ตอนที่ 592 หายตัวไป / ตอนที่ 593 เลิกกัน

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 592 หายตัวไป

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่ค่อยพอใจกับเรื่องนี้เช่นกัน เดิมทีร่างกายของเผยหนานเจวี๋ยอ่อนแออยู่แล้ว ทุกวันก็ต้องโดนเจาะเลือดอีก ถูกเจาะเลือดแบบนี้แล้วเมื่อไรจะหายเป็นปกติ

 

 

           “คือว่า…คุณเผยครับ ผมเป็นแค่พนักงานบริษัท คุณจะปฏิเสธหมอได้ยังไงล่ะครับ” คุณหมอคนนั้นกล่าวด้วยความลำบากใจ ทัศนคติของเผยหนานเจวี๋ยโจมตีหัวใจของเขาอย่างหนัก

 

 

           “คุณไปเถอะ วันนี้ผมไม่อยากเจาะเลือด” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ น้ำเสียงก็ไร้ความเกรงใจอย่างมาก คนที่ตาไร้แววแบบนี้มาเป็นหมอได้อย่างไร

 

 

           คุณหมอส่งสายตาขอความช่วยเหลือมายังฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนแสดงอาการลังเลเล็กน้อย บางทีคุณหมอก็อาจมีเหตุผลที่เจาะเลือด แต่ว่าร่างกายของเผยหนานเจวี๋ยอ่อนแอมากแล้ว หากเจาะเลือดทุกวันจะทนรับได้เหรอ

 

 

           “วันนี้ไม่เจาะเถอะค่ะ” ไม่เจาะเลือดสักวันคงไม่มีผลอะไรหรอกมั้ง ฉู่เจียเสวียนตัดสินใจเข้าข้างเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำตอบของฉู่เจียเสวียนแล้ว เงยหน้ามองคุณหมออย่างยั่วยุ แววตามีความภาคภูมิใจ เขาเพียงต้องการที่คนตาไร้แววเบื้องหน้าคนนี้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว

 

 

           “งั้นก็ได้ครับ” คุณหมอจนใจ สุดท้ายก็จากไป

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยเลิกคิ้วเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าคราวหน้าฉู่เจียเสวียนจะเข้าข้างเขา เธอช่วยเขาพูดแล้วจริงๆ

 

 

           “ฉันรู้สึกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเจาะเลือดทุกวัน” สองมือของฉู่เจียเสวียนผลักเขาออกไป ตอบด้วยความจริงจัง คำพูดนี้เหมือนกับกำลังคุยกับเผยหนานเจวี๋ย แต่ก็เหมือนพูดให้ตัวเองฟัง

 

 

           “แต่ว่า คุณควรระงับความคิดของคุณจะดีที่สุด ร่างกายของคุณจะไม่หายเต็มร้อย คุณไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” ฉู่เจียเสวียนพูดอย่างจริงจัง ดับความคิดเล็กๆ ในหัวใจของเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองเผยหนานเจวี๋ยอย่างสงสัย ฉู่เจียเสวียนรู้ว่าเขาต้องการออกจากโรงพยาบาลเหรอ? แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

 

 

           เขาเก็บอาการบนใบหน้าและมองเธออย่างใจเย็น “ผมยังไม่คิดจะออกจากโรงพยาบาล”

 

 

           เขากล่าวด้วยสีหน้าไม่เห็นด้วย ราวกับว่ากำลังตำหนิฉู่เจียเสวียนอยู่เงียบๆ ที่กล่าวหาเขาเลื่อนลอย

 

 

           “หึ คุณนึกว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเมื่อวานซูหรานมาหาคุณ” ฉู่เจียเสวียนพ่นลมหายใจเย็นชา สีหน้าราวกับกำลังบอกว่า ฉันรู้ตั้งนานแล้ว

 

 

           แม้ว่าคารมของเผยหนานเจวี๋ยจะดีหรือเก่งกาจอีกสักแค่ไหน แต่เขาอย่าคิดว่าจะทำเป็นเนียนๆ ผ่านด่านเธอไปได้เลย

 

 

