ตอนที่ 733 ตะคอกใส่ฉัน?

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 733 ตะคอกใส่ฉัน?

 

       คำสั่งของชูฮันที่ส่งออกมาทำให้ทุกคนในบริเวณตะลึงค้างสมองโล่งว่างเปล่าทันที ทุกคนลดการป้องกันตัวลงด้วยอาการตกใจ ตาจ้องค้างมาที่ชูฮันที่ยืนนิ่งอยู่ใจกลางวงล้อม

 

  ที่ห่างออกไปเสี่ยวเย่ที่อึ้งค้างเพราะตกใจกับเรื่องเมื่อครู่ ความโกรธและอับอายพุ่งขึ้นมาอัดแน่นอยู่ในอก และเมื่อได้เห็นเสี่ยวรุ่ยที่นิ่งเงียบ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆอยู่ข้างๆ เสี่ยวเย่ก็ตะโกนลั่นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ “พ่อ! ไอ้เวรนี่แหละ มันไง มันเป็นคนหักแขนผมและทำให้ผมขายหน้า!”

 

  ”อะไรนะ?”เสี่ยวรุ่ยเดือดขึ้นมาทันทีและหันไปตะโกนออกคำสั่งกับทีมกฏหมายที่ยืนอยู่กลางถนนดังลั่น “ทีมกฎหมาย จับตัวไอ้เด็กนี่มาให้ฉัน!”

 

  น่าเสียดายที่ทุกอย่างมันสายไปเสียแล้วมันแค่ไม่กี่วินาทีหลังจากคำสั่งของชูฮันถูกส่งออกไป เงาสีดำจำนวนมากที่เคลื่อนไหวราวกับวิญญาณก็พุ่งฝ่าออกมาจากฝูงชน และมันก็เปลี่ยนภาพเบื้องหน้าให้กลายเป็นภาพนองเลือดอันน่าสลดใจแก่ผู้ที่มองดู

 

  พัฟ!ปัก!

 

  เสียงแปลกๆดังขึ้นติดต่อกันมาจากใจกลางถนนเงาสีดำเคลื่อนไหวพาดผ่านไปมาอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครมองทัน มันเร็วมากจนไม่สามารถมองเห็นหน้าของเงาได้ เงาทั้งหลายวิ่งวนไปมาท่ามกลางทหารของทีมกฏหมาย ในเวลาไม่ถึงห้าวินาทีหลังจากคำสั่งของชูฮัน มันก็มีเสียงร้องโหยหวนดังลั่นไปทั่วถนน

 

  ”อ๊ากก!ขาฉัน!”

 

  ”ทะเท้าฉัน?” เท้าของฉันหายไป!”

 

  ”เลือด!นี่มันเลือดใคร!”

 

  ”ช่วยด้วย!”

 

  เสียงร้องอันน่าหดหู่จำนวนมากดังแข่งกันระงมไปทั่วถนนตามมาด้วยเสียงร่างกายของเหล่าทหารทีมกฏหมายที่ค่อยๆร่วงลงพื้นตามๆกันมา

 

  ”มันเกิดอะไรขึ้น?ฝันเหรอไง?” แค่ชั่วพริบตา เสี่ยวรุ่ยก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว ตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้เห็น เสี่ยวเย่ที่ยืนอยู่ข้างพ่อตัวเองก็หวาดกลัวจนตัวสั่นขาอ่อน

 

  มันเป็นแค่เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้นเหล่าผู้ลี้ภัยที่พยายามเบียดอัดพังประตูค่าย และทีมกฏหมายที่กำลังรุมจัดการฟานเจี้ยนและหลูปิงเซ่อกลับถูกโจมตีด้วยกลุ่มเงาสีดำอย่างกระทันหัน

 

  ทีมกุ้งเสือดำเปรียบเสมือนมือสังหารที่ถูกส่งมาจากนรกแต่ละคนถืออาวุธมีคมไว้ในมือและเข้าโจมตีมือและเท้าของเหล่าทีมกฏหมายอย่างไร้ซึ่งความลังเล ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องแสดงความเจ็บปวด ที่พื้นมีมือและเท้ามากมายที่ถูกตัดอยู่

 

  เป็นการโจมตีรวดเร็วและแม่นยำ!

