บทที่ 1665 – เก็บเกี่ยวผลผลึกวชิระ สัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ตัวแรกของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยพักที่เมืองหลินห่ายเป็นการชั่วคราว เขารู้สึกดีใจเมื่อหญิงสาวทั้งสองคนกลับมาที่นี่ในวันที่ 3 ที่เขาได้กลับมา เมื่อเขาอยู่ที่นี่เขาก็อยากให้หญิงสาวทั้งสองคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
ตอนที่หญิงสาวทั้งสองคนนี้จะจากไปเหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งงั้นยังไม่แยกตัวออกไปฝน แต่เมื่อพวกนางกลับมาหลิงเฟิงและหยิน ต่งนั้นนก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ นอกจากนี้ชิงสุ่ยก็กำลังจะกลับไปในเร็วๆนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงกลับมาที่นี่โดยเร็วที่สุด
หลังจากที่ต้องแยกกันไปมากกว่า 1 เดือนชิงสุ่ยก็เข้ามาโอบกอดหญิงสาวทั้งสองคนนี้ เสวี่ย นั่วนั้นก็เดินเข้ามากอดเขาด้วยเช่นกัน
ชิงสุ่ยและถานท้าย หลิงเขียนนั้นเป็นสามีภรรยากัน อย่างไรก็ตามทุกๆคนรู้ว่าทั้งสองนั้นมีความสัมพันธ์ที่พิเศษมากและเชื่อว่าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน
หญิงสาวทั้งสองคนทักทายคนอื่นด้วยความยินดี ทุกๆคนเริ่มเป็นครอบครัวเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อได้อยู่ร่วมกันและต่อสู้ร่วมกันแล้วความสนิทสนมก็จะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนางกลับมาที่นี่นางก็รู้สึกสงบสุขอย่างยิ่งนางรู้ดีว่านี่เป็นเพราะชิงสุ่ย เป็นเพราะเขาที่ทำให้ที่แห่งนี้สงบสุข เป็นเพราะเขาที่ทำให้ทุกๆคนในที่แห่งนี้นั้นสนิทสนมรักใคร่กลมเกลียวกัน
“พระราชวังจอมอสูรเป็นอย่างไรบ้าง?” ชิงสุ่ยถามขึ้น
“ก็ปกติดี แล้วเจ้าล่ะ? พระราชวังทะเลราชันย์เป็นเช่นไรบ้าง?” ถานท่าย หลิงเยียนรู้ดีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างชิงสุ่ยและพระราชวังแห่งนั้น
“พระราชวังทะเลราชันย์และพระราชวังสุริยาได้รวมตัวเป็นพันธมิตรกัน พระราชวังทรายทองและพระราชวังมังกรได้ล่มสลายลงไปแล้ว” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ถานท้าย หลังเยียนตกตะลึงไปในทันที หลังจากนั้นนางก็หันกลับไปยิ้ม “ได้ยินเช่นนี้ก็ดี”
“ตอนนี้พวกนางได้เข้าสู่ระดับสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วด้วยเช่นกัน ข้าไม่ต้องเป็นห่วงพวกนางต่อไป” ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง
ในตอนนี้ฉันชิงก็พูดขึ้นมาว่า “เช่นนั้นก็ดี นั่นหมายความว่าในอนาคตเจ้าต้องเป็นห่วงพี่สาวเยียนให้มากกว่านี้!”
