ตอนที่ 472 เข้าใจความคิดของเจ้ามาตลอด / ตอนที่ 473 รับเมียน้อย

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 472 เข้าใจความคิดของเจ้ามาตลอด

 

 

ฟู่เฉินหรงทำท่าไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว “ข้าพูดอะไรหรือ? ข้าแค่อยากกินมื้อกลางวันกับเจ้าเท่านั้น”

 

 

ซูจิ่วซือสำลักทันที หดมือกลับ วางชามลงบนโต๊ะหิน ไม่ใส่ใจฟู่เฉินหรงอีก

 

 

เขาลุกขึ้น เดินไปข้างหลังซูจิ่วซือ กอดซูจิ่วซือทางด้านหลัง “จิ่วซือ ถ้าเจ้าชอบน้ำแกงไก่ ข้าจะต้มให้เจ้ากินทุกวัน”

 

 

ซูจิ่วซือหรุบตาลง หัวเราะเบาๆ “ให้เจ้าทำทุกวัน ก็เท่ากับเอาคนตำแหน่งใหญ่มาทำงานเล็ก”

 

 

“ข้ายินดีทำ”

 

 

ฟู่เฉินหรงบ่อยมือออกจากซูจิ่วซือ เดินมาข้างหน้า แล้วกอดซูจิ่วซืออีกครั้ง ไม่พูดไม่จา ได้แต่กอดซูจิ่วซือแน่น

 

 

“น้ำแกงชามนี้ เจ้าหัดทำนานเท่าไร?”

 

 

ฟู่เฉินหรงย่อมไม่บอกซูจิ่วซือ เขาใช้เวลาตลอดทั้งเช้าต้มน้ำแกงไก่

 

 

ถือว่าเป็นการพักในยามที่มีงานยุ่ง เวลานี้สถานการณ์คับขัน แต่ละวันมีฎีกาที่ต้องจัดการไม่รู้จักจบจริงๆ

 

 

เวลาต้มน้ำแกง เขายกเก้าอี้มาตั้ง อ่านฎีกาพร้อมกับคนน้ำซุปไปด้วย ถ้าไม่ทำอย่างอื่นคอยแต่เฝ้าอยู่หน้าเตา เขาไม่มีเวลามากอย่างนั้น

 

 

เขาเพียงแต่อยากให้ซูจิ่วซือรู้ ไม่ว่าเขางานยุ่งเพียงไร ก็ไม่มีวันมองข้ามซูจิ่วซือ

 

 

เขายินดีทำทุกอย่างเพื่อนาง เขารู้ว่าซูจิ่วซือจากจิงเฉิงมาที่ตูเฉิงลำบากมาก เพื่อเขานางต้องทนรับกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และต้องเสียสละไม่น้อย เดิมทีนางคิดว่าอยู่ตูเฉิงคงจะได้ใช้ชีวิตที่ผ่อนคลาย

 

 

“อาศัยความสามารถของข้า ใช้เวลาหนึ่งชั่วยามก็เรียบร้อย”

 

 

“งั้นข้าควรจะชมเจ้าให้มาก วันหลังไม่ต้องต้มน้ำแกงให้ข้าแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้ามีงานที่ต้องทำมากมายในแต่ละวัน ปิงอวิ๋นเคยบอกข้า กลางคืนเจ้าก็ทำงานถึงตีหนึ่งตีสอง ทำอย่างนี้ไม่ไหว พอฟ้าสว่างเจ้าก็ต้องตื่น กลางคืนจึงควรนอนเร็วหน่อย”

 

 

ฟู่เฉินหรงขยันจริงๆ เพื่อทำความคุ้นเคยกับงานปกครองบ้านเมืองของแคว้นเจียงให้เร็วที่สุด ซุ่นตี้ทรงมอบหมายงานให้ฟู่เฉินหรงจำนวนมาก แต่ละวันมีงานทำไม่รู้จบ ทำจนเลยเที่ยงคืนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

 

 

เขากลัวซูจิ่วซือเป็นห่วง ไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ซูจิ่วซือฟัง พอได้ยินซูจิ่วซือพูดถึง จึงตอบอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าฟังปิงอวิ๋นพูดเหลวไหล นางจงใจพูดเกินเลย อยากให้เจ้าเอาใจข้า”

 

 

