้ซารางก็อยู่โรงเรียน ออกัสก็อยู่ที่บริษัท ดีไหม”

คิดแล้วก็ไม่มีอะไรต้องทำจริงๆ เชอร์รีนจึงตอบรับ จากนั้นทั้งสองคนก็ถือกระเป๋ากลับคอนโด

ยู่ยี่ทำอาหารไม่เป็นเลยสักนิด เชอร์รีนจึงสอนอย่างละเอียดทุกขั้นตอน และเข้าใจง่าย

และยู่ยี่ก็ฟังอย่างตั้งใจ เก็บทุกรายละเอียดที่เธอพูดไว้ในใจ เธอเรียนรู้สิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว และปฏิบัติได้อย่างแข็งขัน

หลังจากเสียใครไปห้าฟอง และบะหมี่หนึ่งห่อ เธอก็มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือรสชาติ จนขนาดเชอร์รีนยังอดชมเธอไม่ได้

….

บนโต๊ะเหล้า

หัสดินกลับมาดึกที่สุด เมื่อคนที่นั่งตรงนั้นเห็นเขาเดินเข้ามา ก็ทักทายเขา

เขาพยักหน้านั่งลงบนโซฟา ยกเหล้าขึ้นมาดื่ม ประตูห้องพิเศษถูกผลักออก และประธานจิราซูกรุ๊ปก็เดินเข้ามา ช่วงไม่กี่ปีมานี้เขาทุ่มเทให้กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จนบริษัทเติบโตขึ้น กลายเป็นหนึ่งในสิบบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองs

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนคือผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขา เธอมีผมยาวประบ่าหยักศก ใบหน้าสวย และผิวพรรณผุดผ่องราวกับตุ๊กตา

“ ผมเคยได้ยินชื่อท่านประธานมานานแล้ว วันนี้มีโอกาสได้เจอกัน ช่างเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ”ประธานครามเดินมาตรงหน้าหัสดิน พูดเยินยอด้วยรอยยิ้ม

“โถ่ ถึงชื่อเสียงของประธานหัสดินจะดังไปทั่ว แต่ก็สู้ประธานครามไม่ได้ แหมพาสาวสวยมาได้”

“ไหน นี่เลขาของผม”

ระหว่างพูดมือของประธานครามก็ยังค้างอยู่กลางอากาศ หัสดินที่นั่งอยู่บนโซฟาจึงโน้มตัวลงไปจับทักทายพอเป็นพิธี

แต่เมื่อสายตาของเขาเลือกไปเห็นผู้หญิงข้างหลังประธานครามเขาก็หยุดด้วยความแปลกใจ นั่นคือเรนนี่ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ

เรนนี่ทำตัวสง่างาม ราวกับเพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก เธอเหยียดนิ้วเรียวยาวของเธอและส่งยิ้ม “สวัสดีค่ะประธาน เจอกันเป็นครั้งแรก แนะนำด้วยนะคะ”

หัสดินพยักหน้า โน้มตัวไปแตะมือเบาๆ ไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรออกมา

ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ความบันเทิงคือเหล้าและผู้หญิงสวย ประตูห้องพิเศษเปิดออก มีผู้หญิงสวยมากมายเดินเข้ามา และเดินนั่งข้างเขาแต่ละคน

ในห้องเปิดเครื่องฮีตเตอร์ ทำให้ค่อนข้างร้อน เรนนี่จึงยืนขึ้นถอดเสื้อคลุมสีเทาของเธอออก ข้างในเธอใส่เสื้อแขนกุดสีดำรัดรูป ทำให้สามารถเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างชัดเจน เซ็กซี่ โดยเฉพาะแขนขาวของเธอที่โผล่พ้นเสื้อออกมา ทำให้มีผู้ชายไม่น้อยที่มองไป

ข้างซ้ายของเธอคือหัวดิน ส่วนข้างขวาของเธอคือประธานคราม ผู้หญิงที่นั่งข้างตัวของหัสดินก็พยายามเกาะติดเขาไม่ปล่อย

หัสดินผลักเธอออกไปอย่างทนไม่ไหว และไม่คิดจะปิดบัง ขณะที่ เรนนี่เติมเหล้าให้ประธานครามขอของเธอก็ยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้เห็นคอเรียวระหง

ทั้งสองคนนั่งใกล้กันมาก บางทีแขนของเธอก็สัมผัสแขนของเขา เขาเขย่าแก้วไวน์ในมือเบาๆ แล้วมองแขนของเธอเต็มสองตา

หลังจากเคารพทุกคนบนโต๊ะเสร็จแล้ว เธอก็หันแก้วไวน์มาทางเขา “ประธานหัสดิน ขอชนหน่อยค่ะ”

”ประธานหัสดินชนแน่นอน แต่ไม่ใช่การชนธรรมดา มาแลกแก้วกัน” มีคนพูดขึ้น

คนอื่นก็เชียร์ตาม “ใช่ มาแลกแก้ว”

