ตอนที่ 523 ถึงวันที่ได้สาวงามมาอยู่ในอ้อมกอด / ตอนที่ 524 ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 523 ถึงวันที่ได้สาวงามมาอยู่ในอ้อมกอด

 

 

เหลียงอู๋เย่ว์เป็นเสี้ยนหนามในใจของฮ่องเต้ นางไม่พูดถึงก็ดีอยู่ แต่พอพูดถึงฮ่องเต้จึงรู้สึกไม่สบายใจ พลันสีหน้าก็เปลี่ยน สวมเสื้อคลุมให้นางเรียบร้อย มือประคองกอดเอวนางไว้กลบเกลื่อนร่องรอยความไม่สบายใจ แล้วพาเดินออกไปด้านนอก “ขอเพียงแต่เจ้าพูดว่าจะอยู่กับข้า เรื่องเหลียงอู๋เย่ว์นั้นข้าจะจัดการเอง”

 

 

เว่ยหมิ่นดูวัตถุประสงค์ของฮ่องเต้ออก จากท่าทางของเขาแค่แกล้งทำเป็นไม่สังเกตและทำทีเป็นคล้อยตามไปด้วย ดอกไม้ไฟจุดบนเนินเขา ส่วนพวกเขาอยู่ล่างเนินเขา เว่ยหมิ่นชี้ดอกไม้ไฟที่สว่างพร่างพรายบนท้องฟ้าแล้วหยุดฮ่องเต้ไว้ “นานแล้วจริงๆ ที่ข้าไม่ได้เห็นดอกไม้ไฟ ในวังมีข้อห้ามจุดดอกไม้ไฟ เทศกาลโคมไฟปีที่แล้วข้าป่วยพอดีเลยไม่ทันได้ดู ปีนี้ได้ดูจนอิ่มเลย”

 

 

ฮ่องเต้ทรงคิดในใจว่าแผนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ กระชับมือที่โอบกอดเอวให้แน่นขึ้น นางก็มาอยู่ในอ้อมกอดอันมั่นคงของเขา คิดมาตั้งกี่ปี เฝ้ารอมาตั้งกี่ปี นึกฝันอยู่ตลอด พอถึงวันที่ได้สาวงามมาอยู่ในอ้อมกอด ก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน

 

 

เว่ยหมิ่นพยายามบิดตัวออกจากอ้อมกอดของเขา “มีคนมองอยู่เยอะขนาดนี้ กลับไปจะเป็นขี้ปากคนได้ ฝ่าบาทปล่อยข้า”

 

 

ฮ่องเต้เริ่มโมโหขึ้นมา กดเสียงต่ำแล้วพูดตอบว่า “ใครจะกล้าพูดมากหรือ หากมีใครกล้าพูดมากแม้เพียงประโยคเดียว กลับไปข้าจะตัดลิ้นพวกมัน”

 

 

พั่งไห่ฟังด้วยความตกใจ รีบโบกมือให้นางกำนัลที่คอยปรนนิบัติอยู่ทางนั้นถอยออกไป ที่นี่ไม่ใช่เนินเขาก็เป็นบึงน้ำ ป่าก็อยู่ห่างออกไปไกล ท่านหญิงถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม แขนขาบอบบางพอใช้ได้ แต่ถ้าต้องหนีขึ้นมาจริงๆ คงหนีไปได้ไม่ไกล

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีฮ่องเต้โอบกอดอยู่ข้างกาย คงไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอก

 

 

เว่ยหมิ่นเอียงคอจับปิ่นทองที่เสียบอยู่บนหัว แสงสว่างจากดอกไม้ไฟชั่วพริบตาเดียวก็เพียงพอที่นางจะมองเห็นกองทหารรักษาพระองค์พร้อมอาวุธที่อยู่ไกลออกไป ไม่ใช่แค่ฝั่งนี้แต่มีทั้งสองฝั่ง รอบๆ กระโจมก็ล้วนแต่เป็นทหารรักษาพระองค์

 

 

ถ้าลงมือที่นี่ นางไม่มีโอกาสที่จะหนีเลยสักนิด

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋พูดไว้ไม่มีผิด นางคิดเรื่องนี้ตื้นเกินไป ฮ่องเต้จะเสด็จไปที่ใด ข้างกายล้วนแต่มีทหารรักษาพระองค์คอยคุ้มกัน คนอื่นที่ต้องการลอบสังหารก็ยังต้องวางแผนกันเป็นระยะเวลานาน นางเพียงแค่ร้อนใจขึ้นมาแวบหนึ่ง สมองก็คิดอะไรไม่เข้าท่าออกมา คิดอยากจะลอบสังหารฮ่องเต้ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันเสียจริง แต่ว่าก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ทั้งหมด นางสามารถใกล้ชิดฮ่องเต้ได้ก็ถือว่าได้เปรียบแล้ว ในจุดนี้นางมีโอกาสมากกว่าคนทั่วไปมาก ถึงจะลงมือด้านนอกไม่ได้ แต่ถ้าเป็นในกระโจมเล่า ฮ่องเต้คงไม่ได้ให้ทหารเข้ามาคุ้มกันถึงด้านกระโจมหรอกกระมัง

