ตอนที่ 732 แค่ท่ายืนก็แสดงถึงอํานาจชัดเจน

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ตอนที่ 732 แค่ท่ายืนก็แสดงถึงอํานาจชัดเจน

 

       พรึบ!พรึบ!

 

  เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กำลังทำงานอยู่ในห้องทำงานภายในค่ายหนานตู้ต่างตกใจจนของที่อยู่ในมือร่วงหล่นกันหมดเสียงกรีดร้องโวยวายที่ได้ยินมาแต่ไกล ทำให้ทุกคนหันไปจ้องที่ประตูห้องอย่างตกใจ เสียงมันเหมือนกับมีฝูงซอมบี้บุกมา

 

  ไม่เพียงแค่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้นที่ได้ยินแต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในค่ายส่วนใหญ่ก็ล้วนได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านนอกประตูค่ายกันหมด ทุกคนตกใจและหยุดมือที่กำลังทำบางอย่างอยู่กันหมด เกิดความเงียบขึ้นมาทันทีและไม่นานหลังจากนั้น…

 

  ”ทีมกฎหมายกำลังไล่ฆ่าคนบริสุทธิ์!”

 

  เสียงตะโกนจากด้านนอกที่ได้ยินทำให้ผู้คนด้านในช็อคค้างกันหมด เสียงมันดังสนั่นลั่นหู ดังก้องสะท้อนทรงพลังจนไม่อยากจะเชื่อ และดูเหมือนจังหวะเสียงมันจะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

 

  และในตอนนั้นเองภายในค่ายก็เหมือนกับน้ำต้มที่กำลังเริ่มเดือด ผู้คนตื่นตัวและตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน!

 

  ”มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

  ”เสียงมาจากด้านนอกไปดูกันเร็ว!”

 

  ”พระเจ้านี้มันเรื่องวุ่นวายอะไรกัน เกิดจลาจลใหญ่งั้นเหรอ?”

 

  ”นี้เป็นการรายงานความผิดของทีมกฏหมายทีมกฏหมายมักชอบดูแคลนพวกเรา แต่ครั้งนี้มันจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ!”

 

  ”เฮ้พวกเรา! เสี่ยวรุ่ยกับลูกชายมันถึงคราวซวยแล้ว! ไป ไปดูเรื่องสนุกกัน!”

 

  ”$%^&@$%^&*!”

 

  เหล่าชาวบ้านในค่ายต่างส่งเสียงเฮอย่างชอบใจทุกคนรีบมุ่งหน้าไปที่ประตูค่ายเพื่อจะรอดูเสี่ยวรุ่ยและเสี่ยวเย่ตกที่นั่งลำบาก

 

  ฉางกวนหลง…ผู้นำสูงสุดของค่ายหนานตู้ที่กำลังจัดการกับเอกสารทางการในห้องทำงานอยู่ผุดลุกขึ้นและคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับอย่างรวดเร็วควงดาบในมือและเสียบเข้าฝัก สีหน้าสบายๆหากคงไว้ด้วยมาดของพลเอกอย่างสง่าผ่าเผย ก้าวเท้าออกเดินหน้า

 

  ในตอนนั้นเองชูฮันและทีมกุ้งเสือดำก็กำลังตกใจกับการกระทำของหลูปิงเซ่อ พวกเขาเกือบจะวิ่งฝ่าออกไปช่วยผู้คนที่โดนไล่ฆ่าระหว่างการจลาจลอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าหลูปิงเซ่อจะสามารถคิดแผนนี้ขึ้นมาได้อย่างกระทันหันแถมยังลงมือทำทันทีอีก

 

  เหมาะสมกับการเป็นกัปตันทีมความลับของพระเจ้าจริงๆนี้มันเหมือนการตบหน้าของทีมกฏหมายชัดๆ!

 

  ชูฮันเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าหลูปิงเซ่อกำลังตื่นตัวสุดๆกับสถานการณ์ตรงหน้า

 

  เสี่ยวรุ่ยและเสี่ยวเย่ตะลึงค้างทั้งสองพ่อลูกได้แต่มองหน้ากันไปมาระหว่างที่เสียงตะโกนอย่างพร้อมเพียงของเหล่าผู้ลี้ภัยดังสนั่นก้องจนเกินจะห้ามแล้ว

 

  ”พ่อเราทำไงดี?” เสี่ยวเย่กลัวมากจริงๆครั้งนี้ น้ำเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด

 