“สีหน้าเจ้าดูเหนื่อยล้าอย่างนี้หลอกไม่ได้ ข้ารู้ว่าเจ้ามีภารกิจรัดตัว แต่หวังว่าพอกลางคืนเจ้าจะพักผ่อนเร็วหน่อย เฉินหรง สุขภาพสำคัญกว่าทุกอย่าง อย่าต้มน้ำแกงไก่ให้ข้า ข้าเข้าใจความหวังดีของเจ้า เข้าใจมาตลอด”

 

 

ซูจิ่วซือเป็นห่วงฟู่เฉินหรง เวลานี้นางพยายามช่วยฟู่เฉินหรงเท่าที่จะทำได้ แต่งานปกครองบ้านเมืองนางไม่อาจช่วยฟู่เฉินหรงแบ่งเบาภาระ เวลานี้เขาจึงมีงานยุ่งมาก

 

 

“ได้ รอให้ข้าว่างจะหัดทำอาหารกับพ่อครัวหลวง ถ้าเจ้าชอบ ข้าจะเข้าครัวทำอาหารให้เจ้า”

 

 

ซูจิ่วซือทุบอกฟู่เฉินหรงเบาๆ “รัชทายาทที่ไหนเข้าครัว ข้าหัดเอง”

 

 

“อย่าเลย จิ่วซือ เจ้าไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ อย่าดูถูกการทำอาหาร”

 

 

ฟู่เฉินหรงตั้งใจพูดอย่างนี้ เขาไม่อยากให้ซูจิ่วซือยุ่งกับเรื่องนี้ งานครัวเต็มไปด้วยน้ำมันควันไฟ ซูจิ่วซือไม่เคยทำมาก่อน แม้จะมีเขา เขาก็ไม่อยากให้ซูจิ่วซือทำอะไรที่นางไม่ชอบ

 

 

ซูจิ่วซือขมวดคิ้ว “ข้าทำกับข้าวไม่เก่งปานนี้เชียวหรือ?”

 

 

“กินไม่ลง”

 

 

ฟู่เฉินหรงโจมตีซูจิ่วซือต่อ อยากให้ซูจิ่วซือเลิกความคิดนี้ แน่นอน เขาพูดความจริง ซูจิ่วซือทำอาหารไม่อร่อยเลย เมื่อก่อนเขาต้องอาศัยความกล้าอย่างมากจึงจะกินเข้าไปได้

 

 

ซูจิ่วซือคิดอยู่ว่าต่อไปควรจะหัดทำอาหารจากพ่อครัวดีหรือไม่ นางไม่เชื่อว่าตนหัดไม่ได้

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 473 รับเมียน้อย

 

 

พอเห็นซูจิ่วซือทำท่าครุ่นคิด ฟู่เฉินหรงก็ก้มลงจูบริมฝีปากซูจิ่วซือ

 

 

ซูจิ่วซือตะลึง พอนึกขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นลานบ้าน ขณะที่กำลังจะผลักฟู่เฉินหรงออก ฟู่เฉินหรงก็โอบเอวซูจิ่วซือไว้ นางผลักฟู่เฉินหรงไม่ไหว จึงได้แต่ยอมรับ ในเมื่อมีปิงซินเฝ้าอยู่ที่ประตู

 

 

เผยปิงปิงอยากออกมาเดินเล่น พอมาถึงทางเดินก็เห็นภาพนี้ นางตะลึง แล้วรีบกลับห้องทันที ฟู่เฉินหรงใจกล้าจริงๆ ที่นี่เป็นจวนตระกูลมู่

 

 

 

 

จวนซิ่นอ๋อง

 

 

ฟู่อี้หานหลับตาพริ้มอยู่ในห้องฟังเสียงพิณ คนที่นั่งข้างพิณเป็นเด็กสาว คิ้วคมหน้ากลมแป้น ผิวขาวผ่อง หน้าตาสะสวย ดูมีเสน่ห์น่าชิดใกล้

 

 

นิ้วมือของนางยาวเรียว เสียงเสนาะของพิณพริ้วออกมาจากนิ้วมือของนาง

 

 

ฟู่อี้หานเอนหลังกับเก้าอี้ เอามือก่ายหน้าผาก เคลิบเคลิ้มกับเสียงพิณของนาง

 

 

พอจบเพลง เด็กสาวก็ลุกขึ้น คารวะฟู่อี้หาน ท่วงท่านอบน้อม “นายท่าน อยากฟังเพลงอะไรเจ้าคะ?”