ถานท้าย หลิงเยียนรู้สึกเขินอายขึ้นมา นางยังคงเงียบอยู่ในตอนนี้เพราะรู้ว่าพูดอะไรออกไปในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา เงียบไว้จะดีกว่า
ชิงสุ่ยรู้สึกไม่มีอะไรต้องกังวลในตอนนี้ “ข้าเป็นห่วงภรรยาทุกๆคนของข้า”
ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่งเมื่อได้อยู่กับหญิงสาวทั้งสองคนที่หอคอยจักรพรรดิ์ เพราะพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ทำอะไรและหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝน กลับกันชิงสุ่ยนั้นดูผ่อนคลายอย่างยิ่งบางครั้งเขาจะออกมาช่วยแนะนำหญิงสาวทั้งสองคนในการฝึกฝนรวมถึงเสวี่ย นั่วด้วยเช่นกัน บางครั้งเขาก็จะไปที่หอคอยจักรพรรดิเพื่อรักษาคนไข้และเล่นกับพวกเด็กๆ
แม้ว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยหยุดทำงาน อีเย่ เจี้ยนเก้อฉันอยู่ที่แดนทะเลน้ำแข็งกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในที่สุดพวกนางก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปยังทะเลเหนือ ตี้ เฉิน องค์หญิงใหญ่ ถานท้ายหยวน และอเหอต่างก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกฝนของตนเอง
เดิมทีนั้นชิงสุ่ยคิดว่าเหล่าหญิงสาวนั้นไม่ได้เร่งรีบเหมือนที่พวกนางเคยเป็นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ใช่เลย ตัวอย่างเช่น ถานท่าย หลิงเยี่ยน นางไม่เคยยอมแพ้ต่อนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะ
ก่อนหน้านี้นิกาย 5 พยัคฆ์อมตะนั้นอาจจะไม่ควรค่าต่อการจดจำ แต่พวกเขาก็ทำให้ถานท่าย หลิงเยียนต้องบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นนางจึงไม่ยอมแพ้ต่อการแก้แค้นของตนเอง
ปลาใหญ่กินปลาเล็ก นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยได้ยินเสมอในโลกก่อนหน้านี้ของเขา แต่เขาเพิ่งจะเข้าใจมันก็วันนี้ ดังนั้นเอาจริงไม่ได้ขัดขวางที่เหล่าหญิงสาวต้องการที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง และเขาพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกนางด้วยเช่นกัน
เพื่อที่จะไม่ถูกรังแกก็ต้องมีพลังที่มากพอ ด้วยความงามของพวกนางมันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกนางจะใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาได้
ยิ่งล้ำค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เมื่อมองไปที่หญิงสาว 2 คนซึ่งสู่ยก็รู้สึกผิดขึ้นมา สิ่งที่มีค่าที่สุดกับหญิงสาวทั้งสองคนนี้คือความงามของนาง มีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่หมายตาพวกเราไว้ หากเขาไม่ได้แข็งแกร่งเขาคงตายไปแล้วในวันนี้
หลังจากผ่านไป 6 วันก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง ผลผลึกวชิระในดินแดนหยกยุพราชอมตะถึงเวลาเก็บเกี่ยวได้แล้ว ก่อนหน้านี้ต้นผลึกวชิระนั้นฉันชิงพบมันโดยบังเอิญ แต่ในตอนนี้เขาสามารถเก็บเกี่ยวมันได้เป็น 10 ผล
มันผ่านมานานมากแล้วที่เขาได้พบกับรูปภาพของฉันชิงโดยบังเอิญ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าตนเองนั้นคุ้นเคยกับนางมาเป็นเวลานาน
ผลผลึกวชิระนั้นสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว มันใช้ได้กับสัตว์อสูรทุกๆตัว เจ้ามังกรเขียวของฉันชิงและสัตว์อสูรของชิงสุ่ย 3 ตัวได้กินมันลงไปแล้วก่อนหน้านี้
ในตอนนี้เขามีผลผลึกวชิระมากกว่า 10 ผล แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงคิดว่าไม่พอ คราวก่อนเย่ เจี้ยนเก้อก็ได้รับผลผลึกวชิระไปแล้ว ซึ่งสู่ยจะให้วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรกินผลผลึกวชิระในครั้งนี้ คราวก่อนอสูรสยบมังกร มังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรนรกรัตติกาลต่างก็ได้กินมันไปแล้ว
