ตอนที่ 590 ได้ของแล้วก็จะไปงั้นหรือ / ตอนที่ 591 เจาะเลือด

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 590 ได้ของแล้วก็จะไปงั้นหรือ

 

 

           “ถ้าผมยกมือถือให้ก่อน คุณจะลดโทษให้ผมไหม หรือว่าจะมีรางวัลอะไรหรือเปล่า” เผยหนานเจวี๋ย

 

 

กล่าวอย่างสบายๆ และสงบนิ่ง ยื่นโทรศัพท์มือถือให้ฉู่เจียเสวียน บนริมฝีปากบางๆ มีรอยยิ้ม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเขาด้วยสีหน้าระแวดระวัง เขากลายเป็นคนเชื่อฟังแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ

 

 

           “ผมจะนับถึงสาม ถ้าคุณไม่เอามือถือไป ผมมจะถือว่าคุณยกโทษให้ผมแล้ว” แววตาของเผยหนานเจวี๋ยมีประกายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แน่นอนว่าเขาออมมือให้

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยความสงสัย ก่อนที่ฉันจะแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ได้ยินเผยหนานเจวี๋ยเริ่มนับแล้ว “หนึ่ง”

 

 

           “นี่” เธอยังไม่ตอบตกลงเขาเลย

 

 

           “สอง”

 

 

           “เอามานี่!” ฉู่เจียเสวียนไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับเผยหนานเจวี๋ยดี คิดว่ายื่นมือเอาโทรศัพท์มือถือเขามาจะดีว่า

 

 

           “สาม!” เมื่อมือของฉู่เจียเสวียนกำลังจะสัมผัสกับโทรศัพท์มือถือ เผยหนานเจวี๋ยก็หดมือกลับ

 

 

           “คุณขี้โกง!” เงยหน้า ฉู่เจียเสวียนจ้องเผยหนานเจวี๋ยโดยตรง ประกายความโกรธวูบผ่านแววตา

 

 

           “ขอบคุณที่ยกโทษให้ผม คุณนี่ช่างเป็นผู้ใหญ่ใจกว้างจริงๆ” เผยหนานเจวี๋ยไม่สนใจกับความโมโหของฉู่เจียเสวียน

 

 

           ฉู่เจียเสวียนกวาดตามองเผยหนานเจวี๋ยเย็นชา เธอมีแรงกระตุ้นที่อยากจะฆ่าเขา ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นคนโกงแบบนี้!

 

 

           “ฉันไม่ได้รับปากคุณ” ฉู่เจียเสวียนไม่พอใจ พยายามดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์

 

 

           “คุณยอมรับแล้ว” เผยหนานเจวี๋ยมีสีหน้าภูมิใจ รอยยิ้มในอยู่แววตา “ถ้าหากคุณไม่รับปาก คุณจะปฏิเสธตอนที่ผมเริ่มนับก็ได้ แต่ว่าคุณไม่ได้ทำ วิธีคิดบัญชีในภายหลังของคุณแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ต้องเปลี่ยน”

 

 

           “คุณหยุดเถียงคำไม่ตกฟากได้แล้ว ฉันเถียงไม่ชนะคุณหรอก” ฉู่เจียเสวียนมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ดูว่าเขาจะภูมิใจไปจนถึงเมื่อไร “เอามือถือมาให้ฉัน”

 

 

           “ผมปฏิเสธ พูดแล้วคืนคำไม่ดีนะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยด้วยสีหน้าผ่อนคลาย

 

 

           “เอามานี่!” ฉู่เจียเสวียนเริ่มไม่เกรงใจแล้ว ยื่นมือแย่งโทรศัพท์มือถือของเขา

 

 

           เนื่องจากเธอบอกว่าแล้วจะรับผิดชอบต่อสุขภาพของเขา เช่นนั้นเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีใช่หรือเปล่า?