           ในระหว่างการสนทนาโทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยสั่นสะเทือนโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำเอาทั้งคู่สะดุ้งโหยง

 

 

           ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว “รีบรับสายสิ” หากมีเรื่องสำคัญจะทำอย่างไร

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองดูโทรศัพท์มือถือที่สั่นสะเทือนอย่างไม่พอใจ มันดังทุกครั้งที่เขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับฉู่เจียเสวียนอย่างยากลำบาก

 

 

           เมื่อเห็นสายเรียกเข้า คิ้วของเผยหนานเจวี๋ยขมวดกันจนแทบมองไม่เห็น ทำไมเขาถึงโทรศัพท์มา

 

 

           “มีอะไร” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก

 

 

           “ประธานครับ หลี่เซียนเซียนหายไปแล้ว น่าจะไปหาคุณ” ซูหรานพูดอย่างกระตือรือร้น ต้องโทษที่เขาไม่ได้ใส่ใจเธอ

 

 

           “อืม” เผยหนานเจวี๋ยตอบรับอย่างเฉยเมย

 

 

           ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาด เรื่องของหลี่เซียนเซียนนี้ ดูภายนอกเหมือนไม่มีอะไร ในความเป็นจริงมันอาจคลายข้อสงสัยของเขาได้

 

 

ได้ยินฟังคำตอบที่ไม่แยแสของเผยหนานเจวี๋ย ซูหรานงงงวยเล็กน้อย ปฏิกิริยาของเขานิ่งเฉยเกินไปแล้วมั้ง?

 

 

           “ฉันรู้อยู่แล้วว่านายดูแลเขาไม่ไหว” เผยหนานเจวี๋ยพูดอย่างเฉยเมย เขาได้เตรียมแผนสำรองไว้แล้ว

 

 

           ไม่ทันไรซูหรานก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยดูถูกอีกแล้ว ในใจอดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อย แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยพูดได้ถูกต้อง เขาใจอ่อนกับหลี่เซียนเซียนเข้าแล้ว

 

 

           “แล้วจะทำยังไงต่อครับ” บางทีเผยหนานเจวี๋ยอาจจะมีการตระเตรียมไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงได้นิ่งเฉยขนาดนี้

 

 

 

 

       ตอนที่ 593 เลิกกัน

 

 

           “ทำหน้าที่ของนายให้ดี ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่น เดี๋ยวเธอจะกลับไปอีก บางทีนายอาจจะมีโอกาสชดเชยความผิด” เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกให้เขารู้ แต่เพียงเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับเขา

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเงี่ยหูฟัง เมื่อได้ยินเผยหนานเจวี๋ยพูดถึง “เธอ” ไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงหลี่เซียนเซียนหรือเปล่า

 

 

           เมื่อคิดถึงหลี่เซียนเซียน ก็มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ในใจของเธอ หลี่เซียนเซียนเป็นหนามในใจเธอเสมอ

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของฉู่เจียเสวียน เขาผู้มีอารมณ์อ่อนไหวก็สังเกตเห็นแล้ว เขารีบอธิบายสองสามคำ “รอดูไปก่อน”

 

 

           ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ เขาจะไม่อนุญาตให้ใครขัดขวางแผนการของเขาอย่างเด็ดขาด และเขาหวังว่าซูหรานจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

 

 

           ซูหรานไม่มีภัยคุกคามต่อหลี่เซียนเซียน แบบนี้ก็จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับชายที่อยู่ในเงามืดได้ หวังว่าชายคนนั้นจะแสดงร่องรอยบางอย่างในเวลานี้ เพื่อให้เขาสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน

 

 

           “คิดอะไรอยู่เหรอ” ฉู่เจียเสวียนกล่าวอย่างไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่อีกกันแน่

 

 

           “ผมอยากออกไปเดินเล่นข้างนอก” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว เขากลัวว่าฉู่เจียเสวียนจะพูดถึงหลี่เซียนเซียนผู้หญิงคนนี้

 

 

           “ไม่ได้ ร่างกายของคุณยังอ่อนแอมาก” ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธทันทีโดยไม่ได้คิดเลย

