ตอนที่ 686 มารับชมเรื่องน่าอาย
“เรียนพระชายา ฮูหยินของอี้ซื่อจื่อมาขอพบเจ้าค่ะ”
ตอนนั้นเองปี้จูก็เข้ามาขัดจังหวะพวกนางพอดี
อันหลิงอีน่ะหรือ ?
มิได้พบกันนานมากแล้ว คิดแล้วน่าจะเกือบสองปีที่อันหลิงอีมิเคยมากวนใจ แล้ววันนี้มาด้วยเหตุใด ?
“ให้นางเข้ามา”
อันหลิงเกอกำลังนั่งอยู่กับหลิงเอ๋อ รู้ว่าหากอันหลิงอีเห็นเข้าคงมิดีเท่าใดนัก เพราะใบหน้าของพวกนางเหมือนกันมากเกินไป
“หลิงเอ๋อ เจ้ากลับไปก่อน พรุ่งนี้ข้าจักเล่นเป็นเพื่อนเจ้าใหม่” อันหลิงเกอเอ่ยกับหลิงเอ๋อราวกับอีกฝ่ายเป็นเด็กน้อย
“เจ้าค่ะ…” หลิงเอ๋อตอบรับอย่างเชื่อฟัง
มินานหมิงซินก็เดินนำอันหลิงอีเข้ามา
เดิมทีคิดว่าหลายปีมานี้อันหลิงอีอยู่ในจวนอ๋องอี้คงลำบากมิน้อย คิดว่าคงจะสงบเสงี่ยมขึ้นบ้าง
คาดมิถึงว่าอันหลิงอีไม่ได้ซึมซับบทเรียนของหลี่ซื่อไว้เลย ยามเดินเข้ามาในเรือนของอันหลิงเกอก็แสดงท่าทางหยิ่งยโสโดยมิปิดบัง
“โอ้ พี่หญิง ท่านดูซูบผอมมากเลยนะเจ้าคะ ! ” อันหลิงอีเข้ามาถึงก็เริ่มพูดเยาะเย้ยทันที
“อืม ข้าสู้เจ้าที่ดูอวบอิ่มมิได้หรอก” คำพูดของอันหลิงเกอมิด้อยไปกว่ากันเลย เนื่องจากอันหลิงอีดูอวบอิ่มขึ้นจริงและรูปร่างที่เคยงดงามก็เปลี่ยนไปจนสิ้น
เพราะหลายปีมานี้อันหลิงอีมิสามารถมีบุตรให้จวนอ๋องอี้ได้จึงต้องทานของบำรุงมิน้อยจนทำให้ร่างกายขยายใหญ่ขึ้นมาก
หากเทียบกับอดีตแล้วก็ถือว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
“เป็นเรื่องธรรมดาเพราะซื่อจื่อและอี้หวางเฟยดูแลข้าเป็นอย่างดี” อันหลิงอียังแสร้งพูดอย่างมั่นใจว่าตนเหนือกว่า
“เช่นนั้นหรือ ? ” อันหลิงเกอหัวเราะโดยมิได้เอ่ยอันใดต่อ
ส่วนอันหลิงอีนั่งลงและดื่มชาที่อยู่ตรงหน้าโดยมิต้องรอให้ใครเชิญ
เนื่องจากชาในเรือนของอันหลิงเกอเป็นชาสมุนไพร รสชาติจึงบางเบาและมีกลิ่นหอม
“โอ้ พี่หญิง คงมิใช่ว่าท่านอ๋องไม่ใส่ใจท่านแล้วกระมัง ? ท่านจึงไม่มีแม้แต่ใบชาดี ๆ จนต้องไปเด็ดหญ้าพวกนี้มาต้มกับน้ำแทน” อันหลิงอีจงใจพูดเยาะเย้ย
“ข้าสู้เจ้าที่ทานแต่อาหารอันโอชะมิได้หรอก ข้าทานแต่อาหารธรรมดาเท่านั้น” อันหลิงเกอกล่าวออกไปและหาได้ใส่ใจอีกฝ่ายไม่