  เสี่ยวรุ่ยเองก็กลัวไม่ต่างกันเสียงของผู้คนจำนวนมากที่รวมใจกันตะโกนเป็นประโยคเดียวกัน ไม่ใช่แค่เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในค่ายจะลงโทษความผิดเขาเมื่อได้รับรู้เรื่องราวแล้ว แต่แม้แต่จะหาช่องทางหลบหนียังยากเลย

 

  ”ฆ่ามัน!ฆ่าคนที่ออกคำสั่งให้เหล่าผู้ลี้ภัยซะ!” ภายใต้ความโกรธ ความคิดแรกในหัวของเสี่ยวรุ่ยคือต้องฆ่าหลูปิงเซ่อที่เป็นคนปลุกระดมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นก็จะไม่มีใครคิดกล้าทำตัวเป็นผู้นำปลุกระดมและเอ่ยปากอะไรอีก และเขาก็จะพลิกสถานการณ์กลับมาอยู่ในมือตัวเองได้

 

  ทหารทีมกฏหมายปฏิบัติตามคำสั่งของเสี่ยวรุ่ยอย่างไม่ลังเลพวกเขาพุ่งเข้าหาหลูปิงเซ่อ ล้อมหลูปิงเซ่อและฟานเจี้ยนเอาไว้จนไม่มีทางหนี ไม่สนใจเหล่าผู้ลี้ภัยที่กำลังตะโกนประโยคเดิมอยู่เลย ทุกคนสังเกตได้ถึงความสามารถในการต่อสู้ที่สูงอย่างมากของฟานเจี้ยน แต่สำหรับหลูปิงเซ่อนั้นมันต่ำมาก ดังนั้นการปิดล้อมวงแบบนี้จะสามารถจัดการอีกฝ่ายได้รวดเร็วและดีที่สุด และแน่นอนว่าทีมกฏหมายอ่านออกทุกอย่าง!

 

  ”วิ่ง!”ฟานเจี้ยนที่สังเกตเห็นวิกฤตได้ในทันที เขารู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถปกป้องหลูปิงเซ่อได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

 

  หลูปิงเซ่อยืนไม่ขยับมองไปที่ฝูงชนที่คอยตะโกนประโยคเดิมกันอย่างฮึกเฮิมโดยไม่หยุดพัก และเพราะเสียงที่ดังจนหูแทบหนวกของฝูงชนมันจึงกลบเสียงพูดของฟานเจี้ยนสนิท ทำให้หลูปิงเซ่อไม่ได้ยินที่ฟานเจี้ยนสั่งให้วิ่ง

 

  และตอนนี้มันก็สายไปแล้ว!

 

  ทหารของทีมกฏหมายคนหนึ่งซึ่งเป็นวิวัฒนาการระยะ4 เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ด้วยการช่วยเหลือของเพื่อนทหารที่ช่วยลดรัศมีการป้องกันของฟานเจี้ยน ดาบยาวที่ส่องประกายจ้าก็กำลังจะแทงตรงเข้าใส่หัวใจของหลูปิงเซ่อจากทางด้านหลัง

 

  ในขณะที่หลูปิงเซ่อไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนีวิถีดาบได้ทันในตอนนั้นเอง——-

 

  ปึก!

 

  เงาดำพุ่งฝ่าออกมาจากฝูงชนวิ่งพาดผ่านสายตาทุกคนไปอย่างรวดเร็ว ข้อมือของทหารวิวัฒนาการระยะ 4 จากทีมกฏหมายถูกหักกลางอากาศทันที!

 

  ฉึก!

 

  เกร้ง!

 

  เสียงที่ดังขึ้นติดกันสองครั้งเป็นการโจมตีที่แม่นยำราวกับคาดการณ์มาไว้อย่างดี ทหารวิวัฒนาการระยะ 4 ของทีมกฏหมายถูกจับหักข้อมือจนกระดูกแหลก เสียกระดูกดังลั่น ตามมาเสียงของด้วยดาบยาวในมือที่ร่วงหล่นกระแทกกับพื้น

 

  ”อ๊ากกกก…”ความเจ็บปวดพุ่งพรวดขึ้นมา ชายวิวัฒนาการระยะ 4 แหกปากร้องเสียงสนั่น ขณะที่น้ำตาของเขากำลังจะไหล

 

  ปัก!