 

  ในทางตรงกันข้ามทีมกฏหมายที่ดูมีอำนาจยิ่งใหญ่ เครื่องแต่งกายอย่างดี อุปกรณ์อาวุธครบครันและมีจำนวนคนมากกว่าทีมกุ้งเสือดำอยู่หลายเท่า กลับถูกทีมกุ้งเสือดำโจมตีอย่างฉับพลันและไม่เพียงแค่เหล่าทีมกฏหมายจะไม่สามารถแม้แต่ปัดป้องการโจมตีของทีมกุ้งเสือดำได้เลยแล้ว แต่ยังไม่มีใครสามารถหลบหนีการโจมตีไปได้เลยแม้แต่คนเดียวอีก

 

  ภายในระยะเวลาสั้นๆทั้งใจกลางถนนก็เต็มไปด้วยร่างของเหล่าทหารจากทีมกฏหมายที่นอนโอดโอยอยู่ที่พื้น มือและเท้าที่ถูกตัดก็กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณเช่นกัน ทุกที่จะเต็มไปด้วยเลือดที่สาดนองจนมันเริ่มซึมลงดิน กลิ่นเลือดเหม็นคาวลอยคละคลุ้งไปทั่วอากาศ แม้แต่เหล่าผู้คนในค่ายที่มายืนดูเหตุการณ์อยู่ตรงประตูก็ยังสามารถได้กลิ่น

 

  ทีมกุ้งเสือดำไม่ได้ฆ่าใครสักคนพวกเขาเพียงแค่ตัดมือและเท้าของคนพวกนี้ทิ้งเท่านั้น ความหมายของคำสั่งชูฮันชัดเจนมาก…หยุดการโจมตีไม่ได้หมายถึงการฆ่า แต่เป็นการลงโทษคนพวกนี้ในลักษณะการปราบปรามไม่ให้ทำอะไรได้อีก

 

  ในเมื่อทีมกฏหมายของค่ายหนานตู้ฆ่าคนบริสุทธิ์แถมยังดูถูกและคิดจะฆ่าหลูปิงเซ่อซึ่งเป็นกัปตันทีมความลับของพระเจ้า การตัดมือตัดเท้าของคนพวกนี้จึงเป็นบทลงโทษที่ทรมานยิ่งกว่าความตายซะอีก

 

  การโจมตีเสร็จสมบูรณ์เพียงชั่วอึดใจเดียวไม่ว่าจะเหล่าผู้ลี้ภัยรอบๆ หรือเสี่ยวรุ่ย เสี่ยวเย่ และฮวงชูเจิ้นที่ยืนอยู่หน้าประตูค่าย ทุกคนไม่คิดว่าสถานการณ์จะพัฒนามาถึงจุดนี้

 

  เหล่าผู้ลี้ภัยบริเวณรอบๆทุกคนต่างหวาดกลัวกับภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างกระทันหัน ในขณะเดียวกัน ความตระหนกของทุกคนก็ยิ่งทวีคูณเข้าไปอีก ทีมกฏหมายเป็นทีมของค่ายหนานตู้ เป็นทหารของซางจิง การที่ไปตัดมือตัดเท้าทหารของซางจิงแบบนี้ มันก็เป็นการเอาตัวเองเข้าไปในกองไฟชัดๆ?

 

  ยิ่งไปกว่านั้นทีมกฏหมายเป็นกองกำลังที่ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดของค่ายหนานตู้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะไม่สามารถแม้แต่ต่อสู้กลับการโจมตีของทีมกุ้งเสือดำแค่ไม่กี่สิบคนพวกนี้

 

  ทว่าท้ายที่สุดทีมกฏหมายกลับอ่อนแอเกินไปเมื่อเทียบกับคนไม่กี่สิบคนพวกนี้!

 

  เลือดที่สาดกระเซ็นของทุกคนไหลนองรวมตัวกันจนแทบจะเป็นแม่น้ำชิ้นส่วนมือเท้าที่พื้นแสดงให้เห็นถึงความโหดร้าย ผู้คนรอบๆนิ่งงัน บางคนก็ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องดีหรือเปล่า แม้แต่ฟานเจี้ยนก็ยังยืนนิ่งเหมือนคนโง่ เว้นเพียงแต่ทีมกุ้งเสือดำที่ยืนนิ่งสีหน้าไร้อารมณ์ ออร่าที่เปล่งประกายออกมาจากพวกเขามีแต่ความเย็นชาและยืนนิ่งอย่างเป็นระเบียบอยู่ด้านหลังชูฮัน

 

  ในที่สุดก็ไม่มีสมาชิกคนไหนของทีมกฏหมายรอดพ้นไปได้ มีเพียงแค่คนที่ยืนอยู่ฝั่งของชูฮันเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ไร้รอยขีดข่วนใดๆอยู่ใจกลางวงล้อม

 

  เสี่ยวรุ่ยแทบเป็นลมจับยกมือขึ้นชี้หน้าชูฮันอย่างโกรธแค้นจนกระอัก “รู้มั้ยนี่มันที่ไหน? แกรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป? แกได้ก่ออาชญกรรมร้ายแรงของเมือง แกรอตายได้เลย!”

 

  ในเวลาเดียวกันจู่ๆเสี่ยวรุ่ยก็นึกถึงประเด็นอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ เหล่าผู้ลี้ภัยหลายพันคนก่อนหน้านี้ได้ตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน และเสียงมันดังสนั่นก้องไปไกล หลายคนในค่ายคงได้ยินมันไปหมดแล้ว ถ้าเขาจะต้องสารภาพความจริง เขาก็คงหาทางออกไม่ได้

 

  แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันมาถูกทางแล้ว!