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเข้าไปใกล้เผยหนานเจวี๋ย ค้อมตัวลง เขามองแรงไปที่เผยหนานเจวี๋ยด้วยดวงตาดุร้าย

 

 

           ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกได้ถึงเสียงลมหายใจของฉู่เจียเสวียน และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

 

 

           ในระยะที่ห่างจากเผยหนานเจวี๋ยเพียงหนึ่งเมตร ฉู่เจียเสวียนสามารถได้ยินการเต้นของหัวใจของเผยหนานเจวี๋ยที่เต้นเร็วขึ้นอย่างช้าๆ  การเต้นของหัวใจที่แข็งแกร่งแบบนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว

 

 

           “รีบเอามันออกมา” ริมฝีปากแดงของฉู่เจียเสวียนอ้าออกเล็กน้อย แม้แต่การหายใจก็ระมัดระวังมาก

 

 

           มองดูฉู่เจียเสวียนผู้มีเสน่ห์น่าหลงใหลตรงหน้า ดวงตาสีดำของเธอสดใสราวกับไข่มุก ริมฝีปากแดงงดงาม เมื่อได้เผชิญหน้าการหญิงที่งดงามเช่นนี้ จะไม่ให้เผยหนานเจวี๋ยหวั่นไหวได้อย่างไร?

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอด้วยความไม่เต็มใจนัก เผยหนานเจวี๋ยต้องยอมรับว่าความงามเป็นที่หนึ่งแบบนี้ จะไม่ให้เขาหวั่นไหวได้อย่างไร?

 

 

           ฉู่เจียเสวียนยิ้มแล้ว สีหน้าภาคภูมิใจ เธอรับโทรศัพท์มือถือ เตรียมตัวจะลุกขึ้นยืนแต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกเผยหนานเจวี๋ยรั้งเอาไว้

 

 

           นอกหน้าต่าง กงจวิ้นฉือมองดูทั้งสองคนที่หยอกล้อกันในห้องผู้ป่วย มือกำแน่นโดยไม่รู้ตัวแล้ว

 

 

           ตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนออกจากโรงพยาบาล เธอจะมาโรงพยาบาลทุกวันเพื่อดูแลเผยหนานเจวี๋ย

 

 

กงจวิ้นฉือรู้สึกได้ว่าท่าทีของฉู่เจียเสวียนที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปแล้ว

 

 

           เขากลัวมาก ว่าฉู่เจียเสวียนจะบอกเลิกกับเขาเข้าสักวัน

 

 

           เขากัดฟัน และในที่สุดก็หันหลังจากไป

 

 

           ตั้งแต่เมื่อไรกันนะที่เขากลายเป็นคนอ่อนแอเพียงนี้? ต่อหน้าความรักแล้ว เขาก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเดินออกจากโรงพยาบาลทีละก้าวด้วยความสิ้นหวัง

 

 

           ในห้องผู้ป่วย

 

 

           ฉู่เจียเสวียนถูกเผยหนานเจวี๋ยรั้งตัวไว้ ทันทีที่มือออกแรง เสียงที่ทุ้มต่ำของเขาก็ดังขึ้น “ได้ของแล้วก็จะไปงั้นหรือ แบบนี้มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลนะ”

 

 

 

 

       ตอนที่ 591 เจาะเลือด

 

 

           “คุณไม่มีเหตุผลมากกว่า” ฉู่เจียเสวียนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับความใกล้ชิดอย่างฉับพลัน

 

 

           “งั้นคุณคิดจะชกหน้าอกผมเหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้มขี้เล่น

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยทำกับฉู่เจียเสวียนเหมือนกับเป็นคู่รัก เขาชอบแกล้งเธอเล่นซะแล้ว

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองค้อนเขา ให้เขาได้สำนึกผิดด้วยตัวเอง “ปล่อยนะ เดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”

 

 

           พวกเขาสองคนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากงจวิ้นฉือมาและจากไปแล้ว

 

 

           “พวกเขามาก็เคาะประตูเองแหละ” เผยหนานเจวี๋ยตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ

 

 

           ผมของฉู่เจียเสวียนกวาดผ่านหน้าเผยหนานเจวี๋ยไปตามการเคลื่อนไหวของเธอ กลิ่นหอมอ่อนนุ่มและสัมผัสที่อ่อนโยนทำให้เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกสดชื่นในใจ

 

 

       เขาชอบความอ่อนโยนที่เอ้อระเหยประเภทนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะได้กลิ่นพระอาทิตย์ แม้ในฤดูหนาวที่หนาวเขาก็อบอุ่นในใจ

 

 

           “อย่าขยับ ให้ผมได้กอดคุณ” เสียงทุ้มต่ำของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น น้ำเสียงของเขาเหมือนคำสาปซึ่งทำให้ฉู่เจียเสวียนหยุดดิ้นรน

 

 

           บางทีเป็นเพราะจิตใต้สำนึก เธอยังโหยหาความอบอุ่นที่หาได้ยากแบบนี้

 