“แน่นอนอยู่แล้ว ผู้ใดมิรู้บ้างว่าจวนอ๋องอี้ของเราร่ำรวยล้นฟ้า ! ” อันหลิงอีได้ยินก็ทำตัวหยิ่งผยอง ทุกคำพูดล้วนแฝงไว้ด้วยความโอหัง
“ในเมื่อร่ำรวยล้นฟ้าแล้วเหตุใดต้องมาจวนอ๋องมู่ของข้าด้วย ? ” อันหลิงเกอถามกลับ
“ข้าได้ยินว่าบุตรของพี่หญิงเป็นเด็กประหลาดจึงจะมาดูด้วยตาเจ้าค่ะ” ข่าวของอันหลิงอีช่างรวดเร็วนัก
“อ้อ เจ้าคิดมากไปแล้ว บุตรของข้าปลอดภัยดี แต่เจ้านั้นบุตรสักคนก็หามีไม่”
เมื่อเจอคำเยาะเย้ยของอันหลิงเกอก็ทำให้อันหลิงอีถึงขั้นพูดอันใดมิออกจึงทำได้เพียงกลับไปพร้อมความโมโห
เมื่ออันหลิงอีกลับไปแล้ว หลิงเอ๋อก็ถือกระดานหมากล้อมมาหาอีกครั้ง
อันหลิงเกออ้างว่าเหนื่อยจึงมิได้เล่นกับหลิงเอ๋อต่อ แม้เห็นความผิดหวังในแววตาของหลิงเอ๋อ แต่วันนี้ตนอยากพักผ่อนแล้วจริง ๆ
เมื่อหลิงเอ๋อออกไปแล้ว มู่จวินฮานก็กลับมาพอดี เหล่าสาวใช้เตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้วทั้งคู่จึงทานมื้อกลางวันด้วยกันและพากันพักผ่อน
ตอนที่อันหลิงเกอตื่นขึ้นมาก็พบว่ามู่จวินฮานออกไปสะสางงานราชการแล้ว วันนี้เหมือนว่าในวังหลวงเกิดบางอย่างขึ้น อันหลิงเกอมิได้ถามมากเพราะรู้ว่ามู่จวินฮานสามารถจัดการได้อยู่แล้ว
ตกบ่าย อันหลิงเกอที่อยู่ว่างจึงเรียกหลิงเอ๋อมาตกแต่งสวนสมุนไพรด้วยกัน
หลิงเอ๋อก็ชอบกลิ่นของสมุนไพรมาก ใบที่ตัดออกมาบางทีก็อดทานเข้าไปมิได้
อันหลิงเกอเห็นท่าทางน่ารักเช่นนั้นก็อดยิ้มออกมามิได้ หลิงเอ๋อเหมือนเด็กน้อยก็มิปาน
“พี่สาว ท่านเป็นอันใดไปเจ้าคะ ? ” หลิงเอ๋อสังเกตว่าอารมณ์อันหลิงเกอเปลี่ยนไป ในใจก็อดเป็นห่วงมิได้ นางเป็นคนง่ายๆ เช่นนี้เอง เมื่ออันหลิงเกอดีต่อนาง นางจึงอยากดีตอบบ้าง
“ไม่มีอันใด ข้าแค่คิดถึงลูกเท่านั้น” น้ำเสียงของอันหลิงเกอราบเรียบ คำพูดเหล่านี้มิได้กล่าวกับคนอื่นมานานมากแล้ว วันนี้เมื่อหลิงเอ๋อถามขึ้นมาก็อดที่จะพูดมิได้
“ลูก ? เด็กที่ท่านไปหาที่ถ้ำน้ำแข็งทุกวันหรือเจ้าคะ ? ” สายตาของหลิงเอ๋อดูแปลกใจ
“อืม…ข้ายังมีบุตรอีกสองคน” แววตาของอันหลิงเกอแฝงไว้ด้วยความเอ็นดูแต่เมื่อหลิงเอ๋อได้ยินแล้วแววตากลับหม่นแสงลง
ใช่สิ อันหลิงเกอและมู่จวินฮานรู้จักกันมานาน บุตรของพวกเขาคงเติบโตแล้ว นางจักเข้าไปแทรกกลางได้เยี่ยงไร ?
