บทที่ 482 เยี่ยมตระกูลซุน
ขณะที่พวกเขาไปถึงประตูเมือง ก่อนที่พวกเขาจะทันได้เข้าไปใน
เมือง ซูหยางก็สามารถได้กลิ่นเงินจากในอากาศ
“ท่านได้กลิ่นนั้นไหม ซูหยาง กลิ่นเงิน” ซุนจิงจิงกล่าวกับเขา “นคร
เยิ่นเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นดินแดนแห่งโอกาส ผู้คนจากทุกสารทิศใน
ทวีปมาที่นี่เพื่อที่จะเริ่มธุรกิจของตนเองหรือไม่ก็หางาน นี่เป็นหนึ่ง
ในสถานที่ซึ่งวุ่นวายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก”
“ตระกูลซุนของข้าก็เริ่มก่อตั้งและประสบความสำเร็จที่นี่ ดังนั้นจึง
เป็นเหตุที่สถานที่นี้จึงเป็นสถานที่ซึ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเรา”
ครั้นเมื่อพวกเขาไปถึงประตูแล้ว ทหารเฝ้าประตูเมืองก็หยุดพวกเขา
และกล่าวว่า “พวกเจ้ามาที่นี่มาเยี่ยมหรือว่าอยู่อาศัย พวกเจ้ามีเจตนา
ที่จะทำธุรกิจที่นี่ใช่ไหม เจ้ามีใบอนุญาตหรือไม่”
“ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อที่จะเปิดธุรกิจของตนเอง เจ้าจักต้องมีใบอนุญาต
ประกอบธุรกิจ ซึ่งจักมีราคา 10,000 เหรียญทองเป็นอย่างต่ำ ถ้าเจ้า
เพียงมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเยือน เจ้าจักต้องมีใบอนุญาตเข้าเยี่ยม เริ่มต้นที่ 1
เหรียญทองสำหรับเวลาเจ็ดวัน”
ซุนจิงจิงเพียงแค่เหลือบมองทหารเฝ้าประตูเมืองก่อนที่จะนำเอาตรา
สีแดงออกมาจากชุด
“ห-เหรียญประจำตระกูลซุน”
ทหารเฝ้าประตูพลันยืดหลังเมื่อเขาเห็นตรา และพวกเขาทั้งหมดต่าง
พากันทำความเคารพเธอ
“ช-เชิญเข้า ผู้ทรงเกียรติ”
หลังจากนั้นสองสามอึดใจ ซูหยางและกลุ่มของเขาก็เข้าไปในเมือง
โดยไม่มีปัญหาอะไร
“ข้ารู้ว่าตระกูลของเจ้าร่ำรวยเมื่อข้าเห็นพ่อแม่ของเจ้า แต่มิคิดว่าพวก
เจ้าจักเป็นพี่ใหญ่ในเมืองร่ำรวยถึงเช่นนี้” ซูหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมเจ้าจึงเข้าร่วมกับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยล่ะ”
“ตามที่พ่อแม่ของข้ากล่าว ปู่ของข้าเคยเป็นจอมลามกเมื่อตอนที่เขา
ยังหนุ่ม ดังนั้นเขาจึงเข้าร่วมกับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยเพื่อสนุกกับ
สาว ๆ แต่ทว่าข้าเข้าร่วมกับนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยด้วยสาเหตุสอง
ประการ หนึ่งก็เพราะว่าปู่ของข้าซึ่งปกติจะเอาใจข้าเสมออยู่ที่นี่ และ
สองเพราะข้าต้องการที่จะเลือกคู่ครองของตนเอง”
“ถ้าข้ายังคงอยู่ในตระกูลซุน พ่อแม่ของข้าก็ย่อมจักจัดการทุกอย่าง
ให้กับข้า ตั้งแต่สามีไปจนถึงอนาคตของข้า และข้ามิต้องการเช่นนั้น
ถึงแม้ว่านิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยมิใช่สถานที่ซึ่งดีที่สุดในการมองหา
คู่ครองที่เหมาะสม แต่ก็ยังดีกว่าที่จะถูกบีบบังคับให้มีความสัมพันธ์
โดยพ่อแม่ของข้า”
“ข้ารู้ว่าเรื่องราวของข้าเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่ข้าก็ดีใจที่ข้าได้
ตัดสินใจเช่นนั้น ในเมื่อข้าสามารถได้พบกับท่าน ซูหยาง” ซุนจิงจิง
กล่าวขณะที่เธอกระชับมือของเขาไว้แน่น
ขณะที่พวกเขาตรงเข้าไปยังที่พักของตระกูลซุนอยู่นั้นก็ได้ยินเสียง
จำนวนมากรอบกาย
“ยินดีต้อนรับสู่โกดังมังกร ท่านสามารถหาอาวุธวิญญาณได้ทุกระดับ”
“ขอเชิญมานั่งในร้านอาหารม้าทองคำของพวกเรา พวกเรามีเนื้อ
วิญญาณทุกประเภทให้เลือก”
“ขอเชิญแวะมาเยี่ยมเยือนหญิงสาวขี้เหงาของเราในอาบอบนวดเทพ
เสน่หา พวกเรามีสาวสวยทุกประเภทเพื่อสร้างความพึงพอใจใน
ความต้องการของท่าน”
“หอยาธรรมชาติเพิ่งได้รับโอสถดอกบัวเพลิงมา มาก่อนได้ก่อน รีบ
ซื้อด่วน”
หลังจากที่เดินไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ซูหยางและซุนจิงจิงก็ไป
