ตอนที่ 602 ข้ารักท่านมากจริงๆ
“อาเหยี่ยน ให้ข้าจับหน้าท่านหน่อย”
หลิงอวี้จื้อยื่นมือสั่นเทาออกไป เซียวเหยี่ยนก้มหน้าลง ไม่นานหลิงอวี้จื้อก็ได้จับหน้าเซียวเหยี่ยน เธอค่อย ๆ ลูบไล้ใบหน้าของเขา วาดไปตามจมูกของเขา ริมฝีปากของเขา คิ้วของเขา ตาของเขา ทุกบริเวณที่สัมผัส รำลึกถึงสุดจิตใจ
ตอนนี้เองหรูเยียนหอบหายใจพาหมอวิ่งก้าวยาว ๆ เข้ามา หมอถือกล่องยามา เห็นหลิงอวี้จื้อมีแต่เลือดไปทั้งตัว ก็ไม่รอช้า รีบวางกล่องยาจับชีพจรหลิงอวี้จื้อ สัญญาณชีพจรของหลิงอวี้จื้อกลับทำให้เขาแสดงสีหน้าตึงเครียด
“รีบช่วยชีวิตพระชายา”
น้ำเสียงของเซียวหยี่ยนแฝงความร้อนใจอย่างปิดไม่มิด ถึงขนาดเสียงสั่น ตอนนี้เซียวเหยี่ยนควบคุมอาการไม่ได้แล้ว หมอประจำจวนไม่เคยเห็นเซียวเหยี่ยนมีท่าทางร้อนใจเช่นนี้มาก่อน
เขาก็รู้ว่าเซียวเหยี่ยนรักใคร่พระชายามากเพียงใด ขณะนี้สีหน้าของเซียวเหยี่ยนแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว เขารู้ว่าอาการไม่ดีแล้ว คุกเข่าลงกับพื้นดังตึง
“ทูลท่านอ๋อง ข้าน้อยไร้ความสามารถ บาดแผลของพระชายาสาหัสมากเหลือเกิน แม้แต่ทวยเทพเทวดาจุติลงมาเกิด ก็ยังมิพ้นต้องกลับสวรรค์”
หมอพูดจบก็โขกหัวหนึ่งครั้งอย่างแรง ไม่กล้ามองเซียวเหยี่ยนเลย เขาย่อมรู้ดีว่าคำพูดนี้จะทิ่มแทงใจเซียวเหยี่ยนเพียงใด แต่เขาก็ไม่กล้าปิดบังเซียวเหยี่ยน ได้แต่พูดไปตามความจริง
เซียวเหยี่ยนรับคำกล่าวอ้างของหมอไม่ได้ เขาใกล้จะระเบิดเต็มที ทั้งตัวมีแต่ความเกรี้ยวกราด
“ต้องช่วยพระชายาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใด พระชายาต้องอยู่มีชีวิตอยู่ มิเช่นนั้นเด็ดหัวเจ้ามาพบข้าได้เลย”
ที่หมอกลัวประโยคที่สุดก็คือประโยคนี้ ร่างที่หมอบกับพื้นนั้นสั่นสะท้าน
“ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยฝีมือแพทย์ไม่ถึง ไม่มีวิธีการใดแล้วจริง ๆ ขอรับ”
หลิงอวี้จื้อก็รู้ว่ามีเวลาไม่มากแล้ว เธอย่อมไม่อยากให้หมอซึ่งเป็นผู้บริสุทธ์ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย เรียกเซียวเหยี่ยนเบา ๆ
”อาเหยี่ยน ข้าอยากคุยกับท่านเพียงลำพัง ท่านให้คนอื่นออกไปก่อนเถิด!”
