” ต้องขอบคุณสิ ” หยางโปกล่าว ” วันนี้เป็นวันที่ห้าของการขายแล้ว กระแสความร้อนแรงในการแย่งซื้อสินค้าค่อยๆลดลงแล้ว แต่ยอดขายรายวันยังคงพุ่งสูงมาก ฉันดูรายงานของเมื่อวานแล้ว ยอดขายสูงถึงสี่แสน ถ้าคำนวณจากตรงนี้ ยอดขายประจำปีคงเกินร้อยล้านได้ ”
แม้ว่าชุยอี้ผิงจะรู้ข้อมูลนี้มานานแล้ว แต่ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ “ นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปคงสามารถขยายการจัดจำหน่ายสินค้าให้ใหญ่ขึ้นได้ ถ้าด้วยวิธีนี้ ยอดขายก็จะยิ่งสูงขึ้น นี่มันเหมือนสร้างบริษัทผลิตเงินแห่งหนึ่งเลย ต้นทุนของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้คงไม่สูงมากใช่ไหม ? ”
“ เพราะมีความคิดสร้างสรรค์ ต้นทุนจึงไม่สูง กำไรจึงอยู่ที่ประมาณ 30% ถึง 40% ! ” หยางโปตอบ
ชุยอี้ผิงถอนหายใจเบาๆ ” นี่เป็นธุรกิจที่มีรายได้หลายสิบล้านต่อปี เมื่อสักครู่ที่ฉันชมนายว่ามีพรสวรรค์ทางด้านธุรกิจ ไม่มีอะไรผิดเลยสักนิดเลย นายลองคิดดู จะมีใครสามารถเริ่มต้นธุรกิจแบบสบายๆ แล้วทำรายได้เป็นหลายสิบล้านได้บ้าง ? ”
หยางโปส่ายหน้า ” นั่นเป็นเพราะฉันมีทรัพยากรอยู่ในมือมาก ตาอ้วนหลิวช่วยฉันแก้ปัญหาเรื่องจัดหาของ ลัวย่าวหัวช่วยฉันแก้ปัญหาช่องทางการขายฉันแค่ต้องจ้างคนมาออกแบบ ล้วนแล้วแต่พึ่งพาความช่วยเหลือจากทุกคนถึงทำออกมาได้ดี ฉันถึงให้หุ้นแก่พวกเขาคนละ 10% ของหุ้นทั้งหมดที่มี ”
ชุยอี้ผิงพยักหน้า ” นายทำถูกต้องแล้ว ! ”
เมื่อหยางโปกลับมาถึงบ้าน หลินหลินก็ได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว เมื่อเห็นหยางโปเดินเข้ามา
ฮัวชิงหยุนก็รีบเข้าไปต้อนรับ และสวมกอด ด้วยสีหน้าท่าทางที่ตื่นเต้นไม่น้อย
หยางโปยิ้ม เขาตบหลังฮัวชิงหยุนเบาๆและกระซิบว่า ” เอาล่ะ ไม่เป็นไร ผมแค่ไปเที่ยวเล่นเท่านั้น ”
ฮัวชิงหยุนยังคงกอดหยางโปไว้แน่น โดยที่ไม่พูดอะไร
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะรู้สึกตัวว่าหลินหลินและชุยอี้ผิงก็อยู่ที่นั่นด้วย ฮัวชิงหยุนถึงได้คลายมือออก เธอมองสำรวจหยางโปขึ้นๆลงๆ ” คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? ”
“ ไม่เป็นไร คุณสบายใจได้ ” หยางโปพูดพลางยิ้ม
ฮัวชิงหยุนมองหน้าหยางโป และพยักหน้า ” ครั้งหน้าถ้าพบเจอเรื่องอะไร จะต้องบอกฉันนะ ”
“ อืม ผมจะไม่ปิดบังอย่างแน่นอน ” หยางโปตอบรับ
หลินหลินมองดูทั้งสองคนอยู่ด้านข้างด้วยใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม และพูดว่า ” เหมาะสมกันจริงๆ ! ”
ฮัวชิงหยุนถึงได้ปล่อยมือ ใบหน้าแดงก่ำ
เมื่อทั้งสี่คนนั่งลง หลินหลินจึงหันไปถามหยางโปว่า ” ทำไมลูกกลับมาเร็วจัง ? ”
“ ผมทำภารกิจสำเร็จแล้ว ” หยางโปตอบ
หลินหลินเคยทำธุรกิจมาก่อน เป็นปกติที่จะรู้ดีว่าการทำธุรกิจนั้นยากมากโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ของการเป็นผู้ประกอบการ หากไม่เข้าใจเคล็ดลับ ก็ไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้
” เป็นไปได้ไง ? ”
“ คุณป้า เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ พวกเราบอกให้เขาทำธุรกิจสั่งทำโบราณวัตถุ ให้บริการสั่งทำของให้กองถ่าย แต่พอเขาไปถึงเมืองภาพยนตร์ กลับเห็นโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ และพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์แก่เมืองภาพยนตร์เป็นการเฉพาะ ถึงแม้สิ่งที่ทำมันล้วนแล้วแต่เป็นของโบราณชิ้นเล็กๆ แต่ยอดขายดีเอามากๆ นี่แค่ไม่กี่วันก็สามารถทำกำไรได้แล้ว ” ชุยอี้ผิงอธิบาย
หลินหลินมองหยางโปด้วยความประหลาดใจ ” เก่งจริงๆ ! ลูกคิดเองใช่ไหม ? ”
“ มีคนอื่นช่วยผมเสนอความคิดน่ะ ” หยางโปตอบ
ฮัวชิงหยุนก็หันมามองเช่นกัน “ คนๆนั้นดีมากเลยนะ ช่วยคุณออกความคิดดีๆแบบนี้ด้วย เอาแบบนี้ดีไหม คุณเชิญเขามาทานข้าวกับเราสักมื้อดีไหม ! ”
หลินหลินก็พยักหน้า “ ใช่ เชิญเขามากินข้าวด้วยกันสักมือสิ ”
หยางโปพยักหน้า “ เขาเป็นนักแสดง งานค่อนข้างที่จะยุ่ง มักจะอยู่ที่เมืองภาพยนตร์ทั้งปี
จะมีเวลามาที่เมืองหลวงได้ไง ? ”
“ นักแสดงที่อาศัยอยู่ในเมืองภาพยนตร์ตลอดทั้งปีจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อยแน่ นายบอกมา ดูสิว่าพวกเรารู้จักไหม ? ” ชุยอี้ผิงยังถามด้วยความสงสัย novel-lucky
หยางโปไม่มีทางเลือกอื่น เขาหันไปชำเลืองมองชุยอี้ผิง “ หวังลั่วตัน พวกคุณรู้จักไหม ? ”
“ เธอเหรอ ? ผู้หญิงคนนั้นสวยและมีเสน่ห์มาก ฉันเคยเจอมาครั้งหนึ่ง อนาคตจะต้องก้าวหน้ามากแน่ๆ ” ชุยอี้ผิงกลายเป็นประธานใหญ่ของบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์ไปแล้ว จึงพูดแสดงความคิดเห็นออกมาคำหนึ่ง
ฮัวชิงหยุนมีสีหน้าท่าทีไม่ค่อยจะพอใจ เธอมองไปทางหยางโป “ นักแสดงผู้หญิงเหรอ ? งั้นก็เชิญมาได้สิ ! ”
หลินหลินโบกมือ ” ช่างเถอะ เขาก็เพิ่งบอก ในเมื่อยุ่งกันอยู่ คราวหน้ารอเธอมาที่เมืองหลวงแล้วค่อยคุยกันเถอะ ! ”
ชุยอี้ผิงสัมผัสได้ว่าบรรยากาศผิดปกติ เขาจึงรีบพูดคล้อยตาม “ ใช่ใช่ รอให้เธอว่างมา แล้วค่อยว่ากันอีกทีนะ ! ”
หยางโปไม่ได้พูดถึงหัวข้อนี้อีก แค่พูดถึงประสบการณ์บางอย่างที่เมืองภาพยนตร์ให้ฟังเท่านั้น
พูดถึงตอนที่เขาเพิ่งมาถึงเมืองภาพยนตร์และต้องการหาไกด์นำเที่ยว แต่กลับถูกเรื่องที่แผนกต้อนรับของบริษัทท่องเที่ยวพาตัวออกไป นอกจากนี้ยังพูดคุยเกี่ยวกับประเพณีท้องถิ่นอีก
ในขณะที่พูด หยางโปก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น เขาจึงก้มหน้าดู ” อ้อ คนที่พูดถึงเมื่อกี้ ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับที่ช่วยผมหาร้านน่ะ ”
หยางโปรับสายและได้ยินจินหลันพูดมาตามสาย ” หยางโป คุณอยู่ที่ไหน ? ฉันเริ่มตกแต่งร้านแล้ว ฉันขายรถแล้ว และได้ไปยืมเงินแม่มาหลายหมื่น ถ้าฉันเกิดขาดทุนขึ้นมาจริงๆ ฉันจะต้องไปขอให้คุณช่วยแน่ๆ ”
” ทำไมต้องมาขอให้ผมช่วยด้วย ? ” หยางโปเริ่มทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเปิดลำโพงทุกคนจึงได้ยิน
“ ก็คุณเป็นคนส่งเสริมให้ฉันเปิดร้านเค้ก ถึงแม้ฉันจะบอกว่ามันเป็นแค่ความฝันของฉัน แต่คุณก็ไม่ควรผลักดันฉัน ! ” จินหลันพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ “ รอฉันเปิดร้านเค้กแล้ว คุณต้องมาซื้อช่วยนะ ! ”
หยางโปยิ้ม “ ตอนนี้ผมกลับมาอยู่บ้านที่เมืองหลวงแล้ว แต่ถึงเวลานั้น ผมจะชวนเพื่อนๆไปอุดหนุนให้แน่นอน ! ”
เมื่อจินหลันได้ยินว่าเขากลับบ้านแล้ว ถึงได้บ่นพึมพำไม่กี่คำแล้ววางสายไป
หลินหลินหยุดตะเกียบและเงยหน้ามองหยางโป ” ทำไมแม่รู้สึกว่า ลูกไปครั้งนี้เจอแต่ผู้หญิงหมดเลยนะ ? ”
“ เป็นไปได้ยังไง ? ” หยางโปพูด “ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ผมจะตัดสินใจได้ด้วยเหรอ ว่าจะเจอคนแบบไหน ? ”
หลินหลินจ้องหน้าเขา ” ต่อจากนี้ ลูกมีแผนที่จะทำอะไรไหม ? ”
ระหว่างพูดคุยกัน หลินหลินก็เขยิบตาไปทางฮัวชิงหยุน
หยางโปเพิ่งจะสังเกตเห็นใบหน้าที่ค่อนข้างซีดขาวของฮัวชิงหยุน เขารีบเข้าไปประคองฮัวชิงหยุน“ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ? ”
ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ไม่เป็นไร แค่รู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย ”
“ เดี๋ยวผมประคองคุณกลับห้องไปพักผ่อน ” หยางโปลุกขึ้น จะเข้าไปประคองฮัวชิงหยุนเดินกลับ
ฮัวชิงหยุนส่ายหน้า “ ไม่เป็นไร ฉันแค่รู้สึกไม่ค่อยสบาย พวกคุณพูดคุยกันไปเถอะ ฉันกลับไปที่ห้องเองได้ ”
“ เอาล่ะ เดี๋ยวผมไปส่ง ” หยางโปหันไปพูดกับฮัวชิงหยุน
หยางโปเดินประคองฮัวชิงหยุนกลับห้อง แต่พอหยางโปจับแขนฮัวชิงหยุน ก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะร้อน เขาหันหน้ากลับมามองฮัวชิงหยุน “ คุณตัวร้อน ? ”
ฮัวชิงหยุนเงยหน้ามองหยางโป ดวงตาเหลือกขาว อ้าปากแต่กลับพูดอะไรไม่ออก
จู่ๆหยางโปก็รู้สึกว่าตัวของฮัวชิงหยุนหนักขึ้นกว่าเดิม จากนั้นเธอก็ทรุดฮวบลงไปทั้งตัว
หยางโปตกใจมาก รีบคว้าตัวฮัวชิงหยุนไว้ และพลางตะโกนร้องเสียงดัง “ แม่ มาช่วยหน่อยเร็ว
อี้ผิง นายไปขับรถมา ชิงหยุนเป็นลมเราต้องไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้ ! ”
หลินหลินกับชุยอี้ผิงต่างตกใจนิ่งเงียบไป แต่ก็ได้สติกลับมาทันที ต่างคนต่างกุลีกุจอแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ตัวเอง