“หลิงเอ๋อ เจ้าฟังข้านะ เจ้าต้องได้พบคนที่ดีกว่านี้แน่นอน” อันหลิงเกอกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น ประโยคนี้มาจากใจเพราะอันหลิงเกอรู้ดีว่ามู่จวินฮานมิเหมาะกับหลิงเอ๋อและไม่มีวันที่จะรักด้วย
หากหลิงเอ๋อดื้อรั้นอยู่เช่นนี้ สุดท้ายคนที่จะเสียใจก็คือตัวเอง
อันหลิงเกอไม่อยากเห็นหลิงเอ๋อเสียใจจึงบอกด้วยความหวังดี ส่วนหลิงเอ๋อก็รู้ความเพราะนางรู้ว่าอันหลิงเกอหวังดีจึงมิได้โกรธอันใด
“ช่วยเล่าเรื่องของพวกท่านให้ข้าฟังได้หรือไม่เจ้าคะ ? ” หลิงเอ๋อเพิ่งเคยมีความรัก นางมิเคยมีประสบการณ์มาก่อนจึงอยากฟังเรื่องของคนอื่นบ้าง อย่างน้อยก็จะได้จินตนาการฉากที่งดงามออก
“อืม…” อันหลิงเกอรู้ว่าหลิงเอ๋อยังมิค่อยเข้าใจโลกจึงยอมเล่าให้ฟัง
อันหลิงเกอมิอยากให้เด็กสาวที่บริสุทธิ์หมดหวังในความรักตั้งแต่เยาว์วัย นางหวังว่าหลิงเอ๋อจะยังมีความหวัง มีความปรารถนาและรอคอยความงดงามเหล่านั้น
คาดมิถึงว่าคำบอกเล่าของนางจะทำให้หลิงเอ๋อรู้สึกว่ามีเพียงมู่จวินฮานเท่านั้นที่ดีสำหรับตน ยิ่งมั่นใจว่ารักมู่จวินฮานและมิสามารถปล่อยมือจากเขาได้
อันหลิงเกอเล่าไปสักพักหนึ่งก็ตัดแต่งสมุนไพรเสร็จ ฟ้าเริ่มมืดและอันหลิงเกอมิได้กล่าวอันใดอีก แค่กลับเข้าไปในห้องพร้อมหลิงเอ๋อ
ขณะนี้มู่จวินฮานกลับมาและได้รออยู่นานแล้ว หลิงเอ๋อเห็นดังนั้นจึงถอยออกไปอย่างรู้ความ ทว่าแววตาแฝงไว้ด้วยความอาลัยอาวรณ์รวมทั้งมีความดื้อรั้นเอาแต่ใจซ่อนอยู่
เมื่อหลิงเอ๋อจากไปแล้วมู่จวินฮานจึงมองไปที่อันหลิงเกอ เขารู้ว่าวันนี้ทั้งวันนางคอยอยู่เป็นเพื่อนหลิงเอ๋อและรู้ว่านางคงเหนื่อยล้าเต็มทน แต่พอเห็นว่าตอนนี้อันหลิงเกอและหลิงเอ๋อสนิทสนมกัน มู่จวินฮานก็รู้สึกเบาใจไปด้วย
เพราะเขารู้ดีว่ามีงานที่ต้องทำทุกวัน ในเรือนจึงเหลือเพียงอันหลิงเกอคนเดียว แน่นอนว่านางเองก็คงเหงา ตอนนี้มีหลิงเอ๋อเข้ามาและพวกนางสามารถอยู่เป็นเพื่อนกันได้ก็ถือว่ามิเลวเลย
อันหลิงเกอจะมิรู้ความคิดของมู่จวินฮานได้อย่างไรว่าทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อตัวนางทั้งสิ้น
แม้ครั้งแรกที่เห็นหลิงเอ๋อมีใบหน้าคล้ายกับตนจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจ แต่ตอนนี้ก็เป็นเพราะใบหน้านั้นจึงทำให้นางไม่รู้สึกรังเกียจหลิงเอ๋ออีก เด็กสาวที่น่ารักเช่นนั้นเหมือนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ก็มิปาน
เมื่อเห็นอันหลิงเกอมีความสุข ภายในใจของมู่จวินฮานก็มีความสุขตามไปด้วย เขารู้ว่าก่อนหน้านี้อันหลิงเกอไม่มีคนที่สนิทด้วยในจวนแห่งนี้เลย นางรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ทุกวัน ตั้งแต่มีหลิงเอ๋อจึงมีคนคอยอยู่เป็นเพื่อนบ้าง
“วันนี้ลูกเป็นเช่นไรบ้าง ? ” มู่จวินฮานคิดถึงบุตรขึ้นมา วันนั้นเขาก็ได้ไปเยี่ยมบุตรและรู้สึกเหมือนกำลังจะตื่นขึ้นมาในเร็ววัน