เซียวเหยี่ยนปิดปากเงียบ หลิงอวี้จื้อจึงได้แต่เอ่ยปากแทนเขา
“ทุกคนออกไป”
หมอเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม ออกจากห้องไปแทบจะล้มลุกคลุกคลาน สาวใช้ทั้งห้องก็ออกไปแล้ว หรูเยียนตาแดง ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา และตามสาวใช้ออกจากห้องไป
“อาเหยี่ยน อย่าไปโกรธผู้บริสุทธิ์เลย หมอทำเต็มที่แล้ว โทษพวกเขาไม่ได้”
หลิงอวี้จื้อเอื้อนเอ่ยอย่างเหนื่อยแรง เซียวเหยี่ยนยื่นมือมาลูบใบหน้าของเธอ พูดปลอบเสียงต่ำ
“อวี้จื้อ เจ้าต้องไม่เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว พวกเรายังมีสัญญาว่าจะอยู่กันจนแก่เฒ่า เจ้าต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
“อาเหยี่ยน ขอโทษ…”
พูดประโยคนี้แล้ว หลิงอวี้จื้อก็ไม่มีแรงอีก รอสักพักถึงจะพูดต่อ
“สิ่งที่ข้าเสียดายที่สุดคือไม่สามารถเกิดลูกให้ท่านได้…ข้าไปแล้ว ท่านต้องมีชีวิตอยู่ให้ดี ๆ ท่านคิดถึงข้าได้ แต่ไม่ต้องคิดถึงข้าทุกวัน ข้ากลัวว่าท่านคิดถึงข้าแล้วจะเป็นทุกข์ ดังนั้นข้ายอมให้ท่าน…คิดถึงข้าได้เป็นครั้งคราว
คิดถึงเรื่องที่ข้าทำขายหน้าเอาไว้มาก ๆ ข้าหวังว่าท่านคิดถึงข้าแล้วจะยิ้มได้ อาเหยี่ยน ข้าไม่อยากไปจริง ๆ ชีวิตคู่ของพวกเราเพิ่งจะ…เพิ่งจะเริ่มต้นเอง”
“อวี้จื้อ เจ้าพูดถูก ชีวิตคู่ของพวกเราเพิ่งเริ่มต้น เจ้าเคยรับปากข้า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็จะไม่มีทางไปจากข้า”
“ข้าไปไม่ไกลหรอก อาเหยี่ยน…ข้า…ข้ารักท่านมากจริง ๆ ข้า…”
สติของหลิงอวี้จื้อยิ่งพร่าเลือนลงทุกที น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินจากดวงตา เหตุใดสวรรค์ต้องมาเอาเธอไปในตอนนี้ด้วย ชีวิตคู่ของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเอง เธอยังไม่ทันได้มีลูกให้เซียวเหยี่ยนเลย ยังไม่ทันได้ฉลองให้เซียวเหยี่ยน โชคชะตาแสนสั้นเสียจนเธออยากจะก่นด่าสาปแช่ง
“ข้าก็รักเจ้า”
ตอนที่ 603 ติดค้างสัญญากับเขาว่าจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
เซียวเหยี่ยนกอดหลิงอวี้จื้อแน่น เขาพูดเสียงต่ำ ๆ ข้างหูเธอ
หลิงอวี้จื้อรู้สึกเปียก ๆ ที่หู เธอจับมือของเซียวเหยี่ยนแน่น
“ท่านร้องไห้หรือ อาเหยี่ยน อย่าร้องไห้นะ ท่านเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะเสียน้ำตาได้อย่างไร ข้า…ข้าจะดิ้นรนไปอยู่ในฝันของท่านให้ได้ ดีหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อรู้จักเซียวเหยี่ยนมานานแล้ว ไม่เคยเห็นเซียวเหยี่ยนเสียน้ำตาเลย
เธอไม่คิดว่าจะเห็นเซียวเหยี่ยนเสียน้ำตาตอนนี้ เธออยากจะยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เซียวเหยี่ยน แต่มือของเธอไม่มีแรงแล้ว ทำได้เพียงมองเซียวเหยี่ยนอย่างอาลัยอาวรณ์เท่านั้น ราวกับพยายามประทับภาพของเซียวเหยี่ยนในตอนนี้ลงไปในสมองให้ติดแน่น
หากการกลับชาติมาเกิดมีจริง เธอก็หวังว่าจะยังจำเซียวเหยี่ยนได้ เช่นนั้นเธอก็จะสามารถมาหาเซียวเหยี่ยน โชคชะตาของพวกเขาสั้นเกินไป เธอยังติดค้างสัญญากับเขาว่าจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
เซียวเหยี่ยนกอดหลิงอวี้จื้อไว้แน่น หลิงอวี้จื้อในตอนนี้ไม่มีแรงพูดแล้ว เสียงของเธอเบาลงทุกที
