ตอนที่ 376 ใครหล่อที่สุดกันแน่? / ตอนที่ 377 เข้าไปยังปราสาท

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 376 ใครหล่อที่สุดกันแน่?  

 

 

“ก็ได้ค่ะ” ในเมื่อลั่วเซ่าเซินขอปรึกษาลั่วอิงก่อน เธอจะพูดอะไรได้ ถังโจวโจวกำลังจะวางสายก็ถูกลั่วเซ่าเซินเรียกเอาไว้ 

 

 

“โจวโจว คุณพอมีเวลาว่างบ้างหรือเปล่า ผมอยากรับคุณออกมากินข้าวด้วยกัน” คำพูดของลั่วเซ่าเซินเต็มไปด้วยความมั่นใจ อย่างกับว่าแค่เขาพูดออกมาหู่พั่วก็จะรับปากแต่โดยดี 

 

 

หู่พั่วไม่รู้ผู้ว่าชายคนนี้ไปเอาความมั่นใจมากมายขนาดนี้มาจากไหน นอกจากลั่วอิงที่เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเขาทั้งสองแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้คุ้นเคยกัน ต่อให้เธอเคยเป็นถังโจวโจวก็เถอะ แต่ตอนนี้เธอคือหู่พั่ว ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป 

 

 

“คุณลั่วคะ ต้องให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งคะว่าพวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกัน ในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกัน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกินข้าวด้วยกัน เราสองคนไม่ได้สนิทกันสักหน่อย ขอให้กินข้าวให้มีความสุขนะคะ ไม่มีอะไรแล้วฉันขอวางสายก่อน” 

 

 

หู่พั่วเพียงแค่ต้องการบอกให้เขารับรู้ ลั่วเซ่ายังไม่ทันได้เอ่ยตอบ อีกฝ่ายก็วางสายไปแล้ว มิตรภาพที่ดีทั้งหมดจากลั่วเซ่าเซินถูกทำลายด้วยบทสนทนาอันเยือกเย็นของถังโจวโจว ดูเหมือนว่าจะต้องวางแผนการรบใหม่เสียแล้ว 

 

 

“คุณพ่อ คุณแม่โจวโจวว่ายังไงบ้างคะ?” ลั่วอิงเห็นว่าลั่วเซ่าเซินสีหน้าหม่นหมอง ดูเหมือนว่าคุณแม่โจวโจวจะพูดอะไรไม่ตรงใจคุณพ่อเข้า ไม่อย่างนั้นคุณพ่อไม่มีทางทำสีหน้าแบบนี้แน่ 

 

 

“ไม่ได้พูดอะไรจ้ะ กินข้าวเสร็จแล้วจะให้พ่อไปส่งลูกเลยหรือเปล่า” ลั่วเซ่าเซินดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวานัก ถังโจวโจวไม่หลงกลเขาบ้างเลย เขาควรทำอย่างไรถึงจะชนะใจเธอได้? 

 

 

“คุณพ่อคะ ถ้าคุณพ่อทำให้เสี่ยวอวี่ชอบได้ คุณแม่โจวโจวก็ไม่มีทางปฏิเสธคุณพ่อแน่ค่ะ” ลั่วอิงคิดทางออกดีๆ ขึ้นมาได้ จากมุมมองของเธอ เสี่ยวอวี่เป็นหัวใจสำคัญของถังโจวโจว 

 

 

“เรื่องนี้พ่อเองก็รู้ดี แต่เสี่ยวอวี่อยู่กับโจวโจวอยู่ตลอดเวลา พ่อเข้าประตูรั้วบ้านโอวหยางไม่ได้ด้วยซ้ำ แล้วเสี่ยวอวี่จะชอบพ่อได้ยังไง? มันเป็นไปไม่ได้” 

 

 

ลั่วอิงไม่ได้คิดแบบลั่วเซ่าเซินที่พิจารณาแรงต่อต้านของครอบครัวโอวหยางไว้ด้วย เธอมองเรื่องนี้ง่ายดายเกินไปจนลืมไปว่าลั่วเซ่าเซินไม่ได้โอกาสใกล้ชิดกับถังโจวโจวได้ด้วยซ้ำ หมายความว่าก็ไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับเสี่ยวอวี่ด้วยเช่นกัน! 

