ตอนที่ 374 พักผ่อน / ตอนที่ 375 แรงสนับสนุนของลั่วอิง

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 374 พักผ่อน  

 

 

“ลั่วอิงของพ่อเป็นเด็กน่ารัก ก็ต้องมีคนรักเป็นธรรมดา ท่านจะดีกับลูกก็ไม่แปลกหรอก” เธอเป็นลูกของเขา เขาก็ต้องชื่นชม ตอนนี้ลั่วเซ่าเซินมีความคิดอย่างนั้น 

 

 

“พ่อคะ พ่อพูดอย่างนี้หนูก็เขินแย่สิคะ” ลั่วอิงแทบจะหน้าแดงเพราะคำชมของคุณพ่อ เธอรู้ว่าตัวเองเป็นคนเก่ง แต่พ่อจะชมเธอแบบนี้ไม่ได้นะ! เดี๋ยวเธอก็เหลิงไปกันใหญ่ 

 

 

“เอาล่ะ พ่อจะถามถึงเรื่องสำคัญละนะ ลูกต้องตอบตามความจริง” 

 

 

ลั่วอิงพยักหน้า แน่นอนว่าเธอจะตั้งใจตอบคำถามของคุณพ่อ พวกเขาจะร่วมมือกันพาคุณแม่โจวโจวกลับมา 

 

 

“ความสัมพันธ์ของโอวหยางหงกับถังโจวโจวไม่ใช่คนรักกันใช่ไหม?” ลั่วเซ่าเซินสงสัยว่าตอนนั้นโอวหยางหงอาจจะเพียงแค่จงใจทำให้เขาโกรธ ตอนนั้นเขาไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้คลับคล้ายคลับคลาว่าจะรู้แล้ว ถ้าโอวหยางหงอยากแก้แค้นแทนถังโจวโจว เรื่องทั้งหมดก็เป็นอันว่าเรียบร้อย 

 

 

“คุณพ่อ เหมือนว่าหนูจะเคยได้ยินว่าคุณลุงโอวหยางเรียกคุณแม่โจวโจวว่าพี่สาวนะคะ” ลั่วอิงเองก็จำได้ไม่ถนัดนัก เพราะน้อยครั้งนักที่โอวหยางหงจะเรียกถังโจวโจวว่าพี่สาว แน่นอนว่าโอกาสที่ลั่วอิงจะได้ยินก็ลดน้อยลงไปด้วย 

 

 

“เอาล่ะ พ่อรู้แล้ว! เรื่องที่เหลือเดี๋ยวพ่อจะจัดการเอง พ่อมีแผนอยู่ในใจแล้ว” 

 

 

เขารู้แล้วว่าโอวหยางหงและถังโจวโจวเป็นพี่น้องกัน ถ้าอย่างนั้นก็ดียิ่งนัก แต่ถึงลั่วเซ่าเซินจะรู้ความจริงแล้วก็ไม่อาจสั่งสอนโอวหยางหงเรื่องที่หลอกลวงเขาได้ อย่างไรก็ต้องหาวิธีผูกมิตรกับอนาคตน้องเขยเอาไว้ก่อน 

 

 

“รีบกินเข้าเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อจะเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บ แล้วค่อยส่งลูกกลับไป” ลั่วเซ่าเซินได้ข่าวที่เขาต้องการหมดแล้วก็พลันอยากอาหารขึ้นมาทันควัน เรื่องนี้อยู่ในใจของเขามาตลอด คิดไม่ตกเสียที ตอนนี้หมดปัญหาเขาเองก็วางใจไปเปลาะหนึ่ง 

 

 

“คุณพ่อคะ พวกเรายังต้องเดินกลับไปอีกเหรอคะ?” เมื่อลั่วอิงคิดว่าเมื่อสักครู่ตามคุณพ่อมาเป็นเวลาครึ่งชั่วโอง เธอไม่อยากลำบากแบบนั้นอีก 

 

 

“ทำไมล่ะ มีพ่อเดินไปด้วยไม่ดีเหรอ?” ลั่วเซ่าเซินไม่พอใจขึ้นมาทันที เด็กคนนี้ยังไม่ทันโตเป็นสาว ความสามารถก็มีไม่น้อย เขายังไม่ได้พูดอะไร เธอก็ต่อว่าเขาก่อนแล้วงั้นเหรอ? 