 

 

           “ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่นานแล้ว ผมต้องสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง” ตั้งแต่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่หมอ แต่เป็นการควบคุมดูแลของฉู่เจียเสวียน

 

 

           “ไม่ได้” ฉู่เจียเสวียนปฏิเสธเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถต่อรองได้

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยขมวดคิ้ว สายตาของเขากลายเป็นมืดมนและน้อยใจเล็กน้อย เขาพยายามใช้วิธีนี้เพื่อให้ฉู่เจียเสวียนประนีประนอมบ้าง

 

 

           “ก๊อกๆ…” ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นด้านนอก ขัดจังหวะการสบตาของทั้งสองคน

 

 

           “เข้ามา” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย

 

 

           ประตูถูกเปิดออก กงจวิ้นฉือเข้ามาจากด้านนอก

 

 

           เดิมทีกงจวิ้นฉือต้องการจะจากไปแล้ว แต่หลังจากคิดไปคิดมา ก็ทนไม่ได้แล้ววกกลับไป

 

 

           ขณะที่ฉู่เจียเสวียนเจอกงจวิ้นฉือ ก็ผละตัวอออกห่างจากเผยหนานเจวี๋ยทันทีโดยไม่รู้ตัว ในระยะนี้ เมื่อเธอเจอกงจวิ้นฉือ ก็มักจะรู้สึกละอายใจ ตราบใดที่เธอยังไม่เลิกกับกงจวิ้นฉือ เธอก็จะไม่สามารถอยู่กับเผยหนานเจวี๋ยอย่างเปิดเผยได้

 

 

           “ประธานเผย” ใบหน้าของกงจวิ้นฉือมีรอยยิ้มอบอุ่น ก้าวเท้าเดินเข้าห้องผู้ป่วย

 

 

           “เจียเสวียน” เขาเดินมาหยุดอยู่ข้างกายฉู่เจียเสวียน แววตาที่มองเธอเปี่ยมด้วยความรัก

 

 

           “ประธานกง” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวทักทายอย่างมีมารยาท จะว่าไป เขากับฉู่เจียเสวียนที่เป็นแบบนี้ก็รู้สึกละอายใจต่อเขาเล็กน้อย

 

 

           “ผมยังไม่ได้ขอบคุณคุณเรื่องคราวก่อนเลย” กงจวิ้นฉือเอ่ยด้วยสีหน้าจริงใจ ในแววตามีความรู้สึกซับซ้อน

 

 

           “เรื่องของเจียเสวียนก็คือเรื่องของผม” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเรียบๆ ประกาศความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแก่กงจวิ้นฉืออย่างละมุนละม่อม

 

 

           ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว ไม่พอใจกับน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยอย่างมาก เขายิ่งได้คืบจะเอาศอกขึ้นทุกที

 

 

           ตอนนี้เธอยังไม่ได้เลิกกับกงจวิ้นฉือ เขาทำแบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่มีกงจวิ้นฉืออยู่ในสายตาเลย

 

 

           “จวิ้นฉือ คุณมาได้ยังไง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากทำลายความอึดอัด เธอไม่ต้องให้กงจวิ้นฉือผิดใจกับเผยหนานเจวี๋ย

 

 

           “มาเยี่ยมคุณ ก็เลยแวะมาเยี่ยมประธานเผยด้วย” น้ำเสียงอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น

 

 

           ตอนนี้เธอมาที่โรงพยาบาลทุกวัน หากเขาต้องการพบเธอก็ต้องมาที่โรงพยาบาลแล้ว

 

 

           “อาการของประธานเผยเป็นยังไงบ้าง” กงจวิ้นฉือเอ่ยอย่างนอบน้อม ใบหน้ามีรอยยิ้ม เดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน ต้องการจะจูงมือของเธอ

 

 

           แต่ว่าฉู่เจียเสวียนกลับหลบหลีกอย่างแนบเนียบแล้ว

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยหรี่ตาอย่างอันตราย เขาเห็นความตั้งใจของกงจวิ้นฉือที่ต้องการจะจูงมือของฉู่เจียเสวียน