เป็นปกติที่หยางโปจะเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของหวังลั่วตันเข้า เขาชี้ไปข้างนอก ” เราออกไปเดินเล่นและพูดคุยกันดีไหม ? ”
  ลัวย่าวหัวพูดขัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ” ไม่ต้องไปเดินเล่นพูดคุยกันแล้ว มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่จำนวนมาก ลั่วตันมีชื่อเสียงขนาดนั้นจะต้องถูกถ่ายรูปบนท้องถนนอย่างแน่นอน ส่วนนายน่ะไม่เป็นไร
  แต่เธอยังต้องใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงต่อไป ! ”
  หวังลั่วตันหน้าแดง “ คุณกำลังพูดบ้าอะไรน่ะ ? ”
  หยางโปตกใจเล็กน้อย และเข้าใจทันที หวังลั่วตันเป็นนักแสดง ถ้าออกไปต้องถูกคนถ่ายรูปอย่างแน่นอน หากรูปถ่ายกลุ่มของพวกเขาถูกเผยแพร่ไปในข่าว ย่อมจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับหวังลั่วตันแน่นอน
  หยางโปชี้เข้าไปข้างใน “ งั้นพวกเราเข้าไปคุยกันข้างใน ! ”
  หวังลั่วตันพยักหน้าและเดินตามเข้าไปข้างใน
  กองถ่ายเหมาจองสถานที่ตรงนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น จึงไม่มีใครอยู่ข้างใน พอทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน หลายคนในกองถ่ายก็เห็นกันหมด แต่ไม่มีใครพูดอะไร มีหลายคนในกองถ่ายที่ชอบสอดรู้สอดเห็น แต่ก็เล่าวงหมุนเวียนกันอยู่แต่ในกองถ่าย ไม่มีใครไปเปิดเผยที่ไหนเช่นกัน
  หลายคนลือกันว่าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาดูเหมือนว่าลูกชายเศรษฐีทั้งสองคนจะแย่งหวังลั่วตันกันอยู่ จึงทำให้มีความขัดแย้งกันขึ้น แน่นอนว่าทุกคนไม่เห็นความขัดแย้งนั้น แต่คิดไม่ถึงว่าลูกชายเศรษฐีที่พ่ายแพ้กลับมาแสดงบทบาทเป็นขอทานคนหนึ่งอยู่ในกองถ่าย ส่วนเบื้องหลังลูกชายเศรษฐีอีกคนก็ถูกทุกคนคาดเดากันไปต่างๆนานา เมื่อเห็นหยางโปเวลานี้ หลายคนต่างก็คาดเดากันไปว่าน่าจะเป็นชายคนนี้
  เขตถนนกวางโจวมีสไตล์แบบสาธารณรัฐจีน ตรงหัวมุมมีร้านอาหารหนึ่งที่ถูกเหมาไว้แล้ว ข้างร้านมีสวนดอกไม้เล็กๆอยู่ที่หนึ่ง ทั้งสองจึงไปยืนอยู่ในสวน
  หวังลั่วตันแต่งกายด้วยชุดโบราณสีชมพู ใบหน้าสวยสดงดงาม หยางโปที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆ หวังลั่วตันก้มหน้า มองดูดินโคลนใต้ฝ่าเท้าโดยไม่พูดอะไร
  “ คุณ…ผม… ” หยางโปอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
  หวังลั่วตันเงยหน้ามองเขา “ คุณจะไปเมื่อไหร่ ? ”
  หยางโปมองไปที่หวังลั่วตัน ” ผมวางแผนที่จะออกเดินทางในช่วงบ่าย อยู่ที่นี่ก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำมากแล้ว แต่ก็ยังไงก็ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะของคุณนะ ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดของคุณ
  เกรงว่าผมคงไม่สามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงมาได้ด้วยดี”