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะคุณพ่อ เพิ่งจะกินอิ่ม ถ้าเราลุกขึ้นเดินเลยก็จะไม่ดีต่อร่างกายนะคะ” ลั่วอิงไม่ยอมรับว่าเธอไม่อยากเดินขึ้นเขาอีกรอบ ทำได้เพียงใช้สุขภาพเป็นข้ออ้าง 

 

 

ลั่วเซ่าเซินไม่หลงกลเธอ “ลูกรัก ลูกต้องฟังผิดไปแล้วแน่ๆ ไม่ใช่ว่ากินข้าวแล้วออกเดินทันทีจะไม่ดี แต่เป็นออกกำลังกายอย่างหักโหมต่างหากล่ะ ปกติแล้วลูกก็เดินเล่นเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้เราก็ถือว่าเดินเล่นกันไงลูก” 

 

 

ลั่วเซ่าเซินเพียงแต่หยอกล้อเธอเท่านั้น พอเห็นว่าเธอเบะปาก พูดอะไรไม่ออก ใจของเขาก็พลันเป็นสุข 

 

 

แน่นอนว่าเขาจะต้องรีบหารถมาให้เร็วที่สุด ถ้าขาดยานพาหนะไป ถึงตอนนั้นจะไปรับไปส่งถังโจวโจวก็ไม่สะดวก เขาไม่ยอมให้แผนการมีจุดบกพร่องเป็นอันขาด ตอนนี้เป็นเวลาที่สำคัญที่สุด จะต้องทำให้สมบูรณ์แบบให้ได้ 

 

 

ถ้าลั่วอิงรู้ว่าลั่วเซ่าเซินคิดแทนถังโจวโจวทุกเรื่องแบบนี้ และทิ้งขว้างลูกสาวที่น่ารักอย่างเธอ ต้องเสียใจอีกแล้วสินะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้? 

 

 

เสียแรงที่เธอคอยช่วยลั่วเซ่าเซินแย่งตัวถังโจวโจวกลับมา ใครจะรู้ว่าในใจของลั่วเซ่าเซินคิดถึงเรื่องที่ตัวเองจะได้ครองคู่ชู้ชื่นกับถังโจวโจวอยู่ตลอด หลงลืมเธอกับเสี่ยวอวี่ไปหมดแล้ว 

 

 

เสียดายว่าขณะที่ลั่วอิงกำลังจิ้มเกี๊ยวที่อยู่ในชาม เธอก็พร่ำต่อว่าไม่หยุด ลั่วเซ่าเซินก็สนใจแต่จะกินให้เต็มที่ ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของเธอเลย ลั่วอิงทำได้เพียงดูแลตัวเองให้อิ่มหนำ รีบกินให้อิ่มท้อง 

 

 

คุณพ่ออาจจะไม่ได้พูดเล่นก็ได้ อีกเดี๋ยวถ้ายังต้องเดินไกลขนาดนั้น ถ้าเธอไม่กินให้อิ่มเข้าไว้ จะมีแรงไปต่อได้อย่างไร 

 

 

ทั้งสองคนจัดการมื้อสายของตัวเองจนเสร็จสรรพ ลั่วเซ่าเซินก็เรียกรถมา พาลั่วอิงไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง เปิดห้อง พักผ่อนให้หายเหนื่อย เขานั่งเครื่องบินมานานขนาดนี้ ลงจากเครื่องก็ตรงไปยังปราสาทโบราณทันที ร่างกายเขารับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว 

 

 

ลั่วเซ่าเซินเปิดห้องชุดเอาไว้ ปล่อยให้ลั่วอิงดูทีวีอยู่ข้างนอก ส่วนตัวเขาเองก็รีบไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เตรียมหลับตาลงงีบสักพัก รอให้เขากลับมาสดชื่นแล้วค่อยไปพยายามยื้อแย่งถังโจวโจวกลับมาอีกครั้ง 

 

 

“พ่อคะๆ หนูหิวแล้ว” ลั่วอิงรู้ว่าเขานอนหลับอยู่ในห้อง จึงนั่งดูทีวีอยู่ข้างนอกอย่างว่าง่าย แต่เพราะว่าท้องของเธอร้องจ๊อกๆ ขึ้นมา จึงต้องจำใจปลุกลั่วเซ่าเซินให้ตื่น 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 375 แรงสนับสนุนของลั่วอิง 

