บทที่ 1918+1919

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1918 อันสิ่งที่เรียกว่าสวรรค์ลิขิตวาสนารัก 4

เสินจิ่วหลี่หัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเป็นผู้ตรากฎ ย่อมต่อเข้มงวดต่อตนเองเป็นธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นคือจักรพรรดิทำผิดโทษเท่าสามัญชน เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน เขาไม่อาจลอยตัวอยู่เหนือกฎเกณฑ์ลิขิตสวรรค์อย่างสิ้นเชิงได้ มิเช่นนั้นจะครองใจปวงประชาได้อย่างไรเล่า?”

นี่ก็ใช่!

หนิงเสวี่ยโม่ไม่พูดอะไรแล้ว หันไปคุยกับบุตรชาย “เอาล่ะ พวกเราไม่ถกเรื่องพวกนี้กันแล้ว เนี่ยนโม่ เจ้ายังอยากไปเที่ยวเล่นที่ไหนอีก? พ่อกับแม่จะไปเป็นเพื่อนเจ้า”

เสินเนี่ยนโม่มองมารดาอย่างคลางแคลง “ท่านแม่ หลายวันมานี้พวกท่านค่อนข้างแปลก…ไปเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนเนี่ยนโม่ทุกวัน ซ้ำยังพาเนี่ยนโม่ไปกราบคารวะสหายมากมายด้วย…” บุพการีที่พึ่งพาไม่ได้คู่นี้ของเขาจู่ๆ ทำไมถึงพึ่งพาได้ขนาดนี้กันล่ะ? ดีต่อเขาจนไม่อาจดีไปกว่านี้ได้แล้ว ให้เขาประหลาดใจอยู่บ้าง

เสินจิ่วหลี่ปรายตามองบุตรชายแวบหนึ่ง “ทำไมเล่า? พ่อแม่ดีกับเจ้าไม่ดีหรอกหรือ?”

“ไม่ใช่…เนี่ยนโม่แค่รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง”

“พ่อเห็นแก่ที่เจ้าบากบั่นมานะอยู่ในเขตแดนเมื่อหลายวันที่ผ่านมา จึงต้องการชดเชยให้เจ้า ให้เจ้ามีความสุขบ้าง หากเจ้ารู้สึกว่าแปลก เช่นนั้นก็แล้วไปเถอะ พวกเราก็กลับกันเดี๋ยวนี้เลย พ่อเพิ่งคิดค้นค่ายกลแบบใหม่ได้ อยากจะนำมาทดลองกับเจ้า…”

เสินเนี่ยนโม่ถอยกรูดแล้ว รีบดึงมือของหนิงเสวี่ยโม่ทันที “ท่านแม่ เนี่ยนโม่อยากไปหาดเหมันต์คราม หอคอยแดนสมุทร…” เขาร่ายชื่อสถานที่เจ็ดแปดแห่งออกมาในคราวเดียว

หนิงเสวี่ยโม่รักใคร่บุตรชาย จึงรับปากทันที

เสินเนี่ยนโม่ลากมารดาของเขาออกเดิน

เสินจิ่วหลี่ลากเขากลับมา “เจ้าเด็กตัวเหม็น พ่อยังไม่ได้รับปากเจ้า…”

เสินเนี่ยนโม่กะพริบตาปริบๆ ยิ้มอย่างน่ารักยิ่ง “ท่านพ่อกลัวท่านแม่ ท่านแม่รับปากก็เท่ากับท่านพ่อก็รับปากแล้วเช่นกัน”

เสินจิ่วหลี่เถียงไม่ออกเลย

เจ้าเด็กตัวเหม็นพูดถูกจริงๆ!

เพียงแต่มิใช่ว่าเขากลัว เขารักต่างหาก…

สามพ่อแม่ลูกจับจูงกันจากไปแล้ว

กู้ซีจิ่วซ่อนอยู่ในมุมอับมองสามพ่อแม่ลูกหายลับไปในส่วนลึกของทะเลเมฆ ค่อนข้างเหม่อลอยไปชั่วขณะ

เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าวาจาของมหาเทพองค์นี้มีความนัยแอบแฝง…

พวกเขาสามีภรรยาคล้ายมีเรื่องใดปิดบังเสินเนี่ยนโม่อยู่…

เธอสลัดความคลางแคลงนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็วยิ่ง ถึงอย่างไรเสี่ยวเนี่ยนโม่ก็เป็นบุตรชายของพวกเขา ไม่ว่าจะปิดบังเรื่องใดไว้ก็ไม่มีทางทำร้ายเขา…

อันที่จริงสามีภรรยาคู่นี้ยังคงรักใคร่บุตรชายยิ่งนัก

ความสนใจของเธอแซ่ของเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ดึงดูดไปแล้ว ที่แท้เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ก็แซ่ตี้…

ตี้อะไรกันนะ?