  หวังลั่วตันค่อนข้างที่จะลังเลใจ “ ตอนนี้ฉันเสียใจแล้วล่ะ ไม่ควรเสนอความคิดนั้นให้คุณเลย
  แบบนี้คุณก็จะได้ทำภารกิจไม่สำเร็จ และคงจะไม่มีวันไปจากที่นี่ ”
  หยางโปนิ่งอึ้งและมองไปที่สาวสวยตรงหน้า รู้สึกวุ่นใจขึ้นมาทันที เขาคิดไม่ถึงว่าช่วงระยะสั้นๆจะทำให้อีกฝ่ายเกิดมีความประทับใจที่ดีต่อเขาขึ้นมาจริงๆ
  หวังลั่วตันเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน เธอไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าสารภาพคำพูดเช่นนี้ออกมาได้
  แต่เธอก็ไม่คิดเปลี่ยนแปลงคำพูดของตัวเอง ช่วงนี้เธอยังสอบถามข่าวคราวบางอย่างจาก
  ลัวย่าวหัวด้วยเหมือนกัน และได้รู้ถึงจุดประสงค์การมาของหยางโป เธอรู้สึกเสียใจไม่น่าเสนอข้อคิดเห็นให้ในตอนแรก แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
  หยางโปยิ้มอย่าเก้อเขิน “ คุณเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง ในแวดวงนี้มีสิ่งสกปรกอยู่มากมาย แต่คุณคือสายน้ำที่ใสสะอาด หวังว่ามันจะยังคงอยู่กับตัวคุณตลอดไป ” ไอลีนโนเวล
  เมื่อหวังลั่วตันได้ฟังคำพูดของหยางโปก็เงยหน้าขึ้นมองเขาและไม่พูดอะไรอีก ความหมายของ
  หยางโปนั้นชัดเจนอยู่แล้ว เธอเองก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
  หยางโปลังเลเล็กน้อย เขาหยิบนามบัตรในกระเป๋ากางเกงออกมาให้ใบหนึ่ง ในนามบัตรมีชื่อและช่องทางการติดต่อเขียนด้วยลายมือ เขายื่นมันให้แล้วกำชับไปว่า “ นี่คือข้อมูลติดต่อของผม ถ้ามีธุระอะไร คุณสามารถติดต่อผมได้โดยตรง ”
  หวังลั่วตันค่อนข้างจะลังเล เธอรับนามบัตรและก้มหน้ามองดู แล้วเก็บอย่างระมัดระวัง จากนั้นถึงได้มองไปที่หยางโปและพยักหน้าให้
  “ ตั้งใจถ่ายละครดีๆ ผมรอดูคุณอยู่นะ ในอนาคตคุณจะต้องมีชื่อเสียงมากขึ้นไปกว่านี้แน่ ! ” หยางโปพูดพลางยิ้ม
  หวังลั่วตันมองไปที่หยางโป และส่ายหน้าช้าๆ แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก
  ทั้งสองต่างพากันเงียบไม่พูดไม่จาเดินกลับมา หวงเชิงอี้มองร่างทั้งสองคนอยู่ไม่ไกลห่างออกไปด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจ จากนั้นเธอก็หันไปมองหน้าหยานเฉียงอีกครั้งโดยที่ไม่พูดอะไร
  ลัวย่าวหัวเห็นท่าทีของทั้งสอง เมื่อเห็นหยางโปเดินกลับมา ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักขึ้นมาว่า
  ” ฉันเพิ่งถ่ายรูปไปเมื่อสักครู่ เดี๋ยวกลับไปจะเอาไปขาย พวกนายลองเดากันดูสิว่าจะขายได้เท่าไหร่ ? ”
  “ ฉันรู้แค่ว่ารูปขายไม่ออก แต่นายคงจะถูกขายไปแล้ว ” หยางโปตอบ
  ลัวย่าวหัวส่ายหน้า “ เป็นไปไม่ได้ ? ”
  หยางโปชี้ไปทางด้านหลัง “ เห็นไหม มีคนกำลังถ่ายรูปนายอยู่ตรงนั้น ! ”
  ลัวย่าวหัวหันไปมองและเห็นว่ามีแฟนๆผู้หญิงหลายคนกำลังถ่ายรูปเขา อีกทั้งยังพูดคุยงึมงำกันถึงเรื่องบางอย่างอยู่ ดูสีหน้าท่าทางร่าเริงกันมาก
