ตอนที่ 1711 เล่น (3)
“นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”เฟยเหยียนพูดพลางหัวเราะ ก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อซ่อนรอยยิ้มในแววตา
[จูเก๋ออินขอบคุณเขาด้วย?]
ไม่ได้รู้เลยว่าเฟยเหยียนไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อชี้ทางออกให้เขาแต่เพื่อผลักจูเก๋ออินให้ไม่มีทางออก
แค่อ้างว่าล้อเล่นเพื่อให้เรื่องจบลงแต่จูเก๋ออินลงมือกับเยว่อี้หนักขนาดไหนเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นกันอย่างชัดเจน ไม่มีใครจะเชื่อว่าเขาแค่ล้อเล่นหรอก การที่คนจากวิหารมังกรใช้ข้ออ้างชุ่ยๆเช่นนี้ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าวิหารมังกรไม่แยแสเอาซะเลย
ถ้าจูเก๋ออินฆ่าเยว่อี้ไปซะตรงนั้นเลยคนของวิหารอื่นถึงไม่พอใจแต่ก็จะยอมจำนนต่อวิธีการอันโหดเหี้ยมของเขาและไม่กล้านินทาส่งเดช ในบรรดาสิบสองวิหารก็ไม่เคยมีคุณธรรมน้ำใจอะไรอยู่แล้ว มีแต่กฎแห่งการอยู่รอด ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ผู้แข็งแกร่งครองอำนาจ มีเพียงทำเช่นนั้นผู้คนจึงจะหวาดกลัว
แต่การไว้ชีวิตเยว่อี้ก็แค่ทำให้คนจากวิหารอื่นรู้ถึงความกลัวและความพะว้าพะวงของจูเก๋ออินและจะไม่เกรงกลัวเขาแม้แต่น้อย เนื่องจากภาพลวงตาผิดๆที่ปรากฏในใจของทุกคน
นั่นก็คือ……
ไม่ว่าวิหารมังกรจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทนต่อคำครหาของทุกคนได้
ภาพลวงตาผิดๆนี้ไม่เคยใช้ได้กับสิบสองวิหาร
ตัวอย่างเช่นวิหารปีศาจเพลิงโดยปกติแล้ววิหารปีศาจเพลิงมีพฤติกรรมหยิ่งยโสโอหังและฆ่าศิษย์ของวิหารอื่นไปมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครกล้านำเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพราะกลัวที่จะตั้งคำถามกับวิหารปีศาจเพลิง
เป็นเพราะพวกเขารู้ว่ามีเพียงผลลัพธ์เดียวจากการถกเถียงและตั้งคำถาม…….นั่นก็คือความตาย!
การยอมถอยของจูเก๋ออินในวันนี้ไม่ได้ทำให้วิหารอื่นรู้สึกว่าวิหารมังกรดีอะไรเลยมีแต่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าวิหารมังกรเป็นภัยคุกคาม จำเป็นต้องปราบปรามและกดเอาไว้
แล้วตอนนี้จูเก๋ออินยังรู้สึกขอบคุณเฟยเหยียนสำหรับวิธีจัดการกับสถานการณ์ของเขาแต่อีกไม่กี่วันต่อมา เขาจะรู้ซึ้งว่าผลที่ตามมาจากการจัดการกับเรื่องนี้ในลักษณะนั้นร้ายแรงเพียงใด
ผู้ครองอำนาจที่ไม่เด็ดขาดมีแต่จะถูกฝูงชนโค่มล้มเท่านั้น!
“ท่านพ่อให้ข้ามาที่วิหารจิงหงไม่ใช่เพื่อมาก่อปัญหาให้วิหารมังกรเหยียนเอ๋อร์ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว เราต้องทำยังไงเพื่อให้คนพวกนั้นเปลี่ยนความคิด?” ความคิดของจูเก๋ออินไปผิดทางซะแล้ว เขากำลังคิดจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของวิหารมังกรในสายตาของวิหารอื่นๆ
เฟยเหยียนรู้สึกว่าความคิดของเขาตลกเกินไปแล้วในสิบสองวิหาร มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถอยู่เหนือคนอื่นๆได้ คนอ่อนแอเปราะบางก็มีแต่จะถูกข่มเหงรังแกเท่านั้น
แต่เฟยเหยียนไม่ได้เตือนจูเก๋ออินถึงเรื่องนั้นแต่กลับพูดว่า “เรื่องนั้น……ข้าก็ไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงเหมือนกัน ข้า……เพิ่งได้รับการยอมรับเข้าวิหารเมื่อไม่นานมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเจอกับอะไรแบบนี้ แต่คนเขาว่ากันว่าความสามัคคีจะนำมาซึ่งความปรองดองไม่ใช่หรือ?”
จูเก๋ออินเงียบไปพักหนึ่งพลางคิดถึงคำพูดของเฟยเหยียนอย่างละเอียด
“อย่าบอกนะว่าจะให้ข้าไปทำดีกับคนของวิหารเงาจันทรา?”
[ความสามัคคีจะนำมาซึ่งความปรองดองงั้นรึ?]
แค่คิดถึงใบหน้าของจวินอู๋เสียเขาก็อยากบีบคอนางให้ตายคามือแล้ว อยากให้เขาไปจับมือสมานฉันท์กับคนของวิหารเงาจันทรา ไม่ว่ายังไงจูเก๋ออินก็ไม่สามารถทำได้
“ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนั้นนายน้อยแค่ต้องหยุดหาเรื่องพวกเขา แล้วคนอื่นๆก็จะค่อยๆลืมไปเอง น่าจะได้ใช่ไหม?” เฟยเหยียนแสร้งพูดอย่างไม่แน่ใจ
จูเก๋ออินรู้สึกว่ามีเหตุผลจึงพยักหน้าโดยไม่ได้สังเกตเห็นรอยยิ้มบางๆที่น่าสงสัยตรงมุมปากของเฟยเหยียนเลย