 

 

ลั่วเซ่าเซินลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ครู่หนึ่งยังตั้งสติไม่ได้ว่าที่นี่คือที่ไหน “ลูกรัก มีอะไรเหรอ” เสียงแหบพร่าดังขึ้นหลังจากที่ตื่นจากภาวะหลับสนิท 

 

 

เขารู้สึกคอแห้งไปหมด ก็ได้แต่เอ่ยไปตามที่คิด “ลูกรัก รินน้ำให้พ่อสักแก้วสิ” 

 

 

ลั่วอิงทำตามอย่างเอาจริงเอาจัง หลังจากกรอกน้ำเข้าปากไปหนึ่งแก้ว สมองของเขาถึงได้สดชื่นขึ้น “ลูกรัก นี่กี่โมงแล้ว?” 

 

 

“คุณพ่อ เที่ยงแล้วค่ะ คุณพ่อหลับไปนานมากเลย หนูหิวไปหมดแล้ว พวกเราไปกินข้าวกันเถอะค่ะ” ลั่วอิงหิวจนทนไม่ไหวแล้ว เธอถึงได้ปลุกลั่วเซ่าเซิน คำว่าพักสักหน่อยของคุณพ่อช่างยาวนานเสียเหลือเกิน 

 

 

“พ่อหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ลูกรัก รอก่อนนะ พ่อจะให้คนเอามาส่งให้ที่ห้องเลย อีกเดี๋ยวก็ได้กินข้าวแล้ว” ลั่วเซ่าเซินกระวีกระวาดลุกขึ้นจากเตียงหยิบโทรศัพท์ภายในที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา โทรหารูมเซอร์วิสของทางโรงแรม เมื่ออีกฝ่ายตอบรับ ถึงได้วางสายไป 

 

 

ลั่วเซ่าเซินค่อยๆ ปลอบใจลั่วอิงอีกครั้ง แล้วจึงวางเธอให้นั่งลงที่นอกห้องนอนอีกครั้ง ส่วนตัวเขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เสื้อเชิ้ตสีดำใส่คู่กับกางเกงยาวยาวสีดำ ทับด้วยเสื้อกันลมแบบสบายๆ สีกากี 

 

 

จนกระทั่งลั่วเซ่าเซินออกมาจากห้อง กริ่งห้องก็ดังขึ้นพอดี “พ่อคะ มาแล้วค่ะ!” 

 

 

ลั่วเซ่าเซินรีบเดินให้เร็วขึ้น เห็นว่าข้างนอกมีพนักงานยืนอยู่หนึ่งคนกำลังเข็นรถส่งอาหารที่อยู่ตรงหน้า “สวัสดีค่ะ ฉันมาส่งอาหาร ขออนุญาตเข้าไปนะคะ?” 

 

 

“เข้ามาได้เลยครับ” ลั่วเซ่าเซินเบี่ยงตัวหลบ รอจนกระทั่งพนักงานนำอาหารวางไว้เรียบร้อยแล้ว ก็ออกจากห้องไปอย่างสุภาพ ลั่วเซ่าเซินกวักมือเรียกลั่วอิง “หิวมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไง รีบมากินสิลูก” 

 

 

เพราะว่าเวลามีจำกัด ลั่วเซ่าเซินจึงสั่งอาหารมาเพียงไม่กี่อย่าง นับว่าโรงแรมแห่งนี้ใส่ใจลูกค้าเป็นอย่างดี แถมของหวานที่เด็กๆ ชอบมาให้ด้วย เป็นที่ถูกใจของลั่วอิง เธอประคองเค้กแบล็กฟอเรสต์เอาไว้ กินด้วยความเปรมปรีดิ์ 

 

 

“จะกินเค้กอย่างเดียวไม่ได้นะลูก กินสปาเก็ตตี้ด้วยสิ” เขาสั่งสปาเก็ตตี้มาให้ลั่วอิง รสชาติหวานถูกปากเด็กๆ 

 

 