 

 

ใครจะไปเหมือนเธอล่ะที่สามารถเข้านอกออกในบ้านโอหยางได้ตามใจชอบ “คุณพ่อ ปลอมตัวเป็นคนรับใช้เข้าไปเลยสิคะ!” 

 

 

“ลูกเคยเห็นคนใช้ที่ไหนหล่อเท่าพ่อของลูกบ้าง?” ลั่วเซ่าเซินอยากเคาะกะโหลกของลั่วลิง เธอคิดอะไรอยู่กันแน่ ทำไมถึงได้มีความคิดไม่เข้าท่าแบบนี้? 

 

 

ปลอมตัวเป็นคนรับใช้? เธอคิดไปได้ยังไงกัน ถ้าเขาถูกโอวหยางหงจับได้ทั้งอย่างนั้น มีอันได้หัวเราะจนฟันร่วงแน่! เขาไม่ยอมเป็นตัวตลกให้โอวหยางหัวเราะเยาะเด็ดขาด 

 

 

“ใครบอกว่าไม่มีละคะ คุณลุงพ่อบ้านหล่อออกจะตายไปค่ะ!” แม้ว่าตอนนี้จะอายุมากไปหน่อย แต่เขาเป็นคนหล่อที่ไม่อาจมองข้ามไปได้เลย เขาแค่แก่แล้วก็เท่านั้น 

 

 

“คุณลุงพ่อบ้านเป็นใครเหรอลูก?” คุณลุงพ่อบ้านที่ไหน? พ่อบ้านที่บ้านโอวหยางน่ะเหรอ? ลั่วเซ่าเซินไม่เข้าใจว่าจู่ๆ คนที่ลั่วอิงพูดถึงคนนี้เป็นใครกัน 

 

 

“คุณพ่อบ้านก็คือคุณลุงพ่อบ้านไงคะ!” ลั่วอิงไม่รู้จะอธิบายอย่างไร คุณลุงพ่อบ้านที่เธอรู้จักก็อยู่ที่บ้านนั้นไง คุณพ่อจะถามอะไรเธอเนี่ย เธอรู้จักคุณลุงพ่อบ้านที่บ้านนั้นแค่คนเดียว คนอื่นเธอไม่รู้จักเสียหน่อย  

 

 

ลั่วเซ่าเซินเองก็ไม่ได้อยากถามต่อ “เอาล่ะ พ่อรู้แล้วละว่าพ่อไม่ใช่คนที่หล่อที่สุดในใจของลูก รีบกินข้าวเถอะ พ่อไปแอบเสียใจเงียบๆ คนเดียวก็ได้ ลั่วอิงไม่ต้องสนใจพ่อหรอก” 

 

 

ลั่วอิงหมดคำจะพูด คุณพ่อก็คิดอะไรไปเรื่อย มิน่าละคุณแม่โจวโจวถึงได้ไม่ยอมกลับมา ถ้าเขายังเป็นแบบนี้อยู่ เป็นเธอ เธอก็ไม่กลับมาเหมือนกัน 

 

 

“คุณพ่อ หนูไม่พูดกับคุณพ่อแล้วค่ะ” อย่างไรในใจของเธอ คุณลุงพ่อบ้านก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าลั่วเซ่าเซินตรงไหน 

 

 

ลั่วเซ่าเซินเห็นลั่วอิงโกรธขึ้นมาจริงๆ ก็พลันร้อนรน “ลูกรัก พ่อก็แค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง ลูกก็ทำเป็นจริงเป็นจังไปได้! ได้ พ่อเห็นด้วยกับลูกนะ คุณลุงพ่อบ้านของลูกหล่อที่สุดแล้ว อย่างนี้พอใจหรือยัง?” 

 

 

พ่อบ้านคนนี้สูงส่งมาจากไหนกันถึงได้ใจลั่วอิงไปในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้ ลั่วเซ่าเซินค่อนข้างน้อยใจ ในใจของเธอ เขาเทียบไม่ได้กับคุณลุงพ่อบ้านด้วยซ้ำ น่าเศร้าเสียจริง 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 377 เข้าไปยังปราสาท 

 

 

“คุณพ่อคะ อย่าเสียใจไปเลยนะคะ หนูก็พูดไปอย่างนั้นเอง คุณพ่อหล่อที่สุดในใจหนูอยู่แล้วค่ะ ใครก็สู้คุณพ่อไม่ได้” ปากลั่วอิงก็พูดไป ลั่วเซ่าเซินเองก็ดีใจ ส่วนใจของเธอคิดเห็นอย่างไรนั้นก็มีแค่เธอคนเดียวที่รู้! 