“อาเหยี่ยน ข้าง่วงมาก…จะหลับแล้ว ท่านต้องสบายดีนะ สบาย…”
เสียงของหลิงอวี้จื้อค่อย ๆ หมดไป เซียวเหยี่ยนกอดหลิงอวี้จื้อแน่น ไม่พูดอะไร ไม่ขยับไปไหน มีเพียงน้ำตาที่ไหลลงมาทีละหยด ร่วงลงบนใบหน้าของหลิงอวี้จื้อเงียบ ๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ที่เขากอดร่างที่เย็นลงของหลิงอวี้จื้อเอาไว้ อุ้มเธอขึ้นเตียง วางหลิงอวี้จื้อลงอย่างระมัดระวัง หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนมาก
“อวี้จื้อ เจ้านอนเถิด ข้าอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเจ้า”
เซียวเหยี่ยนนั่งอยู่ข้างเตียงเช่นนั้น จับมือของหลิงอวี้จื้อ มือของเธอเย็นเยือกแล้ว เซียวเหยี่ยนอยากใช้อุณหภูมิร่างกายของตนสร้างความอบอุ่นแก่มือของหลิงอวี้จื้อ เขาพูดเสียงต่ำ
“อวี้จื้อ เจ้าหนาวหรือ เจ้าดูสิ มือเจ้าเย็นเป็นน้ำแข็งแล้ว”
หลิงอวี้จื้อที่อยู่บนเตียงย่อมไม่ตอบเขา สองตาปิดแน่น ราวกับหลับอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้เองประตูถูกผลักเปิดออก อู่จิ้นเดินเข้ามา ปกติเวลาเช่นนี้อู่จิ้นไม่กล้ารบกวนเซียวเหยี่ยน แต่เขาไม่ได้ยินเสียงเรียกของเซียวเหยี่ยนเลย จึงทนไม่ไหวจริง ๆ ถึงได้เปิดประตูเข้ามาโดยพลการ
เห็นเซียวเหยี่ยนนั่งอยู่ข้างเตียงราวกับรูปสลักไม้ เขาเข้าไปใกล้สองสามก้าว คุกเข่าลงรายงาน
“รายงานนายท่าน พวกเราไล่ตามฟางไท่เฟยไปตลอดทาง แต่นางก็หนีไปได้ ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอนายท่านประทานอภัย”
ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในความคาดหมายของเซียวเหยี่ยนอยู่แล้ว วิทยายุทธ์ของฟางฮุ่ยหรูสูงที่สุดในบรรดาผู้คุมกฎทั้งสี่ จะไล่จับนางไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาไม่มีทางปล่อยฟางฮุ่ยหรูไปแน่
“ส่งคนไปตามหาอีก ต่อให้อยู่ลึกใต้ดิน ก็ต้องตามฟางฮุ่ยหรูออกมา เอาหัวฟางฮุ่ยหรูมา ข้าจะตบรางวัลอย่างงาม”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ”
อู่จิ้นตอบรับ
พูดจบแล้วก็เห็นเซียวเหยี่ยนมองหลิงอวี้จื้อที่ไร้ลมหายใจอย่างเหม่อลอย อู่จิ้นอดไม่ได้ที่จะพูดแทรก
“นายท่าน พระชายาไม่อยู่แล้ว วอนท่านอ๋องทำใจเถิดขอรับ”
“ไปเสีย ออกไปเดี๋ยวนี้ หากไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามเข้ามารบกวนอีก”
อู่จิ้นไม่กล้าพูดอะไรอีก เขารู้ว่าเซียวเหยี่ยนกับหลิงอวี้จื้อรักกันลึกซึ้ง เวลาเพียงชั่วครู่ยากที่จะทำใจได้ทัน จึงไม่พูดมากอีก ออกจากห้องไปด้วยความเคารพนอบน้อม
“อวี้จื้อ เจ้าแค่นอนหลับ ใช่หรือไม่”
เซียวเหยี่ยนยื่นมือไปเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าหลิงอวี้จื้อ จุมพิตหน้าผากเธอ
“เจ้าหลับให้สบายนะ เจ้าวางใจได้ ข้าจะไม่ปล่อยฟางฮุ่ยหรูไปเด็ดขาด”
ขณะนี้ฟางฮุ่ยหรูได้รับบาดเจ็บ นางรู้ว่าตัวเองไม่สามารถกลับวังได้แล้ว สุดท้ายก็แอบเข้าไปในจวนอู๋อ๋อง
เซียวเหยี่ยนปิดข่าว ดังนั้นเฉินเสี้ยวหรูยังไม่รู้ข่าวการเสียชีวิตของหลิงอวี้จื้อ เขากำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องทำงาน ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในห้อง พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นฟางฮุ่ยหรูยืนจับแขนอยู่ตรงหน้าเขา