 

 

“เมื่อครู่ข้าดื่มไปเยอะ ตอนนี้ก็ออกมาตากลมจนเริ่มปวดหัว ข้าเหนื่อยอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว” นางขยับเข้าไปใกล้หัวไหล่ของฮ่องเต้ คิ้วสวยขมวดเข้าหากันและประคองศีรษะเขาไว้ ท่าทางช่างน่าเอ็นดู

 

 

ฮ่องเต้ใจเต้นแรง มือชะงักค้างอยู่ที่เดิม จึงถือโอกาสอุ้มนางขึ้นมา “ปวดหัวหรือ ให้ข้าเรียกหมอมาดูเจ้าหน่อยไหม”

 

 

เว่ยหมิ่นยิ่งซุกตัวเข้าหาอ้อมอกของเขา “ไม่ต้องหรอก ข้าหลับสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว ไม่ต้องเรียกท่านหมอ”

 

 

ฮ่องเต้ก็ดื่มเหล้า เมื่อครู่นี้ที่ตากลมไม่รู้สึกอะไร ตอนนี้ได้ยินนางร้องว่าปวดหัว แถมยังมาคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่างเชื่อฟังก็อดไม่ได้ที่จิตใจจะฟุ้งซ่าน จึงเร่งฝีเท้าไปทางกระโจม

 

 

พวกนางกำนัลเห็นฮ่องเต้อุ้มท่านหญิงกลับมาแถมท่าทางยังดูรีบร้อน ก็เข้าใจอะไรๆ ได้ดีจึงไม่เข้าไปรบกวน

 

 

พั่งไห่กระทืบเท้าหัวเราะยิงฟัน ด้านข้างมีขันทีน้อยวิ่งเสนอหน้ามาพร้อมกับผ้าขนหนูและหวี “ผู้ดูแลรอง กลางคืนน้ำค้างเยอะนัก ให้ข้าขัดรองเท้าให้ ทางนี้มีขันทีเฝ้าอยู่พอแล้ว ทางฝ่าบาทนั้นไม่อาจขาดท่านไปได้ จะให้ข้าน้อยพาท่านไปหรือไม่”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 524 ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน

 

 

พั่งไห่เหลือบมองเงาของสองคนในกระโจมแล้วหัวเราะ “ใครกล้าไปทูลเรื่องงานกับฮ่องเต้ตอนนี้ คนนั้นก็โง่มาก ทัศนียภาพคุ้มค่าที่จะเชยชม ฮ่องเต้ตรัสว่าเวลาช่างสั้น ทั้งคืนก็ไม่พอ พวกเราล้วนแต่เป็นทหารชั้นผู้น้อย ไม่คุ้มที่จะเอาชีวิตหนึ่งชีวิตไปแลกกับการได้รับการยกย่อง”

 

 

ขันทีน้อยรับคำแล้วขัดรองเท้าให้เขาสะอาดจนขึ้นเงา แถมยังพูดอีกว่าจะพาเขาไปดื่มน้ำชา น้ำชาปี้หลัวชุนเตรียมไว้พร้อมแล้วในห้อง พอน้ำเดือดก็ใส่สมุนไพรโกวชีไปอีกสองสามเม็ด เมื่อได้ดื่มในวันที่หนาวเหน็บก็ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและยังทำให้สดชื่นด้วย

 

 

พั่งไห่มองไปที่เขาก็เหมือนเห็นตัวเองในวัยฉกรรจ์ที่ใจคิดอยากจะปีนให้สูง หาวิธีประจบเอาใจคนมากมาย อ่อนน้อมจนไร้ศักดิ์ศรี อาชีพที่พวกเขาทำมันเลวทรามต่ำช้า หากอยู่จนถึงวันที่สำเร็จ ถึงจะมีหน้ามีตา เรียกใช้คนได้ตามใจชอบ แม้แต่เจ้านายในวังหลังพวกนั้นยังต้องให้เกียรติ์เขา อำนาจเป็นสิ่งดี ไม่มีคนไหนไม่อยากได้ กว่าเขาจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย ต้องฆ่าพ่อบุญธรรมของตนถึงจะมีโอกาสเลื่อนต่ำแหนงมาเช่นวันนี้ได้ พูดเพียงสองสามคำพูดจะมาขอบุญคุณจากเขานั้นช่างเป็นความเพ้อฝันของคนเขลาเสียจริง