ถึงหน้าอาคารใหญ่ที่กินพื้นที่ไปทั้งถนน
“ยินดีต้อนรับสู่บ้านของข้า ซูหยาง” ซุนจิงจิงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่
เธอดึงเขาไปยังอาคาร
“ท-ท่านคือ… ยินดีต้อนรับกลับมา คุณหนู” เมื่อยามที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ประตูสังเกตเห็นหน้าตาสะสวยของซุนจิงจิง พวกเขาก็พลันโค้ง
คำนับเธอ
“แจ้งให้พ่อแม่ข้าว่าข้าได้กลับมาแล้วพร้อมกับซูหยาง” เธอกล่าวกับ
พวกเขา
“ขอรับ”
ซุนจิงจิงจึงนำซูหยางไปยังห้องนั่งเล่น
ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ซุนเฉียนและซุนเหรินก็เข้ามาในห้องด้วยสีหน้า
สดใส
“โอ สุดท้ายพวกเจ้าก็มาที่นี่”
ซุนเหรินแม่ของเธอพลันตรงเข้าไปหาซูหยางและทำความเคารพ
อย่างสุภาพแก่เขา “ยินดีต้อนรับสู่บ้านซอมซ่อตระกูลซุนของพวก
เรา ท่านผู้อาวุโสซู”
“ผู้อาวุโสรึ” ซูหยางเลิกคิ้ว
กระทั่งซุนจิงจิงเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วกับพฤติกรรมแปลก
ประหลาดของแม่เธอ
“ดูเหมือนว่าข้าได้ทำหยาบคายกับผู้อาวุโสซูไปในระหว่างที่พวกเรา
ไปเยี่ยมในครั้งก่อน ถ้าเป็นการล่วงเกินผู้อาวุโสซูอย่างใด ท่านสามารถ
นำลูกสาวข้าไปเป็นสิ่งชดเชยได้…” ซุนเหรินกล่าว สร้างความตกใจ
ให้กับซุนจิงจิงจนกระทั่งกรามตกถึงพื้น
“ท-ท่านทำอะไร ท่านแม่ ทำไมท่านจึงมีท่าทางแปลกประหลาด
เช่นนั้น”
“ขอเวลาพวกเราสักประเดี๋ยว ผู้อาวุโสซู…” ซุนเหรินพลันคว้าซุน
จิงจิงและลากเธอออกไปด้านนอก
ครั้นเมื่อพวกเธอได้อยู่ห่างจากซูหยางพอสมควรแล้ว ซุนเหรินก็
กระซิบกับซุนจิงจิงดัง ๆ ว่า “ทำไมเจ้ามิบอกข้าว่าซุนหยางเป็นจอม
ยุทธเขตอัมพรวิญญาณตอนที่พวกเราไปเยี่ยมเจ้า ข้ารู้สึกเหมือนคน
โง่ที่สุดที่ทำตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าเขาในตอนนี้ โอ ข้าช่างมิรู้เรื่องราว
อะไรเลย”
“ท่านมิเคยถามข้า และท่านก็มัวแต่เน้นอยู่กับการให้เขาแบกรับความ
รับผิดชอบในการพรากพรหมจรรย์ของข้า” ซุนจิงจิงตอบอย่างใจเย็น
“จ-เจ้า” ซุนเหรินหน้าแดง แต่อย่างไรก็ตามเธอรีบกดความโกรธ
ของเธอลงอย่างรวดเร็วและกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตามนี่เป็นโอกาส
ของเจ้า ลูกสาวข้า”
“โอกาส โอกาสในการทำอะไรรึ” เธอเลิกคิ้วด้วยท่าทางงุนงง
“โอกาสที่จะมีตำแหน่งในตระกูลของเขา ถึงแม้ว่าเจ้ามิสามารถเป็น
ภรรยาของเขาได้ อย่างน้อยเจ้าก็ได้เป็นนางบำเรอ ในฐานะอัจฉริยะ
อันดับหนึ่งในทวีปตะวันออก เขามีอนาคตที่ไม่สิ้นสุด มีคนพูดว่า
เขาอาจจะกลายเป็นเจ้าซีคนถัดไปแล้วด้วย ในเมื่อเขาได้ยอมรับตัว
เจ้าแล้ว นั่นเป็นโอกาสอันดีที่เขาจักรับเจ้าเป็นนางบำเรอ”
“…”
ซุนจิงจิงมองดูแม่ของเธอด้วยใบหน้าไร้คำพูด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอ
เคยเห็นแม่ของเธอมีท่าทางหมดรูปเช่นนี้
“ทำไมท่านจึงต้องการให้ข้าอยู่กับซูหยางอย่างหมดท่าเช่นนี้ ท่าน
แม่” ซุนจิงจิงถามเธอ
แม้ว่าเธอสามารถเผยให้แม่เธอรู้ว่าเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซู
หยางแล้ว เธอก็ยังตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้เป็นความลับนานต่อไปอีก
หน่อยเพื่อดูว่าทำไมแม่ของเธอจึงมีท่าทางที่ไม่เหมือนเดิมเช่นนี้
“เฮ้อ ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะว่าตระกูลมู่ที่น่ารังเกียจนั่น “ซุนเหริน
ถอนใจ “นับตั้งแต่พวกนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะเขตปฐพีวิญญาณ พวก
นั้นก็ได้เพิ่มความก้าวร้าวและพยายามที่จะสร้างพันธะหมั้นหมาย
อย่างมิคิดชีวิตระหว่างเจ้ากับทายาทของพวกนั้น มู่ชุน”