 

  การเคลื่อนไหวข้อศอกที่รวดเร็วของร่างเงาดำทำให้ไม่มีใครมองตามได้ทันเห็นเพียงแต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นซึ่งก็คือคางของทหารวิวัฒนาการระยะ 4 ถูกกระแทกเสยอย่างแรงจนได้ยินเสียงกระดูกที่แตก กรามล่างของเขาถูกหักละเอียด เสียงแหกปากที่ร้องแสดงความเจ็บปวดก่อนหน้านี้หยุดชะงักไปทันที กลายเป็นเสียงอื้ออึงอย่างทรมานในลำคอแทน

 

  เหตุการณ์มันเกิดขึ้นรวดเร็วมากมันเป็นแค่ช่วงเวลาที่หลูปิงเซ่อหมุนตัวกลับหลังหันมาดูเท่านั้นเอง ซึ่งร่างของทหารวิวัฒนาการระยะ 4 ทีมกฏหมายแทบจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว

 

  ”หัวหน้า!”ทันทีที่หมุนตัวมาเรียบร้อย แวบแรกที่หลูปิงเซ่อเห็นคนที่มาช่วยชีวิตตัวเองไว้ เขาก็ร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น เสียงคำว่า ‘หัวหน้า’ สองพยางค์หากมันอัดแน่นไปด้วยอารมณ์มากมายที่พรั่งพรู หลูปิงเซ่อตื่นเต้นดีใจจนแทบจะหน้ามืด

 

  ซึ่งณ เวลานั้น ชูฮันยืนอยู่ที่ด้านหลังของทหารวิวัฒนาการระยะ 4 ที่คิดจะฆ่าหลูปิงเซ่อ เท้าข้างหนึ่งของชูฮันเหยียบหัวของนายทหารกดลงกับพื้นไว้ แถมตั้งแต่แรกเริ่มจนจบมือข้างขวาของชูฮันก็ล้วงกระเป๋าเอาไว้ เขายืนด้วยท่าทางสบายอารมณ์ จ้องตากับหลูปิงเซ่อหากในนัยน์ตาของชูฮันกลับไม่มีแววตาล้อเล่นเลยสักนิด

 

  คนรอบๆช็อคค้างกับสถานการณ์ที่พลิกเป็นหลังมืออย่างไม่อยากเชื่อสายตาผู้ลี้ภัยหลายพันคน ทหารทีมกฏหมายสองร้อยนาย เสี่ยวรุ่ย เสี่ยวเย่และฮวงชูเจิ้นที่ถูกกุมตัวเอาไว้ห่างออกไป ต่างตะลึงค้างกับภาพตรงกลางวงล้อม…ชูฮัน

 

  ที่ทำให้พวกเขาช็อคกันนั้นมันไม่ใช่แค่เพียงการเคลื่อนไหวที่เร็วยิ่งกว่าแสงของชูฮันเท่านั้นแต่มันยังรวมถึงความจริงที่ว่าชูฮันมีท่าทีสบายๆหากเต็มไปด้วยความคลั่งและดุเดือด

 

  ท่ายืนที่ดูสง่าผ่าเผยแสดงถึงอำนาจที่เปล่งประกายออกมาอย่างชัดเจน!

 

  ที่ยิ่งกว่าน่าตกใจก็คือหลูปิงเซ่อเรียกคนที่ปรากฏตัวขึ้นใหม่นี่ว่า’หัวหน้า?’

 

  หัวหน้าอะไร?หัวหน้าไหน? ชื่อจริงคืออะไร? คือใครกันแน่? ใช่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อเสียงบนอันดับรายชื่อมั้ย?

 

  คำถามมากมายไม่รู้จบพุ่งเข้ามาในความคิดของทุกคนทันทีเสียงความวุ่นวายบนถนนหน้าประตูทางเข้าค่ายก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นความเงียบสนิทแทน แม้แต่เสียงหายใจยังแผ่วเบา ทุกคนตะลึงค้างและรู้สึกกลัวชูฮัน

 

  ฟานเจี้ยนที่เหนื่อยล้ากับการคอยปกป้องและคุ้มกันหลูปิงเซ่อมาตลอดในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกในที่สุดชูฮันก็มา เขาละเหนื่อยกับหลูปิงเซ่อจริงๆ!

 

  ชูฮันยกยิ้มมุมปากเผยรอยยิ้มปีศาจที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวเขาอย่างเงียบๆ และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ ทว่ามันกลับดังก้องชัดเจนในหูของผู้ชมทุกคน “ทีมกุ้งเสือดำ หยุดการโจมตีของทีมกฏหมายเดี๋ยวนี้!”