 

 

แต่บางครั้งเมื่อมีคนใต้บังคับบัญชามาแสดงความเคารพ หากไม่รับไว้จะเป็นการทำร้ายจิตใจพวกเขา ไม่มีการเปรียบเทียบไม่ได้ ต้องมีใจคิดแข่งขันคนถึงจะมีความก้าวหน้า เมื่อคนใต้บังคับบัญชาได้ก้าวหน้าแล้ว คนที่จะได้ประโยชน์ก็ยังเป็นเขา เมื่อถึงเวลาควรจะได้รับก็ควรได้รับ

 

 

ดูแล้วในช่วงเวลานี้ฮ่องเต้คงจะไม่เรียกหา แทนที่จะยืนเป็นน้ำแข็งแกะสลักอยู่ที่นี้ ไม่สู้ไปพักดื่มชา ผิงไฟสบายๆ อยู่ในกระโจมอุ่นๆ จะดีเสียกว่า

 

 

“เรียกคนมาสองสามคนให้คอยดูอยู่ไกลๆ อย่าได้รบกวนฝ่าบาท ถ้ามีอะไรผิดปกติให้หาข้าทันที” เดินไปได้สองก้าวก็หันกลับมากำชับ “หาคนหนุ่มที่ฉลาดๆ หน่อยสักสองสามคน อย่าได้ง่วงเหงาหาวนอน หากข้าพบว่าเจ้าพวกนั้นดูไว้ไม่ดี ข้าจะถลกหนังเจ้าเป็นคนแรก”

 

 

ขันทีน้อยรับคำขอรับๆๆ แล้วถือโคมไฟนำทางเขาไป “ข้าน้อยจะจำไว้ ท่านผู้ดูแลระวังเท้าของท่าน ค่อยๆ เดิน ข้าน้อยจะไปหาคนมาเฝ้าที่นี้”

 

 

ด้านนอกคนที่ควรถอยออกไปก็ถอยไปเกือบหมด ในกระโจมจึงเหลือเพียงเว่ยหมิ่นและฮ่องเต้ ฮ่องเต้วางเว่ยหมิ่นบนเตียงพร้อมกับก้มตัวลงมา ทั้งสองใกล้ชิดกันมากเสียจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย รู้สึกเวลาช่างยาวนานคล้ายดั่งผ่านไปอีกชาติหนึ่ง

 

 

ฮ่องเต้เอื้อมมือหยิบปอยผมหนึ่งของนางมาดมเบาๆ ที่จมูก “ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้กับเจ้า ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน”

 

 

มือข้างหนึ่งของเว่ยหมิ่นจับที่ปิ่นปักผม ปิ่นปักเล่มนี้นางเลือกอย่างตั้งใจ ปลายปิ่นนางฝนไว้ให้แหลมเป็นพิเศษ เพียงแค่แทงเบาๆ ก็สามารถแทงทะลุเนื้อได้ นางมองฮ่องเต้อย่างละโมบ มือเรียวบางลูบเบาๆ ที่คอของฮ่องเต้ “ข้าก็รอวันนี้มานานมากเช่นกัน”

 

 

คนเบื้องหน้าคือคนที่อยู่ในความคิดเขาตลอดทุกวันคืน แต่ครอบครองไม่ได้ ทรมานใจเขามาหลายปีขนาดนี้ ตอนนี้มาอยู่ใต้ร่างเขาจะให้เขาอดทนอีกคงทำไม่ได้ เขาเป็นฮ่องเต้ ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนเป็นของเขา เว่ยหมิ่นก็เป็นของเขา

 

 

ฮ่องเต้ค่อยๆ โน้มตัวลงริมฝีปากค่อยๆ ใกล้เข้ามา เว่ยหมิ่นก็ไม่หลบไปไหน มองเขาที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เอื้อมมือไปคล้องคอเขา แล้วโน้มริมฝีปากเข้ามาเอง ฮ่องเต้ไม่คิดว่านางจะเป็นฝ่ายรุก ชะงักงันไปชั่วครู่ ครั้นแล้วก็กอดนางแน่นขึ้น สลับพลิกตัวกันไปมา ต้องการระบายความเจ็บปวดและความรู้สึกหลายปีมานี้ออกมาทั้งหมด สิ่งที่กระหายมาตลอดเมื่อได้มาแล้วก็ไม่อาจรอต่อไปด้วย การเคลื่อนไหวที่ไม่อ่อนโยน ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่เสียแรงจริงๆ ที่เขามุ่งมั่นพยายาม ไม่เสียแรงที่เขาวางแผนอย่างตั้งใจ ไม่เสียแรงที่เขา——