 

 

ฟู่อี้หานลืมตาขึ้น กวักมือเรียกนาง “หงหลิง มานี่”

 

 

“เจ้าค่ะ”

 

 

หงหลิงเดินเข้ามาหาฟู่อี้หานอย่างว่าง่าย ฟู่อี้หานยื่นมือออกไปดึง หงหลิงก็ถลาเข้าสู่อ้อมอกของเขา ฟู่อี้หานกอดหงหลิง กระซิบข้างหูนาง “โลกนี้ทำไมถึงมีคนน่ารักอย่างเจ้า รู้จักเหตุผลรู้จักรุกรู้จักถอย นิสัยอ่อนโยนรู้จักเอาใจ เทียบกันแล้วจูอวี้ซิ่วน่ารังเกียจจริงๆ ”

 

 

“นายท่านพูดเกินไป ข้าหรือจะเทียบกับชายา”

 

 

“จูอวี้ซิ่วหรือจะเท่าครึ่งหนึ่งของเจ้า หงหลิง วันหลังอยู่กับข้า ข้าจะรับเจ้าเป็นเมียน้อย”

 

 

ฟู่อี้หานลูบผมหงหลิง พลางพูด

 

 

“แต่ชายา…”

 

 

“อย่าใส่ใจนาง เรื่องนี้ข้าจัดการเอง”

 

 

หงหลิงรับปากอย่างขวยเขิน “เจ้าค่ะ แล้วแต่นายท่าน”

 

 

ทันทีที่พูดจบ จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกผลักอย่างแรง จูอวี้ซิ่วใบหน้ายังมีผ้าพันแผล ยืนอยู่ที่หน้าประตู จ้องมองชายหญิงที่กอดกันเบื้องหน้า สีหน้าของนางเย็นชา

 

 

พอเห็นจูอวี้ซิ่ว หงหลิงก็ตกใจ อยากจะผลักฟู่อี้หานออกแล้วลุกขึ้น แต่ฟู่อี้หานกอดหงหลิงไว้แน่น ปรายตามองจูอวี้ซิ่วด้วยสีหน้าชิงชัง “เจ้าไม่อยู่รักษาแผลในห้อง ออกมาทำอะไร”

 

 

เดิมทีฟู่อี้หานมีเมียน้อยอยู่แล้วหลายคน จูอวี้ซิ่วไม่เคยต่อว่าเขา นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับฟู่อี้หานกับนาง แต่ฟู่อี้หานยังมีขีดจำกัดอยู่บ้าง และนางก็เป็นคนปากร้าย ไม่มีเมียน้อยคนใดกล้าข่มนาง

 

 

แต่ผู้หญิงชื่อหงหลิงเบื้องหน้าแตกต่างออกไป นางยังมีชีวิตอยู่ ก็กล้ามาท้าทายนาง

 

 

ฟู่อี้หานทำไมทำเกินเลยอย่างนี้ ปล่อยให้ผู้หญิงต่ำช้ามาท้าทายนาง ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวตระกูลใหญ่ และเป็นชายาอย่างถูกต้องของฟู่อี้หาน

 

 

“ดูแล้วท่านพี่คงต้องการให้ข้าไม่ออกมาปรากฏตัวตลอดไป เสียดายข้าไม่มีวันยอมให้ท่านพี่สมใจ

 

 

ข้ายังเป็นชายาอยู่ มาดูท่านพี่ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา

 

 

แต่ผู้หญิงคนนี้ ข้าได้ยินว่าเป็นนางรำ ผู้หญิงต่ำช้าอย่างนี้ไม่สมควรเข้ามาในจวนซิ่นอ๋อง ท่านพี่รับนางเป็นเมียน้อย แล้วยังจะให้ไปอยู่ที่อุทยานปี้ชุนหยวน ท่านพี่ไม่รู้หรือว่าอุทยานปี้ชุนหยวนเป็นของข้า?”

 

 

หงหลิงก้มหน้าอย่างน้อยใจ “นายท่าน ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ! เดิมทีข้าคิดว่าอุทยานมีดอกเหอฮวนฮัวสวยมาก เหมาะที่จะเต้นรำ จึงอยากไปอยู่ที่นั่น ในเมื่อชายาไม่ยินยอม ข้าก็ไม่กล้าเรียกร้อง”