  ลัวย่าวหัวรู้สึกเหลือเชื่อ “ ตอนนี้ฉันดังแล้วว่างั้น ? ละครเรื่องนี้ของฉันยังไม่ได้ออกอากาศเลย ทำไมถึงดังแล้วละ ? ฉันออกจะหล่อขนาดนี้ คงเป็นเพราะว่าฉันหล่อเกินไปแน่ๆ พวกเธอเลยเป็นแบบนี้กัน ! ”
  พอพูดจบ ลัวย่าวหัวก็หันไปส่งเสียงให้กลุ่มแฟนคลับหญิง
  หยางโปส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ เขามองไปด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าดาราชายยอดนิยมคนหนึ่งมาเยี่ยมหาผู้กำกับเฉิน หยางโปรู้สึกเหมือนจะจำชายคนนั้นได้ แต่มันก็เท่านั้น เพราะเขาไม่เคยดูโทรทัศน์เลยด้วยซ้ำ
  หยางโปหันไปพยักหน้าให้หวังลั่วตันและเดินตรงไปที่หน้าผู้กำกับเฉินอีกครั้ง ” บ่ายนี้ผมจะไปแล้ว ถ้าคุณมีอะไรก็ถามลัวย่าวหัวได้เลยนะ เขาจะติดต่อหาผมเอง ”
  บทสนทนาถูกขัดจังหวะ นักแสดงนำชายหันกลับมามองด้วยความสงสัย
  ผู้กำกับเฉินรีบพูดว่า ” เอาล่ะ คุณหยาง ช่วงนี้รบกวนคุณมากไปแล้วจริงๆ ต้องขอบคุณคุณมากด้วยเช่นกัน ”
  หยางโปโบกมือ “ ตามนี้แหละ ! ”
  หยางโปเข้าไปจับมือผู้กำกับเฉินและเดินออกมาจากกองถ่าย เขาเดินออกมาอยู่ด้านนอกฝูงชน จากนั้นหันหน้ามองกลับเข้าไปในกองถ่ายอีกครั้ง ก็เห็นหวังลั่วตัน ยังคงมองมาทางเขา
  ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ดูราวกับคนที่ถูกแกะสลักจากหยก
  หยางโปหันหลังและเดินห่างจากไปไกล
  เดินออกจากสนามบิน หยางโปก็ขึ้นรถ ชุยอี้ผิงเป็นคนมารับเขา ชุยอี้ผิงหันกลับมามองหยางโปและถอนหายใจ
  หยางโปมองหน้าเขาอย่างสงสัย ” นายถอนหายใจหมายความว่าไง ? ”
  “ นายคงไม่โทษฉันนะ ? ” ชุยอี้ผิงเอ่ยถาม
  “ ทำไมฉันต้องโทษนายด้วย ? ” หยางโปถาม
  ชุยอี้ผิงมองหยางโป เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้โกรธจริงๆ ถึงได้โล่งใจ ” เรื่องที่ฉันโกหกนาย นายก็รู้ดีว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นคนเจ้าเล่ห์แค่ไหน วางแผนกันไว้แล้ว แต่กลับมาขอให้ฉันมาเป็นไม้กันหมาให้ ฉันถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ ”
  หยางโปส่ายหน้า “ ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจเรื่องนี้ดี ไม่ต้องกังวล ฉันไม่โทษนายหรอก ”
  ชุยอี้ผิงผ่อนคลายลงทันที น้ำเสียงของเขาเองก็เต็มไปด้วยความสุข ” ฉันตกใจมาก แต่ทำไมนายถึงเจ๋งมากขนาดนี้ ? เพิ่งจะผ่านไปยี่สิบวันเอง นายก็ทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว มันน่าทึ่งมาก ! นายมีพรสวรรค์ทางธุรกิจจริงๆ ! ”
  หยางโปส่ายหน้า ” นายก็ชมเกินไปแล้ว ข้อเสนอแนะนี้มีคนช่วยฉันคิด แต่มันก็ดีมากจริงๆ
  แต่ยังไงการจะทำสิ่งหนึ่งให้สำเร็จได้ มันก็ต้องเสี่ยงและเกือบจะต้องละเมิดข้อบังคับของกฎหมาย ถึงแม้จะทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางโบราณวัตถุ แต่มันก็แตกต่างไปจากการสั่งทำโบราณวัตถุอยู่บ้าง ”
  ชุยอี้ผิงอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ ” ใครเสนอความคิดล้ำค่านี้ให้นายกันแน่ นายจะต้องขอบคุณเขานะ มันสุดยอดมาก ”