 

           ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกัน ทันใดนั้นก็มีแรงสั่นสะเทือนดังขึ้นในห้องผู้ป่วย ความอบอุ่นที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสั่นสะเทือน

 

 

           เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือดังอยู่สักพัก เผยหนานเจวี๋ยก็ไม่คิดที่จะรับสาย เธอจึงต้องเตือนสติด้วยความหวังดี “มือถือของคุณสั่นแล้ว”

 

 

           ลูกไม้ตื้นๆ ปรากฎว่าเขามีโทรศัพท์มือถือมากกว่าหนึ่งเครื่อง และโกหกเธออีกแล้ว

 

 

           “ผมไม่เห็นได้ยินเลย” เผยหนานเจวี๋ยไม่คิดที่จะใส่ใจและไม่คิดที่จะเอื้อมมือไปรับสาย เขาต้องการกอดเธอให้แน่น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนพูดไม่ออกเล็กน้อย เธอคิดไม่ถึงจริงว่าท่านประธานเผยผู้สูงส่ง ผู้ที่กระทำการเลวร้ายในที่ลับและดุร้ายจะมีด้านที่เหมือนเด็กแบบนี้ เธอช่างโง่เหลือเกินใช่ไหม ทันใดนั้นเธอก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตของเธอ

 

 

           “ก๊อกๆ…” จู่ๆ มีเสียงเคาะประตูดังมาจากด้านนอก เห็นได้ชัดว่าคุณหมอเข้ามาตรวจแล้ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองที่ประตูที่ปิดสนิทอย่างไม่พอใจ ฉู่เจียเสวียนเอื้อมมือออกไปผลักเขา

 

 

           เธอยังไม่เลิกกับกงจวิ้นฉืออย่างเป็นทางการ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะล่าช้าอีกต่อไปไม่ได้แล้ว ถึงเวลาที่จะพูดกับเขาให้ชัดเจน

 

 

           เธอไม่ต้องการมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ และเธอจะต้องตัดความสัมพันธ์ของเธอกับกงจวิ้นฉือซะก่อน

 

 

           “ปล่อยนะ” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด เธอยื่นมือออกมาดึงมือของเขา

 

 

           “คุณเผย ตอนนี้ผมเข้าไปได้แล้วยังครับ” คุณหมอที่รออยู่ด้านนอก หมดความอดทนเล็กน้อย

 

 

           ได้รับสายตาตักเตือนของฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยจำเป็นปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ เขาเชื่อว่าถ้าหากเขาไม่ปล่อยเธอ เธอจะต้องไม่สนใจเขาอย่างแน่นอน

 

 

           “เข้ามา” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก

 

 

           สิ้นเสียงพูด ประตูก็เปิดออก คุณหมอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า เขารู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยเป็นคนใหญ่คนโต ดังนั้นเขาจึงต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยทัศนคติที่ดีที่สุด

 

 

           แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ เขาใช้สายตาอันแหลมคมมองคุณหมอที่ทำลายบรรยากาศดีๆ ของเขา อย่างไม่เกรงใจเป็นที่สุด

 

 

           เมื่อได้รับสายตาของเผยหนานเจวี๋ย ก็ตื่นตระหนกอย่างมาก และไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำผิดอะไรที่ทำให้เขาไม่มีความสุขแบบนี้

 

 

           “คุณเผย ผมมาเจาะเลือดของคุณครับ” คุณหมอกล่าวด้วยความนอบน้อม ในเวลานี้เขาทำได้เพียงจ้องบนหนังศีรษะของเขาเท่านั้น

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูคุณหมอที่มีสีหน้างุนงงด้วยความเห็นใจเล็กน้อย เขาแตะอยู่บนปากกระบอกปืน หวังว่าเขาจะไม่ทำให้คุณหมอลำบากใจจนเกินไป

 

 

           แต่เห็นได้ขัดว่าความหวังของฉู่เจียเสวียนไม่ส่งผล ได้ยินเพียงเสียงที่เย็นชาของเผยหนานเจวี๋ย “ไม่ต้อง”

 

 

           ช่วงนี้มีหมอพวกนี้มาเจาะเลือดของเขาเป็นครั้งคราว การการเจาะเลือดต้องบ่อยถึงทุกหนึ่งหรือสองวันเชียวหรือ? อีกทั้งสองวันนี้ก็ยิ่งบ่อยขึ้นด้วย