อีก 8 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบมันให้แก่ ถานท่าย หลิงเขียนและเต่ามังกรคนละผล ที่เหลือ 6 ผลนั้นมอบให้เหลียนหลิงเฟิงและหยิน ต่งคนละผล เสวี่ย นั่วนั้นยังคงอ่อนแออยู่และอาจไม่เหมาะสำหรับผลผลึกวชิระอีก 4 ผลที่เหลือชิงสุ่ยจะมอบให้อีหวง ‘หรู ชางห่าย หมิงเยวีย อี้เฉินและอวเหอ
ผู้คนที่อยู่รอบกายเขามีมากมายในตอนนี้ เขาจะต้องดูแลพวกนางให้ดี ในท้ายที่สุดพวกนางทุกๆคนก็จะได้รับผลผล็กวชิระไป
เมื่อชิงสุ่ยวางแผนเสร็จสิ้นเขาก็ป้อนผลผลึกวชิระให้แก่วิหคเพลิงนรกานต์และอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรทันที คราวก่อนชิงสุ่ยก็คิดจะมอบมันให้แก่อสรแมงมุมมังกรแปดเศียรแต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีสัตว์อสูรตัวอื่นที่เหมาะสมมากกว่า น่าเสียดายที่มันมีจพนวนไม่พอ
เปลวเพลิงสีดำเผาไหม้ไปรอบตัวของวิหคเพลิงนรกานต์ทันที มันเป็นเปลวเพลิงสีดำแต่ก็เปล่งประกายและดูแหลมคมราวกับมีดดาบ กลิ่นอายอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของวิหคเพลิง เมื่อได้เห็นเช่นนี้ชิงสุ่ยก็ยิ้มออกมา ต่อจากนี้สายฟ้าสีดำขนาดใหญ่ก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้า
“เป็นไงบ้างนะ” ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง นั่นเป็นทัณฑ์สวรรค์พินาศของวิหคเพลิงนรกานต์ที่มันต้องผ่านไปใช่หรือไม่? เขายังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้น
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ วิหคเพลิงนรกานต์ยังคงปลดปล่อยพลังของมันออกมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ มันร้องเสียงแหลมออกมาและสืบนร่างกายของมันนั้นก็ดูเข้มมากขึ้น
ชิงสุ่ยมองไปยังวิหคเพลิงนรกานต์เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบลงในตอนนี้ วิหคเพลิงนรกานต์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก มันยังคงมีขนาดเท่าเดิมเพียงแต่เปล่งประกายสีดำออกมา กลิ่นอายของมันราวกับสัตว์อสูรบรรพกาล
วิหคเพลิงนรกานต์ พลังทางสายเลือด: ทรงพลังถึงขีดสุด
ชิงสุ่ยรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ก่อนหน้านี้วิหคเพลิงนรกานต์ก็มีสายเลือดที่ทรงพลังอยู่แล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับทรงพลังถึงขีดสุด
พลังในตอนนี้ของวิหคเพลิงนรกานต์เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 20,000 สุริยา การยกระดับขึ้นในครั้งนี้ทำให้พลังของมันเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า แต่นี่ก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ของชิงสุ่ย
ชิงสุ่ยที่ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของมันทันที
หงส์เพลิงทมิฬ 9 สวรรค์ เพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้น 100 เท่า พลังงานที่ใช้ในเคล็ดวิชาต่างๆลดลงไปครึ่งหนึ่ง
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป ชิงสุ่ยไม่รู้ว่านี่ถือว่าปกติหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชานี้จะไม่ยกระดับขึ้นง่ายๆ
จิตวิญญาณแห่งวิหคเพลิง: ความสามารถในการบินของวิหคเพลิงนรกานต์ ความเร็วของมันจะเพิ่มขึ้น 100 เท่าในขณะที่บินอยู่และพลังงานที่ใช้ในการบินจะลดลงไป 100 เท่า
นี่ถือได้ว่าทรงพลังอย่างยิ่ง ชิงสุ่ยคิดว่าหากเขาเดินทางไปทั่วมหาทวีปทั้ง 9 ด้วยวิหคเพลิงนรกานต์คงจะใช้เวลาไม่นานนัก
เคล็ดวิชาเปลวเพลิงแห่งนรก: เปลวเพลิงอันทรงพลังสองวิหคเพลิง เปลวเพลิงสีดำที่สามารถเผาผลาญทุกๆสิ่งได้ มันมีพลังทำลายอันน่าสะพรึงกลัว เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ การโจมตีครั้งนี้จะเพิ่มพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ 50 เท่า
เคล็ดวิชาหงส์เพลิงร่ายระบ่า : เคล็ดวิชาติดตัวเพิ่มพลังของผู้ใช้ขึ้นอีก 100 เท่าและลดความเสียหายที่ได้รับลงไปหลายเท่า พลังป้องกันทั้งหมดเพิ่มขึ้นอีก 9 เท่า