 

  ไอ้เด็กนี้มันสั่งให้คนของมันทำร้ายทีมกฏหมาย พอเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของค่ายมาถึง ไอ้เด็กนี้จะต้องตายแน่ๆ เขาจะอ้างว่าเพราะเหตุนี้เขาถึงต้องสั่งฆ่าเหล่าผู้ลี้ภัยเพราะพวกเหล่าผู้ลี้ภัยทำร้ายทหาร มันจึงเป็นหน้าที่ของเสี่ยวรุ่ยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

 

  ส่วนชูฮันที่ยังคงใช้เท้าเหยียบหัวของทหารวิวัฒนาการระยะ4 ของทีมกฏหมายเอาไว้เหมือนเดิม ท่าทางผ่อนคลายสบายอารมณ์สุดๆ “ถ้าฉันไม่ได้เข้าใจผิด พลโทเสี่ยวรุ่ยกำลังตะคอกใส่ฉัน?”

 

  ”ใช่!แล้วแกจะทำไม?” เสี่ยวเย่ที่กำลังผยองขนอย่างถือตัวเหนือกว่าก็ตะโกนใส่ชูฮันกลับมาอีก “แกมันเศษขยะชั้นต่ำ ในที่สุดวันนี้พ่อฉันก็จับแกได้ ถ้าฉันไม่ได้ฆ่าแก อย่ามาเรียกฉันว่าตระกูลเสี่ยว!”

 

  ชูฮันยิ้มมุมปากอย่างชอบใจดีดนิ้วและชี้ไปทางเสี่ยวเย่ “อีกอย่างหนึ่ง ดูเหมือนจะมีบางคนได้รับบทเรียนไปแล้วแต่ไม่จำ”

 

  เสี่ยวรุ่นแค้นใจอย่างมากเมื่อมองไปที่เหล่าทหารของทีมกฏหมายของเขา”อย่าคิดหนี แกและคนของแกจะต้องตายวันนี้!”

 

  ”ไอ้พวกหมารับใช้!พ่อ! รอให้คนมาก่อนเถอะ ผมอยากจะตบหน้าสั่งสอนมันสักสองสามที!”

 

  เสี่ยวรุ่ยเพียงแค่ตบไหล่ลูกชายตัวเองเบาๆให้ใจเย็นแววตาของพ่อลูกมีแต่การดูถูกและเย้ยหยัน แตกต่างจากฮวงชูเจิ้นที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังทั้งคู่

 

  ตั้งแต่การปรากฏตัวของชูฮันไปจนถึงทีมกุ้งเสือดำและการจัดการทีมกฏหมาย200 คนได้อย่างรวดเร็วจนมองไม่ทัน การคาดการณ์ที่ฮวงชูเจิ้นมีต่อคนกลุ่มนี้จึงยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก

 

  ทีมกฏหมายของค่ายหนานตู้จัดเป็นทีมอันดับที่หนึ่งของค่ายทว่าทั้ง 200 คนกลับไม่มีพลังในการต่อสู้หรือรับมือการโจมตีจากกลุ่มคนแค่ 50 คนเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งการโจมตีของทั้ง 50 คนนี่ก็ว่องไวและแม่นยำอย่างมาก และทุกคนมีท่วงท่าที่แข็งแรงและเป็นระเบียบ

 

  หรือพวกเขาจะเป็นทีมของจีน?!

 

  ชูฮันมองเห็นฮวงชูเจิ้นที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังเสี่ยวรุ่ยและเสี่ยวเย่แววตาสนุกสนานวิ่งแวบผ่านนัยน์ตาไปอย่างรวดเร็ว เขากวาดตามองร่างของฮวงชูเจิ้นที่ถูกจับมัดแน่นเอาไว้และหัวเราะในลำคอ “ชื่อฮวงอะไรน่ะ?”

 

  ทันทีที่ชูฮันถามออกมาทั้งบริเวณก็ตกอยู่ในความเงียบ เสี่ยวรุ่ยและเสี่ยวเย่ถูกดึงความสนใจไปหมด ทั้งคู่เองก็หันกลับไปมองฮวงชูเจิ้นด้วยความสงสัยทันที

 

  ”ฮวงชูเจิ้น”ฮวงชูเจิ้นตอบกลับไปทันที พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ในใจ มองจ้องตาชูฮันด้วยคำถามนับไม่ถ้วนและความกลัวที่ผสมอยู่ และแทบไม่เว้นจังหวะฮวงชูเจิ้นก็โพล่งถามออกไป “ผมขอถาม แล้วคุณกับคนกลุ่มนี้เป็นทีมของจีนเหรอ??”