 

 

 “จ้ะๆ เมื่อกี้คุณแม่โจวโจวของลูกถามว่าลูกจะกลับไปเมื่อไหร่” ลั่วเซาเซินรู้สึกว่าเวลาที่เขาอยู่กับลั่วอิง สติปัญญาของเขาก็ยิ่งถดถอยลงทุกที อีกทั้งเมื่อกี้ก็ยังทะเลาะกับเธอเรื่องด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก 

 

 

ตอนนี้เขาจะเสียใจทีหลังก็ไม่สามารถชดเชยช่วงเวลาที่ภาพลักษณ์ของเขาแหลกสลายในสายลั่วอิงได้อีก โธ่ หมดกัน ภาพลักษณ์ของเขา 

 

 

ไม่ว่าในใจของลั่วเซ่าเซินจะนึกเสียใจอย่างไร แต่ตอนนี้มันก็กลายเป็นความจริงไปแล้ว ในสายตาของลั่วอิง คุณพ่อของเธอเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก แล้วก็ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกของคนอื่นด้วยเช่นกัน ให้ความสำคัญว่าภาพลักษณ์ของตนในสายตาของคนอื่นเป็นอย่างไร 

 

 

“คุณพ่อ เดี๋ยวก็จะกลับกันแล้วเหรอคะ” นี่เป็นเรื่องที่คุณพ่อควรเป็นคนคิดไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงมาถามความเห็นเธอล่ะ? 

 

 

“จ้ะ อีกเดี๋ยวพ่อจะไปส่งลูก” 

 

 

ทั้งสองคนตกลงกันอย่างนั้น ตั้งอกตั้งใจกินมื้อกลางวันที่เหลืออยู่เมื่อสักครู่ ลั่วเซ่าเซินก็ไปคุยโทรศัพท์ คุยกับอีกฝ่ายว่าอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เมื่อเขาจูงลั่วอิงออกไปก็มีชายหนุ่มอายุน้อยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถคันสีดำ รออยู่ที่ข้างประตู 

 

 

ลั่วเซ่าเซินดึงตัวลั่วอิงพุ่งตรงก้าวเดินไปข้างหน้า “คุณลั่วใช่หรือเปล่าครับ?” 

 

 

“ใช่ ผมเอง” 

 

 

“นี่กุญแจรถครับ” 

 

 

ลั่วเซ่าเซินคว้ากุญแจเอาไว้ วางลั่วอิงให้นั่งลงที่เบาะหลัง ขับรถออกจากโรงแรมไปด้วยตัวเอง 

 

 

“คุณพ่อคะ รถคันนี้มาจากไหนคะเนี่ย” คุณพ่อไม่ได้ขับรถมานี่นา ทำไมจู่ๆ ถึงมีรถขึ้นมาได้? 

 

 

“พ่อมีเวทมนตร์ไงล่ะ! อีกเดี๋ยวลูกต้องช่วยให้พ่อเข้าไปให้ได้เลยนะ” ลั่วเซ่าเซินคิดขึ้นได้ เกิดพวกเขาไม่ให้เขาเข้าไป เขาจะใช้ความสำคัญของลั่วอิงเป็นข้ออ้างก็ยังได้ 

 

 

“ค่ะ หนูอยู่ข้างคุณพ่ออยู่แล้วค่ะ” 

 

 

ลั่วเซ่าเซินยังคงคิดอยู่ว่า ถ้าเขาคิดจะทำศึกระยะยาว ควรจะซื้อห้องชุดที่นี่ไว้ด้วยหรือเปล่า ดูสถานการณ์วันนี้ก่อนก็แล้วกัน 

 

 

ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง รถยนต์จอดอยู่ที่หน้าปราสาท รถของลั่วเซ่าเซินจอดอยู่ข้างนอก ยามออกมาดูก็พบว่าเป็นคนแปลกหน้า “คุณเป็นใครหรือครับ?” 