สายตาของหัสดินมองไปที่ทุกคน แล้วพูดช้าๆ “ไม่เอาดีกว่า ถ้าภรรยาผมรู้คงไม่ใช่เรื่องดี”

งานสังสรรค์ยังคงรื่นเริงต่อไป ไม่ว่าจะมีภรรยาหรือไม่ เมื่ออยู่ต่อหน้าคนมากมายและผู้หญิงคนอื่น ไม่มีใครเขาพูดออกมา ถ้าพูดออกมาแล้ว ก็เหมือนพูดเล่นกลางวง ผู้ชายก็อย่างนี้ ใครๆก็เจ้าชู้

แต่เมื่อพูดอย่างนี้ออกมา ทุกคนก็หัวเราะ และชุมเขาว่าเป็นสามีที่ดี ภรรยาของเขาโชคดีจริงๆ

เรนนี่นิ่งเล็กน้อย แต่ผ่านไปไม่กี่นาที เธอก็กลับมาเป็นปกติ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ภรรยาของคุณโชคดีจัง ทำให้ฉันอิจฉาเลย”

หัสดินมองเธอและยกยิ้ม ก่อนจะยกแก้วตรงหน้าขึ้นมาดื่ม

และจากนั้นก็ดื่มไปคุยไป ผู้ชายบางคนก็ซุกไซร้กับสาวข้างกาย แต่หัสดินไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เมื่อถึงเวลาสามทุ่มครึ่ง

เขาก็ยืนขึ้นและตั้งใจจะกลับ แต่ทันทีที่เขายืนขึ้น คนอื่นก็ยืนขึ้นตาม

“ไม่ต้องสนใจผม สนุกกันต่อไปได้เลย ผมมีเรื่องให้ต้องไปจัดการ” หัสดินพูด

เรนนี่ก็หยุดคุยกับประธานครามเช่นกัน เธอมองหัสดินที่กำลังเดินออกไปจากห้อง ก่อนจะเห็นว่าเขาลืมเสื้อสูท

“ประธานหัสดิน เดี๋ยวก่อนค่ะ เสื้อของคุณ” เธอตามออกไป

หัสดินหยุดเดิน ยื่นมือออกไปรับ แล้วสำรวจชุดที่เธอใส่ ก่อนจะพูดอย่างเกียจคร้าน “ที่นี่หนาวมาก รีบเข้าไปเถอะ”

พูดจบเขาก็ใส่เสื้อสูทแล้วเดินไปต่อ

เรนนี่ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ และยกมุมปากขึ้นมา เขาคงจะตัดสัมพันธ์กับเธอจริงๆแล้วสินะ

แต่ร่องรอยเหล่านั้น ร่องรอยที่ใกล้ชิดกันมันสามารถหายไปได้จริงหรอ

เคยสนิท เคยใกล้ชิด เขาลืมมันไปหมดแล้วจริงหรอ

…..

ยู่ยี่ไม่ได้ไปพักผ่อน เธอนอนบนโซฟา ดูวิธีทำอาหารเมนูบะหมี่เย็นง่ายๆ

ถึงจะธรรมดามาก แต่ก็ดูน่ารับประทานมาก

“ทำไมยังไม่นอน” หัสดินมองยู่ยี่ที่นั่งอยู่บนโซฟา

“คุณกลับมาแล้วหรอ” เมื่อได้ยินเสียงยู่ยี่ก็เงยหน้าขึ้น พร้อมยิ้มออกมา “ดื่มไปเยอะใช่ไหม กินอะไรมาหรือยัง”

“ยังไม่ได้กิน ที่กินไปก็มีแต่เหล้า มีอาหารเหลือไหม” กินเหล้าตอนท้องว่างทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว และรู้สึกร้อนท้อง

“ไม่มีแล้ว แต่วันนี้ฉันเรียนทำอาหารมา รอก่อนนะเดี๋ยวฉันไปทำให้”

“เดี๋ยวๆๆ” หัสดินรีบดึงแขนเธอไว้ “ท้องคุณใหญ่ขนาดนี้ ผมจะปล่อยให้คุณทำได้ยังไง คุณนั่งเลย ผมจะไปต้มมาม่ากิน”

เธอดึงมือเขาออกอย่างไม่เห็นด้วย “ท้องนี้สำหรับฉันถือว่ายังไม่มีผลกระทบอะไรมาก คุณนั่งลงเลย เดี๋ยวฉันกลับมา”

เธอเข้าไปในห้องครัว ทำตามขั้นตอนที่เชอร์รีนบอก ใช้มีดหั่นมะเขือเทศก่อน จากนั้นก็เอาไปต้มในน้ำอุ่น และนำออกมาลอกเปลือก

จากนั้นก็เตรียมไข่กับหอมใหญ่หั่นเป็นชิ้น ตั้งกระทะเทน้ำมันลงไปผัด ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ต้มบะหมี่

ผ่านไปสักพัก บะหมี่ซุปไข่มะเขือเทศก็เสร็จ การผสมผสานของสีแดง สีขาว และสีเขียวอย่างลงตัว ทำให้คนเห็นเริ่มอยากอาหาร”