ช่างเถอะ เมื่อถึงวันเกิดของเด็กคนนี้ ก็เอากล่องใบนั้นไปมอบให้เนี่ยนโม่ตัวน้อยลองดู หากว่าเขาเปิดได้ เช่นนั้นเขาก็คือเจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ที่แซ่ตี้ผู้นี้ ภารกิจเธอจะเสร็จสมบูรณ์ทันที วันหน้าคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเด็กน้อยคนนี้แล้ว…

เจ้าแห่งลิขิตสวรรค์ที่กลับชาติมาเกิดเป็นเสินเนี่ยนโม่ผู้นี้ เกรงว่าจะเอาภารกิจอันใดมาด้วย เธอไม่อยากเข้าใกล้เขา เลี่ยงไม่ให้ถูกใช้เป็นเบี้ยรับเคราะห์ แม้แต่จะตายอย่างไรก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ…

ระยะเวลาสองเดือนอันที่จริงผ่านไปไวยิ่งนัก

พริบตาเดียวก็ถึงวันนั้นแล้ว

ในที่สุดวันเกิดของเสินเนี่ยนโม่ก็มาถึง!

ประตูตำหนักนภาลัยต้อนรับแขกผู้มาเยือน สหายมากมายของเสินจิ่วหลี่กับหนิงเสวี่ยโม่ สหายจากสามคีรีห้าบรรพตล้วนมากันทั้งสิ้น

ตำหนักนภาลัยครึกครื้นดั่งราดน้ำมันลงบนไฟ

เสินเนี่ยนโม่ไม่เพียงแต่คอยรับของขวัญจนมือไม้อ่อนยวบเท่านั้น เขายังต้องกราบคารวะปรมาจารย์อีกสิบท่านด้วย!

ปรมาจารย์สิบท่านนี้ล้วนแต่เป็นสหายของเสินจิ่วหลี่ และเป็นบุคคลที่โดดเด่นยิ่งนักในดินแดนเบื้องบน

เสินจิ่วหลี่นิสัยเย็นชา สหายของเขาย่อมมีนิสัยประหลาดต่างกันไปทั้งสิ้น บ้างก็เป็นเซียนหมาก บ้างก็คลั่งวรยุทธ์ บ้างก็เชี่ยวชาญค่ายกล บ้างก็เป็นคนขี้เมา

ปกติแล้วคนเหล่านี้ล้วนอยู่อย่างสันโดษ ณ ที่ต่างๆ ในสามภพ ล้วนเป็นผู้นำในศาสตร์วิชาแต่ละแขนง พวกเขาคัดเลือกศิษย์อย่างเคร่งครัด แต่กลับให้ความสำคัญกับเสี่ยวเนี่ยนโม่ที่สุด

———————————————————————–

บทที่ 1919 ของขวัญวันเกิด

ครั้งก่อนตอนที่เสินจิ่วหลี่พาเด็กน้อยไปกราบคารวะพวกเขา พวกเขาก็ชื่นชมเขายิ่งนัก ปรารถนาจะรับเป็นศิษย์ในสังกัดของตนอย่างยิ่ง

ยามนี้ในที่สุดก็สมปรารถนาแล้ว พวกเขาดีใจอย่างยิ่ง ล้วนมอบของขวัญให้เสี่ยวเนี่ยนโม่

ทุกคนพากันแสดงความยินดีกับพวกเสินจิ่วหลี่สามีภรรยาด้วย ในช่วงที่กำลังครึกครื้น เสินจิ่วหลี่พลันดีดนิ้วขึ้นไปด้านบนคราหนึ่ง “บนหลังคาลมแรงน้ำค้างหนา สหายลงมาข้างล่างเถิด”

ลำแสงสีขาวสายหนึ่งแวบผ่าน ยอดหลังคาแตกออกเป็นโพรงใหญ่ คนในชุดสีเขียวอ่อนผู้หนึ่งเหินลงมา

ฝูงชนประหลาดใจ ผู้ใดก็คาดไม่ถึงว่าจะมีคนใจกล้าปานกินดีหมีหัวใจเสือ กล้าขึ้นไปแอบฟังอยู่บนหลังคาตำหนักนภาลัย

คนผู้นั้นสวมหน้ากากภูตผีเอาไว้ เสื้อคลุมบนร่างหลวมโคร่งจนผู้อื่นมองเพศไม่ออก

การเผยตัวของเขาย่อมก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น

หนิงเสวี่ยโม่หรี่ตาลงนิดๆ มองคนผู้นี้อย่างยิ้มมิเชิงยิ้ม “ท่านผู้สูงศักดิ์จะผ่านทางมาอีกแล้วหรือ?”