เพลิงนรกภูมิ: โจมตีด้วยลูกไฟเพลิงความเสียหายของผู้ใช้เพิ่มขึ้น 100 เท่า ลูกไฟเพลิงนี้มีความสามารถในการระเบิด เมื่อระเบิดจะสร้างความเสียหายขึ้นอีกหลายเท่า ล็อคเป้าหมายไปที่พลังวิญญาณของศัตรู
แดนวิหคอัคคีสวรรค์: เมื่อได้รับบาดเจ็บมีโอกาส 30% ที่วิหคเพลิงจะถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง เมื่อถือกำเนิดไหมสำเร็จพลังของมันจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่า
ดวงใจแห่งวิหคเพลิง: ดวงใจแห่งวิหคเพลิงที่จะทำให้พลังทั้งหมดของวิหคเพลิงนั้นเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าความเสียหายที่ได้รับลดลงไป 1 เท่า การใช้พลังงานในเคล็ดวิชาต่างๆจะลดลงไปอีก 2 เท่า เป็นเคล็ดวิชาติดตัวไม่ใช้พลังงานใดๆ
เดชวิหคเพลิง: พลังอานาจเหนือวิหคชนิดอื่นที่ไม่ใช่วิหคเพลิง สามารถลดพลังของเป้าหมายลงไปได้ 10%
ในตอนนี้วิหคเพลิงมีพลังมากกว่า 800 เต่ำ มันเป็นสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าวิหคเพลิงนรกานต์นั้นถือว่าทรงพลังหรือไม่แต่เขาก็รู้สึกพึงพอใจกับมัน
เขารู้ว่านี้เกิดจากผลผลึกวชิระ น่าเสียดายที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำและสัตว์อสูรตัวอื่นๆนั้นไม่อาจกินมันได้อีก ยิ่งสัตว์อสูรพรรสวรรค์มากเท่าไร่ผลผลึกวชิระก็จะส่งผลได้มากขึ้นเท่านั้น
สุกท้ายแล้วชิงสุ่ยก็มีสัตว์อสูรระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของตนเอง เขาบอกได้เลยว่าวิหคเพลิงนรกานต์ในตอนนี้นั้นทรงพลังอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นความสามารถในการับการโจมตี หากเขาไม่มีทักษะวชิระจู่โจม ชิงสุ่ยเองก็คงไม่อาจทำให้มันบาดเจ็บได้
เผ่าวิหคเพลิงนั้นเหมือนกับลูกรักของพระเจ้า มันได้รับการอวยพรจากพระเจ้าอยู่เสมอ ดังนั้นในตอนนี้ชิงสุ่ยสามารถเรียกวิหคเพลิงนรกานต์ออกมาในการต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
ชิงสุ่ยยังไม่ได้ตรวจสอบเคล็ดวิชาสวรรค์ของมัน ชิงสุ่ยรีบครวจสอบทันที
เพชณฆาต 9 วิญญาณ!
มันยังคงเป็นเพชณฆาต 9 วิญญาณ!
เพชณฆาต 9 วิญญาณ: เพิ่มความเสียหายของผผู้ใช้เพิ่มขึ้นอีก 10 เท่าเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป ภายใต้ผลของเพชณฆาด 9 วิญญาณพลังงานที่ผู้ใช้ต้องใช้นั้นจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า สามารถใช้ได้วันละครั้ง
ชิงสุ่ยตกตะลึงไป นี่คือสิ่งที่ทำให้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นน่าลกัวอย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับเพชณฆาด 9 วิญญาณแล้วทักษะวชิระจู่โจมของชิงสุ่ยนั้นทรงพลังมากกว่า น่าเสียดายที่มันใช้ได้เพียงวันละครั้งเพชณฆาต 9 วิญญาณนั้นใช้ได้เพียงหนึ่งก้านธูป แต่เวลาหนึ่งก้านธูปนั้นก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้ว
พลัง 8000 เดำเป็นเวลาหนึ่งก้านธูป…….ช่างเป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง…
ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างยิ่ง วิหคเพลิงนรกานต์ร้องเสียงแหลมออกมาขณะบินไปรอบๆชิงสุ่ย พลังของมันในตอนนี้เหนือกว่ามังกรไอยราเกล็ดทองคำและอสูรอัสนีคลั่งเสียอีก
นอกจากนี้เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นยังทำให้มันเหนือกว่าผู้ใด
เพลิงอสูร 9 วิญญาณนั้นสามารถเผลาผลาญทุกๆสิ่งให้หายไปจนหมดสิ้นได้
ชิงสุ่ยไม่เคยลองว่าเขาสามารถเผาอสูรสยบมังกรได้หรือไม่ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าอสูรสยบมังกรนั้นจะหวาดกลัววิหคเพลิงนรกานต์ ในตอนนี้วิหคเพลิงนรกานต์นั้นทรงพลังอย่างยิ่งจนชิงสุ่ยก็รู้สึกอิจฉา
วิหคเพลิงนรกานต์นั้นกำเนิดขึ้นมาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ สมบัติเพียงอย่างเดียวของมันนั้นคือต้นอู่ทงขนาดใหญ่
ในตอนนี้ร่างกายของอสูรแมงมุมมังกรแปดเศียรก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน