ตอนที่ 608 ไม่ต้องเก็บเฉินปี้ไว้
เฉินเสี้ยวหรูล้มหงายหลังไปตรง ๆ ได้ยินเพียงเสียงดังปังหนึ่งครั้ง ท้ายทอยของเขากระแทกพื้นอย่างแรง
เขาลืมตา ในใจยังไม่ยอม สุดท้ายก็ยังแพ้ให้กับเซียวเหยี่ยน แพ้ให้เขาด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง
ชีวิตนี้ เขาคอยเตือนสติตัวเอง ว่าใจจะต้องไม่หวั่นไหวรักใครเด็ดขาด สุดท้ายก็ยังควบคุมตัวเองไม่ให้ใจหวั่นไม่ได้ สุดท้ายก็ตายด้วยเรื่องความรัก
เสียใจหรือไม่
เสียใจแน่นอน หากชาติหน้ามีจริง เขาจะต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองไปชอบผู้หญิงเช่นนี้อีก
ฟางฮุ่ยหรูที่นอนอยู่บนพื้นขยับตัวไม่ได้ แต่ก็ยังอยากจะคลานไปอยู่ข้าง ๆ เฉินเสี้ยวหรู
“เสี้ยวหรู…ไม่ว่าเจ้ายินดีหรือไม่…สุดท้ายพวกเราก็ตายไปพร้อมกัน…”
เฉินเสี้ยวหรูหลับตา ไม่อยากมองฟางฮุ่ยหรู
เห็นเฉินเสี้ยวหรูเกลียดตนขนาดนี้ ฟางฮุ่ยหรูก็ทั้งโมโหทั้งผิดหวัง นางคิดไม่ตก นางทำเรื่องต่าง ๆ เพื่อเขาตั้งมากมาย สุดท้ายก็ยังแลกกับความจริงใจของเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ซ้ำยังเกลียดนางเช่นเดิม
“เสี้ยวหรู ข้า…ข้าจริงใจ…กับเจ้านะ…”
ทิ้งประโยคนี้ไว้ ฟางฮุ่ยหรูก็หลับตาลงอย่างไม่เต็มใจ เฉินเสี้ยวหรูไม่เคยชายตามองฟางฮุ่ยหรูเลย
เซียวเหยี่ยนก็คิดไม่ถึงว่าเฉินเสี้ยวหรูจะโดนวางยาพิษ เขาไม่สนใจเฉินเสี้ยวหรูที่อยู่บนพื้น โบกมือ
“สลายตัว”
พูดจบเซียวเหยี่ยนก็ออกไปจากจวนอู๋อ๋องก่อน
หวงเฉิงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ก็ไม่กล้าขวางเซียวเหยี่ยน ได้แต่มองคนของเซียวเหยี่ยนเดินจากจวนอู๋อ๋องไปต่อหน้าต่อตา เขาเข้าไปตรวจชีพจรของเฉินเสี้ยวหรูทันที
คนที่เรียนวิทยายุทธมา มากน้อยอย่างไรก็พอจับชีพจรเป็นบ้าง เพิ่งจะเอามือไปวาง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที สัญญาณชีพจรของเฉินเสี้ยวหรูไม่ดีอย่างยิ่ง อ่อนแอไม่มีแรง เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสัญญาณชีพจรของคนใกล้ตาย
เฉินเสี้ยวหรูจึงลืมตาขึ้นมา เขาเพียงแต่รู้สึกน่าขำ สั่งการว่า
“หวงเฉิง ข้าไม่ไหวแล้ว เจ้าฆ่าเฉินปี้เสีย แล้วไปจากจวนอู๋อ๋อง…”
“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ขอรับ”
“รีบไป อย่าปล่อยให้เฉินปี้คนสารเลว…หนีไป…”
คำสั่งของเฉินเสี้ยวหรู หวงเฉิงไม่กล้าขัด เพียงแต่เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเฉินเสี้ยวหรูถึงอยากฆ่าเฉินปี้ จึงปากมากไปประโยคหนึ่ง
“เหตุใดท่านอ๋องถึงอยากฆ่าพระชายาขอรับ”
“ข้าไม่อยู่แล้ว นางจะอยู่รอดได้อย่างไร ข้าจะไม่ยอมให้เซียวเหยี่ยนมาเอาเปรียบไปเปล่า ๆ ..เด็ดขาด…”
หวงเฉิงเข้าใจเจตนาของเฉินเสี้ยวหรูแล้ว เซียวเหยี่ยนเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ หากทั้งเฉินเสี้ยวหรูและเฉินปี้ล้วนตายในจวนอู๋อ๋อง เช่นนั้นโทษของเซียวเหยี่ยนก็จะใหญ่หลวง
ถึงเวลานั้นไทเฮากับฝ่าบาทก็จำเป็นต้องเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง พวกเขาจะพลาดโอกาสดีเช่นนี้ ปล่อยให้เซียวเหยี่ยนครอบงำผู้เดียวและเป็นภัยคุกคามได้อย่างไร
เขาตายไป สุดท้ายผู้ชนะก็ไม่ควรเป็นเซียวเหยี่ยน แว่นแคว้นตระกูลเฉินของเขาไม่มีทางไปตกอยู่ในมือเซียวเหยี่ยน นี่เป็นเรื่องสุดท้ายที่เขาสามารถทำได้
“คนใช้ทุกคนในจวนอู๋อ๋องก็ไม่ต้องเก็บไว้…”
สั่งการประโยคนี้จบ เฉินเสี้ยวหรูก็หลับตาลงอย่างไม่เต็มใจ
ตอนที่เฉินปี้กำลังจะเตรียมตัวนอน ซูฮว่าก็กุลีกุจอวิ่งเข้ามา
“คุณหนูเจ้าคะ ไม่ดีแล้ว ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พาคนมาล้อมจวนอู๋อ๋องไว้หมดแล้ว พวกเราจะทำอย่างไรกันดี”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“บ่าวก็ไม่รู้เจ้าค่ะ ท่านอ๋องดูเหมือนจะกำลังหาคน”
คราวนี้เฉินปี้รู้สึกแปลกแล้ว
ตามเหตุผลเซียวเหยี่ยนไม่ใช่คนทำอะไรวู่วาม จะมาจวนอู๋อ๋องอย่างโจ่งแจ้งเอิกเริกเพื่อหาคนเช่นนี้ได้อย่างไร
หรือว่าเกิดเรื่องอะไรสำคัญเร่งด่วน มิเช่นนั้นเซียวเหยี่ยนคงไม่แตกคอกับเฉินเสี้ยวหรูอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้
ถึงแม้เขาจะเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ก็ไม่ควรทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง เรื่องนี้หากแพร่งพรายออกไป ไม่ว่าอย่างไรคนผิดก็คือเซียวเหยี่ยน เขาดูหมิ่นพระราชอำนาจของฮ่องเต้ ไทเฮากับฝ่าบาทรู้เข้าก็คงไม่พอพระทัย
ตอนที่ 609 ไปจากจวนอู๋อ๋อง
ซูฮว่าแค่รู้สึกร้อนรน นางแอบดูแวบหนึ่ง รู้สึกแต่ว่ามีทหารยามไปทุกหนแห่ง ดูเหมือนจะมีคนมามากมาย ส่งคนมามากมายเช่นนี้ ต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน เฉินปี้เป็นพระชายาอู๋อ๋อง ไม่รู้ว่าจะโดนร่างแหไปด้วยหรือไม่
“ซูฮว่า เจ้าหยุดตะลึงได้แล้ว รีบเอาเสื้อผ้าคนใช้มาให้ข้าหนึ่งชุด”
ซูฮว่าไม่รู้เรื่อง ตอนนี้พระชายาของพวกนางจะสวมชุดคนใช้เพื่ออะไร
“อู๋อ๋องเกิดเรื่องแน่นอน พวกเรามีโอกาสต้องรีบไปจากจวนอู๋อ๋องทันที สวมชุดคนใช้จะได้ไม่เป็นเป้าสายตา รีบไปเร็ว”
ซูฮว่าอึ้งครู่หนึ่ง ก็รีบไปหยิบชุดมา เฉินปี้วิตกกังวลพอสมควร ฝ่ามือโชกชุ่มเหงื่อ
สัญชาตญาณนางบอกว่าจวนอู๋อ๋องกำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าอย่างไร นางก็ไม่อยากติดร่างแหไปกับเฉินเสี้ยวหรู ออกไปจากจวนอู๋อ๋องก่อนอย่างไรก็ไม่ผิดแน่ ถึงแม้ว่าไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น นางออกไปชั่วคราวก็ไม่เป็นอะไร หากเกิดเรื่องขึ้นมา นางก็ยังสามารถหนีรอดได้อย่างหวุดหวิด
นางกับเฉินเสี้ยวหรูมิได้มีความรักต่อกันอยู่แล้ว กระทั่งอยากให้เฉินเสี้ยวหรูรีบ ๆ ตายเสียด้วยซ้ำ
หากเซียวเหยี่ยนฆ่าเฉินเสี้ยวหรูจริง สำหรับนางก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องถูกเฉินเสี้ยวหรูทรมานอีก ส่วนเซียวเหยี่ยน มู่หรงไทเฮาต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ ถึงเวลานั้นไม่รู้ว่าอำนาจปกครองจะไปตกอยู่ในมือใคร นางคิดเพียงเอาชีวิตรอด จากนั้นคอยดูผลสุดท้าย หากสุดท้ายเซียวเหยี่ยนแพ้แล้ว นางก็จะรู้สึกเปรมปรี เพราะนางต่างหากที่จะเป็นคนที่ได้หัวเราะคนสุดท้าย
หากคราวนี้เฉินเสี้ยวหรูเกิดเรื่อง เพื่อปกป้องตนเอง นางก็ตั้งใจจะเปิดโปงการก่อกบฏของเฉินเสี้ยวหรู
นางเป็นพระชายา หากนางให้การเป็นพยาน โทษของเฉินเสี้ยวหรูก็จะใหญ่หลวง ตอนนี้คนที่นางสามารถพึ่งพาได้ก็คือมู่หรงกวานเย่ว์ นางเชื่อว่ามู่หรงกวานเย่ว์สามารถใช้นางได้
เมื่อเซียวเหยี่ยนพาคนออกจากจวนอู๋อ๋องแล้ว เฉินปี้ก็พาซูฮว่าค่อย ๆ ออกไปจากจวนอู๋อ๋อง ด้วยเหตุนี้ ตอนที่เฉินหวงไล่ตามมาก็เจอกับความว่างเปล่า ห้องของเฉินปี้ไม่มีคนอยู่แล้ว
หวงเฉิงนึกถึงคำสั่งของเฉินเสี้ยวหรู จึงไม่ได้ตามเฉินปี้ไปทันที แต่เริ่มกวาดล้างสาวใช้และคนงานทั้งหมดในจวนอู๋อ๋อง ทันใดนั้นทั้งจวนอู๋อองก็นองเลือดเป็นแม่น้ำ เสียงร้องไห้ตะโกนเข้าหูไม่ขาด
ตอนที่หลิงอวี้จื้อลืมตาขึ้นมาก็พบว่ารอบตัวเป็นสีขาวไปหมด และยังมีกลิ่นของยาโชยมา จากนั้น เธอก็เห็นซ่งเฉิงกำลังฟุบหลับอยู่ข้างเตียง ใช่ เป็นซ่งเฉิง
เธอมองไปรอบ ๆ อย่างงุนงง ที่นี่คือโรงพยาบาล โรงพยาบาลในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เธอไม่ได้ตายไปแล้วหรอกหรือ กลับมาอีกได้อย่างไร หรือว่าเธอข้ามพบกลับมาแล้ว
หลิงอวี้จื้อนึกว่าตัวเองฝันไป เธอยกมือขึ้นมาหยิกตัวเองครั้งหนึ่ง เพียงแต่บนมือมีเข็มเสียบอยู่ ขยับเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บมาก หลิงอวี้จื้อสังเกตเห็นสร้อยหินอาตมันเส้นนั้นบนมือของตนเอง สร้อยมือเส้นนี้พาเธอกลับมาหรือ
เธอไปยุคเว่ยตะวันตกก็เพราะสร้อยเส้นนี้ ตอนนี้กลับมาก็เพราะมัน แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยากกลับมานี่นา เซียวเหยี่ยนยังรอเธออยู่ที่ยุคเว่ยตะวันตก จู่ ๆ เธอก็ไป เซียวเหยี่ยนจะต้องเจ็บปวดปานจะขาดใจแน่นอน เขาจะทำอย่างไรต่อไป
รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของเธอแล้ว ซ่งเฉิงที่เดิมนอนหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้น เห็นหลิงอวี้จื้อจ้องเพดานด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจ เขาก็รู้สึกแปลก เธอเป็นอะไรไป
เพียงแต่ความรู้สึกยินดีในใจเจือจางลงบ้าง ซ่งเฉิงส่งยิ้มอบอุ่นให้หลิงอวี้จื้อ
“อวี้จื้อ ในที่สุดเธอก็ฟื้นแล้ว”
ได้ยินเสียงของซ่งเฉิง หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกเสมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง เธอไปยุคเว่ยตะวันตกยังไม่ถึงหนึ่งปี แต่ราวกับไปมาแล้วทั้งชีวิต ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย มากจนนับไม่ถ้วน
“ซ่งเฉิง…”
เสียงแหบพร่าของหลิงอวี้จื้อเรียกเขาหนึ่งคำ