คนผู้นั้นย่อมเป็นกู้ซีจิ่ว

เธอเดินเข้ามาโดยไม่กระสับกระส่ายเลย หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “มิใช่ ครั้งนี้ข้ามาเพื่อมอบของขวัญวันเกิดแก่บุตรชายของท่าน”

สองมือเธอพลิกหงาย กลางฝ่ามือปรากฏกล่องเล็กๆ ใบหนึ่ง ตัวกล่องเป็นไม้กฤษณา แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง ที่สะดุดตากว่านั้นคือบนฝากล่องฝังมรกตชั้นเลิศเม็ดหนึ่งเอาไว้ สีเขียวโปร่งใส ลำพังแค่ฝากล่องก็ทำให้มองคุณค่าของของขวัญชิ้นนี้ออกแล้ว

เธอก้าวเข้าไปสองสามก้าว มาหยุดเบื้องหน้าเสินเนี่ยนโม่ และยื่นกล่องไปตรงหน้าเขา “เอ้า สิ่งนี้มอบให้เจ้า สุขสันต์วันเกิด”

เมื่อเสินเนี่ยนโม่เห็นนางก็วิตกขึ้นมาทันที นิ้วมือในแขนเสื้อกำแน่น มองนางอย่างเยียบเย็น อยากเห็นว่านางจะเล่นลูกไม้อันใดอีก

กล่องที่นางนำออกมาใบนี้ถึงแม้จะดูแปลกใหม่ แต่เสี่ยวเนี่ยนโม่กลับไม่สนใจ ไม่มีทีท่าว่าจะรับไว้สักนิด

“อะไรกัน แค่นี้ก็ไม่กล้ารับไว้หรือ กลัวว่าด้านในจะมีงูตัวหนึ่งพุ่งออกมาฉกเจ้าหรือไง?” สุ้มเสียงของคนลึกลับสวมหน้ากากผีผู้นั้นคล้ายทีเล่นทีจริง

เสี่ยวเนี่ยนโม่มองนาง จากนั้นมองกล่องในมือนาง จู่ๆ ก็ขำคิกๆ คราหนึ่ง “กลยุทธ์ยั่วยุให้หุนหันรึ? เจ้าใช้กลยุทธ์ยั่วยุกับนายน้อยอย่างข้าไปก็ไม่ประโยชน์ นายน้อยอย่างข้าก็แค่ไม่ต้องการของจากเจ้าเท่านั้น”

แววตาของคนลึกลับหน้ากากผีวูบไหวแวบหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะเก็บกล่องใบนั้นเข้าไปในมิติเก็บของอีกครั้ง จากนั้นยิ้มอย่างผ่อนคลายแล้วเอ่ยว่า “ก็ดี อันที่จริงข้าก็ไม่คิดจะมอบให้เจ้าจริงๆ เหมือนกัน เจ้าไม่ต้องการมันก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเจ้าไม่มีวาสนากับมัน”

เสินเนี่ยนโม่เงียบไปแล้ว

เขานึกไม่ถึงเลยว่าคนผู้นี้จะถอยเช่นนี้ จึงรู้สึกเหมือนก้าวหล่นลงไปในความว่างเปล่า จู่ๆ เขาก็ค่อนข้างสนใจใคร่รู้ของในกล่องใบนั้นขึ้นมา ข้างในใส่อะไรไว้กันนะ?

คิดๆ ดูอีกที คนผู้นี้คงมิใช่ว่าโดนท่านพ่อของเขาเปิดโปงพฤติกรรมเข้า จึงคิดจะส่งมอบสมบัติล้ำค่าสักชิ้นบนกายออกมาเพื่อกลบเกลื่อน กล่าวอะไรทำนองว่าส่งมอบของขวัญให้แล้วก็แล้วกันไปเถิดกระมัง?!

ตนไม่ต้องการเดินตามแผนของนาง…

เสินเนี่ยนโม่ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตนถูกนางปั่นหัวเล่นอีกแล้ว เขามองคนผู้นี้แล้วขัดนัยน์ตานัก ย่อมไม่คิดจะให้นางสมปรารถนา หลังใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก็ตีหน้ายิ้มขึ้นมาทันที ดึงแขนเสื้อของคนผู้นี้ไว้ “ท่านป้า ผู้อาวุโสเดินทางมาไกลเช่นนี้ไม่ง่ายดายเลย ในเมื่อมาหาข้าเพื่อมอบของขวัญวันเกิดให้ จะอย่างไรข้าก็ไม่อาจหักหน้าท่านได้ใช่หรือไม่? เมื่อครู่เนี่ยนโม่พูดเล่นเท่านั้น เนี่ยนโม่จะไม่รับของขวัญจากท่านป้าได้อย่างไรเล่า?”

น้ำเสียงของเสี่ยวเนี่ยนโม่กระจ่างชัด คนทั้งห้องโถงล้วนได้ยินกันทั่ว ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตะลึงงัน

แม้แต่หนิงเสวี่ยโม่ก็ตะลึงไปแวบหนึ่งเช่นกัน สายตานางวนสำรวจร่างคนลึกลับหน้ากากผีคราหนึ่ง คนผู้นี้เป็นสตรีหรือนี่?!

กู้ซีจิ่วถูกเสี่ยวเนี่ยนโม่เผยฐานะสตรีออกมาซึ่งๆ หน้า ตะลึงงันไปครู่หนึ่งเช่นกัน จากนั้นมองเจ้าเด็กแสบที่ยึดแขนเสื้อเธอไว้แล้วเรียกท่านป้า ในใจค่อนข้างโมโห

——————————