 

 

“ผมชื่อลั่วเซ่าเซิน มาหาถัง…หู่พั่วครับ” 

 

 

“ได้ครับ รอสักครู่ ผมขอสอบถามก่อนนะครับ” ยามวิ่งเหยาะๆ กลับเข้าไป น่าจะกลับไปโทรศัพท์คุยกับคนที่อยู่ข้างใน ผ่านไปสักครู่ก็ออกมา “คุณลั่ว เชิญเข้าไปได้ครับ” 

 

 

ประตูรั้วบานใหญ่เปิดออก ลั่วเซ่าเซินยิ้มให้เขาเป็นการขอบคุณ ขับรถเข้าไปภายในปราสาท 

 

 

วนอ้อมแปลงดอกไม้ไป รถยนต์ก็จอดลงที่พื้นที่ด้านข้าง หู่พั่วได้รับข้อความและอุ้มเสี่ยวอวี่ลงมารออยู่ก่อนแล้ว 

 

 

เสี่ยวอวี่เห็นลั่วอิงลงจากรถ ก็พลันยื่นมือเอื้อมไปหาเธอ “อุ้ม…อุ้ม…” 

 

 

“เสี่ยวอวี่เห็นพี่สาวแล้วใช่หรือเปล่า เด็กดี เดี๋ยวพี่สาวก็มาอุ้มหนูแล้วจ้ะ” หู่พั่วเห็นลั่วอิงเดินเข้ามาหา “ลั่วอิงจ๊ะ เสี่ยวอวี่ยื่นมือจะให้หนูอุ้มตลอดเลยนะ” 

 

 

“เสี่ยวอวี่ คิดถึงพี่หรือเปล่า? พี่คิดถึงเสี่ยวอวี่มากๆ เลยนะ” ลั่วอิงลองยื่นมือให้เขา เสี่ยวอวี่ก็ผละออกจากอ้อมแขนของหู่พั่วทันที เธอตกใจจนต้องรีบประคองเขาเอาไว้ เด็กคนนี้ดื้อจริงๆ เลย ไม่กลัวล้มเสียด้วย 

 

 

“รอก่อนสิ เข้าไปข้างในแล้วค่อยให้พี่สาวอุ้มนะจ๊ะ” หู่พั่วกลัวลั่วอิงรับน้ำหนักไม่ไหว เดี๋ยวจะไม่มีแรงอุ้ม อย่างไรก็เข้าไปนั่งข้างในแล้วค่อยให้เธออุ้มจะดีกว่า 

 

 

ลั่วเซ่าเซินเห็นถังโจวโจวมีรอยยิ้มก็รู้สึกว่าทั้งโลกมีเพียงพวกเขาแค่สี่คน น่าเสียดายที่มักจะมีตัวขัดจังหวะเข้ามาร่วมวงด้วยตลอด 

 

 

“คุณหนูคะ คุณผู้หญิงทราบว่ามีแขกมา ท่านรออยู่ข้างในแล้วค่ะ พวกเราเชิญแขกเข้าไปเลยดีไหมคะ” 

 

 

“คุณลุงพ่อบ้าน!” ลั่วเซ่าเซินเงยหน้ามองพ่อบ้านคนนี้แวบหนึ่ง แค่มองก็รู้แล้วว่าตอนที่เขายังหนุ่มก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งทีเดียว แต่ยังไม่ถึงขั้นสมบูรณ์จนไร้ที่ติ 

 

 

ที่แท้ลั่วเซ่าเซินยังจำได้ว่าลั่วอิงชื่นชมคุณลุงพ่อบ้านคนนี้ยิ่งกว่าใครๆ อย่างกับว่าบนโลกใบนี้มีเขาหล่ออยู่คนเดียว คุณพ่อคนนี้ก็ขี้ใจน้อยเสียจริง ทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็ข้ามเรื่องนี้ไปแล้วแท้ๆ ตอนนี้ยังจะคิดถึงเรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน ใจแคบกว่าผู้หญิงเสียอีก! 

 

 

ลั่วเซ่าเซินพยักหน้าให้เขาเป็นการทักทาย พ่อบ้านเองก็พยักหน้าลงน้อยๆ พิจารณาลั่วเซ่าเซินปราดหนึ่ง ผู้ชายคนนี้คือสามีของหู่พั่วอย่างนั้นหรือ? 

 

 

“คุณลั่ว เชิญเข้าไปพบคุณผู้หญิงข้างในก่อนเถอะครับ”