“พ่อคะ หนูอยากกินเค้กให้หมดก่อนแล้วค่อยกินสปาเก็ตตี้ค่ะ” ลั่วอิงลงมือจัดการเค้กที่อยู่ในมือ ลั่วเซ่าเซินไม่มีหนทางอื่น ทำได้เพียงยอมเธอไป “เราตกลงกันแล้วนะ ถ้ากินเค้กหมดแล้วก็ต้องกินสปาเก็ตตี้ให้หมดด้วย ถ้าทำไม่ได้พ่อจะไม่พากลับไปหาคุณแม่โจวโจวแล้ว” 

 

 

“คุณพ่อ ถ้าหนูไม่อยากกินจริงๆ คุณพ่อจะเอาเรื่องนี้มาขู่หนูก็เปล่าประโยชน์ค่ะ” ลั่วอิงอยากอยู่กับถังโจวโจวมาก แต่ระยะนี้ถังโจวโจวทุ่มเทกับเสี่ยวอวี่เป็นส่วนมาก แม้ว่าลั่วอิงจะโตขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังเสียใจอยู่บ้าง 

 

 

อีกอย่างในระยะเวลาสองปีที่ถังโจวโจวไม่อยู่ เธอกับคุณพ่อก็พึ่งพากันและกันมาโดยตลอด มีความผูกพันกับคุณพ่อมากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเซ่าเซินแล้วละก็ เธอไม่มีทางออกจากประเทศ M มายังประเทศ H อย่างแน่นอน 

 

 

“จ้ะ พ่อยอมแพ้แล้ว ลั่วอิงเป็นเด็กดีที่สุดเลย! ต้องกินให้หมดนะรู้หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นพ่อจะเป็นห่วง” เด็กๆ ครอบครัวอื่นตัวสูงขึ้น กินเยอะ โตไว แต่ว่าลั่วอิงมักจะเป็นคนเลือกกินอย่างนู้นอย่างนี้ 

 

 

ระยะเวลาสองปีที่ถังโจวโจวไม่อยู่ ร่างกายของเธอก็ไม่ได้โตขึ้นสักเท่าไร ลั่วเซ่าเซินคิดหาทางแทบเป็นแทบตาย ใช้แรงบีบบังคับ แต่ก็ไม่อาจทำให้เธอกินเยอะขึ้นได้เลย ทำได้เพียงให้แม่บ้านหลิวใส่ใจกับอาหารให้มากขึ้น 

 

 

เพิ่งกินไปได้ครึ่งเดียว ถังโจวโจวก็โทรมาหา ลั่วเซ่าเซินรีบเช็ดปากหยิบมือถือเดินไปที่ระเบียง “ฮัลโหล โจวโจว โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่า” 

 

 

“คุณจะพาลั่วอิงกลับมาเมื่อไหร่คะ” เฉินหลานอีไม่เห็นลั่วอิงตอนเที่ยงก็นึกเป็นห่วง ปกติแล้วลั่วอิงจะนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเป็นคนแรกๆ วันนี้เห็นว่ามีกันแค่สามคน บรรยากาศดูอึมครึมกว่าปกติไม่น้อย จึงรู้สึกไม่ค่อยดี  

 

 

“ต้องถามลั่วอิงก่อน ตอนนี้ผมกำลังพาเธอมากินมื้อกลางวัน เดี๋ยวผมถามเธอให้แล้วจะโทรไปหาคุณอีกทีนะ” 

 

 

ความจริงลั่วเซ่าเซินคิดเอาไว้แล้วว่าพอกินมื้อกลางวันเสร็จเขาก็จะพาลั่วอิงกลับไปส่ง แต่คิดไม่ถึงว่า ออกมาแค่ครึ่งวันถังโจวโจวก็จะโทรหาแล้ว ดูเหมือนว่าถ้าหากจะพิชิตใจถังโจวโจว จะต้องลงมือผ่านลูกสาวที่รักคนนี้เสียแล้ว! 

 

 

อีกเดี๋ยวจะต้องปรึกษากับลั่วอิงเสียหน่อยว่าจะต้องยืมมือเธอเพื่อเอาตัวถังโจวโจวคืนมา ถ้าคนในบ้านโอวหยางต่างชื่นชอบในตัวลั่วอิงแล้วละก็ เธอก็คงจะไม่ต่อต้านเขาต่อหน้าลั่วอิงแน่